บทที่ 89 การใช้กระดาษให้เหมือนใบมีด
เนื่องจากชุดเครื่องแบบของหล่อนนั้นมันเด่นเกินไป ง่ายต่อการทำให้เหยื่อกลัว ดังนั้นหวางเยี่ยนจึงเลือกที่จะใส่ชุดลำลอง เมื่อได้รับคำสั่งจากเบื้องบนว่าผู้ต้องสงสัยจะอยู่ที่บริเวณร้านกาแฟนี้ นั่นจึงทำให้หล่อนนั้นมาก่อนล่วงหน้า
ในขณะเดียวกัน การนัดถังเฉามานั้นก็คือที่ร้านกาแฟแห่งนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการยิงปืนครั้งเดียวได้นกสองตัวเลย
ถังเฉามองไปที่ด้านหลังของหวังหยานอย่างครุ่นคิด ไม่แปลกใจเลยที่มีคนเรียกหล่อนว่า ‘คุณตำรวจหวาง’หล่อนเองก็บอกว่าตนเกือบจะฆ่าหล่อนไปแล้ว
ประโยคนี้มันจะเปิดเผยตัวตนของหล่อนได้อย่างง่ายดาย
หล่อนเองก็ระมัดระวังตัวเองพอสมควร แต่ว่าหากต้องการที่จำจับคนเหล่านั้นตามที่ต้องการล่ะก็ มันก็ถือเป็นเรื่องที่ยากอยู่เลยทีเดียว
ไม่ต้องพูดเลยว่าพวกเขานั้นจะมีจำนวนมากเพียงใด และจะนำปัญหามาแค่ไหน….
ถังเฉาหรี่ตาลงและมองไปที่ประตู เห็นเพียงชายสองคนที่เดินเข้ามา
คนหนึ่งมีใบหน้าที่หล่อเหลา สวมเสื้อแจ็คเก็ตราคาแพง พร้อมกับแกะกระดุมสองเม็ดด้านบน โดยไม่แน่ใจว่าเขาตั้งใจที่จะเผยให้เห็นอกที่มีขนาดใหญ่นั้นหรือไม่
คนหลังนั้นดูแตกต่างและธรรมดามาก แต่ถังเฉาตระหนักได้ทันทีเลยว่า นี่คือหม่าจงคน‘ฝีมือดี’ที่เกือบตายด้วยน้ำมือของเฟิ่งหวงเมื่อสองสามวันก่อน
“คุณตำรวจหวาง คุณมาทำอะไรที่นี่?”
เมื่อเห็นหวางเยี่ยน ชายหนุ่มรูปหล่อคนนั้นก็พูดออกมาด้วยความประหลาดใจทันที
ใบหน้าขอหวางเยี่ยนนั้นสงบลง ประโยคนั้นทำให้หวางเยี่ยนนั้นหยุดชะงักทันที
หันไปมองรอบๆด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ พร้อมกับมองไปที่ชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่มืดมน พร้อมกับตะโกนว่า “จ้าวเชียนจูน นี่คุณตามรอยฉันเหรอ?”
จ้าวเชียนจูนไม่ยอมรับและพูดว่า “จะเรียกว่าการสะกดรอยตามได้ยังไงกัน? ผมชอบเรียกมันว่า….”
“การพบกันด้วยรักครับ”
จ้าวเชียนจูนมองไปที่หวางเยี่ยนอย่างจริงใจ และพูดว่า “คุณตำรวจหวาง ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบคุณ ผมได้แต่พูดกับตัวเองว่า ‘เธอคือคนที่ฉันอยากจะแต่งงานด้วยในชีวิตนี้’ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาผมได้กำลังลงมือทำ—นี่เป็นของขวัญชิ้นเล็ก ๆ ผมหวังว่าคุณจะชอบมัน”
ขณะที่พูด เขาก็ได้หยิบกล่องอันบอบบางออกมาจากแขนของเขา จากนั้นก็เปิดมันต่อหน้าของหวางเยี่ยน ซึ่งมีแหวนเพชรอยู่ด้านใน
“ว้าว—”
ในเวลานี้มีลูกค้าในร้านกาแฟไม่มากนัก มีเพียงคู่รักไม่กี่คู่ที่ร้องอุทานออกมาด้วยความอิจฉา
“แหวนนี้ดูแพงจังเลย จริงๆมันก็แค่ของขวัญที่ให้ส่งๆ นี่มันลูกชายบ้านไหนกันเนี่ย?”
“มองคนอื่น แล้วมามองนาย ทำไมคุณถึงไม่มีเงินเหมือนเขานะ?”
เมื่อฟังบทสนทนารอบข้าง จ้าวเชียนจูนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ รอให้หวางเยี่ยนตอบกลับ
แต่ในความคิดของหวางเยี่ยนนั้น หล่อนนั้นเจอผู้ชายที่หล่อนกำลังสืบที่ไม่ได้ให้ใครรู้ อยากที่จะเดินไปแต่ก็มีจ้าวเชียนจูนอยู่ตรงหน้าหล่อน ไม่ให้หล่อนไป
ตอนนั้นเอง หวางเยี่ยนก็โกรธพร้อมกับตบแหวนลงพร้อมกับตะโกนว่า “ออกไปซะ!”
การกระทำนี้ทำให็ผู้คนรอบข้างก็ต่างตกใจไปกับพวกเขา
แม้ว่าจ้าวเชียนจูนจะไม่ได้โกรธ แต่ใบหน้าของเขากลับมีประกาย พร้อมกับหยิบแหวนที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เดินไปที่ด้านหน้าของหวางเยี่ยน ดวงตาเต็มไปด้วยความมืดมนพร้อมกับกล่าวว่า “หวางเยี่ยน เรื่องของเรานั้นเป็นสิ่งที่พ่อแม่ของเราได้วางแผนไว้แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบแต่ก็ต้องแสร้งทำ หลอกพ่อกับแม่ไปก่อนแล้วค่อยคุยกัน อย่ามาทำลายเวทีนี้ของผมเลย ไม่ได้เหรอ?”
ใบหน้าของหวางเยี่ยนนั้นดูจืดจาง อกของหล่อนขยับขึ้นลงอย่างเร็ว เห็นได้ชัดว่าหล่อนกำลังโกรธเป็นอย่างมาก
จ้าวเชียนจูนกล่าวต่อว่า “นอกจากนี้ ผมว่าสำหรับคุณแล้วมันคือพรนะ ผมเป็นผู้ประกอบการในบริษัทที่มีชื่อเสียงในหมิงจู ขณะเดียวกันก็ยังเป็นสามชิกหลักของสมาคมการต่อสู้อีก คุณล่ะ?คุณเป็นแค่ผู้บังคับใช้กฎหมายตัวเล็กๆ กล้ามาชักสีหน้าใส่ผมงั้นเหรอ?”
หลังจากถูกหวางเยี่ยนปฏิเสธ ความดุร้ายของจ้าวเชียนจูนก็ปรากฏขึ้น โดยเฉพาประโยคสุดท้ายที่พูดอย่างดัง
ทันใดนั้นเอง เหมือนกลุ่มคนข้างหลังที่ทำตัวลึกลับก็ได้ยินอะไรบางอย่างมองไปที่หวางเยี่ยนอย่างระแวดดีะวัง แวตานั้นดูตื่นตระหนกจากนั้นก็รีบออกไปจากร้านกาแฟอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นฉากนี้ สายตาของถังเฉาก็เป็นประกาย หยิบโทรศัพท์ออกมา สั่งให้เฟิ่งหวงนั้นจัดการเรื่องบางอย่าง…
“เฮ้ พวกแกหยุดอยู่ตรงนั้นซะ!”
อีกฝั่ง เมื่อเห็นกลุ่มเป้าหมายหลุดออกไป หวางเยี่ยนเริ่มกังวลและรีบวิ่งไปไล่จับ
มีมือข้างหนึ่ง หยุดหวางเยี่ยนเอาไว้ “คุณยังไม่พูดให้มันชัดเจน ห้ามไปไหนทั้งนั้ง”
“จ้าวเชียนจูน!”
คนกลุ่มนั้นหายไปจากสายตาของหวางเยี่ยน หวางเยี่ยนระเบิดออกมาด้วยความโกรธและมองไปที่เขา “คุณรู้ไหมว่าคุณก้าวก่ายเจ้าหน้าที่พนักงาน ฉันมีกำลังพอที่จะจับตัวคุณไป!”
“ผมไปก้าวก่านอะไรกันล่ะ?”
จ้าวเชียนจูนยิ้มอย่างประหลาด “ผมแค่แสดงความรักกับคุณ มันถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายด้วยเหรอ?”
“คุณ..”
หวางเยี่ยนนั้นพูดไม่ออก ใบหน้าของหล่อนั้นแดงก่ำไปด้วยความโกรธ
ผู้คนโดยรอบที่ไม่รู้ความจริง ก็พากันซุบซิบ
“ผู้หญิงคนนี้นี้มันไร้เหตุผลจริงๆ มีผู้ชายหล่อขนาดนี้มาสารภาพกับเธอ ไม่รับก็ว่าไปแต่ยังจะมาตะโกนแบบนี้อีก ช่างไม่มีคุณภาพซะจริง”
“นั่นสิ น่าเสียดายสวยๆแบบนี้ด้วย”
เมื่อฟังเสียงของคนรอบๆ จ้าวเชียนจูนก็ยิ้มอย่างเย็นชา
“คุณตำรวจหวาง บอกผมหน่อยได้ไหมครับ ตอนนี้คุณกำลังติดตามคดีอะไนอยู่”
ในขณะนี้เอง ก็มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้น
ถังเฉามาที่ด้านข้างของหวางเยี่ยน พร้อมกับถามอย่างใจเย็น
ในขณะที่พูดนั้น สายตาของจ้าวเชียนจูนก็กวาดตามองรอบๆ
ทักษะการแสดงของจ้าวเชียนจูนนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ต่อหน้าของถังเฉานั้น เขาก็เป็นแค่คนอัปลักษณ์คนหนึ่งเท่านั้น
เดิมทีหวางเยี่ยนไม่อยากพูด แต่คำพูดของถังเฉานั้นเหมือนกับมีพลังอะไรบางอย่าง ถึงแม้ว่าจะดูเรียบง่าย แต่ก็เหมือนคำสั่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ตอนนี้นักโทษเองก็ได้หนีไปแล้ว ห่อนเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสแสร้งอีกต่อไป หล่อนจึงพูดออกมา
“เราสงสัยว่าเมื่อเร็วๆนี้ตระกูลจ้าวแอบซื้อขายของเถื่อนเมื่อเร็วๆนี้ ฉันถูกส่งมาจากเบื้องบนเพื่อจับผู้นำการซื้อขายและผู้ซื้อที่อยู่เบื้องหลัง”
“งั้นเหรอ…”
เมื่อได้ยิเช่นนี้ ถังเฉาก็เผลอยิ้มออกมา
ในเวลานั้นเอง หม่าจงก็จำถังเฉาได้แล้วร้องออกอุทานออกมา “ไอหนู แกนี่เอง!”
จ้าวเชียนจูนขมวดคิ้วและถามว่า “รู้จักงั้นเหรอ?”
“พี่เชียนจูน สางสามวันก่อนฉันไมาโทรหาพี่หรอกเหรอ ว่าถูกทุบที่ตอนจะข้ามแม่น้ำ เขานี่แหละคือหนึ่งในนั้น!”
หม่าจงกล่าวด้วยใบหน้าที่ขมขื่น ภาพที่เฟิ่งหวงนั้นได้หยิบขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวนั่นยังคงเต็มตา มันเป็นช่วงเวลาที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตของเขา เมื่อเขาคิดถึงมันดวงตาของหม่าจงก็เต็มไปที่ด้วยความโกรธเกรี้ยวที่พร้อมจะแตกออกมาเสี่ยงๆ
“คือเขางั้นเหรอ?”
จ้าวเชียนจูนนั้นมองดูถังเฉาหัวจรดเท้าสองสามครั้ง รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรพิเศษและไม่ดูเป็นชายที่ไม่แข็งแกร่งเลยแม้แต่น้อย
หม่าจงรีบกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “พี่เชียนจูน พี่เข้าใจผิดแล้ว ไอหนุ่มคนนี้มันไม่ได้เก่งกาจอะไร คนที่เก่งกาจนั้นเป็นหญิงอีกคน เกือบฆ่าผมตายแหนะ”
“งั้นเหรอ?”
เมื่อจ้าวเชียนจูนได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “มาทำคนของสมาคนของสมาคมการต่อสู้ ดูเหมือนว่าจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วล่ะมั้ง…”
ขณะที่พูดนั้น เขาก็มีท่าทางของคนที่มีความแข็งแกร่งออกมา
แม้ว่าหวังเยี่ยนจะมองไปที่ถังเฉาด้วยความประหลาดใจ เธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา แต่เธอก็ยังโน้มน้าวเขาว่า “นายรีบหนีไปเถอะ คนของสมาคมการต่อสู้นั้นไม่ใช่คนที่จะมาหาเรื่องด้วยง่ายๆ พวกเขาทั้งหมดนั้นเป็นคนโง่เง่า เป็นพวกบ้าบู๊ที่ไม่ยอมรับกฎหมาย”
เมื่อกลัว่าถังเฉาจะไม่เชื่อ หวางเยี่ยนก็พูดเสริมอีกว่า “พวกเขานั้นเป็นจุดศูนย์รวมอำนาจของของการก่อตั้งองค์ พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่มีศิลปะการต่อสู้ ปกติก็จะปกป้องแต่พวกคนมีเงิน นายหาเรื่องไม่ได้หรอก”
ไม่ว่าหวางเยี่ยนจะโน้มน้าวยังไงก็ตาม ถังเฉาก็ยังคงนิ่งสงบ อกทั้งยังหัวเราะออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“้บ้าบู๊?พวกเขาไม่คู่ควรกับคำว่าบ้าบู๊หรอกนะ ”
เขามองไปที่จ้าวเชียนจูนและหม่าจงราวกับมังกรที่มองมด “เมื่อไหร่พวกที่ดีแต่ปากนี้จะกลายเป็น‘บ้าบู๊’กันนะ?”
ทันทีที่พูดออกมา ใบหน้าของจ้าวเชียนจูนและหม่าจงนั้นก็ดูหมองหม่น ใบหน้าของหวางเยี่ยนเองก็ดูซีดลงเช่นกัน
คำพูดนี้นั้นถือว่าเป็นการด่าคนของสามคมการต่อสู้ทั้งหมดเลยก็ว่าได้!
หวางเยี่ยนสะกิดถังเฉา และพูดอย่างโกรธว่า “ฉันโน้มน้าวคุณขนาดนี้แล้ว ทำไมยังแยกแยะไม่ออกอีกว่าอะไรดีไม่ดี!”
จ้าวเชียนจูนมองไปที่หม่าจงและพูดว่า “ยังไงคุณแกกับเขาก็รู้จักกัน งั้นก็ให้แกจัดการไปละกัน อย่าอ่อนข้อให้ล่ะ”
“ได้ครับ พี่เชียนจูน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หม่าจงก็ยิ้มออกมาที่มุมปาก ยกมือกำปั้นไปที่หัวถังเฉา “ฉันอยากแก้แค้นแกมาตั้งนานแล้ว วันนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่มา งั้นฉันก็จะดูว่า แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าจะเป็นศัตรูกับเรา!”
“ระวัง!”
หวางเยี่ยนอุทานออกมา แต่กลับต้องประหลาดใจที่เห็นถังเฉานั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิมอย่างสงมเสงี่ยม
“เนื่องจากพวกคุณเรียกตัวเองว่าเป็น‘สมาคมการต่อสู้’แล้ว งั้นก็ให้ฉันบอกก็แล้วกันว่าอะไรที่เรียกว่า‘บูโด’ของจริง!”
ถังเฉาได้เริ่มขยับตัวพร้อมกับน้ำเสียงที่ไร้การแยแส
หลังจากที่กลับมาหมิงจู นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้นำความรู้สึกที่แท้จริงออกมา!
หู้ว–
กระดาษทิชชู่แหลมคมมากมายลอยอยู่บนท้องฟ้า
ช่วงเวลาต่อมา มีอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น–
ทันใดนั้นทิชชู่ที่อ่อนโยน ก็กลายเป็นแหลมคมอย่างกับใบมีด
ถังเฉาโบกมือไปมา ทิชชู่ที่แหลมคมเหล่านี้ก็เหมือนมีดวงตา ต่างพาพุ่งเข้าไปหม่าจง
ฉับฉับ–
ระหว่างทางนั้น หน้าต่างผนังก็ถูกตัดผ่านเขาดขนาดใหญ่
เสียงแก้วแตกเป็นสองท่อน กาแฟหกลงทั่วพื้น
กระดาษทิชชู่นั้นเหมือนกับฝนที่เป็นคมดาบ ร่วงหล่นลงมา
ดวงตาของหวางเยี่ยนนั้นเบิกกว้าง ส่วนจ้าวเชียนจูนกับหม่าจงก็ต่างพากันกลัวตาย
การเด็ดดอกไม้ ก็อาจทำร้ายคนได้
กระดาษทิชชู่ที่อ่อนโยน ก็ยังสามารถใช้การได้เหมือนใบมีด