บทที่ 106 ประจบถังเฉา
“ ดูเหมือนมีเหตุผลนะ… ”
ฟังจากการวิเคราะห์ของโจวฉวนกั๋ว โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหลินต่างก็มองหน้ากัน
เมื่อก่อนพวกเขาห่วงแต่ไล่คนเฮงซวยถังเฉาออกไป จึงละเลยถังเฉาที่มีการเปลี่ยนแปลง ‘จากไม่เอาไหนกลายเป็นคนดีเลิศ’ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยนึกถึงจุดนั้นเลย
“งั้นพวกเราควรพวกทำยังไงดี?”
โจวฉวนกั๋วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็พูดสามคำอย่างจริงจัง “ประจบเขา”
“อะไรนะ?!”
ทันทีที่พูดออกมา สีหน้าโจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหลิงเปลี่ยนทันที
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ พวกเขาก็บ่นด้วยความไม่พอใจ
“คุณปู่ คุณออกความคิดเห็นอะไรออกมาเนี่ย ถึงกับจะให้ฉันประจบไอ้ขยะนั่น!”
“นั่นสิเขาทำให้พวกเราได้รับความลำบากขนาดนั้น ฉันเกลียดเขาแทบไม่ทัน”
“ไม่ได้ไม่ได้ เปลี่ยนแผน”
“… ”
“ หุบปากให้หมด!”
โจวฉวนกั๋วตะโกน ทันใดนั้นพวกโจวเหม่ยหยูนพวกเขาก็ตกใจชะงัก
“พวกเธอลองใช้สมองหมูของพวกเธอคิดดูให้ดี”
โจวฉวนกั๋วพูดต่อ “ทำไมพวกเธอถึงถูกถังเฉานั่นเหยียบหยามครั้งแล้วครั้งเล่า ก็เพราะพวกเธอไม่เข้าใจเขาสักนิด หาเรื่องตื้นลึกหนาบางของเขาให้ได้ พวกเราถึงจะกำจัดเขาถูกวิธี”
ไม่พูดไม่ได้ว่า โจวฉวนกั๋วพูดจี้ถูกจุด มีแต่เข้าใจถังเฉา ถึงจะรู้ว่าต้องกำจัดเขาด้วยวิธีไหน
“แต่ ฉันยังไม่หน้าด้านพอ” หลินฉ่ายเวยกัดฟันพูด
“ ฉ่ายเวย”
โจวฉวนกั๋วมองไปที่หลินฉ่านเวยด้วยสีหน้าที่อบอุ่น “ในสายตาของปู่ เธอถึงจะประสบความสำเร็จได้ง่ายที่สุด”
“ ฉัน? เพราะอะไร?” หลิงฉ่ายเวยชะงักไปชั่วขณะ
“”ไอ้ถังเฉานั่นชอบเธอไม่ใช่หรอ?”
โจวฉวนกั๋วว่า “ในใจของเขา เธอเป็นคนพิเศษแน่นอน ถ้าเธอยอมเสียหน้า ไปเริ่มต้นความสัมพันธ์ ย้อนกลับไปอดีต ทุกอย่างก็แก้ไขได้”
โจวเหม่ยหยูนก็เออออตาม “ใช่ ไอ้ขยะนั่นเมื่อก่อนก็หลงเธอมากไม่ใช่หรอ?”
หลินฉ่ายเวยขัดไม่ได้ จึงจำเป็นต้องรับปาก “งั้นก็ได้ … ”
“เรื่องนี้ถ้าหากเธอทำสำเร็จ ปู่จะให้รางวัลเธอคฤหาสน์ริมแม่น้ำหนึ่งหลัง”
“จริงหรือคะ?”
พอได้ยินว่าคฤหาสน์ริมแม่น้ำ แววตาของหลินฉ่ายเวยลุกเป็นไฟทันที
“ จะไม่จริงได้ไง?”
ทันใดนั้นโจวฉวนกั๋วก็พูดว่า “จริงสิ ความสัมพันธ์ของเธอกับเจิ้งฮ่าวเด็กนั่นเป็นยังไงบ้าง?”
ฮะ—-
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนตระกูลหลินที่จะกลับไปบ้านพ่อแม่สีหน้าเปลี่ยนทันที
“อันนี้……”
หลินฉ่ายเวยกำลังลังเลว่าจะเล่าข่าวการตายของเจิ่งห่าวให้ออกมายังไงดี โจวฉวนกั๋วหัวเราะฮ่าๆ โบกมือ ปู่ไม่ถามแล้ว เรื่องหนุ่มสาวของพวกเธอ ก็จัดการเองแล้วกัน ถึงเวลาที่เหมาะสม ก็ตามปู่ไปบ้านตระกูลโจว ไปหมั้นหมายให้เรียบร้อย”
“ค่ะ ได้ค่ะ…”
หลินฉ่ายเวยสีหน้าลำบากใจมาก เผยรอยยิ้มที่น่าเกลียดกว่าการร้องไห้ออกมา
โจวฉวนกั๋วพาคนตระกูลโจวจากไป หลินฉ่ายเวยมองไปที่โจวเหมยหยูน “แม่ ทางด้านตระกูลเจิ้ง ควรจัดการยังไง?”
“ปิดได้นานแค่ไหนก็ปิดนานเท่านั้น อีกอย่าง คนก็ไม่ใช่พวกเราเป็นคนฆ่า พวกเราจะกลัวอะไร!”
โจวเหมยหยูนพูดอย่างดุดัน “งานเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการค้นหาตื้นลึกหนาบางของไอ้ขยะนั่น”
โอ้ซินกลับมาดำเนินการต่อ หูอีซานและเจิงเทียนเสียงก็ไปแล้ว
ถังเฉามองไปที่หลิงเจิ้งสง “พ่อ พวกเราก็กลับบ้านกันเถอะ”
หลินเจิ้งสงพยักหน้า แม้ว่าจะมีข้อสงสัยมากมายในใจ แต่เขาก็ไม่ได้ถามออกมา
“เอ้ย เดี๋ยวก่อน —-”
ทันใดนั้นเสียงของโจวเหม่ยหยูนก็ดังมาจากด้านหลัง
โจวเหม่ยหยูนพาหลินฉ่ายเวยและโจวเหม่นหลิงวิ่งตามมา ตามหลังถังเฉาและหลิงเจิ้งสง
หลินเจิ้นสงกำลังจะถาม แต่ถังเฉาเดินนำหน้าไปหนึ่งก้าวเหล่ตาแล้วจ้องมองไปที่พวกเขา
“ พวกคุณไม่กลับไปบ้านพ่อแม่ ตามมานี่ทำไม”
“คุณ—-”
โจวเหม่ยหยูนกำลังจะอาละวาด แต่เมื่อเธอนึกถึงคำพูดของโจวฉวนกั๋วได้ เธอก็ระงับความโกรธลง ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “แน่นอนต้องกลับบ้านพร้อมกัน”
โจวเหม่ยหยูนพูดด้วยใบหน้าที่จริงใจอีกครั้ง “เสี่ยวเฉา น้ารู้ เมื่อก่อนโหดร้ายกับเธอไปหน่อย น้าขอโทษเธอ ณ ที่นี่ หวังว่าเธอจะไม่โกรธนะ”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ถังเฉาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย วันนี้พระอาทิตย์ออกทางทิศตะวันตกหรอ? โจวเหม่ยหยูนถึงกับพูดกับเขาอย่างนี้
หลิงเจิ้งสงก็มองโจวเหม่ยหยูนอย่างคิดไม่ถึง ด้วยนิสัยของเธอ ไม่ใช่ว่าอยากจะให้ถังเฉาไปให้พ้นๆหรอกหรอ?
ได้แต่ฟังที่โจวเหม่ยหยูนพูดต่อ “น้าอยากพูดความในใจกับเธอ เมื่อก่อนเพราะกลัวเธอไม่เรียนไม่มีวิชา เป็นมอดในบ้าน ถึงได้ไล่เธอไป แต่ว่าตอนนี้เห็นว่าเธอไม่ใช่คนแบบนี้ น้าขอรับประกัน ต่อไปนี้จะไม่ไล่คุณเธอไปอีก ”
ถังเฉาอยู่ในความมึนงง เป็นเวลานาน ถึงพูดออกมาว่า “คุณน้า ที่ท่านพูดเมื่อกี้เป็นความจริงหรอครับ?”
“ทุกคำพูดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ!”
“ไม่ใช่แค่น้า ฉ่ายเวย เหม่ยหลิงพวกเธอก็รู้ว่าผิดเหมือนกัน”
พูดจบ โจวเหม่ยหยูนก็ผลักพวกเธอ
หลินฉ่ายเวยถูกผลักออกไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความอึดอัด สายตาล่องลอยไปทางอื่น ไม่กล้าสบตาถังเฉา
“อันนั้น เมื่อก่อนฉันพูดกับคุณเกินไปหน่อย ขอโทษนะ… ”
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าโจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวยทำไมท่าทีของพวกเธอถึงได้เปลี่ยนไปเร็วรวดอย่างนี้ แต่ถังเฉาก็ยังโบกมือ แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ผมไม่ได้ใส่ใจ”
หลินฉ่ายเวยเมื่อได้ยิน ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ก้าวเข้าไปแล้วถามว่า “งั้นเลิกงานแล้วคุณว่างไหม ฉันอยากเลี้ยงข้าวคุณ”
เธอคิดว่า การเชื้อเชิญของเธอ ถังเฉาต้องตกลงอย่างไม่ลังเลแน่นอน
แต่ ประโยคนี้กลับดึงดูดความสนใจของถังเฉา สีหน้าบนใบหน้านิ่งเฉย “คุณคิดได้อย่างนี้ผมก็ดีใจด้วย แต่เรื่องกินข้าวก็ไม่ต้องแล้ว”
พูดจบ ก็เดินผ่านหลินฉ่ายเวยไป
หลินฉ่ายเวยตาค้าง ตามด้วย ใบหน้าที่แดงก่ำ
เธอถูกปฏิเสธ
จากน้ำเสียงของถังเฉาฟังออกว่ามีความห่างเหินมาก
เช่นเดียวกับที่ถังเฉาเคยพูดประโยคหนึ่ง
ทุกอย่างกลับไปไม่ได้แล้ว
ดวงตาของหลินฉ่ายเวยค่อยๆเปลี่ยนเป็นเงียบขรึม กัดฟันแน่น ทั้งตัวของเธอสั่นอย่างรุนแรง
ในฐานะผู้หญิง แล้วยังเป็นคนสวยคนหนึ่ง เธอไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
“ถังเฉา ฉันไม่เชื่อว่าคุณไม่เคยชอบฉัน!”
หลินฉ่ายเวยแทบจะกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา
วันหนึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว อยู่ในอาคารกั๋วจี้จนถึงห้าโมง ถังเฉาถึงจะลงลิฟต์ไป
เป็นช่วงที่เลิกงานพอดี ซึ่งสามารถเห็นพนักงานจากหลายบริษัทเลิกงาน
ตอนนี้ ได้ยินใครบางคนเรียกชื่อของตัวเองอยู่ข้างหลังเขา
“ถังเฉา —-”
ถังเฉาหันศีรษะกลับไป แค่เหลือบมองก็เห็นหลินฉ่ายเวยยืนอยู่ที่หน้าประตูอาคารกั๋วจี้
ขมวดคิ้ว เดิมถังเฉาอยากทำเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินไป แต่หลินฉ่ายเวยก็เดินมาอยู่ข้างหน้าแล้ว
“ในที่สุดคุณก็เลิกงาน”
คำพูดของเธออ่อนโยน ไม่โหดร้ายเหมือนเมื่อก่อน
คิ้วของถังเฉากลับยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น “คุณหาผมมีธุระอะไรหรอ?”
“ ต้องมีธุระถึงจะมาหาคุณได้หรอ? ตอนที่ไม่มีธุระหาคุณไม่ได้หรอ?”
หลินฉ่ายเวยเบะปากอย่างไม่พอใจ “แต่เมื่อก่อนคุณมาหาฉันแทบจะทุกวัน”
“คุณก็พูดแล้ว เป็นเมื่อก่อน ไม่ใช่ตอนนี้”
ถังเฉาเหลือบมองเธออย่างเย็นชา “ถ้าไม่มีธุระ ผมไปก่อนนะ”
พูดจบ ก็เดินผ่านตัวหลินฉ่ายเวยไป
“คุณ —- หยุดนะ!”
หลินฉ่ายเวยโกรธฟึดฟัด เรื่องมาไกลแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่เหมือนกับที่เธอคิดไว้
เดิมสิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจนั้น จะพูดยังไงตัวเองก็เป็นชายหญิงที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนตัวติดกันแทบจะทุกวัน ถึงแม้ว่าจะโตแล้ว ความรู้สึกจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นที่หนึ่งเหมือนเดิม คิดไม่ถึงถังเฉาจะหลีกเลี่ยงปัญหาทิ้งไปอย่างง่ายดาย!
หลินฉ่ายเวยก้าวเหยียบบนรองเท้าส้นสูง โกรธพุ่งวิ่งไล่ตามถังเฉา
คุณปู่ขอให้เธอประจบถังเฉา หลินฉ่ายเวยก็อยากดูว่าเสน่ห์ของเธอเป็นอย่างไร
ยิ่งถังเฉาไม่สนใจเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งอยากจะสร้างความประทับใจอยู่ในใจถังเฉา
เมื่อมองไปที่ถังเฉาหลินฉ่ายเวย เขย่งขาหลับตาลงและกดริมฝีปากสีแดงลงบนใบหน้าของถังเฉา
ในช่วงที่หลับตา เธอยิ้มอย่างชนะ ไม่มีผู้ชายคนไหนปฏิเสธจูบที่ร้อนแรงจากสาวสวยได้
เขาชอบตัวเอง ตั้งแต่เด็กก็เป็นแบบนี้ เมื่อโตขึ้นก็ยังเป็นแบบนี้ เหมือนกับชอบเทพธิดาในฝันอย่างนั้นเลย…
เพี้ยะ—-
ในขณะที่ในใจของหลินฉ่ายเวยกำลังคิดแบบนี้ ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น
จากนั้น หลินฉ่ายเวยก็รู้สึกร้อนและเจ็บปวดที่แก้มของเธอ
เธอเบิกตากว้าง สิ่งที่เห็น กลับเป็นคู่แววตาที่เยือกเย็นเข้ากระดูก
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขยะแขยง
“ คุณอยากตายเหรอ