บทที่ 166 หลินฉ่ายเวยกลับใจ
ดวงตาทั้งสองของถังเฉาค่อยๆหรี่ลง พริบตาเดียวก็เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่ร้ายแรงนั้น
ตระกูลโจวและตระกูลเจิ้งคบหากันมายาวนาน ทั้งสองฝ่ายต่างก็สนับสนุนเจิ้งฮ่าวกับหลินฉ่ายเวย สุดท้ายทั้งสองคนอยู่ด้วยกันไม่กี่วัน เจิ้งฮ่าวก็ถูกเข็มเงินของถังเฉาแท่งเดียวจนถึงแก่ชีวิต
ข่าวนี้ตระกูลเจิ้งยังไม่รู้ พรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของนายท่านเจิ้ง ในงานเลี้ยง แน่นอนต้องถูกคนถามถึงเรื่องนี้ ถึงเวลานั้นควรจะตอบยังไง?
ที่หลินฉ่ายเวยพูดคือ ‘ปรึกษา’ แต่ในความเป็นจริงเพื่อสละส่วนเล็ก แล้วปกป้องส่วนใหญ่ไว้!
ในสายตาของถังเฉาเย็นชาเล็กน้อย พลังในตัวเขา ก็เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้น
“คุณก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันหรอ?” จู่ๆเขาก็มองไปที่หลินฉ่ายเวยและถามขึ้น
แววตาของหลินฉ่ายเวยก็เลิกลั่ก สุดท้ายสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นแน่วแน่ “ขอโทษนะถังเฉา คุณอย่าโทษฉันเลย”
“ ฉันจะแต่งงานในเร็วๆนี้ ตระกูลหลิน และตระกูลโจว ก็ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเหวิน เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ควรเพราะเรื่องนี้แล้วเสียโซ่นี้ไป ดังนั้น … ได้แต่เสียสละคุณ”
คำพูดของหลินฉ่ายเวย ทำให้ถังเฉาตกอยู่ในความเงียบ แต่บนสีหน้าของเขาไม่มีความเจ็บปวดแม้แต่น้อย
แม้สาเหตุจะเป็นเพราะจุดยืน สองคนจึงต้องกลายเป็นศัตรู แต่ว่า ในใจถังเฉาก็ยังจดจำความรู้สึกดีๆในวัยเด็กไว้
อาจเป็นเพราะรู้สึกผิด หลินฉ่ายเวยก็รีบพูดขึ้นว่า “แต่คุณไม่ต้องกังวล ถ้าตระกูลเจิ้งจะฆ่าคุณจริงๆ ฉันจะขอร้องให้คุณ —-”
“ไม่จำเป็น”
ถังเฉาตัดบทของหลินฉ่ายเวยอย่างเรียบเฉย “ผมยังไม่ตกอับถึงต้องขอความช่วยเหลือจากคุณ ถึงแม้ว่าพวกคุณจะส่งผมให้กับตระกูลเจิ้ง ตระกูลเจิ้งก็ต้องมีความกล้าพอที่จะรับ!”
คำพูดนี้พูดได้หยิ่งผยองอย่างมาก หลินฉ่ายเวยก็ตกใจเช่นกัน อ้าปากค้าง พูดไม่ออกสักคำ
ระหว่างที่พูดคุย ทั้งสองก็มาถึงตระกูลหลินแล้ว
ในห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยผู้คน โจวเหม่ยหยูน โจวเหม่ยหลิน หลินจ้อง แยกออกนั่งเป็นสองฝั่งตามตำแหน่ง หลินเจิ้นสงนั่งอยู่ตรงกลาง มองไปที่ถังเฉาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร แต่ก็ยังไม่มีหนทางอื่น
“พี่สอง ไอ้ขยะนั่นกลับมาแล้ว เริ่มกันเถอะ”
เมื่อเห็นถังเฉากลับมา โจวเหม่ยหลินรีบมองไปทางโจวเหม่ยหยูน
คำก็ขยะสองคำก็ขยะ สายตาถังเฉาก็เย็นชา แต่กลับไม่ได้พูดอะไร
โจวเหม่ยหยูนก็เหลือบมองถังเฉา รีบพูดกับเขาโดยตรงอย่างไม่อ้อมค้อม “พรุ่งนี้เป็นวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของนายท่านเจิ้ง คุณไปกับพวกเรานะ”
“ ถ้าหากนายท่านเจิ้งไม่ถามอะไร ทุกอย่างก็ราบรื่นปลอดภัย ถ้าหากถามถึงเรื่องเจิ้งฮ่าวขึ้นมา คุณก็ยอมรับว่าคุณเป็นคนฆ่าเขา ตระกูลโจว ตระกูลหลินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เข้าใจไหม?”
ถังเฉายืนตรงด้วยสีหน้าเย็นชา
ก่อนมา เขาก็ตั้งใจที่จะแบกมันไว้คนเดียว แต่จู่ๆเขาก็ไม่อยากทำแล้ว
“ให้ผมรับผิดทั้งหมด พวกคุณอย่าเสียใจภายหลังนะ” เขาจ้องมองไปที่โจวเหม่ยหยูน แล้วพูด
ถูกถังเฉาจ้อง จ้องจนโจวเหมยหยูนรู้สึกกำลังถูกสัตว์ร้ายจ้อง ทำเอาขนลุกไปทั้งตัว
เมื่อสติกลับมา ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “คุณกล้าจ้องฉันหรอ!”
เธอปากร้ายพุ่งตรงไปข้างหน้าถังเฉา สองมือเท้าสะเอว โมโหด่าไม่หยุด “ทางที่ดีคุณควรจะสวดอ้อนวอนขอให้พรุ่งนี้นายท่านเจิ้งอย่าถามถึงเรื่องการตายของเจิ้งฮ่าว มิเช่นนั้น ด้วยอารมณ์ของนายท่านเจิ้ง คุณจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ ถึงเวลานั้น ถ้าหากคุณลากพวกเราไปเกี่ยวข้อง ฉันจะเป็นคนแรกที่ไม่ไว้ชีวิตคุณ! ”
“ตกลง!”
หลินเจิ้นสงตะโกน จ้องไปที่โจวเหม่ยหยูนและพูดว่า “ในวันพรุ่งนี้งานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลเจิ้ง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ผมจะออกหน้าคุยเรื่องค่าชดเชยกับนายท่านเจิ้ง แต่ว่า ถ้าคิดจะแตะต้องเสี่ยวเฉาล่ะก็ ผมไม่ยอม ”
ฟังที่หลินเจิ้นสงพูดอย่างทรงพลัง ในใจถังเฉามีความอุ่นใจแวบเข้ามา
โจวเหม่ยหยูนนิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ชี้ไปที่หลินเจิ้นสงแล้วด่าว่า “พรุ่งนี้พวกเราเป็นตัวแทนของตระกูลโจว คุณจะเพื่อไอ้ขยะนี่แล้วเป็นศัตรูกับตระกูลเจิ้งหรอ?”
หลินเจิ้นสงเงียบไปชั่วขณะแล้วพูดว่า “ถึงแม้ว่าเสี่ยวเฉาจะเป็นคนฆ่าเจิ้งฮ่าว นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาก่อเรื่องเอง สมควรตาย ผมเชื่อว่านายท่านเจิ้งไม่น่าจะเป็นคนที่ไร้เหตุผล”
“ ถ้าอย่างนั้นคุณยังไม่รู้จักนายท่านเจิ้งดีพอแล้วล่ะ”
โจวเหม่ยหยูนมือท้าวสะเอว พูดอย่างประชดประชัน “ใครจะไม่รู้ว่านายท่านเจิ้งเป็นพวกเข้าข้างพวกตัวเอง ถ้าหากให้เขารู้ว่าเจิ้งฮ่าวถูกไอ้ขยะนี่ฆ่าตาย หันกลับมาเป็นศัตรูกับตระกูลโจวเรื่องเล็ก แต่อาจฝังศพพวกเราทั้งหมดไปพร้อมกับหลานชายเขาก็เป็นได้! ”
ในแววตาก็เผยความอ่อนใจเล็กน้อย นายท่านเจิ้งคนนี้ ไม่มีความเมตตาหรอ…
หลินเจิ้นสงครุ่นคิดอยู่นาน ยังคงกัดฟันและพูดว่า “เสี่ยวเฉาทำเพื่อตระกูลหลินมาตั้งมากมายขนาดนี้ ผมไม่สามารถมองดูตระกูลเจิ้งลงมือกับเขาได้!”
“ เขาทำอะไรเพื่อตระกูลหลินบ้าง?”
โจวเหม่ยหยูนชี้ไปที่ถังเฉาพูดด้วยความโกรธ “สิ่งที่เขานำมาให้ตระกูลนี้มีแต่ความหายนะ! หากไม่มีเขาตระกูลหลินอาจได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นตระกูลระดับกลาง ไม่ต้องมาทนมองสีหน้าผู้คน?”
“แม่ —- นี่คือชีวิตมนุษย์นะ!”
หลินฉ่ายเวยดึงตัวโจวเหม่ยหยูนไว้และพูดว่า “ถ้านายท่านเจิ้งถามขึ้นมา พวกเราชดใช้เงินให้เขานิดหน่อยก็ได้ ไม่ต้องให้ไอ้ขยะชดใช้ชีวิต”
แม้ว่าเธอจะไม่พอใจที่เมื่อก่อนเขาจากไปโดยไม่บอกลา ยิ่งแค้นที่เขาทำให้ตระกูลหลินเดือดร้อน แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะให้เขาตาย
“ ลูกสาว นี่ลูกเป็นอะไรไป?”
โจวเหม่ยหยูนมองไปที่หลินฉ่ายเวยด้วยสีหน้าที่คิดไม่ถึง พูดว่า “ถ้าไม่มีใครออกไปรับโทษอาชญากรรม ตระกูลเจิ้งจะหันมาเป็นปรปักษ์กับเรา สำหรับพวกเราแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ได้รับความกระทบอย่างมาก!”
หลินฉ่ายเวยยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ทันใดนั้นก็ถูกดึงแขนไว้
เธอหันกลับมามอง เห็นแต่ถังเฉาที่มองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย “ไม่ต้องขอร้องแทนผม ผมจะบอกตระกูลเจิ้ง ผมเป็นคนฆ่าเจิ้งฮ่าว พวกเขาจะทำยังไงกับผม?”
ดวงตาของโจวเหม่ยหยูนเปล่งประกายและพูดว่า “นี่คุณเป็นคนพูดเอง เจิ้งฮ่าวนายเป็นคนฆ่า ห้ามลากพวกเราไปเกี่ยว!”
“ พรุ่งนี้เที่ยงตรง ผมจะไปตระกูลเจิ้งเอง”
ถังเฉาพูดจบ เขาก็เดินออกไปจากตระกูลหลิน
หลินฉ่ายเวยกัดฟัน รีบวิ่งไล่ตามถังเฉาออกไปอย่างรวดเร็ว พูดด้วยความโกรธ “คุณบ้าไปแล้วหรอ!”
เมื่อเห็นความโกรธบนใบหน้าของหลินฉ่ายเวย ถังเฉาก็ชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย “คุณกำลังเป็นห่วงผมหรอ?”
“ ใครเป็นห่วงคุณ”
นี่มันเวลาไหนแล้ว ถังเฉาถึงกับยังล้อเล่นอยู่ สีหน้าของหลินฉ่ายเวยก็ยิ่งโกรธมากขึ้น “คุณรู้ไหม คุณใกล้ตายแล้ว?”
“ นายท่านเจิ้งเข้าข้างพวกตัวเอง ถ้าหากแม่ฉันเอาการตายของเจิ้งฮ่าวมาคิดบัญชีกับคุณ คุณก็จะถูกไม้ฟาดจนตาย!”
“ ร้ายแรงขนาดนี้เชียว?”
ถังเฉาแกล้งถามด้วยความประหลาดใจ
“แน่นอน”
หลินฉ่ายเวยหยิบตั๋วเครื่องบินออกมาจากกระเป๋าใบหนึ่ง “ตั๋วเครื่องบินนี้ฉันแอบแม่ซื้อไว้ตั้งนานแล้ว ฉวยโอกาสที่แม่ฉันยังไม่รู้ รีบหนีเอาชีวิตรอดเถอะ”
ถังเฉาไม่ได้รับมา แค่จ้องไปที่หน้าของหลินฉ่ายเวย ทันใดนั้นก็ยิ้มขึ้นมา“ คุณไม่เกลียดผมแล้วเหรอ?”
“ฉันเกลียด”
หลินฉ่ายเวยกัดฟันและพูดว่า “เมื่อห้าปีก่อนหลังจากที่คุณหนีการแต่งงานของตระกูลซ่ง จนเดือดร้อนตระกูลหลิน ฉันก็เริ่มเกลียดคุณแล้ว”
“บางที คุณอาจไม่ใช่ไอ้ขยะที่มาอาศัยคนอื่นเมื่อห้าปีก่อนแล้ว แต่ว่า ฉันก็ใกล้จะแต่งงานแล้ว”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าถังเฉาเปลี่ยนเล็กน้อย “คุณเคยคิดไหมว่าเหวินเหวยเฉินแค่หลอกใช้คุณ?”
“เป็นไปไม่ได้ เขาชอบฉันมาก”
หลินฉ่ายเวยส่ายศีรษะอย่างดื้อดึงและพูดต่อ “ฉันกำลังจะแต่งงานเร็วๆนี้ ทุกอย่างกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง ความแค้นทั้งหมดก็ไม่มีประโยชน์ ทุกคนก็อยู่เย็นเป็นสุข นี่คือจุดจบที่ดีที่สุด”
พูดถึงตรงนี้ เธอก็หายใจเข้าลึกๆ และพูดกับถังเฉาว่า “ดังนั้น คุณก็รีบหนีเถอะ!”
หลังจากได้ยินคำพูดของหลินฉ่ายเวยแล้ว ถังเฉาก็หัวเราะอย่างเงียบ ๆ และรับตั๋วเครื่องบินนั้นมา
แต่ว่า เขาไม่ได้เก็บเข้าไปในกระเป๋า แต่กลับพับครึ่ง แล้วฉีกเป็นชิ้นๆ
เศษกระดาษนับไม่ถ้วนค่อยๆพลิ้วลอยอยู่บนอากาศ ถังเฉายิ้มกับหลินฉ่ายเวยเล็กน้อย “คุณดูถูกผมมากเกินไปแล้ว ตระกูลเจิ้งในอำเภอเล็กๆ ไม่เคยอยู่ในสายตาผม”
“ ถ้าหากเขายังไม่รู้จักกาลเทศะ ทำลายมันก็จบ”
ทิ้งท้ายสองประโยคนี้ ถังเฉาหันตัวกลับ แล้วเดินออกจากประตูตระกูลหลิน