บทที่ 164 วิ่งตามม้าตัวนำ
คำพูดของประธานสองคำ ราวกับฟ้าผ่าอย่างนั้น เสียงดังลั่นข้างหูตระกูลซุน
ซุนยู่เฟิงยิ่งเบิกตากว้างอย่างไม่น่าเชื่อ “ประ … ประธานจาง ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
ถ้าหากพูดประโยคแรกทำให้เขาตกใจ ประโยคที่สอง ก็แทบจะทำให้เขาหน้ามืด เป็นลมชักตาย
ทุกคนรู้ดีว่าถังเฉาและตระกูลซ่งมีความแค้นลึกล้ำดั่งทะเล โดยเฉพาะประธานบริษัทตระกูลซ่ง ซ่งหรูอี้ กับถังเฉายิ่งเป็นศัตรูโดยตรง
แต่ตอนนี้ประธานจางกลับพูดว่า เห็นคุณถัง ก็เหมือนกับเห็นซ่งหรูอี้
เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
ประธานจางยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดอย่างดูถูก “กับผู้นำตระกูลชั้นกลางอย่างคุณ ผมมีความจำเป็นต้องล้อเล่นด้วยหรอ?”
คำพูดนี้เหยียดหยามคนมาก แต่ว่าเวลานี้ซุนยู่เฟิงก็ไม่ได้สนใจมาก แต่รีบคว้ามือประธานจางไว้ พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ประธานจาง ท่านต้องเข้าใจผิดแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่ประธานซ่งจะพูดประโยคนี้ออกมา? ไอ้ขยะนี่เมื่อห้าปีก่อนหนีการแต่งงานของคุณหนูซ่ง ทำให้ชื่อคุณหนูซ่งเสื่อมเสียชื่อเสียง คนในตระกูลซ่งมีแต่อยากให้เขาตาย ทำไมท่านถึงปกป้องเขา? ”
“หุบปาก!”
เมื่อเห็นว่าไอ้แก่เด็กถึงขนาดพูดเรื่องอื้อฉาวเมื่อห้าปีที่แล้วออกมา ประธานจางก็โกรธมาก ผลักซุนยู่เฟิงออกไปอย่างแรง “ฐานะของคุณถังใช่ว่าคนต่ำต้อยอย่างนายจะสามารถรู้ได้? ยังมีอีกอย่าง ถ้าหากยังมาเดาความคิดเห็นของประธานซ่ง อย่าโทษว่าผมไม่เกรงใจ! ”
หลังจากนั้น เขาก็รีบวิ่งไปอยู่ต่อหน้าถังเฉา โค้งคำนับอย่างเคร่งขรึม “คุณถัง ผมจะยกเลิกความร่วมมือกับตระกูลซุนทั้งหมด ท่านอย่าโกรธนะ”
หลังจากพูดคำพูดนี้ เสียงของประธานจางก็สั่นขึ้น ในใจของเขาก็หวาดกลัวอย่างสุดขีด
ช่วยตระกูลซุนจัดการกับคุณถัง? เท่ากับว่าเทพเจ้าซิ่วกินสารหนู ไม่อยากมีชีวิตแล้วมั้ง?
วันนั้นในงานเลี้ยงของตระกูลซ่ง เขาโชคดีที่ได้ติดตามซงหรูอี้ ได้เป็นพยานเห็นการพินาศของตระกูลซ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรถหุ้มเกราะหลายสิบคันมาจากเส้นขอบฟ้า และมีนักสู้มือปืนเป็นหมื่นๆคน ล้อมพวกเขาจนมีความรู้สึกหายใจไม่ออกอย่างนั้น เขายังจำได้เหมือนเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น
“ลุกขึ้นเถอะ”
ถังเฉายิ้มอย่างเล็กน้อย และพูดว่า “ผมจำคุณได้ คุณคือคนที่ตามหลังซ่งหรูอี้นับจากซ้ายมือมาคนที่เจ็ด”
เขามีความทรงจำที่ยอดเยี่ยม และรูปลักษณ์ของทุกคน เพียงแค่เหลือบมอง ก็สามารถจดจำได้แล้ว
เมื่อเห็นว่าถังเฉาจำตัวเองได้ ทันใดนั้นประธานจางก็ดีใจและคาดไม่ถึงว่าจะได้รับความโปรดปรานจนประหลาดใจ “ใช่ครับคุณถัง”
“เรื่องวันนี้ผมไม่ต้องการให้มีคนรู้เยอะ ทำได้ไหม?” ถังเฉาเหล่มองและพูด
“แน่นอนครับ!”
ประธานจางตอบรับทันที หันศีรษะและมองไปทุกคนในตระกูลซุนด้วยท่าทางเคร่งเครียด “ เรื่องในวันนี้ ถ้าพวกคุณกล้าเปิดเผยแม้แต่คำเดียว ผมจะรายงานประธานซ่งตามความจริง วิธีการของคุณหนูตระกูลเรา พวกคุณคงรู้นะ”
ทุกคนในตระกูลซุน สั่นสะท้านไปทั้งตัว ถ้าหากซ่งหรูอี้มุ่งมั่นที่จะทำลายตระกูลซุนให้พินาศ ตระกูลซุนจะมีชีวิตอยู่ไม่รอดในคืนนี้!
“ นอกจากนี้ ตระกูลซ่งก็จบลงแล้ว”
ประธานจางยังประกาศข่าวสำคัญอีกว่า “ ตระกูลซ่งนี้ไม่ใช่ตระกูลซ่งอื่น จากนี้ต่อไปในเมืองหมิงจูจะมีตระกูลซ่งเพียงตระกูลเดียว นั่นก็คือคุณหนูตระกูลเราคนเดียว หนึ่งเดียวในมหาเศรษฐี!
ทุกคนในตระกูลซุนควรทราบข่าวนี้ ล้วนได้รับผลกระทบอย่างหนัก ราวกับว่าพวกเขาทั้งหมดนั้นราวกับโง่เขลาไปหมดและจ้องมองไปที่ประธานจางอย่างมึนงง
ซุนยู่เฟิงยิ่งถึงกับเข่าอ่อน ทรุดนั่งลงกับพื้น ด้วยสีหน้าที่เหม่อลอย
“ตระกูลซ่ง พินาศแล้ว?”
ในสมองของทุกคนในตระกูล มีคำถามเดียวกันวนเวียนอยู่
ไม่มีใครกล้าเชื่อว่า ตระกูลมหาเศรษฐีที่ก่อตั้งมายาวนานในเมืองหมิงจู ตระกูลซ่ง ถึงกลับพังพินาศในชั่วข้ามคืน? !
ตกลงเป็นใคร ถึงมีวิธีการที่มีอำนาจมากขนาดนี้? !
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมทุกคนในตระกูลซุนมีลางสังหรณ์ใจอย่างหนึ่งว่า เริ่มตั้งแต่ตระกูลซ่งพังพินาศ ท้องฟ้าในเมืองหมิงจูก็เปลี่ยนไป
อำนาจทั้งหมด ต้องเริ่มต้นใหม่หมด!
“คุณถังคุณหนูยังพูดอีกว่า ถ้าหากลูกน้องคนไหนได้พบคุณถังก็ช่วยเธอส่งต่อคำพูด!”
ทันใดนั้น ประธานจางก็พูดขึ้น
“ อ๋อ?”
ถังเฉาเลิกคิ้วและยิ้ม “เธอพูดว่าอะไร?”
“ คุณหนูพูดว่า ถึงแม้ความคับแค้นใจในอดีตจะถูกลบล้าง แต่เธอและคุณก็ยังไม่ใช่เพื่อนกัน ใครแข็งแกร่งและอ่อนแอกว่า จะได้เห็นความสามารถที่แท้จริง!”
คำพูดของประธานจาง ทุกคนในตระกูลซุนได้ยินอย่างชัดเจน พวกเขาตกใจอย่างสุดขีดมาสักพักแล้ว
ความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเขากับซ่งหรูอี้เป็นอะไรกันแน่? ถึงกับทำให้ซ่งหรูอี้หรูปฏิบัติด้วยความจริงจังขนาดนี้!
ถังเฉาไม่ได้มีความกลัวแม้แต่น้อย กระทั่งมุมปากของเขายังปรากฎรอยยิ้มขี้เล่นขึ้น “คุณก็ช่วยผมไปบอกเธอ บอกว่า—– นี่หมายถึงฆ่าทั้งๆที่ยังรักใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ประธานจางใจเต้น คนตระกูลซุนใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง
นี่คือ… ล้อเล่นเหรอ?
ในเมืองหมิงจู ไม่ แม้แต่เจียงเจ้อหู้ (ประกอบด้วยมณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียงและเมืองเซี่ยงไฮ้ สองมณฑลกับหนึ่งเมือง) ใครจะกล้าล้อเล่นกับซ่งหรูอี้?
ใต้หล้านี้มีแค่ถังเฉาฉายาเดียว!
“เอาล่ะ พวกเรากลับมาเรื่องเดิม”
ถังเฉาเดินมาถึงด้านหน้าซุนยู่เฟิงที่ตกใจจนโง่ พูดนิ่งๆว่า “สองทางเลือก ยอมแพ้หรือ … พังพินาศ!”
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความอาฆาต แววตาของซุนยู่เฟิงถึงจะทำให้เขาได้สติกลับมา “ผมเลือก … ยอมแพ้!”
รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าของถังเฉา
“แต่ว่า ผมมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ!”
ทันใดนั้นซุนยู่เฟิงก็เงยหน้าขึ้น “ปล่อยคนของตระกูลซุนไป ทั้งหมดนี้ เป็นความคิดของผม!”
คำพูดของซุนยู่เฟิงทำให้ถังเฉาประหลาดใจเล็กน้อยและเขาก็พูดอย่างไม่แยแสว่า “คุณควรจะดีอกดีใจ ที่ลูกสาวผมไม่ได้เป็นอะไร ผมก็ไม่คิดอยากจะให้คุณลำบากใจ”
ชะงัก ถังเฉาพูดต่อ “ขอเพียงแค่คุณสามารถแสดงเป็นสัตว์ในสวนสัตว์ ทำให้ลูกสาวของผมหัวเราะได้ ความคับข้องใจทั้งหมดจะหายไป!”
เดิมทีเขาคิดว่าซุนยู่เฟิงจะปฏิเสธอย่างแรง แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันคิด ก็ตอบตกลงแล้ว “ได้ครับ!”
เมื่อเทียบกับอนาคตของตระกูลซุนแล้ว แค่ตัวเองแสดงเป็นลิงเป็นม้า จะเป็นไรไป?
“เริ่มเลย ผมจะให้ลูกสาวผมออกมา”
พูดจบ ถังเฉาก็กลับไปที่รถ ถังเสี่ยวลี้กำลังหยิบของเล่นเล่นอย่างสนุก
ถังเฉาพูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวลี้ ออกมาดูสัตว์เร็ว”
“จริงหรอคะ?”
ถังเสี่ยวลี้โยนของเล่นทิ้งทันทีและถามด้วยความดีใจ
“ จริงแน่นอน พ่อเคยหลอกลูกเมื่อไหร่ล่ะ?”
ถังเฉากอดถังเสี่ยวลี้ลงมา หนูน้อยดูดีใจจนเห็นได้ชัดมาก ดวงตากลมโตจ้องมองไปข้างหน้าอย่างไม่กระพริบ
ซุนยู่เฟิงคลานอยู่บนพื้น มาถึงด้านหน้าของถังเสี่ยวลี้ พลางฝืนยิ้มแห้งๆออกมา “หนูน้อย คุณปู่จะเป็นม้าให้เธอขี่ ดีไหม?”
ถังเสี่ยวลี้เงยหน้าขึ้นมองถังเฉา เห็นแววตาที่ให้กำลังใจ ดังนั้นจึงตอบตกลงทันที “ได้ค่ะ ขอบคุณคุณปู่!”
พูดจบ ก็ค่อยๆปีนขึ้นไปบนหลังของซุนยู่เฟิงอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าจะทำให้เขาเจ็บ
ทันใดนั้นถังเสี่ยวลี้ก็เห็นใบหน้าที่ค่อนข้างฟกช้ำของซุนยู่เฟิง และอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัยว่า “คุณปู่ หน้าปู่เป็นอะไรหรอคะ?”
ซุนยู่เฟิงรีบหันหน้ามาและยิ้มฝืนยิ้มพูดว่า “ปู่สบายดี”
พึ่งจะพูดจบ มือเล็กๆอวบๆก็ลูบแผลของเขาเบาๆ
“ คุณปู่ ยังเจ็บอยู่ไหมคะ?”
เพียงแค่ได้ยินเสียงเล็กๆที่ไร้เดียงสาของถังเสี่ยวลี้ถาม “คุณแม่บอกว่า แค่นวดเบาๆแบบนี้ ก็จะไม่เจ็บแล้ว”
ซุนยู่เฟิงตกตะลึงอย่างสุดขีด ร่างกายของเขาสั่นขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ
ทุกอิริยาบถของหนูน้อย สะเทือนไปจนถึงลึกๆในหัวใจเขา สาวน้อยที่น่ารักและมีเมตตาขนาดนี้ ตัวเองกลับใจดำที่จะลงมือกับเธอ สู้หมูหมายังไม่ได้จริงๆ!
ซุนยู่เฟิงตำหนิตัวเองอย่างมาก น้ำตา หยดหนึ่ง ไหลออกมาจากดวงตาของเขา
“ ขอโทษครับคุณถังผมขอโทษคุณ … ”
เขาแบกถังเสี่ยวลี้คลานไปคลานมาอยู่ในสวน ท่าทางน่าเกลียด น่าอับอายมาก แต่เขากลับรู้สึกเต็มอกเต็มใจ
ถังเสี่ยวลี้หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข ในแววตาส่วนลึกของถังเฉาค่อยๆพยักหน้า แล้วหันมามองประธานจาง
ประธานจางเข้าใจความหมายของถังเฉาทันที และก้าวเท้ามาอยู่ต่อหน้าซุนยู่เฟิง “เซ็นชื่อตรงนี้ซะคุณถังออกคำสั่งแล้ว ตระกูลซุนของพวกคุณ ได้ร่วมมือกับบริษัทตระกูลซ่งอย่างเป็นทางการ!”
ซุนยู่เฟิงตกตะลึง ไม่มีความยินดี มีแต่ความซาบซึ้ง
เขาคลานมาถึงข้างหน้าถังเฉา โขกศีรษะอย่างแรง ขอบคุณถังเฉาที่ยกโทษ ต่อจากนี้ ตระกูลซุนเรา ถือถังเฉาเป็นม้าที่เราจะวิ่งตาม!”
แต่ถังเฉาได้ทิ้งประโยคหนึ่งไว้อย่างเย็นชา “จำไว้ นี่เห็นแก่ที่นายทำให้ลูกสาวผมหัวเราะ ถึงได้ไว้ชีวิตคุณ!”
พูดจบ เขาก็อุ้มถังเสี่ยวลี้จากไป