เสียงพูดที่จืดชืด ออกมาพร้อมกับความอาฆาตพยาบาท เฟิ่งหวงตัวสั่นอย่างรุนแรง และดวงตาหดตัวแล้วมองถังเฉาด้วยสีหน้ายากที่จะเชื่อ
การย้ายกองกำลังหนึ่งแสนคน เป็นการเคลื่อนไหวที่ใหญ่เลยนะ
แต่เมื่อนึกถึง เสี่ยวลี้ถูกอุ้มไป แววตาของเฟิ่งหวงก็ปรากฏความเย็นชา
เสี่ยวลี้เป็นเพียงเด็กห้าขวบที่น่ารัก เป็นเด็กดีและไร้เดียงสาทำให้เธอรู้สึกถึงความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรมพร้อมความอาฆาตพยาบาทที่เต็มล้น คงไม่ต้องพูดถึงรองหัวหน้าที่เป็นพ่อของเสี่ยวลี้
เมื่อนึกถึงรองหัวหน้าที่เลือดตกยางออกอยู่ที่แถบชายแดน และค่อยปกป้องประเทศ ปกป้องแผนดิน บนเขาโยวเหิง ต่อสู้ด้วยลำพังมาโดยตลอด ยอดนักบู๊ทั้งเก้าที่มีจุดประสงค์จะฆ่ามังกร
แต่ภรรยาและลูกของเขากลับถูกรังแกและถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่อง ชั่งเนรคุณจริงๆ
พวกเขา ไม่ควรเกิดมาเป็นคนด้วยซ้ำ!
แววตาเย็นชาของเฟิ่งหวง เธอกำลังคุกเข่าอยู่ และรับคำสั่งทันที: “รับทราบค่ะ รองหัวหน้า!”
หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนสั่นสะเทือนถึงขีดสุด,จนพูดอะไรไม่ออกแล้ว ดวงตาที่สวยเหมือนดังปีศาจจ้องมองไปที่ถังเฉา
พวกเขารู้ว่าถังเฉาเคยเป็นทหารมาก่อน แต่ไม่คิดเลยว่า เขาจะมีตำแหน่งสูงขนาดนี้
ถังเฉาสังเกตเห็นถึงแววตาของพวกเธอ และแววตาของเขาก็ได้กลายเป็นแววตาที่อ่อนโยน: “พวกเธอสงสัยไม่ใช่หรือว่าฉันเป็นคนแบบไหนกันแน่? วันนี้ฉันจะบอกทุกอย่างกับพวกเธอเอง”
ผ่านไปเพียงห้านาที ทั้งเมืองหมิงจูไม่มีเสี่ยงอะไรเกิดขึ้นเลย ทั้งเมืองดูเงียบอย่างน่ากลัว
มีเพียงเสียงฝนซ่าๆ ขณะนี้เสียงฟ้าร้องหยุดลง และฝนที่กระหน่ำตกลงมาก็ได้เบาลงกลายเป็นฝนปรอยๆ และมีลมพัดนิดหน่อย
ทุกถนนทางเดินซอกซอยไม่มีคนเดินเลย และตึกสูงใหญ่ระฟ้า ที่เดิมที่แสงไฟอยู่ก็ได้ทยอยกันปิดไฟกันไปหมด
แต่บรรยากาศที่เงียบสงัดแบบนี้ ไม่ได้กินเวลานาน เสียงฝีเท้าที่หนักมาทำร้ายบรรยากาศที่เงียบ
สายตาของหลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนมองไปด้านหน้า พวกเธอปรากฏสีหน้าที่ตกใจจนตาถลน และรีบเอามือปิดปากไว้ กลัวว่าจะตัวเองจะส่งเสียงด้วยความตกใจ
ตึ่ง—-
ตึ่ง—-
ตึ่ง—-
เห็นเพียงบรรยากาศยามค่ำคืน มีเงาของฝูงคนปรากฏขึ้น
พวกเขาสวมชุดทหารสีเขียว และใส่รองเท้าทหาร รองเท้าบูมทหารที่หนัก มือถือปืน และรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน เหมือนดังสายน้ำที่แข็งแกร่ง ที่ก่อตัวขึ้นจากกองทัพ ได้เคลื่อนตัวมาทางนี้
หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนรู้สึกเหมือนมีอะไรอุดตันอยู่ที่คอ ทำให้พวกเธอพูดอะไรไม่ออกเลย ถึงพวกเขาจะอยู่ไกล แต่หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของความอาฆาตมาดร้ายที่รุนแรง
แต่ถังเฉาและเฟิ่งหวงกลับมีสีหน้าที่นิ่งเฉย และมองกองทัพที่ รู้คู่ต่อกรอย่างเงียบๆ
ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงตรงหน้า
คนพวกนี้ก็คือคนที่ถังเฉาสั่งย้ายมาเมื่อเดือนก่อน ตอนนั้นทำไปเพื่อหยุดยั้งเยี่ยนจิงแห่งตระกูลหลวงในเยี่ยนตู แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือในครึ่งเดือนนั้น กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างดูสงบ
กำลังที่จะสลายตัวกลับเกิดเรื่องลูกสาวของเจ้ามังกรถูกลักพาตัวไป
พวกเขามายืนอยู่ตรงหน้าของถังเฉา ถึงจะยืนอยู่แบบนั้น แต่ก็ทำให้คนรู้สึกถึงแรงกดดันได้
ขณะนี้ฝูงคนได้ถอยออกไป และมีเงาร่างชายสูงใหญ่สิบคนเดินออกมา
แต่ละคนดูแข็กแรงเหมือนดั่งภูเขา แค่รูปร่างก็แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามและแรงกดดันที่รุนแรงแล้ว
พวกเขามายืนเรียงแถวอย่างมีระเบียบอยู่หน้าถังเฉา และทันใดนั้นก็ได้คุกเข่าขาเดียว กุมมือไว้ที่หน้าอกคารวะ: “กระผมราชานักรบซุ่ยเทียน เข้าพบเจ้ามังกร!”
“กระผมราชานักรบถ้าเทียน เข้าพบเจ้ามังกร!”
“กระผมนักรบซื่อเทียน เข้าพบเจ้ามังกร!”
“…….”
ราชานักรบที่แข็งแกร่งสิบคน พร้อมกันคุกเข่าขาเดียวต่อหน้าถังเฉา พร้อมตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องฟ้า จนเกิดเป็นเสียงสะท้อนกลับและเสียงนั้นไม่หายไปโดยง่ายๆ
เห็นภาพแบบนี้ หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เหมือนพวกเธอถูกความดุดันนั้นครอบงำ ทำให้พวกเธอรู้สึกเลือดเดือดพลุ่งพล่าน
สิ่งเหล่านี้นับได้ว่าเป็นเกิดขึ้นในอัตราหนึ่งในแสน ราชานักรบที่เต็มล้นไปด้วยความสามารถ แต่กลับมาคุกเข่าขาเดียวต่อหน้าถังเฉา
ที่สำคัญในสิบคนนี้ หลินชิงเสว่ยังเห็นใบหน้าที่คุ้นหน้าอยู่คนหนึ่ง
หัวหน้าเขตทหารหมิงจู หลี่เถ่
เขาก็คารวะถังเฉาอย่างเคารพแววตาของเขาเหมือนแววตาที่มองเทพเจ้าอยู่
เห็นสถานการณ์แบบนี้ เฟิ่งหวงไม่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเลย
รองหัวหน้าที่เป็นถึงเจ้ามังกรของเซี่ยกั๋ว ราชานักรบที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเขามีอยู่อีกเป็นร้อน นี่เป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น
ราชานักรบบางคน อยู่ที่ต่างมณฑล ในเวลาอันสั้นนี้ พวกเขาไม่สามารถมาได้
ถังเฉาพยักหน้า แววตาที่แหลมคมจ้องมองไปที่พวกเขา ถึงได้พูดออกมาด้วยเสียงที่อึดทึก
“ผมถังเฉาบังคับบัญชาและสู้รบ ต่อสู้เพื่อประเทศ เสียสละและกำจัดศัตรูเป็นหมื่นเป็นแสน คนที่มีฝีมือ ตายในมือผมไม่น้อยกว่าร้อยคน ฉายาของผมก็คือต้าเซี่ยเจ้ามังกร”
“ขณะนี้ ภรรยาของฉันเกือบที่จะถูกฆ่า และลูกสาวผมถูกลักพาตัวไป จะจัดการอย่างไงกับคนทำดี?”
ตูม
ราชานักรบทั้งสิบคน ยืนพร้อมกันและตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังทะลุฟ้า
“ฆ่าไร้เงื่อนไข!”
“ฆ่าไร้เงื่อนไข—-”
“ฆ่าไร้เงื่อนไข—-”
“……”
กองทัพที่แข็งแกร่งทั้งหมดเป็นเหมือนปืนที่บรรจุกระสุนที่พร้อมยิง พวกเขาตะโกนออกมาเสียงดังสนั่นฟ้า
หลินชิงเสว่ได้สติกลับมา และมองถังเฉาด้วยสีหน้าที่ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น: “คนพวกนี้ เป็นลูกน้องของนายหรือ? ”
ถังเฉาค่อยๆพยักหน้า และพูดออกมาด้วยแววตาที่อ่อนโยน: “ในเมื่อรู้ความสามารถที่แท้จริงของฉันแล้ว เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ เธอกลับบ้านไปกับจ้าวหยูนอย่างสบายใจได้ ฉันจะพาเสี่ยวลี้กลับมาเอง”
หลินชิงเสว่มองเขาอย่างลึกซึ้ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แค่พูดว่า: “ระมัดระวังตัวด้วย”
เธอก็เป็นคนที่มีเหตุผลเหมือนกัน เธอเข้าใจดีกว่า ถ้าตัวเองกับจ้าวหยูนอยู่ที่นี้ก็อาจจะเป็นภาระเปล่าๆ
หลังจากที่หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนกลับไป แววตาของถังเฉาก็กลายเป็นแววตาที่เต็มล้นไปด้วยความอาฆาต: “ต่อไป ทุกคนช่วยผมสืบ และค้นหาทุกพื้นที่ ทุกซอกทุกมุมก็ห้ามตกหล่น!”
“รับทราบ!”
เมื่อเสียงพูดจบลง ราชานักรบทั้งสิบคน แต่ละคนพากองกำลังไปค้นหาคนละหนึ่งหมื่นคน และเริ่มการค้นหา
ถังเฉาและเฟิ่งหวงรอข่าวอยู่กับที่ ถึงหมิงจูจะกว้างใหญ่ แต่กองกำลังหนึ่งแสนคน ก็เป็นกองกำลังที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี และถ้ามีจุดสังเกตเล็กน้อย ก็สามารถหาเบาะแสได้แล้ว
สุดท้าย ผ่านไปไม่นาน ถังเฉาก็ได้รับรายงานหลี่เถ่
“เจ้ามังกร ผมหาเขาเจอแล้วครับ! ”
ทันใดนั้นถังเฉาเพ่งมอง: “อยู่ที่ไหน? คนนั้นเป็นใคร!”
“ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเขาเป็นใคร แต่สิ่งที่ผมยืนยันได้ก็คือ ฝีมือของเขาเก่งและการตื่นตัวสูงเขารู้ตัวแล้ว และตอนนี้ได้ขับรถหนีไปทางเขาหู่กวย ป้ายทะเบียนรถคือ……”
สีหน้าของถังเฉาเต็มไปด้วยความอาฆาต: “ถ้าหาเจอแล้ว ก็ไม่ต้องหลบซ่อนแล้ว รีบตามไป และช่วยทำให้ลูกสาวผมอยู่ในความปลอดภัยด้วย!”
“รับทราบครับ!”
หลี่เถ่ตอบรับอย่างแข็งแรง และปิดอินเตอร์โฟนไป
ถังเฉามองไปที่เฟิ่งหวง: “พวกเราก็เคลื่อนไหวได้แล้ว ไปเขาหู่กวย!”
…….
เขาหู่กวยอยู่ชานเมืองของหมิงจู และเป็นจุดชมวิวระดับชาติ และห่างจากที่อยู่เดิมของถังเฉา คฤหาสน์ซานสุ่ยไม่ไกลมาก
เป็นพื้นที่ที่มีภูเขาคดเคี้ยวและถนนที่ติดหน้าผา ถ้าเกิดไม่ระวัง อาจจะตกลงไปเหวลึกได้ บนเขาที่มีหน้าผาที่มีรูปทรงเหมือนเสือที่ดุร้ายกำลังพุ่งเข้ามาเลยถูกตั้งชื่อว่าเขาหู่กวย และรู้จักกันในชื่อนี้
และมีข่าวลือว่า บนเขามีเสื้ออยู่จริงๆ และเขาหู่กวยก็ได้ถูกสั่งปิด ห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นไป
และเมื่อถังเฉาและเฟิ่งหวงขับรถเข้าไปถึงทางเข้าของเขาหู่กวย กองกำลังของราชานักรบได้แบ่งเป็นสิบกองกำลังย่อย และเข้าไปที่เขาหู่กวยตามทิศต่างๆ และปิดล้อมทั้งเขาหู่กวยนี้ไว้
“เจ้ามังกร เขาหู่กวยถูกปิดล้อมไว้ทุกด้านแล้ว อย่าพูดถึงคนที่จะหนีออกไปเลย สัตว์แม้แต่ตัวเดียวก็ไม่อาจที่จะหนีออกไปได้”
“ดีมาก เข้าไปค้นหา”
ถังเฉามีคำสั่งว่า: “ถ้าจำเป็น ก็จับตายได้เลย”
“รับทราบ!”
ปิดอินเตอร์โฟนไป สีหน้าของถังเฉาดูตึงเครียดขึ้นมา
เขาไม่ได้นึกถึงชีวิตของคนร้ายเลย เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของเสี่ยวลี้
“รองหัวหน้า เสี่ยวลี้จะปลอดภัย”
เฟิ่งหวงขับรถไป และพูดอย่างจริงจังว่า: “ฉันจะช่วยเสี่ยวลี้ออกมาให้ได้ ถึงแม้จะแลกด้วยชีวิตก็ตาม!”
“ขอบคุณนะ”
สีหน้าถังเฉาถึงได้ผ่อนคลายลง และปรากฏรอยยิ้ม
ทันใดนั้นทางอินเตอร์โฟนได้มีเสียงของหลี่เถ่รอยมา
“รองหัวหน้า พวกเราได้ปิดล้อมเขาไว้แล้ว ตอนนี้คนร้ายจมมุมอยู่ขอบหน้าผาแล้วครับ!”
“ทำได้ดีมาก!”
แววตาของถังเฉามีแสงที่เยือกเย็นส่องออกมา: “ยังไม่ต้องยิงนะ ผมจะรีบตามไป ผมจะให้มันตายอย่างไม่มีที่ฝังศพ!”
แต่ครั้งนี้หลี่เถ่ไม่ได้ปิดอินเตอร์โฟน และพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาบาง: “รองหัวหน้า……คนร้ายอุ้มเสี่ยวลี้กระโดดลงไปที่หน้าผาแล้ว!”
“อะไรนะ?!”
ได้ยินคำพูดของหลี่เถ่ ดวงตาของถังเฉาหดตัวกะทันหัน