เมื่อวางสาย โจวเหม่ยหยูนก็รีบถือเทอร์ควอยซ์เลือดออกจากประตูไป กลับถูกกระแทกเข้าใส่
“แม่ ดูเสร็จยัง จะคืนให้ฉันได้หรือยัง?”
โจวเหม่ยหยูนสะดุ้งตกใจ รีบซ่อนเทอร์ควอยซ์เลือดไว้ในกระเป๋าเหมือนปกป้องของมีค่า “มันเป็นแค่หินแตกเท่านั้น มีอะไรล้ำค่า? ฉันจะออกไปธุระ จะรีบกลับมา”
พูดจบ ก็จะอ้อมหลินฉ่ายเวย เดินออกไปข้างนอก
หลินฉ่ายเวยกลับขวางโจวเหม่ยหยูนไว้ด้านหน้า พูดด้วยเสียงแข็งว่า “ไม่ได้ เอาหินคืนฉันมา”
โจวเหม่ยหยูนโกรธขึ้น และตะโกนใส่หลินฉ่ายเวยด้วยความโมโหว่า “เธอไม่เบื่อหรอ? วันนี้ได้ของขวัญตั้งเยอะ ให้ก้อนหินฉันสักอันเป็นไรไป?”
“นี่คือถังเฉามอบให้ฉันนะ!”
หลินฉ่ายเวยเข้าใจความคิดของโจวเหม่ยหยูนทันที เธอต้องการจะเอาหินก้อนนี้ไปเป็นของตัวเอง ทันใดนั้น ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือแม่แท้ๆของเธอ
“ก็ไม่รู้ว่าไอ้เศษสวะนั่นโชคดีขนาดนี้มาจากไหน ไม่นึกเลยว่าหินที่เก็บได้จะมีมูลค่าขึ้นมา”
โจวเหม่ยหยูนยิ้มอย่างเย็นชา และพูดอย่างมั่นใจว่า “เขาก็ส่งให้เธอแล้ว ก็ต้องเป็นของตระกูลหลิน เธอก็เป็นลูกสาวของฉัน ของของเธอ ก็คือของของฉัน ฉันจะเอาไปขายเป็นเงิน ไม่ดีตรงไหน?”
เห็นได้ชัดว่าเธอขโมยของจากลูกสาวของเธอ กลับทำเหมือนว่าตัวเองไม่ผิด หลินฉ่ายเวยมองโจวเหม่ยหยูนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“แม่ ทำไมตอนนี้แม่เปลี่ยนเป็นอย่างนี้แล้ว?”
“ฉันเป็นแบบนนี้มาตลอด”
โจวเหม่ยหยูนไม่รู้สึกว่าการกระทำของตัวเองมีอะไรผิด ยังหน้าด้านอยู่อย่างนั้น “ฉ่ายหลิน เธอควรจะขอบคุณฉัน ฉันจะบอกเธอให้ บนโลกนี้เธอไม่มีอะไรก้ได้ ก็แต่ไม่มีเงินไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ฉัน เธอจะได้แต่งกับตระกูลที่ร่ำรวยไหม? เธอไม่ขอบคุณแม่ก็ชั่งเถอะ แม้แต่หินก้อนเดียวก็จะแย่งแม่ เกิดมาเสียเปล่าจริงๆลูกสาวฉันคนนี้ ”
หลินฉ่ายเวย รู้สึกอายกับทฤษฎีนี้ลดศีรษะลงและกัดริมฝีปากตัวสั่นไปหมด
เธอนึกถึงเรื่องเมื่อก่อน ไม่ได้หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียวหรอ? ภายใต้การยุยงของโจวเหม่ยหยูน ทำเรื่องมากมายที่ทำให้คนหดหู่ และเป็นเรื่องโง่เขลา ทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งเดินยิ่งห่างไกลไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นศัตรูในที่สุด
กลับเนื้อกลับตัวอย่างฉับพลัน สายเกินไป พวกเขากลายเป็นแค่คนทางผ่าน
เมื่อเธอคิดถึงการผลักไสผู้ชายที่ดีกับเธอออกไปด้วยตัวเธอเอง หลินฉ่ายเวยก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจแตกสลาย
“แม่ ของขวัญจากแขกคนอื่นฉันไม่ต้องการ มอบให้แม่แล้วกัน ฉันต้องการแค่หินก้อนนี้เท่านั้น แม่คืนให้ฉันได้ไหม?”
ดวงตาของหลินฉ่ายเวยแดงก่ำ ในเบ้าตาเต็มไปด้วยน้ำตา จับมือโจวเหม่ยหยูนขอร้อง
เธอรู้นิสัยของโจวเหม่ยหยูนดี ถ้าใช้ไม้แข็งคงไม่ได้ ได้แต่ใช้ไม้อ่อนเท่านั้น
โจวเหม่ยหยูนจ้องมองหลินฉ่ายเวยที่มีน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างคิดไม่ถึง เธอไม่เข้าใจเมื่อก่อนลูกสาวเกลียดถังเฉามากไม่ใช่หรอ ทำไมเดี๋ยวนี้เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน?
อีกอย่าง ในแววตาเธอไม่มีความเมตตาสักนิด ยังคงกำหินในมือไว้แน่น “ฉันจะบอกเธอให้นะ เป็นไปไม่ได้ เธอตายใจสะเถอะ!”
“ของขวัญชิ้นอื่นๆรวมกันเป็นเงินไม่เท่าไหร่เอง อันนี้ชิ้นเดียวมากกว่าสิบล้าน ฉันเลี้ยงดูเธอมานานขนาดนี้ เธอก็ถึงเวลากตัญญูต่อฉันแล้ว มอบหยกก้อนเดียวให้ฉันจะเป็นไรไป?”
“แต่ว่า นี่เป็นของขวัญชิ้นเดียวที่เขาให้ฉัน!”
หลินฉ่ายเวยกัดฟันแน่น พูดด้วยเสียงสั่นไปทั้งตัว
จนถึงขณะนี้ โจวเหม่ยหยูนถึงจะเข้าใจว่าทำไมหลินฉ่ายเวยถึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้นใช้มือขุดหินก้อนนี้ ไม่ใช่เพราะมันมีมูลค่าสูงแค่ไหน แต่เพราะถังเฉาเป็นคนให้เธอนั่นเอง
ถึงจะมีค่าเท่าหางหมาเส้นเดียว เธอก็จะมองว่าเป็นสมบัติล้ำค่า
เพี้ยะ —-
ทันใดนั้นโจวเหม่ยหยูนหนึ่งฝ่ามือตบไปที่หน้าของหลินฉ่ายเวย อย่างรุนแรง จนมุมปากเธอมีเลือดไหลออกมา
แววตาเธอมองไปที่หลินฉ่ายเวยด้วยสายตาโหดร้าย ตะโกนพูด “เธอต่ำช้าไร้ยางอาย รู้ไหมว่าวันนี้เธอเกือบจะทำให้คุณชายเหวินไม่พอใจ”
หลินฉ่ายเวยผมกระเซอะกระเซิงล้มนั่งลงกับพื้น ไม่ขยับสักนิด เลือดสดๆหยดลงที่พื้นทีละหยดๆ
โจวเหม่ยหยูนทำเหมือนมองไม่เห็น และยังคงด่าต่อ “ถ้าคุณชายเหวินไม่เอาเธอแล้ว เธอรู้ไหมสำหรับตระกูลหลินกับตระกูลโจวต้องสูญเสียมากขนาดไหน? ต่อไปถ้ายังกล้าทำเรื่องเหลวไหลแบบนี้อีก ไม่ต้องถึงมือคุณชายเหวิน ฉันนี่แหละจะตีเธอให้ตายด้วยตัวฉันเอง! ”
หลินฉ่ายเวยยังคงนั่งอยู่บนพื้นด้วยความสิ้นหวัง เพียงแค่ใช้มือเช็ดเลือดออกจากมุมปาก หลังจากนั้นเงยหน้าขึ้น มองไปที่โจวเหม่ยหยูน “การแต่งงานที่มีความสุขของฉันเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับแม่แล้วเป็นการทำให้ตระกูลของแม่แข็งแกร่งขึ้นหรอ?”
ขณะนี้ ในแววตาไม่มีความวิงวอนอีกต่อไป มีแต่ความเรียบเฉย
ในความเรียบเฉย ความบ้าคลั่งกำลังกลั่นตัวอยู่อย่างเงียบๆ
สีหน้าของโจวเหม่ยหยูนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอหันมาจ้อง และย้อนถามว่า “ไม่งั้นฉันเลี้ยงเธอจนโตขนาดนี้เพื่ออะไร เดิมทีหวังว่าไอ้เศษสวะนั่นเอาใจซ่งหรูอี้แห่งตระกูลซ่ง สุดท้ายดีนะกลับหนีไปในคืนที่ตัวเองแต่งงาน ส่วนเธอห้ามมีอะไรผิดพลาดอีก! ”
หลินฉ่ายเวยหัวเราะโดยไม่ได้พูดอะไร หัวเราะไป สายตาก็เปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งขึ้นมาทันที
“คืนหินให้ฉัน!”
เธอกรีดร้องด้วยความโกรธ โยนโจวเหม่ยหยูนลงแล้วเอื้อมมือไปคว้าเทอร์ควอยซ์เลือดมาไว้ในมือ
“กรี้ด —- เธอจะทำอะไร!”
โจวเหม่ยหยูนถึงกับผงะตกใจ ทันใดนั้นทั้งโกรธทั้งประหลาดใจ อยากผลักหลินฉ่ายเวยออก
แต่หลินฉ่ายเวยที่กำลังโกรธเหมือนเสือดาวตัวเมีย ดึงผมของโจวเหม่ยหยูนอย่างรุนแรง ดึงผมออกมาเป็นกระจุก โจวเหม่ยหยูนเจ็บจนกรีดร้องไม่หยุด กลิ้งไปกลิ้งมา
เทอร์ควอยซ์เลือดก็กลิ้งออกมาจากกระเป๋า
หลินฉ่ายเวย หยิบเทอร์ควอยซ์เลือดที่ราวกับสมบัติขึ้น จากนั้นลุกขึ้นจากร่างโจวเหม่ยหยูนไป และมองไปที่โจวเหม่ยหยูนด้วยอาการหอบ
โจวเหม่ยหยูนยังคงนั่งอยู่บนพื้นด้วยความลำบากใจ มองไปที่หลินฉ่ายเวยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห โมโหจนพูดอะไรไม่ออก
“เธอ…เธอถึงกับกล้าตบฉันเหรอ?”
“ขอโทษค่ะ แม่ ฉันแค่อยากเอาของที่เป็นของฉันคืน”
หลินฉ่ายเวยอ่อนโยนลงเล็กน้อย ขอโทษด้วยความรู้สึกผิด
“ ฉันไม่มีลูกสาวอย่างเธอ!”
โจวเหม่ยหยูนตะโกนเสียงดังและมองไปที่หลินฉ่ายเวยด้วยสายตาที่โกรธแค้น “เธอออกไปจากบ้านนี้ อย่ากลับมาอีก!”
“เกิดอะไรขึ้น?”
การเคลื่อนไหวที่ใหญ่ขนาดนี้ พริบตาเดียวก็ดึงดูดความสนใจจากบนตึกบ้านพักตากอากาศ หลินเจิ้งสง โจวเหม่ยหลินยังมีหลินจ้องต่างก็เดินลงมาจากบนตึก
โจวเหม่ยหยูนจ้องมองหลินฉ่ายเวยอย่างโหดเหี้ยม หลินฉ่ายเวยกัดริมฝีปากแน่น นัยต์ตาแดงก่ำแล้วพูดว่า “แม่ นี่แม่บังคับฉันนะ”
โจวเหม่ยหยูนกำลังอยู่ในความโกรธ พอเห็นทุกคนมาก็รีบพูดว่า “พวกคุณมาได้จังหวะพอดี มาตัดสินดูสิ ในฐานะลูกสาว ถึงขนาดกล้าตีฉัน ชาติก่อนฉันสร้างบาปอะไรไว้ ถึงได้ล่วงเกินคนเนรคุณคนนี้!”
พูดจบ นั่งลงกับพื้นร้องไห้โฮขึ้นมา
“ ฉันจะออกไปสงบสติอารมณ์”
ทันใดนั้นหลินฉ่ายเวยพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและเธอก็วิ่งเข้าไปในกล่ามทางสายฝนโดยไม่ได้หยิบร่ม
ในเวลาเดียวกันในบ้านพักตากอากาศ
เหวินเหวยเฉินนั่งอยู่บนโซฟาคุยโทรศัพท์กับเหวินหนานเฉิงบิดาของเขา
“พ่อ ที่อยู่เบื้องหลังตระกูลหลินคือใคร หาไม่พบ” เขาพูดด้วยเสียงขรึม
เหวินหนานเฉิงถอนหายใจ และคำพูดนั้นเต็มไปด้วยความผันผวน “ตอนนี้ตระกูลเหวินของพ่อกำลังพยายามเปิดตลาดหมิงจู มันเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้น กลุ่มคนของ หูอีซาน จะไม่ยอมให้บริษัทตระกูลเหวินของพ่อเข้าเมืองหมิงจูแน่”
“ พวกเขารังแกคนอื่นมากเกินไป!” เหวินเหวยเฉินกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
“ หามาว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังตระกูลหลินคือใคร อย่างนี้ตระกูลเหวินถึงจะสามารถเติบโตได้”
“ ครับ พ่อ”
เหวินเหวยเฉินกำลังจะวางสาย ทันใดนั้น เหวินหนานเฉิงก็พูดขึ้นว่า “พ่อจำได้ว่า น้องชายของนาย ก็มาถึงหมิงจูแล้ว”
“เขาหรอ…”
เมื่อกล่าวถึงบุคคลนี้เหวินเหวยเฉินยิ้มเล็กน้อย
เหวินหนานเฉิงมีลูกชายทั้งหมดสองคน แต่ คนหนึ่งเกิดมาจากเขา และอีกคนเกิดกับภรรยาของเหวินหนานเฉิงกับผู้ชายข้างนอก
เหวินเหวยเฉินก็เป็นลูกนอกคอกคนนั้น แต่เนื่องจากผลงานของเขาโดดเด่นมากเหวินหนานเฉิงจึงต้องให้ความสำคัญกับเขา
สำหรับลูกชายแท้ๆของเขาเอง ถูกเหวินเหวยเฉินตีขาหัก ไล่ออกจากบ้าน
เหวินหนานเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “หาโอกาส แล้วพาเหวินเหรินวี่กลับมาเถอะ เขาทนทุกข์ทรมานมากพอแล้ว”
“ทราบแล้ว พ่อ”
หลังจากวางสาย ดวงตาของเหวินเหวยเฉินเปล่งประกายด้วยเจตนาฆ่า แต่เขาก็ยังสั่งคนของเขา “หาที่อยู่ของเหวินเหรินวี่”
“ครับ”
คนที่อยู่ภายใต้ทีมงานของเขามีประสิทธิภาพอย่างมาก ไม่นาน ก็ได้ผลสรุปออกมา
“คุณชาย ตอนนี้คุณชายเหวินเหรินวี่อยู่บาร์ที่ชื่อว่า ‘คราวน์’”
เหวินเหวยเฉินหรี่ตา “ผมจำได้ว่า เป็นบาร์ที่ประธานจ้าวเปิดใช่มั้ย?”
“ใช่ครับ”
คนที่อยู่ภายใต้ทีมงานของเขายังคงรายงานต่อไป “อีกอย่าง คู่หมั้นของท่าน คุณหลินหลินฉ่ายเวย ก็อยู่ที่คราวน์ด้วยครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหวินเหวยเฉินก็ลุกขึ้นยืนทันที และไวน์แดงในมือของเขา ก็ตกแตกลงที่พื้น แตกละเอียดเป็นชิ้น ๆ