เมื่อตื่นมา ถังเฉาถึงรู้ตัวหลินชิงเสว่ที่อยู่ข้างๆบตัวเองได้หายไปแล้ว ลงไปชั้นล่างถึงรู้ว่าเธอกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว
“มอร์นิ่ง”
ถังเฉายิ้มทักทายหลินชิงเสว่
“มอร์นิ่ง”
หลินชิงเสว่เงยหน้าขึ้นมามองถังเฉา และพูดว่า: “เธอไปแล้ว”
“จริงหรือ…….”
ถังเฉาได้ยินแบบนี้ อึ้งอยู่สักพัก และเดินไปทางห้องของเจียงไป๋เสว่
ในห้องว่างเปล่า ผ้าห่มและผ้าปูที่นอนถูกผับไว้อย่างเรียบร้อย เหมือนไม่ยังไม่เคยใช้
ถ้าไม่ใช่บนหัวเตียงมีกระดาษขาวใบหนึ่งอยู่ เขาคงคิดว่าห้องนี้ไม่มีคนใช้แน่ๆ
เขาหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน บนกระดาษปรากฏตัวหนังสือที่บรรจง
“ขอบคุณที่ให้ฉันค้างคืน ถ้ามีอะไรคืบหน้า ฉันจะมาหานาย และฝากบอกภรรยานายด้วยว่าขอบคุณ จากเจียงไป๋เสว่”
ถังเฉาที่ถือกระดาษอยู่ ยิ้มอย่างลำบากใจ ความจริงแล้ว เมื่อคืนที่ทั้งสองคนเจอหน้ากัน เขารู้อยู่แล้วว่าเจียงไป๋เสว่ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะเผชิญกับหลินชิงเสว่ หลังจากที่พี่ใหญ่หายตัวไป เขาก็ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะไม่สร้างภาระให้กับคนอื่น
ถังเฉาเก็บกระดาษไว้ และทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเดินออกจากห้องไป
หลินชิงเสว่จะไม่พูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมาก่อน ถังเฉาก็จะไม่ไปขุดเอาเรื่องเมื่อวานมาพูดเช่นกัน
“เตรียมแต่งตัวเลยนะ เดียวไปเมืองถ่ายทำภาพยนตร์กับฉัน”
บนโต๊ะอาหาร หลินชิงเสว่มองถังเฉากะทันหันและพูดออกมา
ถังเฉานิ่งไปสักพัก: “จะไปเมืองถ่ายทำภาพยนตร์ทำอะไร?”
เขาจำได้ว่า ที่นั่นเป็นที่สำหรับกองถ่ายภาพยนตร์เอาไว้ถ่ายทำฉากต่างๆ
“วันนี้เป็นวันเริ่มถ่ายทำโฆษณา ผู้กำกับได้มาถึงแล้ว”
ได้ยินแบบนี้ ถังเฉาถึงนึกขึ้นได้ว่าจะได้ถ่ายทำโฆษณาผลิตภัณฑ์ใหม่Angelของบริษัทหลี่จิงกรุ๊ปเพื่อทำการโปรโมท
ตอนแรกงานแบบนี้ถังเฉาจะไม่มีวันเข้าร่วม แต่ช่วยไม่ได้ หลินชิงเสว่ตอบตกลงเข้าร่วมก่อนแล้ว เขาจึงต้องไปเป็นพระเอกในการถ่ายทำ
“พวกเธอไปที่เมืองถ่ายทำภาพยนตร์ทำอะไร? ไปถ่ายภาพยนตร์หรือ?”
หลินจ้าวหยูนหูดีมาก เธอได้ยินเสียงมาจากไกล และรีบวิ่งตรงเข้ามา
ถังเฉาเล่าขั้นตอนการทำงานให้หลินจ้าวหยูนฟัง และหลินจ้าวหยูนปรบมือและทำสีหน้าที่ตกใจ: “ฉันโตจนอายุเท่านี้แล้ว ฉันยังไม่เคยไปกองถ่ายทำภาพยนตร์เลย ฉันไปด้วยได้มั้ย?”
ถังเฉามองไปที่หลินชิงเสว่ทันที และหลินชิงเสว่ได้ขมวดคิ้ว กำลังจะพูดออกมา หลินจ้าวหยูนอุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นมาทันที: “เสี่ยวลี้ พ่อกับแม่จะไปกองถ่ายเพื่อถ่ายภาพยนตร์นะ อาจจะไม่ได้อยู่เล่นเป็นเพื่อนเลี่ยวลี้ แบบนี้ต้องทำไงดี?”
ถังเสี่ยวลี้ที่กำลังกินข้าวอยู่เมื่อได้ยินว่าพ่อกับแม่จะไม่ได้อยู่เป็นเพื่อน ก็รู้สึกไม่พอใจทันที และพูดด้วยความน้อยใจว่า: “คุณพ่อคุณแม่ หนูอยากไปด้วย”
“……”
หลิงชิงเสว่หมดหนทาง และจัองหลินจ้าวหยูนด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยม แต่ก็ตอบตกลง: “พวกเธอไปด้วยได้ แต่ห้ามมาก้าวก่ายการถ่ายทำนะ”
หลินจ้าวหยูนตะโกนออกมาด้วยความดีใจ และพูดทันทีว่า: “ได้ ฉันจะไม่ไปรบกวนเธอ”
เมื่อกินข้าวเช้าเสร็จ ทั้งสี่คนถึงที่เมืองถ่ายทำภาพยนตร์ภายในหนึ่งชั่วโมง
ถังชิงเหอพร้อมผู้จัดการส่วนตัวสวีเลี่ยงได้มาถึงแล้ว สิ่งที่ทำให้ถังเฉาตกใจก็คือ เมื่อพวกเขาถึงได้ไม่นาน ต่งวี่ซู่ก็ได้มาถึง
“นายมาทำอะไร?”
วินาทีที่เห็นต่งวี่ซู่ ถังชิงเหอไม่มีอารมณ์ที่จะทำอะไรเลย
ต่งวี่ซู่มองถังชิงเหออยู่ และหัวเราะแหะๆ : “ประธานหวางคงให้ความสำคัญกับธุรกิจครั้งนี้มาก ก็เลยให้ฉันมาตรวจความคืบหน้า”
ถ้าเป็นเจตนาของประธานกวางถังชิงเหอจะพูดอะไรมากไม่ได้
ขณะนี้ ถังเฉาเดินเข้ามาและหรี่ตามองต่งวี่ซู่และพูดว่า: “ถ้ามาเยี่ยมชมได้ แต่อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ หวังว่านายจะแยกแยะให้ออกนะ”
ระหว่างที่พูด สีหน้าของเขากลายเป็นสีหน้าที่เย็นชา: “พวกเธอเหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่จะดิ้นรนแล้ว”
ถึงเฉาและหลินชิงเสว่รู้ว่าต่งวี่ซู่หมายถึงเมื่อวานที่ต่งอี้สิงคุกคามพวกเขา แต่ผลที่ออกมาเป็นแบบไหน ต่งวี่ซู่ไม่รู้เลย
ถังเฉาและหลินชิงเสว่ ก็ไม่ได้สนใจอะไร และมุ่งตรงหน้าไปที่ถังชิงเหอ: “ผู้กำกับอยู่ไหนหรือ?”
ถังชิงเหอรีบพาพวกเขามาหาชายอายุสี่สิบกว่าและอ้วนลงพุ่งออกมา: “ท่านนี้คือผู้กำกับช่ายเหลียน”
พูดจบ และชี้ไปทางหลินชิงเสว่และพูดว่า: “ข่ายเหลียน คนนี้คือประธานของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป”
“สวัสดีครับ คุณหลิน”
ช่ายเหลียนประจบประแจงและยื่นมือไปหาหลินชิงเสว่
“คนนี้คือพระเอกหมายเลขหนึ่ง ถังเฉา คุณถัง” ถังชิงเหอแนะนำถังเฉา
ช่ายเหลียนมองไปที่ถังเฉา และขมวดคิ้วขึ้นมา: “นายก็คือพระเอกหมายเลขหนึ่งหรือ? ”
“ใช่แล้ว”
ถังเฉายิ้มและยื่นแขนออกมาอย่างมีมารยาท: “ฉันชอบหนังที่คุณกำกับเรื่องนักฆ่าไป๋ฉี”
แต่ช่ายเหลียนไม่ได้ยื่นมือออกมา ยังเอามือไขว้หลังอยู่: “ก่อนหน้านี้ นายเคยมีผลงานอะไรมั้ย?”
“ไม่มี”
ถังเฉาเอามือกลับ และส่ายหัว: “ครั้งนี้เป็นการถ่ายภาพยนตร์ครั้งแรกของผม”
“นายเป็นคนมีเส้นมีสายนี่เอง”
ช่ายเหลียนหัวเราะด้วยความเสียดสีและสายตาที่มองไปหาถังเฉาแฝงไปด้วยเหยียดหยาม
ถังเฉาหน้าเปลี่ยนสี กำลังที่จะอธิบาย แววตาช่ายเหลียนหันไปมองที่ถังเสี่ยวลี้ที่อยู่ข้างๆอย่างรวดเร็ว ถังเฉา ช่ายเหลียนมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป: “นี่เป็นลูกของบ้านไหนหรือ? รีบไล่เธอออกไป!”
ถังเฉารีบขอโทษว่า: “ขอโทษนะครับ นี่เป็นลูกสาวของฉผม เธอเชื่อฟังมาก ไม่ดื้อเลย เธอจะไม่ได้ก้าวก่ายการถ่ายทำแน่นอน”
ระหว่างที่พูด ได้ก้มมองถังเสี่ยวลี้: “เสี่ยวลี้ สวัสดีคุณลุงเร็ว”
“หนูไม่สวัสดี!”
สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ครั้งนี้ถังเสี่ยวลี้ไม่ได้ฟังที่ตัวเขาพูด
เห็นเพียงว่าเจ้าเด็กคนนี้ไปแอบอยู่หลังถังเฉา และมองช่ายเหลียนด้วยสีหน้าที่โกรธและพูดว่า: “เขาเป็นคนไม่ดี หนูจะไม่สวัสดีเขา!”
ช่ายเหลียนก็ไม่ได้สนใจอะไร และสั่งให้คนในกองถ่ายเริ่มทำงานได้เลย
และเขามองไปที่ถังเฉาด้วยสีหน้าที่จริงจังพูดว่า: “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใครเส้นใหญ่มาจากไหน แต่เมื่อถึงที่นี้แล้ว ผมใหญ่ที่สุด ดูลูกสาวของคุณดีๆ อย่าให้ไปรบกวนการถ่ายทำ!”
ถังเสี่ยวลี้ตกใจ และรีบไปหลบหลังถังเฉา
ถังเฉามีสีหน้าที่ผ่อนคลายลง และเอามือลูบไปที่หัวของถังเสี่ยวลี้และพูดว่า: “คุณพ่อจะเริ่มทำงานแล้วนะ ลูกดูพ่อทำงานอยู่ข้างๆ ได้มั้ย?”
“ได้ค่ะ”
ถึงถังเสี่ยวลี้จะรู้สึกน้อยใจ แต่สุดท้ายก็วิ่งไปอยู่ข้างๆ และนั่งดูอย่างเชื่อฟัง
“วันนี้การถ่ายจะแบ่งออกเป็นสองฉาก ฉากแรกคือฉากในสมัยโบราณ และฉากที่สองเป็นฉากสมัยปัจจุบัน ฉากโบราณจะมีถังชิงเหอเป็นตัวหลัก และฉากปัจจุบันจะมีประธานหลินเป็นตัวหลัก ไม่ต้องแต่งหน้า ถ่ายทำโดยใช้หน้าสด”
ช่ายเหลียนรู้ข่าวอยู่แล้วว่าหลินชิงเสว่เคยแสดงมาก่อน เลยมีสีหน้าที่ประจบประแจง
ต่อมาถังเฉาได้ถูกเอาตัวไปเปลี่ยนโฉมและแต่งหน้า เขาเปลี่ยนชุดเป็นชุดโบราณ จนเขาดูหล่อและมีเสน่ห์มาก
ถังชิงเหอก็ได้เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเช่นกัน เป็นชุดจีนโบราณสีแดง คอเสื้อที่ยาว แขกเสื้อทรงกระบอก ดูหรูหรา ผมที่ยาวผมที่เรียวยาวถูกดันขึ้นไปข้างบน และใช้ปิ่นหยกสีทองเสียบไว้
มือถือไม้เท้าทองหัวสวมใส่มงกุฎเพชร ใส่ชุดผ้าไหมผ้าแพรดูแล้ว เหมือนราชินีมาเยือน ราชินีที่ค่อยห่วงใยราษฎร์
ไม่ไกลจากกองถ่ายต่งวี่ซู่จ้องมองถังชิงเหอที่เปลี่ยนเป็นชุดจีนโบราณไม่ขาดสายตาสีหน้าโกรธจนหน้าเขียว ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านั้นมายุ่งกับเรื่องนี้ ตอนนี้คนที่จะแสดงคู่กับถังชิงเหอก็คือเขาแล้ว
สวีเลี่ยงที่อยู่ข้างๆ ได้มาปลอบใจเขา: “ไม่ต้องห่วง เจ้านั้นพึ่งแสดงเป็นครั้งแรก ไม่มีประสบการณ์ใดๆ ถ้าผลออกมาไม่ดี ต้องเปลี่ยนตัวให้นายไปแสดงแทน และถึงตอนนั้นนายจะมีโอกาสจูบหลินชิงเสว่และถังชิงเหอ
อีกฝัง ช่ายเหลียนเดินมาข้างๆ ถังเฉาและมองไปที่เขาแล้วพูดว่า: “คุณไม่มีประสบการณ์การถ่ายภาพยนตร์ ผมไม่ได้คาดหวังให้นายเซอร์ไพรส์ฉัน คุณแค่ทำตามที่ฉันบอกก็ได้แล้ว เข้าใจมั้ย?
ช่ายเหลียนหันหลังและมองไปหาทุกคนในกองถ่ายและพูดว่า: “ฉากแรกเป็นฉากของถังชิงเหอ เธอต้องแสดงเป็นหญิงที่สิ้นหวัง เพราะสามีไปรบแล้วเกิดตายในสนามรบเข้าใจมั้ย?”
พูดจบและมองไปที่ถังเฉา: “คุณ อีกสักครู่นอนอยู่กับพื้นก็ได้แล้ว ผมจะให้คุณแสดงเป็นศพ”
พูดจบไม่รอให้ถังเฉาพูด ช่ายเหลียนมองไปหาคนในกองถ่ายทุกคน: “ทุกคนพร้อมนะเริ่มถ่ายทำเลย”
“เดียวก่อน!”
คำพูดของช่ายเหลียนยังไม่ทันจบ ได้มีเสียงพูดเข้ามาแทรก
ถังเฉาพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า: “ขอโทษนะครับ ผมรู้สึกว่าความคิดของคุณมีปัญหานะ”