“คุณเป็นคนข้างกายถังเฉา—-”
หลังจากเห็นใบหน้าของเฟิ่งหวงอย่างชัดเจน ดวงตาของหลิยฉ่ายเวยก็เบิกกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ
เฟิ่งหวงพยักหน้าอย่างเฉยเมย จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร จ้องมองไปที่เหวินเหรินวี่ที่เป็นคนนำของพวกคุณชายทั้งหลาย
ทั้งๆที่ฝั่งตรงข้ามมาแค่คนเดียว แต่พวกเหวินเหรินวี่กลับรู้สึกถึงความน่ากลัวที่เหมือนถูกล้อมรอบ
หลินฉ่ายเวยยังจำสิ่งที่เฟิ่งหวงพูดก่อนหน้านี้ได้ และจ้องไปที่เหวินเหรินวี่ด้วยความโกรธทันที “คุณถึงกับวางยาฉัน? !”
เหวินเหรินสี่ไม่ได้สนใจ แต่มองไปที่เฟิ่งหวงด้วยสายตามืดมน “คุณเป็นใคร?”
“ ฉันเป็นใครคุณไม่จำเป็นต้องรู้”
เฟิ่งหวงเหลือบมองเขาพูดอย่างเย็นชา “คุณแค่รู้ว่าฉันมาที่นี่เพื่อปกป้องเธอ ก็พอ”
ดวงตาของหลินฉ่ายเวยซาบซึ้ง สายตาที่มองไปที่เฟิ่งหวงยิ่งประหลาดใจขึ้น เฟิ่งหวงคนเดียวไม่น่ามาปกป้องเธอ ถ้างั้นที่เหลือก็ต้องเป็นถังเฉาที่ให้มาปกป้องตัวเอง
สีหน้าของเหวินเหรินวี่ยิ่งมืดมนมากขึ้น เขามองไปที่เฟิ่งหวงและพูดว่า “ผมเข้าใจแล้ว คุณเป็นบอดี้การ์ดของพี่ชายที่แสนดีของผม ส่งมาเพื่อปกป้องคู่หมั้นของเขาใช่ไหม? รองเท้าขาดๆคู่หนึ่ง ถึงกับมีค่าให้เขาทุ่มเทขนาดนี้ ประหลาดจริงๆ”
“คุณ —- คุณถึงจะเป็นรองเท้าขาด!”
คำก็รองเท้าขาดสองคำก็รองเท้าขาด ทำให้หลินฉ่ายเวยรู้สึกโกรธมาก ยังไงครั้งแรกของเธอก็ให้เหวินเหวยเฉินนะ
“ปัญญาอ่อน”
เฟิ่งหวงขี้เกียจเที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับเหวินเหรินวี่ มองเขาเหมือนคนโง่และพูดอย่างเย็นชา “ถ้ารู้กาละเทศะอย่ามาวุ่นวายกับคุณหลิน ไม่งั้นฉันไม่แคร์จะตัดแขนพวกคุณคนละข้าง”
“คุยใหญ่โตเชียวนะ!”
เหวินเหรินวี่กลับมานั่งบนโซฟาบาร์เลานจ์อีกครั้งอย่างไร้ความกลัว ไม่เพียงแต่ไม่กลัว แต่ยังหัวเราะเยาะอีกด้วย “ คุณรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหนคุณกล้าพูดอะไรแบบนี้กับผมเหรอ”
“คุณชายเหวิน เธอบอกว่าจะตัดแขนของพวกเราคนละข้างผมกลัวมากเลย”
“ ไม่เจียมตัวจริงๆเลย!”
คุณชายคนอื่นๆ ต่างเยาะเย้ย เฟิ่งหวงไม่ได้อยู่ในในสายตาเขาเลยสักนิด
เหวินเหรินวี่มองไปที่เฟิ่งหวงและหลินฉ่ายเว่ยด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น ทันใดนั้นน้ำเสียงของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างเย็นชา “ในเมื่อคุณเป็นคนที่พี่ชายของผมส่งมาปกป้องเธอ คืนนี้ก็อยู่ที่นี่รับใช้ผมบนเตียงด้วยกัน! รับใช้เสร็จแล้ว ฉันอาจจะพิจารณาไว้ชีวิตเธอ! ”
คำพูดนี้มีกลิ่นไอของการฆ่า หลินฉ่ายเวยมองไปที่เหวินเหว่ยวี่ด้วยความหวาดกลัว ถ้าหากเวลานี้เธอยังไม่รู้ว่าเป้าหมายฝั่งตรงข้ามคือตัวเอง งั้นเธอก็โง่เต็มทีแล้ว
เพียงแต่ เธอไม่เข้าใจ ในเมื่อเหวินเหรินวี่เป็นน้องชายของเหวินเหวยเฉิน ทำไมถึงเกลียดเขามากขนาดนั้น และทำไมเขาถึงต้องมาทำร้ายเธอด้วย
ราวกับรู้ว่าในใจของหลินฉ่ายเวยกำลังสงสัย ความอาฆาตแค้นปรากฏขึ้นในดวงตาของเหวินเหรินวี่ “คุณต้องแปลกใจมากว่าทำไมผมถึงเกลียดคุณมาก ผมกับคุณไม่มีความแค้นต่อกัน ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษคู่หมั้นของคุณ ขาของผมข้างนี้ เขาเป็นคนตีจนหัก!”
พลั่ก —-
เมื่อจบคำพูดนี้ลง เหวินเหรินวี่ก็โยนไม้ค้ำทิ้ง ขาพิการก็สั่นเล็กน้อยแล้วก้าวไปข้างหน้า
ในระหว่างนี้กระบวนการทั้งหมดใบหน้าของเขาขาวซีด มีเหงื่อไหลเต็มหน้าผากราวกับว่าเจ็บปวดมาก เขาต้องการ อาศัยกำลังของตัวเขาเอง โดยไม่ต้องอาศัยไม้ค้ำยัน ก็สามารถเดินได้ตามปกติ
แต่ว่า เขาล้มเหลว
ด้วยขาที่พิการนั้น เขาไม่สามารถยกกำลังใดๆ ได้เลย ก้าวไปข้างหน้า เขาล้มลงกับพื้นอย่างแรง
“ให้ตายสิ!”
ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว หมัดของเขากำแน่นและเขาก็ทุบลงบนพื้นอย่างแรง
“คุณชายเหวิน!”
สีหน้าของพวกคุณชายเปลี่ยน และพวกเขาก็วิ่งเข้าไปช่วยประคองเขาขึ้นมา
เหวินเหรินวี่หายใจหอบ แววตาที่อาฆาตจ้องมองไปที่หลินฉ่ายเหว่ยที่กำลังตกตะลึงจนพูดไม่ออก และพูดว่า “ตอนนี้คุณเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมผมต้องจัดการกับคุณ ทำไมลูกนอกคอกถือสิทธิ์อะไรมีชีวิตที่ดีขนาดนั้น แต่ผมซึ่งเป็นผู้สืบทอดตัวจริง กลับใช้ชีวิตเหมือนคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง นี่มันไม่ยุติธรรม!”
เมื่อพูดถึงตอนหลัง สีหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวตะโกนเสียงดังใส่หลินฉ่ายเวย “พี่ชายที่แสนดีของผมกำลังจะแต่งงานแล้ว สำหรับคุณที่เป็นเจ้าสาวของเขา ผมจะไม่ทำให้เขาสมหวัง เจ้าสาวผมก็จะเอา ฮ่าฮ่าฮ่า .. ”
“ดังนั้น คุณจึงวางยาในแก้วของฉัน!”
หลินฉ่ายเวยถอยหลังไปเรื่อยๆ จ้องมองเหวินเหรินวี่อย่างคาดไม่ถึง “คนบ้า บ้าจริงๆ … ”
“คนบ้า? ไม่ผิด ใช้เวลาไม่นานคุณก็จะพบว่า พี่ชายที่แสนดีของผมคนนั้น เขาก็เป็นคนบ้าเหมือนกัน”
เหวินเหรินวี่หัวเราะอย่างดุร้าย “แต่งงานกับเขา คุณไม่มีความสุขหรอก ในทางกลับกันคุณจะต้องเสียใจตลอดชีวิต!”
หลินฉ่ายเวยไม่เข้าใจ คำพูดของเหวินเหรินวี่หมายความว่าอะไร ในขณะนี้หลินฉ่ายเวย รวมรวบพลังของเธอทั้งหมดมองไปที่ตัวเหวินเหรินวี่ โชคดีที่เธอไม่ได้ดื่มไวน์แก้วนั้นลงไป
สายตาของเฟิ่งหวงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เธอมองไปที่เหวินเหรินวี่ด้วยสายตาที่เรียบเฉย จากนั้นก็พูดกับหลินฉ่ายเวย “พวกเราไปกันเถอะ”
หลังจากพูดจบ ก็ก้าวนำไปที่ประตูทางเข้าบาร์
หลินฉ่ายเวยเดินตามหลังเฟิ่งหวงอย่างระมัดระวัง แต่ในใจเธอรู้สึกตื้นตันมาก ว่าวันหนึ่งเธอจะได้รับการปกป้องจากเขา
“ พูดดีๆไม่ชอบ ชอบให้บังคับ!”
แววตาของเหวินเหรินวี่เคร่งขรึม เขาตบมือเบาๆ ทันใดนั้นชายร่างท้วมเจ็ดแปดคนก็รีบวิ่งเข้ามาจากด้านนอกประตูและยืนอยู่ตรงหน้าเฟิ่งหวงและหลินฉ่ายเวย
เฟิ่งหวงหยุดเดิน หรี่ตาเล็กน้อยและมองดูคนที่อยู่รอบๆ น้ำเสียงยังคงเฉยเมย “ดูท่าพวกคุณไม่ต้องการแขนอีกแล้ว”
ก่อนหน้านี้หลินฉ่ายเวยก็เคยเห็นความแข็งแกร่งของเฟิ่งหวง ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวสักนิด ในใจส่วนลึกของเธอ เธอถึงกลับมีความคาดหวังเล็กน้อย
“คนที่ตาบอดและมั่นใจในตัวเอง ถึงแม้ความตายจะมาเยือนแล้วยังไม่รู้สึกตัว”
เหวินเหรินวี่หยิบซิการ์มวนหนาๆออกมา คุณชายที่อยู่ข้างๆก็รีบหยิบไฟแช็กและจุดไฟให้เขาทันที เขาพ่นควันออกมาและพูดอย่างเย็นชา “งั้นก็จัดการให้ผมซะ!”
“ไสหัวไป!”
สีหน้าของเฟิ่งหวงเยือกเย็น ในมือมีกริชเย็นเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเล่ม พลังของเธอทั้งหมดก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แต่รู้สึกเหมือนเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่
ขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวจะลงมือ มีเสียงของผู้ชายที่แว่วมาจากด้านหลังอย่างไม่แยแส
“คุณหนูท่านนั้น ฟ้ามืดหิมะตก ดื่มเหล้าอุ่นๆสักแก้วได้ไหม?”
เสียงไม่ดังมาก พอดีที่จะให้ทุกคนได้ยิน
ทันใดนั้น เดิมเฟิ่งหวงที่กำลังจะฆ่า พริบตาเดียวความอาฆาตก็หายไป เปลี่ยนเป็นเชื่อฟังอย่างว่าง่าย
หลินฉ่ายเวยหันศีรษะมา แค่เห็นมุมหนึ่งของบาร์ ทันใดนั้นก็มีชายในชุดสูทสีดำปรากฏตัวขึ้นมา ด้านหนึ่งกำลังดื่มไวน์อยู่อีกด้านก็มองดูทั้งหมดนี้อย่างเงียบสงบ
“ถังเฉา?!”
ดวงตาของหลินฉ่ายเวยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ และเธอก็โพล่งออกมา
ในบาร์เหล้ายังมีเสียงดนตรีกึกก้อง เสียงเรียกของหลินฉ่ายเวย มีคนไม่มากที่ได้ยิน
กลุ่มของพวกคุณชายที่นำโดยเหวินเหรินวี่ ก็จ้องมองไปทางถังเฉาที่กำลังนั่งดื่มคนเดียวอยู่ที่มุมห้อง “เจ้าหมอนี่เป็นใครหรอ มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
พวกเขานั่งอยู่ที่บาร์ใกล้ๆทางเข้า ถึงกลับไม่ได้สังเกตเห็นคนเป็นๆสูงใหญ่เดินเข้ามา?!
แต่ไม่นานแววตาที่เต็มไปด้วยประหลาดใจของพวกเขาก็หายไป คุณชายคนหนึ่งหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วพูดกับเหวินเหรินวี่ “คุณชายเหวินเดี๋ยวผมไปหาเขา ดูว่าเขาคือใคร”
พูดจบ เขาก็ค่อยๆเดินไปหาถังเฉา และในขณะที่เดินเขาก็ตะโกนว่า “คุณเป็นคนพิเศษมาจากไหน คุณรู้ไหมว่าคนที่สนใจผู้หญิงคนนี้เป็นใคร … ”
“อ้าก!”
วินาทีต่อมา คำพูดของคุณชายคนนั้นหยุดลงทันที แทนที่ด้วยเสียงกรีดร้องที่อนาถ
ถังเฉาไม่แม้แต่จะมอง ยื่นมือออก กางนิ้วห้านิ้วจับหน้าคุณชายคนนั้นไว้ทั้งหน้า จากนั้นกระแทกไปที่บาร์
ปัง—-
ใบหน้าของเขา จูบแนบไปที่บาร์ จนสลบไป
ถังเฉาทำเหมือนไม่มีใครอยู่ แล้วมองหลินฉ่ายเวยด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า รอคำตอบอย่างเงียบๆ
หลินฉ่ายเวยอ้าปากของเธอเล็กน้อย ได้สติกลับมา รอยยิ้มที่น่ารักมีเสน่ห์ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ และเธอก็พยักหน้าเบา ๆ
“ได้”