เสียงเจ้าของเบอร์โทรนั้นมีเสน่ห์และนำมาซึ่งคำใบ้ไม่รู้จบ ถ้าหากฟังเพียงแค่น้ำเสียง ย่อมคิดไม่ถึงเลยว่าเธอกับถังเฉาได้เจอกันทั้งหมดแค่สองครั้งเท่านั้น
และยังเป็นการเจอกันภายในวันเดียวด้วย
แต่ว่า สัญชาตญาณบอกถังเฉาว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา
“ผมอยู่ที่คราวน์” ถังเฉาบอกกับผู้หญิงคนนั้นตรงๆ
“คุณไปทำอะไรที่คราวน์?”
หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
ถังเฉากลับไม่ตอบคำถามนี้
หญิงสาวเข้าใจทันทีและน้ำเสียงเปลี่ยนเป็นทุ้มต่ำลงไปไม่น้อย : “เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”
พูดจบก็วางสาย
ถังเฉาเองก็วางโทรศัพท์ลงแล้วมองทุกคนด้วยสีหน้าสงบนิ่ง : “เอาล่ะ คนของผมกำลังจะมาถึงที่นี่แล้ว”
“เสแสร้ง เสแสร้งต่อไปได้เลย”
เหวินเหรินวี่มองถังเฉาอย่างไม่ไว้วางใจเลย : “ครอบครัวที่ไร้ความสามารถยังไม่ต้องการขยะอย่างนาย แล้วยังจะเรียกใครมาได้อีก?”
ห้าปีก่อนเรื่องเจ้าบ่าวของคุณหนูใหญ่ตระกูลซ่งหนีการแต่งงานเป็นที่พูดคุยกันอย่างแพร่สะพัดทั่วทั้งเมืองเมืองหมิงจู กระทั่งแพร่ไปถึงอีกสองมณฑลกับหนึ่งเมือง คือ มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียงและเมืองเซี่ยงไฮ้
แต่ทุกคนที่อยู่ในแวดวงล้วนเคยได้ยินเรื่องนี้ แต่ไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวที่หนีไปเป็นใคร
ตอนนี้ความจริงปรากฏชัดเจนแล้ว เหวินเหรินวี่ไม่สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป เขารู้สึกว่าถังเฉาก็เป็นแค่คนธรรมดา
เพื่อนของคนธรรมดาเป็นได้แค่คนธรรมดาเท่านั้น ไม่มีทางเป็นมหาเศรษฐีไปได้ ดังนั้นเหวินเหรินวี่จึงไม่สนใจเลยว่าถังเฉาโทรหาใคร
เพล้ง—-
ในเวลานี้มีเสียงแก้วไวน์ตกลงบนพื้นดังสนั่น
สายตาของทุกคนรวมกันอยู่บนตัวของจ้าวเชียนจูน
“เกิดอะไรขึ้น?” สายตาของจ้าวชุนเซิงนั้นหม่นมืดเล็กน้อยและตะโกนเสียงทุ้มต่ำ
“ขอ ขอโทษด้วยครับ มือผมลื่น” จ้าวเชียนจูนขอโทษอย่างรวดเร็ว แต่สายตากลับมองไปที่ถังเฉาอย่างตื่นตระหนก
เขาไม่มีวันลืมคืนนั้นตลอดกาล ถึงแม้ว่าเขาไม่รู้ว่าตระกูลซ่งพังพินาศไปได้อย่างไร แต่เขาเชื่อมั่นว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับถังเฉาอย่างแน่นอน
คนที่หาเรื่องตระกูลซ่งไม่ได้ กล้าดียังไงจะมาหาเรื่องตระกูลจ้าว?
“แกชื่อถังเฉาใช่ไหม?” จ้าวชุนเซิงเหล่ตามองถังเฉา น้ำเสียงเย็นเยียบ : “ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ เบื้องหลังล้วนแล้วแต่เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงผู้คนนับหน้าถือตา ไม่ใช่สิ่งที่ขยะอย่างแกจะเทียบเลย คุกเข่าลงซะ ก้มหัวขอโทษทุกคน แล้วฉันจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วจะไว้ชีวิตแก”
ถังเฉาทำราวกับว่าไม่ได้ยินอะไรเลย แล้วยังถามหาเหล้าเตอกีล่ากับบาร์เทนเดอร์ เขาดื่มช้าๆ ก่อนยิ้มกริ่มแล้วพูดว่า : “คุณไม่ถามเลยว่าผมเชิญใครมา?”
“คนธรรมดาอย่างแกจะเชิญใครมาได้บ้าง?”
เหมือนกับเหวินเหรินวี่ ดวงตาของจ้าวชุนเซิงเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
“คุณคือคนของตระกูลจ้าวใช่ไหม?” ถังเฉาไม่โกรธและถามต่อทันที
“ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นคนตระกูลจ้าว ยังกล้าก่อเรื่องในอาณาเขตของฉันอีกเหรอ?”
“งั้นก็บังเอิญแล้ว คนที่ผมเรียกมาก็เป็นคนของตระกูลจ้าว”
ถังเฉาเขย่าแก้วเหล้าเบาๆ : “ไม่แน่ว่าพวกคุณอาจจะรู้จักกันก็ได้นะ?”
ทันที่พูดเช่นนี้จ้าวชุนเซิงก็ตกตะลึง จากนั้นได้ลังเลอยู่ชั่วครู่ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าขยะคนนี้จะรู้จักคนของตระกูลจ้าว
แต่ในไม่ช้า จ้าวชุนเซิงก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มและยังคงมีสีหน้าบูดบึ้งอันคลุมเครือ : “ไอ้หนู นี่แกช่วยฉันเรียกคนสินะ…”
เหวินเหรินวี่เองก็มองดูถังเฉาพบเจอกับความโชคร้ายอย่างมีความสุข จ้าวชุนเซิงเป็นหนึ่งในบุตรชายที่ได้รับการเคารพที่สุดของประธานจ้าวและมีตำแหน่งสูงสุดในตระกูลจ้าว ถึงแม้ว่าไอ้ขยะนี่จะรู้จักคนของตระกูลจ้าว ก็ไม่ใช่ทายาทสายตรง เมื่อมาเจอกับจ้าวซุนเซิง มันเหมือนกับหนูมาเจอแมวย่อมไม่กล้าที่จะขัดขืนแม้แต่น้อย
เขาตั้งตารอฉากเหตุการณ์ที่เขาจะได้สั่งสอนคนที่ถังเฉาเรียกมาอย่างโหดร้ายแล้ว
หลินฉ่ายเวยที่ตอนแรกยังคงใจเย็นอยู่ แต่เมื่อได้ยินว่าถังเฉาเรียกคนของตระกูลจ้าวมาจริงๆ ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีทันใด
ลูกชายผู้เป็นที่นับหน้าถือตามากที่สุดของประธานจ้าวอยู่ที่นี่แล้วนะ อย่าให้คนที่ถูกเรียกมาต้องถูกตีเลย
“ถังเฉา พวกเรารีบไปกันเถอะนะ…” เธอกัดฟันแล้วพูดเกลี้ยกล่อม
อย่างไรก็ตามถังเฉาและเฟิ่งหวงยังคงสงบนิ่งและไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรเลย ถังเฉาถึงกับส่ายหัวแล้วพูดกับเหวินเหรินวี่ว่า : “เดิมทีผมก็ประหลาดใจนะ คุณกับเหวินเหวยเฉินล้วนแต่ลูกชายของเหวินเฉิงหนานทั้งคู่ ทำไมถึงถูกเหวินเหวยเฉินตีจนขาหักและขับไล่ออกจากตระกูลเหวินได้ พอมองดูในตอนนี้ คุณกับเหวินเหวยเฉินห่างชั้นกันมากจริงๆ”
“แกบังอาจนักนะ!”
เหวินเหรินวี่โกรธจัดขึ้นมาทันทีพร้อมกับมองไปยังถังเฉาและตะโกนออกมา
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าในเวลานี้ ถังเฉายังกล้าเปิดเผยบาดแผลที่ชุ่มเลือดของเขา!
เขามองไปที่จ้าวชุนเซิงทันที : “ชุนเซิง หยุดพูดจาไร้สาระกับเขาเสียที หักขาของมันทั้งสองข้าง ฉันอยากจะให้มันได้ลิ้มรสชาติขาหักด้วย!”
“เยี่ยมเลย”
จ้าวชุนเซิงพยักหน้าจากนั้นก็โบกมือ ทันใดนั้นมีอันธพาลรูปร่างสูงใหญ่จำนวนมากเดินเข้ามาจากทุกทิศทางแล้วขับไล่แขกทุกคนในบาร์
“เคลียร์พื้นที่!”
ทันใดนั้นภายในบาร์กลายเป็นว่างเปล่า มันมืดสนิท เหลือเพียง ถังเฉา หลินฉ่ายเวย เหวินเหรินวี่ จ้าวชุนเซิงและคนอื่นๆ
หลังจากขับไล่แขกออกไปแล้ว เหล่าอันธพาลร่างสูงใหญ่ได้เดินเข้าไปหา ถังเฉา หลินฉ่ายเวย เฟิ่งหวง พร้อมสายตาที่เย็นเยียบ
เหล่าเพื่อนพ้องบรรดาคุณชายที่นำโดยเหวินเหรินวี่และจ้าวชุนเซิงล้วนแต่แสดงรอยยิ้มเย็นชาออกมา ราวกับว่าได้เห็นฉากนองเลือดของถังเฉาที่โดนหักขาจนเลือดสาดกระจายเรียบร้อยแล้ว
“ฉันจะดูว่าใครจะกล้า!”
ในช่วงเวลาเส้นยาแดงผ่าแปดนั่นเอง มีเสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขามของหญิงสาวดังขึ้นที่ประตูทางเข้าของบาร์
เสียงตะโกนนี้เต็มไปด้วยพลังและมีอำนาจขั้นสุด มันสามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ในชั่วพริบตา
ถังเฉาดื่มเตอกีล่าหมดแก้วในอึกเดียว : “คนของผมมาแล้ว”
ในขณะนี้รอยยิ้มบนใบหน้าก็หดหายไปด้วยเป็นการแสดงว่า เรื่องราวต่างๆใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว
“คุณชายเหวิน ดูเหมือนว่าคนที่เจ้าหนูนี่เชิญมาจะเป็นผู้หญิง—-”
มีรอยยิ้มเหยียดหยามบนใบหน้าจ้าวชุนเซิง ในขณะเดียวกันเขาค่อยๆหันไปมองทที่ประตูทางเข้า
เขาตัดสินใจเรียบร้อยแล้วว่าจะตะโกนออกไปก่อน แล้วค่อยปล่อยให้เธอสั่งสองถังเฉาอย่างรุนแรงทันที
อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขาเห็นร่างที่ยืนอยู่ตรงปากประตูอย่างชัดเจนแล้วนั้น รอยยิ้มของจ้าวชุนเซิงค่อยๆแข็งทื่อ หลังจากนั้นเหมือนกับหนูตัวน้อยเห็นแมวยังไงยังงั้น เขาถอยหลังออกไปทีละก้าว ดวงตากลมโตจ้องเขม็ง
“คือ คือเธองั้นเหรอ?!”
“ฉันเอง”
หญิงสาวตรงประตูสวมชุดกระโปรงยาวสีแดงแหวกข้าง ผมดัดลอนใหญ่ปล่อยสยายอย่างเซ็กซี่ ดวงตาทรงลูกท้อคู่นั้นราวกับว่าพูดได้และมีประกายความเย็นเยียบที่หนาแน่น เธอยิ้มเยาะขณะที่มองดูจ้าวชุนเซิง
“จ้าวชุนเซิง นายกล้าหาญมากเลยนะ แม้แต่เพื่อนของฉันยังกล้าทำร้าย”
“เพื่อนของเธองั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำนี้ รูม่านตาของจ้าวชุนเซิงได้หดเล็กลง แล้วชี้ไปที่ถังเฉาพร้อมกับพูดอย่างเหลือเชื่อว่า : “เธอได้รับเชิญจากเขางั้นเหรอ?”
“ถ้าไม่ใช่เขาเชิญ หรือจะเป็นนายเชิญล่ะ? ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ได้ดีถึงขั้นนั้นนะ?”
หญิงสาวไม่ไว้หน้าจ้าวชุนเซิงเลยแม้แต่น้อย สถานะลูกชายตระกูลจ้าวที่ทุกคนเกรงกลัว ดูเหมือนว่าสำหรับเธอแล้วไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ
“เป็นเธอเองเหรอ?!”
เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวชัดเจนแล้ว หลินฉ่ายเวยเองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะแล้วอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นปิดปาก
ที่ถังเฉาเรียกมา ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นจ้าวเย็นหราน?!
เธอมองไปทางถังเฉาอย่างไม่อยากจะเชื่อ มันเหลือเชื่อมาก พวกเขารู้จักกันนานขนาดไหน ถังเฉาถึงสามารถเชิญจ้าวเย็นหรานมาได้…
“คุณชายจ้าว รออะไรอยู่ รีบหักขาเขาเร็ว—-”
เหวินเหรินวี่และกลุ่มเพื่อนคุณชายคนอื่นๆไม่รู้จักจ้าวเย็นหราน เพราะฉะนั้นจึงไม่รู้ว่าเธอเป็นใครเลยพากันเร่ง
“ทุกคนหุบปาก!”
ทันใดนั้นจ้าวชุนเซิงได้หันกลับมาแล้วตะโกนใส่พวกเขา
หลังจากนั้น ภายใต้สายตาที่ตื่นตระหนกของทุกคน เขากัดฟันกรอด แล้วโค้งตัวเก้าสิบองศาคำนับจ้าวเย็นหราน
“สวัสดีครับคุณหนู”
“สวัสดีครับคุณหนู—-”
เมื่อจ้าวชุนเซิงโค้งคำนับ ลูกน้องทั้งหมดที่อยู่ด้านหลังของเขาย่อตัวลงทีละคนแล้วโค้งคำนับลงไปและตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกัน
“……”
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนช๊อคอย่างหนัก สีหน้าของหลินฉ่ายเวยผิดไปจากปกติ
เหวินเหรินวี่และเหล่าบรรดาคุณชายคนอื่นๆแสดงท่าทางราวกับเห็นผียังไงยังงั้น
คนที่ถังเฉาเรียกมา ที่จริงแล้วคือลูกสาวคนโตของตระกูลจ้าว?!