หลินฉ่ายเวยไม่เคยรู้สถานะของจ้าวเย็นหราน ในงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลเจิ้งคราวก่อน นายท่านเจิ้งรับทราบข่าวการเสียชีวิตของเจิ้งฮ่าว ดังนั้นตระกูลโจวและตระกูลหลินถูกบังคับให้ส่งมอบตัวฆาตกร
ตระกูลโจวกลัวภัยจะมาถึงตัว ดังนั้นจึงส่งมอบถังเฉาออกมาโดยไม่ลังเล จากนั้นไม่นานตระกูลโจวก็ออกไปจากตระกูลเจิ้งจึงไม่ได้เห็นภาพที่เปล่งประกายของจ้าวเย็นหรานแม้แต่น้อย
เธอเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลจ้าวแต่เธอกลับสนิทสนมกับตระกูลเย่ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของครอบครัว
ถังเฉายังรู้ดีด้วยว่าเดิมทีเย่เทียนหลงเองก็เป็นคนของตระกูลจ้าวและเป็นพี่น้องกับจ้าวเย็นหราน ต่อมาด้วยเหตุผลบางประการ เขาได้ออกจากตระกูลจ้าวและก่อตั้งตระกูลเย่
มีความลับมากมายบนตัวผู้หญิงคนนี้ ถังเฉาเข้าใจดีว่า ตระกูลจ้าวและตระกูลหวางเพียงแค่ไม่สามารถคาดเดาการเปลี่ยนแปลงตัวตนของเขาได้ แต่ไม่ได้กลัวเขาจริงๆ
จ้าวเย็นหรานเหมือนกับแม่มดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อมองเห็นพลังที่แสนพิเศษนี้แล้ว ถังเฉาหรี่ตาลงเล็กน้อยและมีความคิดที่หาญกล้าผุดขึ้นมาในใจของเขา
ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าถังเฉาคิดอะไรอยู่ในตอนนี้ ความสนใจทั้งหมดอยู่บนตัวของจ้าวเย็นหราน
เหวินเหรินวี่และเหล่าคุณชายคนอื่นๆ มองไปที่จ้าวเย็นหรานอย่างไม่เชื่อสายตาราวกับเห็นผี : “ตระกูลจ้าว เป็นผู้ชายทั้งหมดไม่ใช่เหรอ? มีคุณหนูเพิ่มมาอีกหนึ่งคนตอนไหน?”
เมื่อได้ยิน จ้าวเย็นหรานหัวเราะเยาะทันที สำหรับคำถามนี้ เธอก็คร้านแม้แต่จะตอบ
สีหน้าของจ้าวชุนเซิงกลับมืดมนลง เขาหันหน้ากลับไปทางเหวินเหรินวี่แล้วพูดว่า : “ตระกูลจ้าวของฉันเป็นผู้ชายทั้งหมดก็จริง แต่นั่นเป็นเรื่องปกติ ที่จริงแล้ว คุณพ่อยังมีลูกสาวอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ที่บ้านเลยตลอดทั้งปี เขารักและทะนุถนอมลูกสาวคนนี้มาก ถึงกับประกาศกฎเหล็กว่า “เห็นลูกสาวเหมือนเห็นฉัน” ลูกสาวคนนี้ก็คือน้องสาวคนเล็กของฉัน…”
“น้องสาวคนเล็กของนายคือใคร?”
จ้าวเย็นหรานมองไปที่จ้าวชุนเซิงแล้วหัวเราะเหน็บแนม : “คุณชายพูดจายกยอตัวเองเกินไปแล้ว ลูกนอกสมรสที่เกิดจากคนป่าข้างนอกคู่ควรจะเป็นพี่ชายของฉันด้วยเหรอ?”
การพูดว่า “ลูกนอกสมรส” ทำให้ใบหน้าของจ้าวชุนเซิงซีดเผือดแต่เพราะสถานะของตัวเขาเองจึงไม่สามารถโต้แย้งคำพูดนี้ได้ มีเพียงแค่ส่วนลึกที่สุดในดวงตาเท่านั้นที่ความเย็นชาได้ผ่านเข้าไป
คำพูดของจ้าวชุนเซิงทำให้รูม่านตาของเหวินเหรินวี่หดตัวลง จากนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหม่นมืดลงไป
แรกเริ่มเดิมที คนที่เขามองว่าพึ่งพาได้มากที่สุดคือจ้าวชุนเซิง อุตส่าห์คิดใคร่ครวญมาเป็นอย่างดีแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าถังเฉาจะเชิญลูกสาวคนโตของตระกูลจ้าวที่มีอำนาจมากกว่าจ้าวชุนเซิงมาได้ นี่เป็นส่งที่มาขัดขวางตำแหน่งของเหวินเหรินวี่อย่างมาก
เขาสูดหายใจลึกและจ้องมองไปที่จ้าวเย็นหรานอย่างเย็นชา :” คุณหนูจ้าว ผมไม่สนว่าคุณคือใคร อย่าได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ ผมมาจากตระกูลเหวินแห่งเจียงเจ้อเพื่อมาคุยข้อตกลงทางธุรกิจกับตระกูลจ้าวของพวกคุณ ถ้าหากผมบอกเรื่องนี้กับพ่อของผมจะต้องมีผลกระทบเรื่องความสมานฉันท์ของสองตระกูล ความผิดนี้คุณรับผิดชอบไหวเหรอ?”
“คุณเอาตระกูลจ้าวมาข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?”
จ้าวเย็นหรานมองไปยังเหวินเหรินวี่อย่างไม่เชื่อสายตา จากนั้นเธอก็หัวเราะจนตัวโยนราวกับได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลก : “ขำจะตายอยู่แล้ว ต้องขอชมเชยสิ่งที่คุณคิดออกมาเลยนะ—-”
พูดมาถึงตรงนี้ เสียงหัวเราะของจ้าวเย็นหรานได้หยุดลงอย่างกระทันหันแล้วแทนที่ด้วยความร้ายกาจที่แสนลึกซึ้ง : “ถ้าอย่างนั้นฉันขอร้องคุณเลยว่า ให้รีบยุติความร่วมมือกับตระกูลจ้าวโดยเร็ว แล้วจัดการกับตระกูลจ้าวอย่างสุดความสามารถ เมื่อตระกูลจ้าวพังพินาศลงไปแล้ว นั่นจะเป็นวันที่ฉันมาขอบคุณตระกูลเหวินของพวกคุณด้วยตนเอง!”
ทันทีที่พูดเช่นนี้ออกมา เหวินเหรินวี่ตะลึงงันอย่างจัง เขาไม่สามารถหันหน้ากลับมาได้ไปชั่วขณะ และได้แต่มองไปที่จ้าวเย็นหรานอย่างว่างเปล่า
ผู้หญิงคนนี้—-ทำไมถึงไม่ทำตามสามัญสำนึกอย่างคนเค้าทำกัน?
จ้าวชุนเซิงเข้าใจมากขึ้นอีกหน่อย สีหน้าของเขามืดมนลงไปอีก ราวกับว่าแค่บิดเบาๆก็มีน้ำไหลออกมาได้
เขารู้แล้วว่านับผู้หญิงคนนี้เป็นอีกคนที่ต้องการให้ตระกูลจ้าวพังพินาศมากที่สุดได้เลย ความพยายามในการใช้ตระกูลจ้าวมาข่มขู่จ้าวเย็นหรานของเหวินเหรินวี่ถือว่าคุกคามผิดคนโดยสิ้นเชิง
ถังเฉาหรี่ตาเล็กน้อย สายตาของเขาจับจ้องไปที่ตัวของจ้าวเย็นหราน ความคิดในสมองของเขารุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เพี้ยะ —-
ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง จ้าวเย็นหรานกลับเดินผ่านทุกคนไปด้านหน้า จนมาถึงตรงหน้าของเหวินเหรินวี่แล้วสะบัดฝ่ามือตบเขาอย่างรุนแรง
เหวินเหรินวี่เบิกตาโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อทันที : “คุณ คุณกล้าตีผมงั้นเหรอ?”
“ตีคุณมันกระจอก ฉันกล้าทำลายคุณด้วยซ้ำ!”
ถึงแม้ว่าจ้าวเย็นหรานจะเป็นลูกสาว แต่ถ้าดุร้ายขึ้นมา ความเยือกเย็นในดวงตากลับรุนแรงมากกว่าผู้ชายทั่วไปด้วยซ้ำ
วินาทีถัดมา เธอหันไปมองทางลูกน้องของตระกูลจ้าวอย่างเย็นชา เธอชี้ไปที่เหวินเหรินวี่แล้วกล่าวว่า : “สั่งสอนบทเรียนหนักๆให้เจ้าง่อยคนนี้สักยกซิ ใครตีได้แรงที่สุด คนนั้นจะได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกหลักของตระกูลจ้าว!”
ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา ไม่เพียงแต่สีหน้าของเหวินเหรินวี่ที่เปลี่ยนไปอย่างมาก ใบหน้าของจ้าวชุนเซิงเองก็กระตุกอย่างแรงเช่นเดียวกัน
“น้องสาว เธอทำแบบนี้ จะไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
“จริงด้วยสิ เกือบลืมนายไปเลย”
จ้าวเย็นหรานเดินมาถึงข้างหน้าจ้าวชุนเซิงแล้วก้ตบหน้าเขาอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน แต่จ้าวชุนเซิงกลับไม่กล้าบ่นเลยแม้แต่น้อย
“คุณถังเป็นเพื่อนของฉัน พวกนายกลับกล้าแตะต้องเพื่อนของฉัน นี่คือการไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา”
น้ำเสียงของจ้าวเย็นหรานรุนแรงมาก : “ตบนายครั้งเดียวถือว่าเบามาก ถ้าหากนายไม่ทำตามที่ฉันบอก ฉันจะบอกชายชราคนนั้น ให้เขาลงโทษนายด้วยตัวเอง”
“……”
จ้าวชุนเซิงไม่พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่กัดฟันแน่นพร้อมกับมองไปที่จ้าวเย็นหรานด้วยสายตาอาฆาตแค้น ราวกับกำลังอดทนต่อการดูถูกอย่างใหญ่หลวง
จ้าวเย็นหรานไม่ใส่ใจในเรื่องนี้เลย เธอพูดอย่างเฉยเมยว่า : “หยุดจ้องได้แล้ว ฉันรู้ว่าตอนนี้นายเกลียดฉันแทบตายแล้ว มันจะดีที่สุดถ้าฆ่าฉันให้ตายไปเลยใช่ไหมล่ะ?”
“แต่นายอย่าลืมนะว่า นอกจากชายชราคนนั้นแล้ว ฉันยังมีวิธีอื่นที่ฆ่าพวกนายได้”
ถังเฉารู้ว่า จ้าวเย็นหรานไม่ได้โกหกและไม่ได้สร้างสถานการณ์เพื่อข่มขวัญใคร เธอไม่ต้องพึ่งพาประธานจ้าวก็ยังมีวิธีอื่นในการจัดการพวกของจ้าวชุนเซิง
เป็นเพราะว่า นอกจากตระกูลจ้าวแล้ว เธอยังมีผู้สนับสนุนรายใหญ่อยู่เบื้องหลังอีก นั่นคือตระกูลเย่
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลจ้าว แต่กลับมีภูมิหลังทั้งกับตระกูลจ้าวและตระกูลเย่ในเวลาเดียวกัน
ดวงตาของจ้าวชุนเซิงมืดมน : “ในฐานะลูกสาวแท้ๆของพ่อกับแม่ แต่กลับมีความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนกับเย่เทียนหลงแห่งตระกูลเย่ เธอยินยอมที่จะเป็นนกสองหัวขนาดนี้เลยเหรอ?”
จ้าวเย็นหรานไม่ได้โกรธ เธอถือแก้วไวน์อย่างสบายๆแล้วดื่มช้าๆ : “นายไม่ต้องมากระตุ้นฉัน ถึงนายโกรธอีกก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงว่านายเป็นลูกนอกสมรสได้ ถึงฉันโกรธอีก ฉันก็ไม่ไปทะเลาะกับคนที่ต่ำกว่าอย่างพวกนายหรอก”
คำพูดสั้นๆแต่รวบรัดก็สามารถแก้ไขคำพูดโจมตีของจ้าวชุนเซิงได้ ตรงกันข้ามจ้าวชุนเซิงกลับกลายเป็นฝ่ายที่เติบโตมาเป็นอันธพาล ผู้หญิงคนนี้ไม่ควรประมาทเลยจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้น เชิญได้แล้ว”
จ้าวเย็นหรานมองไปทางจ้าวชุนเซิงแล้วขยับเป็นท่าเชิญ
สีหน้าของจ้าวชุนเซิงเปลี่ยนไปอย่างลึกซึ้ง เขาลังเลไปชั่วขณะแล้วมองไปทางเหวินเหรินวี่ : “ คุณชายเหวิน ผมขอโทษนะ”
ดวงตาของเหวินเหรินวี่เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกในทันทีทันใด : “นายคิดจะทำอะไร?”
“วางใจเถอะ ผมจะส่งคุณไปโรงพยาบาล มันเป็นแค่ความเจ็บปวดบนร่างกายเท่านั้นเอง” จ้าวชุนเซิงพูดพร้อมกับมองเหวินเหรินวี่ ไม่นานจากนั้นก็โบกมือ
มือของลูกน้องทุกคนต่างพุ่งมาข้างหน้าแล้วยกตัวชายหนุ่มขึ้นจะเข้าไปทุบตีอย่างรุนแรง
ในไม่ช้า ก็มีเสียงกรีดร้องดังทั่วทุกมุมภายในบาร์ มันเสียดแทงเข้าไปในหัวใจและหลังจากนั้นไม่นานก็ปนกับเสียงของรถพยาบาลที่เข้ามา จนกลายเป็นบทเพลงของเลือดและไฟ
เหวินเหรินวี่ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้ว
พวกที่ถูกส่งตัวไปพร้อมกันนั้นยังมีเหล่าบรรดาพวกคุณชายลูกท่านหลานเธอคนอื่นๆ และจ้าวชวนเซิงเองไปเป็นเพื่อนด้วยเช่นกัน จึงเหลือเพียงจ้าวเชียนจูนคนเดียวเท่านั้น
ฟุ่บ —-
เขาทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าถังเฉา เหงื่อผุดพราวราวกับสายฝน : “คุณถัง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม ผมขอล่ะ ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ!”
“ฉันก็ไม่ได้พูดเลยว่าทำอะไรนาย”
ถังเฉารู้สึกตลกมาก พร้อมกับมองไปที่จ้าวเชียนจูนด้วยรอยยิ้มที่เหมือนไม่ยิ้ม
“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!” จ้าวเย็นหรานตะโกนเสียงดังลั่น
จ้าวเชียนจูนราวกับได้รับการปลดปล่อย เขาวิ่งหัวซุกหัวซุนออกไปจากที่นี่
“เอาล่ะ ไม่มีใครแล้ว”
ทันใดนั้นจ้าวเย็นหรานหันกลับมา ทันใดนั้นใบหน้าเปลี่ยนเป็นเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ แล้วเดินมาอยู่ข้างหน้าถังเฉาด้วยท่วงท่าอันสง่างาม โดยใช้มือข้างหนึ่งวางลงบนหน้าอกที่หนาและแข็งแรงของถังเฉาอย่างสบายๆ
“จากนี้ เรามาเข้าเรื่องของพวกเราดีกว่า”