สายตาทุกคนมองไปที่ถังเฉาพร้อมกันด้วยสีหน้าต่างๆกันไป
พริบตาเดียว ถังเฉากลายเป็นเป้าสายตาไปเลย
หลินฉ่ายเวยหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย มีแววกังวลพาดผ่านขึ้นมา เธอรู้ว่าที่เหวินหนานเฉิงพูดถึงคือเรื่องของเหวินเหรินวี่ ถังเฉาทำร้ายเหวินเหรินวี่จนบาดเจ็บสาหัสเพื่อช่วยเธอ
ที่จริงก็ไม่ใช่ถังเฉาลงมือ ถังเฉาเรียกจ้าวเย็นหรานมา จ้าวเย็นหรานเป็นลูกสาวคนโตตระกูลจ้าว ไม่มีใครกล้าขัดใจอยู่แล้ว เลยโดนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส
สีหน้าโจวเหม่ยหยูนชะงักค้าง แววตากังวล “คุณพ่อคะ อย่าพึ่งโกรธนะ บางทีมีการเข้าใจผิดกันก็ได้?”
“เข้าใจผิด? จะเข้าใจผิดอะไรได้?”
เหวินหนานเฉิงยิ้มเย็นบอก “มีแค้นต้องชำระ เป็นกฎหลักของบ้านเหวินเรา เรื่องนี้ต้องจัดการ”
หลินเจิ้นสงก้าวเท้าขึ้นมา มองเหวินหนานเฉิงอย่างไม่เกรงกลัว “เสี่ยวเฉาไม่มีทางทำร้ายใครโดยไม่มีเหตุผล ในเมื่อลงมือ แปลว่าลูกชายคนเล็กของคุณทำอะไรที่ไม่สมควร”
“ลูกชายคนเล็กของเขาใส่ยาลงไปในเหล้าของฉัน เขาจะแก้แค้นฉัน!”
ตอนนี้หลินฉ่ายเวยก้าวออกมาอย่างกล้าหาญแล้ว และประกาศเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคน
เหวินเหวยเฉินกลับยิ้มเย็นบอก “คุณคิดว่าจะมีคนเชื่อคำพูดนี้หรือไง? เหรินวี่เป็นน้องชายผม เขาจะทำยังงั้นกับพี่สะใภ้ตัวเองได้ยังไงกัน?”
“เป็นเรื่องจริงนะ!” หลินฉ่ายเวยร้อนใจจนกระทืบเท้า
กำลังจะพูดต่อไป มีมือหนึ่งยื่นมาเบรกเธอไว้
หลินฉ่ายเวยหันไปมอง เห็นถังเฉามองเธอพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องพูดหรอก ใส่ร้ายไปก็ไม่มีประโยชน์จริงไหม?”
ดวงตาหลินฉ่ายเวยเบิกกว้าง มองเหวินเหวยเฉินอย่างไม่เชื่อสายตา
ถังเฉามองออกตั้งนานแล้ว เหวินเหวยเฉินอยากฆ่าเขามานานแล้ว เพียงแค่อาศัยเรื่องเหวินเหรินวี่มาเปิดเรื่องเท่านั้นเอง
เรื่องคืนนั้น เหวินเหวยเฉินไม่มีทางไม่รู้ ที่ไม่ออกหน้า ก็เพราะเป็นตัวการอยู่เบื้องหลังนี่เอง
หนึ่งคืออาศัยถังเฉาสั่งสอนเหวินเหรินวี่น้องชายเขา สองคือใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้มาแก้แค้นถังเฉา ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
สายตาถังเฉาก็หันไปมองเหวินหนานเฉิง “ถ้าผมไม่เคลียร์ คุณจะทำยังไงล่ะ?”
เหวินหนานเฉิงสายตาเย็นเยียบขึ้นทันที “เธอรู้สึกว่า เธอมีบ้านหลินคุ้มหัวอยู่ แล้วฉันจะไม่กล้าแตะต้องเธองั้นสิ?”
ถังเฉาหัวเราะร่วน ดูท่าบ้านเหวินจะยังไม่สำเหนียกว่า ตัวเขาเองนี่แหละที่เป็นแบ็คใหญ่คุ้มหัวนั่น
“คุณพ่อคะ พวกเราไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าขยะนี่เลย คุณอยากทำอะไรมันไม่เป็นไร แต่อย่ามาโกรธแค้นเคืองพวกเรา”
โจวเหม่ยหยูนร้อนใจแทบเต้น คิดๆก่อนพุ่งผ่านทุกคน เงื้อมือจะเข้าไปตบถังเฉา
“แกไอ้ขยะ วันๆดีแต่ก่อเรื่อง!”
เพี๊ยะ—
จากนั้น ยังไม่ทันได้ตบถังเฉา โจวเหม่ยหยูนก็โดนเข้าไปฉาดหนึ่งก่อน ใบหน้าซีกนั้นบวมฉุขึ้นทันที
ทันใดนั้นทุกสิ่งเงียบสนิท ทุกคนต่างหันไปมองหลินฉ่ายเวยที่ลงมือด้วยสีหน้าตกตะลึง
รวมถึงถังเฉาเองก็สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
โจวเหม่ยหยูนมือกุมหน้า มองหลินฉ่ายเวยที่น้ำตาอาบแก้มไปเรียบร้อยแล้วอย่างตะลึง ก่อนจะกรี๊ดร้องสุดเสียง
“ไอ้ลูกอตัญญู แกกล้าตบฉัน!”
“ใช่ หนูอตัญญู แต่แม่ไม่เคยรู้ความผิดของตัวเองบ้างหรือไง?”
หลินฉ่ายเวยน้ำตาอาบแก้ม มองโจวเหม่ยหยูนอย่างผิดหวังพลางว่า “หนูเป็นลูกสาวแม่ เหวินเหรินวี่ใส่ยาลงไปในแก้วเหล้าหนู ถ้าไม่ใช่ถังเฉา หนูเสียตัวไปนานแล้ว! แม่ไม่ขอบคุณยังพอว่า แต่กลับจะตบเขา!”
“อีกอย่าง หนูโดนทำร้ายเนื้อตัวเป็นแผลเต็มไปหมด แม่ไม่ปลอบใจซักคำ กลับจะยัดเยียดหนูเข้ากองไฟเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลอีก หนูเป็นลูกสาวแม่จริงหรอ?”
“หนูอิจฉาจริงๆเล้ยที่มีแม่เป็นแม่หนู!”
หลินฉ่ายเวยยิ่งพูดยิ่งร้องไห้ สุดท้ายแทบจะเป็นตะคอกออกมา ดวงตาบวมแดง น้ำตาไหลไม่หยุด
ถังเฉาเองก็รู้สึกเหมือนกัน นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงยอมช่วยหลินฉ่ายเวยหนีงานแต่งงานบ้านเหวิน
เพราะเธอไม่เหมือนเดิมแล้ว
ฉันอิจฉาที่มีคุณเป็นแม่ฉัน
ถ้าคุณไม่ใช่แม่ฉัน ฉันฆ่าคุณไปนานแล้ว!
นี่คือเสียงจากหัวใจของหลินฉ่ายเวย
โจวเหม่ยหยูนสีหน้าตะลึง พูดไม่ออกสักคำ
หลินเจิ้นสงมาลากเธอกลับไป ตะคอกดังใส่ว่า “อย่าหาเรื่องขายหน้าอีก!”
ได้สติกลับมา โจวเหม่ยหยูนแกล้งพร่ำร้องไห้ออกมา “ฉันเลี้ยงมันมาจนโต มันกล้ามาตบฉัน นี่ฉันทำบาปอะไรมาเนี่ย ให้ฉันตายซะดีกว่า—“
จากนั้นก็ไม่มีใครสนใจเธออีกเลย
สีหน้าของเหวินหนานเฉิงกับเหวินเหวยเฉินเริ่มทะมึนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเหวินเหวยเฉิน บิดเบี้ยวแทบจะคั้นน้ำออกมาได้แล้ว
คู่หมั้นของตนออกหน้าปกป้องผู้ชายคนอื่น มันทำให้เขารู้สึกขายหน้ามาก
“หลินฉ่ายเวย เมื่อก่อนคุณเกลียดเขามากที่สุดไม่ใช่หรอ เกลียดจนอยากให้เขาตาย! ตอนนี้ทำไมออกโรงปกป้องเขาขนดานี้ล่ะ?” เขาตะคอกอย่างโกรธ
“นี่เป็นสิ่งที่ฉันทำผิดพลาดมากที่สุดในชีวิต และเป็นเรื่องที่เสียใจมากที่สุดด้วย”
หลินฉ่ายเวยหัวเราะอย่างขมขื่น “ตอนนี้มารู้สึกตัว มันช้าไปหน่อยไหม?”
เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเรื่องตลก ทั้งๆที่มีโอกาสพุ่งทะยานขึ้นฟ้า แต่เธอกลับผลักไสมันไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ถ้าตอนแรกเธอมีท่าทีอีกแบบกับถังเฉา ผลลัพธ์มันจะไม่เหมือนเดิมหรือเปล่า?
“บังอาจ!”
เหวินเหวยเฉินสีหน้าทะมึน ตะคอกเสียงดัง “เธอกำลังจะแต่งงานเป็นเมียฉัน กลับต่อต้านฉันครั้งแล้วครั้งเล่า นึกว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธอหรือไงหะ?”
“นายจะทำอะไรเธอได้?”
น้ำเสียงราบเรียบดังขึ้น ถังเฉาค่อยๆเดินเข้ามาหาเขาทีละก้าว สายตาเย็นเยียบ
ทันใดนั้น เหวินเหวยเฉินสีหน้าเปลี่ยน เหวินหนานเฉิงเองก็สายตาเป็นประกาย มองไปยังชายหนุ่มคนนี้อย่างแปลกใจ
วินาทีนี้ สายตาถังเฉาเย็นยะเยือกเสียดกระดูก
แทบจะมีคนมองเห็นภาพเลือดไหลนองในแววตาถังเฉาเลยด้วยซ้ำ
“ในเมื่อพวกคุณอยากลงโทษผมนัก ผมก็จะลงโทษพวกคุณก่อน!”
สายตาเขาคมปลาบประดุจไฟฟ้า เดินมายืนหน้าเหวินเหวยเฉิน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
พอคำพูดนี้ออกมา หลินฉ่ายเวยตื้นตันจนน้ำตาอาบแก้ม แต่เหวินเหวยเฉินกลับเริ่มหวาดกลัวขึ้น
ไม่นาน เหวินเหวยเฉินก็ทำใจกล้าได้ มองถังเฉาราวจะตัดเขาเป็นชิ้นๆ “เธอเป็นภรรยาผม ผมอยากทำยังไงก็ได้ อย่าว่าแต่แกเลย ต่อให้ทั่วทั้งบ้านหลิน จะทำอะไรผมได้งั้นหรอ?”
พูดจากร่างใหญ่โตซะไม่มี ผิดต่อหลักครองเรือนของสามีภรรยาโดยสิ้นเชิง
หลินฉ่ายเวยสีหน้าซีดเผือด โอนเอนทำท่าจะเป็นลม ส่วนหลินเจิ้นสงก็โกรธจัดแต่ไม่กล้าพูดอะไร
ส่วนเหวินเหวยเฉิน พอพูดถึงตอนจบ เขามีสีหน้าประชดประชันหยามหยัน เหวินหนานเฉิงพ่อของเขาอยู่ข้างๆ เขาไม่เชื่อหรอกว่าถังเฉาจะทำอะไรเขาได้
ตลาดหมิงจูของบ้านเหวินเปิดกิจการแล้ว ถ้าบ้านเหวินคิดจะมีหลักยืนในสังคม มันง่ายมาก
ต่อให้ทำให้แบ็คใหญ่ของบ้านหลินไม่พอใจแล้วยังไงล่ะ บ้านเหวินพัฒนาขึ้นมา ไม่ใช่อะไรที่จะแตะต้องก็แตะได้!
หลินฉ่ายเวย ไม่มีคุณค่าอีกต่อไป ต่อไปแต่งเข้าบ้านเหวิน มีแต่จะเป็นทาสรับใช้เท่านั้นแหละ!
สายตาถังเฉาเรียบนิ่ง ไม่ไหวติง “ผมทำอะไรคุณไม่ได้ แต่มีคนที่ทำอะไรคุณได้แน่”
เหวินเหวยเฉินหัวเราะฮ่าฮ่า “พ่อฉันเป็นสมาชิกสมาคมการค้าหงยิง แถมบ้านเหวินยังเข้าสู่ตลอดหมิงจูแล้ว อีกไม่นานหมิงจูต้องมีตระกูลดังเพิ่มขึ้นแน่ นั่นก็คือบ้านเหวินของฉัน บวกกับธุรกิจในเจียงเจ้อของบ้านเหวิน ถึงเวลานั้น ยังมีใครกล้าไม่เคารพวกเราอีก?”
“เป็นอย่างนั้นจริงหรอ?”
พอพูดจบ ประตูหน้าบ้านหลินก็มีเสียงแค่นหัวเราะโล่ขึ้นมา
หลัวปู้ พาคนมากมายเดินเข้ามา