“แกมันคนที่เดินตามถังเฉาคนนั้นนี่—-“
เหวินเหวยเฉินมองหลัวปู้ด้วยสีหน้าแปลกพิกล
เขาเคยเห็นหลัวปู้ที่อาคารกั๋วจี้มาก่อน ตอนนั้นหลัวปู้เดินตามหลังถังเฉาอย่างนอบน้อม ราวกับเป็นเลขาตัวน้อยๆ เหวินเหวยเฉินเลยคิดเอาเองว่าคงไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร และไม่เก็บมาใส่ใจ
แต่ตอนนี้ดูแล้วจะไม่ใช่อย่างนั้น
“บังอาจ!”
“แค่บ้านเหวินเท่านั้น กล้าไม่เคารพต่อหัวหน้าหลัว อยากตายแล้วใช่ไหม!”
หูอีซานกับเจิงเทียนเสียงที่ยืนอยู่ด้านหลังหลัวปู้สายตาเย็นเยียบ บริภาษออกมาเสียงดัง
ประธานใหญ่ที่มีหน้ามีตาพวกนั้น ถึงจะไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาเย็นเยียบ และแสดงจุดยืนออกมา
พอเห็นใบหน้าหลัวปู้ชัดเขย เหวินหนานเฉิงกลับสีหน้าเปลี่ยน รีบตบหน้าเหวินเหวยเฉินทันที “ไอ้ลูกไม่รักดี หุบปากเดี๋ยวนี้เลย!”
เหวินเหวยเฉินโดนตบนี้จนงง มองหลัวปู้อย่างตะลึง
ขนาดพ่อตนยังนอบน้อมใส่หลัวปู้ขนาดนี้ เขาเป็นใครกันแน่นะ?
เหวินหนานเฉิงรีบเดินมาหน้าหลัวปู้ โค้งตัวอย่างนอบน้อมว่า “วีไอพีชั้นกลาง เหวินหนานเฉิง ยินดีที่ได้พบประธานหลัวครับ”
หลัวปู้พยักหน้าแผ่วเบา ไม่ได้พูดอะไร
เหวินเหวยเฉินเสียวสันหลังวาบ มองหลัวปู้ตากว้างตะลึง เขาคงไม่ใช่…ของสมาคมการค้าหงยิง”
“ประธานหลัว….”
คนบ้านหลินพากันมองกันตาต้าง จนลืมถามกันเลยทีเดียว
ผู้รับผิดชอบสมาคมการค้าหงยิงมาบ้านหลินทำไม?
หูอีซานเดินมายืนหน้าหลินฉ่ายเวย ใบหน้าเข้มงวดปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนขึ้นพลางว่า “คุณหนูฉ่ายเวย ได้ยินว่าคุณกำลังจะแต่งงาน ยังไม่ทันได้ส่งของขวัญอวยพรเลย นี่น้ำใจเล็กน้อย ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ”
หูอีซานหยิบสร้อยคอเพชรราคาหลายสิบล้านส่องแสงระยิบระยับออกมายื่นให้หลินฉ่ายเวย
โจวเหม่ยหยูนมองจนตาแทบถลน อยากจะยื่นมือไปแย่งมา แต่โดนหลินฉ่ายเวยปัดออก พลางรีบโบกมือปฏิเสธว่า “ประธานหู นี่มันมากเกินไปค่ะ ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”
“รับไว้เถอะ”
หูอีซานยิ้มพลางยื่นให้ “พูดตามตรงนะ ครั้งแรกที่เห็นคุณ ผมรู้สึกคุ้นเคยมาก—ผมอายุห้าสิบแล้ว แต่ไม่มีลูกหลานเลย คุณจะยอมเป็นหลานสาวบุญธรรมของผมไหม?”
ชิ้ง—
คำพูดนี้ออกมา รอบข้างเงียบสงัดทันที
ตัวหลินฉ่ายเวยเองยืนนิ่งเป็นเป่าสาก จับต้นชนปลายไม่ถูก
เธอเคยเจอหูอีซานแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เอาความคุ้นเคยมาจากไหนกัน?
ถังเฉายืนอยู่ข้างๆ จู่ๆก็พูดขึ้นว่า “คุณรับปากเถอะ”
หลินฉ่ายเวยอึ้งไป เธอมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของถังเฉา และเข้าใจอะไรขึ้นมา รีบพยักหน้ารับปากว่า “ประธานหู ฉันยินดีค่ะ!”
หูอีซานยิ้มกว้างมากขึ้น “ยังเรียกประธานหูอีก?”
หลินฉ่ายเวยถึงบางอ้อ รีบแก้คำ “คุณปู่หู!”
“จ้ะ”
หูอีซานยิ้มร่าหน้าบาน ถังเฉาเองก็ผงกหัวให้หลัวปู้น้อยๆ
หูอีซานเป็นคนรวยอันดับหนึ่งของหมิงจู ถ้ามีหูอีซานคอยดูแล รับรองว่าพวกปีศาจนี่ไม่กล้าทำอะไรหลินฉ่ายเวยแน่
หลินเจิ้นสงเองก็อดดีใจแทนหลินฉ่ายเวยไม่ได้ แต่ก็อดรู้สึกเศร้าขึ้นมาด้วย
เดิมเขาควรจะมีลูกสาวสองคน คนหนึ่งเกิดกับภรรยาคนก่อน หลินฉ่ายเวยคืออีกคน
น่าเสียดาย คนหนึ่งได้คุณปู่บุญธรรม อีกคนหายตัวไป ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง
เหวินเหวยเฉินกับเหวินหนานเฉิงกลับมีสีหน้ายุ่งยากใจถึงขีดสุด มองดูหูอีซานสนิทสนมกับหลินฉ่ายเวยขนาดนี้ การคาดเดาอย่างบ้าดีเดือดผุดขึ้นในสมองพวกเขา
หูอีซานจะเป็นแบ็คใหญ่เบื้องหลังบ้านหลินคนนั้นหรือเปล่า?
สำหรับหลัวปู้ที่เป็นตัวหัวหน้า โดนเหวินหนานเฉิงผลักกระเด็นออกจากสมองไปเรียบร้อย
ประธานหลัวเป็นใคร มีหรือที่บ้านหลินเล็กๆจะรู้จักได้?
หูอีซานไม่เหมือนกัน เขาเป็นคนรวยอันดับต้นของหมิงจู ขอเพียงอยู่ที่หมิงจูนี่ เขาสามารถช่วยตระกูลขจัดอำนาจปัญหาต่างๆไปได้หมด
ตอนนี้ก็มารับหลินฉ่ายเวยเป็นหลานสาวบุญธรรมอีก ขอถามหน่อย มองไปทั่วทั้งหมิงจู จะมีคุณหนูลูกผู้ดีคนไหนได้รับสิทธิ์นี้กันบ้าง?
หลัวปู้หันไปมองเหวินหนานเฉิงอย่างเย็นชา “เมื่อกี้คุณพึ่งพูดว่า ไม่มีใครในหมิงจูกล้าไม่เคารพคุณ?”
น้ำเสียงของผู้เหนือกว่าทำให้เหวินเหวยเฉินตกใจจนแทบไม่กล้าหายใจแรง เหวินหนานเฉิงรีบอธิบาย “ประธานหลัว ลูกชายผมยังหนุ่มเลยวู่วามไปตามประสา เลยพูดอะไรไม่สมควรออกไป หวังว่าประธานหลัวจะไม่ถือสา”
“หนุ่มใจร้อนวู่วามเลยพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดได้?”
หลัวปู้มองเหวินหนานเฉิงด้วยสายตาเย็นชา น้ำเสียงเองก็เช่นกัน “บ้านเหวินหลายปีมานี้พัฒนามาได้ไม่เลว แต่ จะทำลายล้างบ้านเหวิน ก็มีวิธีอีกมาก”
“ครับครับครับ….ประธานหลัวพูดถูก”
เหวินหนานเฉินรีบตอบรับเสียงต่ำ ท่าทีแตกต่างกับสบายๆยืนหยัดเมื่อกี้
“อีกอย่าง บาดแผลตามตัวเด็กคนนั้น เป็นฝีมือพวกคุณ?”
สายตาหลัวปู้มองไปที่หลินฉ่ายเวย และถามต่อด้วยเสียงเย็นชา
ชิ้ง—
พอคำนี้พูดออกมา เหวินหนานเฉิงกับเหวินเหวยเฉินสีหน้าเปลี่ยนทันที รีบก้มหน้าต่ำ พูดพลางเหงื่อแตกซิก “ฉ่ายเวยกับเหวยเฉินขัดแย้งกันนิดหน่อย—“
“เรื่องนี้ไม่จบแน่ ผมชอบเด็กคนนั้นมาก ถ้ามีครั้งต่อไป บ้านเหวินเตรียมโดนฆ่าล้างตระกูลได้เลย!”
คำพูดนี้กร่างไม่มีใครเปรียบ อย่าว่าแต่เหวินหนานเฉิงกับเหวินเหวยเฉินเลย ขนาดพวกหลินฉ่ายเวยยังฟังกันอ้าปากค้าง
มีเพียงถังเฉาที่ยืนมองดูทุกอย่างด้วยรอยยิ้มละไม
เหวินหนานเฉิงรีบออกปากรับรองว่า “ประธานหลัววางใจได้ พวกเราจะทำดีกับฉ่ายเวยประหนึ่งเป็นลูกหลานของตัวเองเลย”
หลัวปู้ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแต่ยิ้มเย็น และพาคนของตนออกไปจากบ้านหลิน
บ้านเหวินน่าจะยังไม่รู้ว่า ไม่เหลือเวลาสำหรับพวกเขาแล้ว
พอหลัวปู้ไป ความกดดันบนตัวเหวินหนานเฉิงและเหวินเหวยเฉินถึงค่อยหายไป สายตาที่มองหลินฉ่ายเวยไม่มีวี่แววเหยียดหยันเหมือนก่อนแล้ว
“ฉ่ายเวย พวกเรากลับกันเถอะ”
เหวินเหวยเฉินยิ้มพลางเอื้อมมือจะไปโอบไหล่หลินฉ่ายเวย แต่โดนเธอเบี่ยงตัวหลบซะก่อน
“ฉันไม่กลับไปกับคุณหรอก!” เธอจ้องมองเหวินเหวยเฉินอย่างโกรธแค้น
“….”
สายตาเหวินเหวยเฉินแวบประกายฆ่าวูบหนึ่ง ก่อนจะกลับเป็นปกติในพริบตา เขาหันไปมองโจวเหม่ยหยูนกับหลินเจิ้นสงว่า “คุณพ่อตาแม่ยายครับ ในเมื่อฉ่ายเวยไม่ยอม งั้นก็ให้เธออยู่ที่นี่สักพักละกัน รบกวนคุณพ่อคุณแม่ดูแลด้วยนะครับ”
พูดจบ ก็ออกไปจากบ้านหลินกับเหวินหนานเฉิง
ถังเฉาเห็นได้ชัดเจน วินาทีที่พ่อลูกบ้านเหวินหมุนตัวกลัว สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นถะมึงทึง
ตอนนี้ที่บ้านเหลือถังเฉา หลินฉ่ายเวย หลินเจิ้นสงกับโจวเหม่ยหยูนสี่คนเท่านั้น โจวเหม่ยหยูนรีบปรี่เข้าไปยืนหน้าหลินฉ่ายเวย ถามอย่างตื่นเต้นว่า “ฉ่ายเวย เราไปรู้จักกับคุณหูตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? เขาเป็นคนรวยอันดับต้นของหมิงจูเลยนะ!”
หลินฉ่ายเวยอดหันไปมองถังเฉาไม่ได้ เธอนิ่งเงียบไม่พูด
โจวเหม่ยหยูนกลับไม่ใส่ใจ พูดอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “ดีละคราวนี้ มีสายสัมพันธ์กับคนรวยระดับต้นของหมิงจูแบบนี้ ฉันต้องรีบบอกพ่อ—“
พูดเสร็จ รีบแจ้นไปโทรศัพท์เลย
หลินฉ่ายเวยหันมองถังเฉาทันที “คุณให้หูอีซานทำแบบนี้ใช่ไหม?”
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร แค่พยักหน้า
“งั้นทำไมไม่ยกเลิกงานแต่งงานไปเลย? ฉันไม่อยากแต่งเข้าบ้านเหวิน!”
“ยกเลิกงานแต่งเอาดื้อๆ บ้านเหวินมันสบายไป”
ถังเฉาส่ายหัวพลางว่า “ขอเพียงให้พวกเขาชดใช้ให้สาสม มันถึงจะเพียงพอกับบาดแผลทั่วร่างกายของคุณ”
หลินฉ่ายเวยตาแดงเรื่อ แต่กลับยิ้มมุมปากพูดว่า “นี่ถือเป็นคำสัญญาที่คุณมีต่อฉันไหม?”
ถังเฉาลังเลอยู่นาน ก่อนพยักหน้าตอบหนักแน่นว่า “ใช่!”
“ขอบคุณ”
หลินฉ่ายเวยทั้งหัวเราะและร้องไห้ มองตามจนถังเฉาลับสายตา จวบจนร่างถังเฉาหายไปจากสายตาเธอ เธอก็ยังคงยืนอยู่อย่างนั้น