ให้คนอื่นลงมือ กับตนเองลงมือ นี่คือความคิดที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
ต่งวี่ซู่ไม่เคยฆ่าคนมาก่อน ให้เขามาฆ่าต่งอี้สิง นี่คือไม่ได้เด็ดขาด
มองมีดที่เปล่งแสงระยิบระยับบนพื้น และมองรอยยิ้มแปลกประหลาดบนหน้าถังเฉาอีกที ต่งวี่ซู่เข้าใจทันที นี่คือถังเฉากำลังลองเชิงตนเอง
เขายังคงไม่ได้วางใจต่อตนเอง
เวลานี้ ต่งหนานหลิ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้ตระกูลต่งสงบได้เสียชีวิตแล้ว ทรัพย์สมบัติบางส่วนของตระกูลต่ง กำลังถูกตระกูลเสิ่นค่อยๆ เขมือบกินไปทีละนิด ถ้าสูญเสียถังเฉาที่เป็นผู้คุ้มครองคนนี้ไป ตระกูลต่งจะพังเสียหายแย่กว่าเดิม
ในทางกลับกัน ถังเฉาจากตัวเฮงซวยในตระกูลเล็กๆ ที่โดนคนเหยียดหยาม สามารถเดินมาถึงขั้นในปัจจุบันนี้ได้ทีละก้าว ไม่ได้พึ่งดวงชะตาเด็ดขาด—-ต่งวี่ซู่ขอพนัน พนันว่าตามถังเฉาตระกูลต่งจะสามารถบรรลุถึงระดับสูงอันใหม่ได้หรือไม่
“ฉันคิดว่าดีที่สุดนายตัดสินใจเลือกเอาเอง ให้นายลงมือ หรือว่าให้ฉันลงมือ เวลาของฉันไม่ได้มากขนาดนั้น”
เวลานี้ ข้างหูมีเสียงที่เรียบนิ่งของถังเฉาลอยมา แต่ที่ต่งวี่ซู่ได้ยินมานั้น ไม่ต้องสงสัยว่าคือสัญญาณเร่งให้ตาย
ให้เขาลงมือ เขาคงได้รับมิตรภาพของถังเฉา ในขณะเดียวกัน คงมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่ฆ่าพี่ติดหลัง มีความเป็นไปได้มากว่าจะโดนจับเข้าคุก
หากปล่อยให้ถังเฉาลงมือ ทุกอย่างคงเป็นที่น่าพึงพอใจมาก แต่เขากับถังเฉาไม่มีทางเกี่ยวข้องกันอีก ต่อไปถ้าตระกูลต่งถูกคู่แข็งแกร่งกว่าเขมือบ ถังเฉาจะไม่ออกหน้าช่วยเหลือ—-
ถ้าเป็นคุณ ควรจะตัดสินใจเลือกอย่างไร?
บนหน้าผากต่งวี่ซู่มีเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมา กลืนน้ำลายอย่างแรง
ทันใดนั้น บนหน้าเขามีความแน่วแน่แวบผ่าน หยิบมีดที่เฟิ่งหวงโยนออกมาขึ้น สายตาบ้าคลั่ง
“คุณถัง ผมมาช่วยท่านฆ่าคนคนนี้เองครับ!”
เขาเหมือนจะตะโกนคำพูดประโยคนี้ออกมา กัดฟันจนแตกไปหมดแล้ว
“งั้นก็ลงมือเถอะ”
ถังเฉาทำท่าทางเชิญทำตามสบาย แสดงหน้าตายิ้มแย้ม
“ไม่ วี่ซู่ ฉันเป็นพี่ชายของนาย นายฆ่าฉันไม่ได้!”
สีหน้าต่งอี้สิงตกใจถึงขั้นสุดแล้ว ตะโกนเสียงดัง
ป้าบ—-
ต่งวี่ซู่ตบลงบนหน้าของต่งอี้สิงอย่างแรงทีหนึ่ง
“ฉันจะฆ่าแก มีเหตุผลสามอย่าง!”
หน้าผากเขามีเส้นเลือดปูดขึ้น ท่าทางโหดร้ายเหมือนสัตว์ดุร้ายที่จะกลืนกินคนตัวหนึ่ง
“ข้อแรก แกร่วมมือกับแม่ของแก บีบให้แม่ฉันตาย แถมยังอยากฆ่าฉันให้ตายด้วย ก็เพราะฉันคือลูกนอกสมรสของแม่ฉันกับผู้ชายข้างนอก แกสมควรตาย!”
“ข้อสอง แกฆ่าคุณปู่ที่ฉันเคารพรักที่สุด แกสมควรตาย!”
“ข้อสุดท้าย แกไม่ควรลงมือกับคุณถังและภรรยาของเขา แกสมควรลงนรก!”
ตึง!
คำพูดประโยคสุดท้ายออกมา เจตนาอาฆาตทั่วทั้งตัวต่งวี่ซู่พลุ่งพล่าน ยกมีดขึ้น แทงลงไปอย่างแรง
“โถๆ ดูสิว่าฉันเจออะไรเข้าแล้ว ระหว่างพี่น้อง นึกไม่ถึงลงมือกันอย่างเหี้ยมโหด!”
ตอนที่ต่งวี่ซู่กำลังจะลงมือกับต่งอี้สิง ด้านหลังมีเสียงที่หยอกเย้าลอยมากะทันหัน
มีดในมือของต่งวี่ซู่หยุดค้างอยู่กลางอากาศ พอหันหน้ามอง เห็นเพียงที่หน้าประตูของคฤหาสน์ตระกูลต่ง มีรถยนต์หงฉีสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ ชายหนุ่มใส่สูทสีดำคนหนึ่งก้าวเดินลงมาจากในรถ
“เสิ่นชิงหยุน?”
มองผู้มาเยือนแบบชัดเจน สายตาต่งวี่ซู่หนาวเหน็บทันที พูดต่อว่า “หลายวันมานี้แกฮุบทรัพย์สินของตระกูลต่งไปไม่น้อย ตอนนี้ยังกล้ามาที่ตระกูลต่งอีก!”
ต่งอี้สิงมองเสิ่นชิงหยุนเหมือนมองเห็นผู้ช่วยชีวิตแล้ว “ชิงหยุน รีบช่วยฉันเร็ว!”
เห็นต่งอี้สิงจะกลายเป็นวิญญาณใต้มีดของต่งวี่ซู่ เสิ่นชิงหยุนหัวเราะหึๆ ไม่ได้ตอบรับ แต่ว่ามองทางต่งวี่ซู่ด้วยสีหน้านิ่งสงบ “สนามธุรกิจเหมือนสนามรบ บริษัทพวกนายบริหารไม่ดี ทำให้คนอื่นมากมายตกงาน ยังไม่ยอมให้คนอื่นซื้ออีกเหรอ?”
“แต่มุมกลับกัน สำหรับฉัน ฉันเป็นผู้มีเมตตาช่วยชีวิตคนมากมายไว้—-บริษัทมากมายของพวกนายที่บริหารกันจนใกล้เจ๊ง ถูกตระกูลเสิ่นของฉันซื้อไว้ ล้วนเริ่มกลับมาดีทั้งหมดแล้ว”
“……”
สีหน้าทุกคนตระกูลต่งมองเขาอย่างโกรธเคือง กล้าโมโหแต่ไม่กล้าพูด
นี่คือผลกระทบหลังจากที่ต่งหนานหลิ่งจากไป ตอนที่ต่งหนานหลิ่งยังอยู่ อุดมสมบูรณ์ดี เป็นระเบียบเรียบร้อย พอต่งหนานหลิ่งเสีย บริษัทไม่มีผู้ตัดสินใจ ไม่เพียงบริหารบริษัทจนเกิดปัญหา ราคาในตลาดยังดิ่งลงมาตลอด
นี่ล้วนเป็นตระกูลต่งสร้างปัญหาขึ้นเอง ถึงทำให้ตระกูลเสิ่นถือโอกาสเข้ามาตอนอ่อนกำลังลง พึ่งพาต่งอี้สิงแก้ไขปัญหาพวกนี้ไม่ได้เลย
แต่ทว่าในเวลานี้ ถังเฉาก้าวขึ้นมาด้านหน้า กวาดสายตามองเขานิ่งๆ “เสิ่นป้านซานน่าจะเคยสอนแกมาว่าเห็นอะไรดีกว่าให้เก็บไว้ น่าเสียดายที่แกไม่เข้าใจ”
เสิ่นชิงหยุนหัวเราะเสียงดัง “คุณถังพูดตลกแล้ว พูดขึ้นมา ผมตระกูลเสิ่นมีวันนี้ได้ ล้วนเป็นคุณถังประทานให้—-คุณถังอย่าได้ปฏิเสธ ให้ชิงหยุนคำนับสามครั้งครับ”
พูดจบ ยังทำท่าทางโค้งตัวเล็กน้อยเลียนแบบคนโบราณ คำนับถังเฉาสามทีแบบใบหน้ามีรอยยิ้ม
สีหน้าถังเฉาไม่เปลี่ยนสี เฟิ่งหวงที่อยู่ด้านหลังกลับมีเจตนาอยากฆ่าปะทุในสายตา นี่ทำเหมือนขอบคุณถังเฉา ในความเป็นจริงกลับกำลังเย้ยหยันถังเฉาอย่างรุนแรง
เฟิ่งหวงสามารถทนต่อเรื่องพวกนี้ได้ที่ไหน อยากลงมือในที่เกิดเหตุ ถังเฉากลับมองเธอไปทีหนึ่ง เฟิ่งหวงจึงได้แต่อดกลั้นไว้
อีกไม่กี่วันข้างหน้า จะมีช่วงที่เสิ่นชิงหยุนต้องร้องไห้
“แกมาที่นี่ คงไม่ได้มาพูดหัวข้อไร้สาระพวกนี้หรอกมั้ง?”
ถังเฉาเก็บสายตากลับ มองทางเสิ่นชิงหยุนด้วยสายดูสนใจทันใด แล้วถามขึ้น
“ไม่ใช่แน่นอน”
เสิ่นชิงหยุนก้มหน้ามองต่งอี้สิงแวบหนึ่ง พูดจาถือสัจจะอย่างไม่เกรงกลัวอะไร “คุณธรรมอย่างอื่นชิงหยุนไม่มี ก็แค่พูดถึงมีน้ำใจ ในเมื่อผมเจอพี่น้องฆ่าแกงกันเรื่องไม่ดีแบบนี้เข้า ย่อมต้องหยุดยั้ง”
หลังจากนิ่งไป ก็มองทางต่งวี่ซู่อีกครั้ง “น้องวี่ซู่ สรุปมันเรื่องใหญ่โตอะไรกัน ทำให้นายวู่วามจนจับมีดแทงพี่ชายได้?”
ต่งวี่ซู่มองเขาด้วยหน้าตาโหดร้าย ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้สึกถึงความกดดันมหาศาลอย่างหนึ่ง เสิ่นชิงหยุนยืนพูดจาบนจุดสูงสุดของคุณธรรม เขายังลงมือไม่ง่ายจริงๆ
ทันใดนั้น ถังเฉาส่งเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างเหยียดหยาม
“เสิ่นชิงหยุน ทั้งที่เป็นแกหลอกตระกูลต่ง ตอนนี้กลับออกมายืนพูดจาเพื่อตระกูลต่ง—-พวกแกตระกูลเสิ่นได้ผลประโยชน์ไป ชื่อเสียงพวกแกตระกูลเสิ่นก็ได้ไป ทำผิดยังไม่กล้ายอมรับผิด ไม่ใช่แกทำแบบนี้อยู่เหรอ”
รอยยิ้มบนหน้าเสิ่นชิงหยุนหายไปในชั่วขณะนั้น “คุณถัง นี่คุณหมายความว่าอะไรกัน?”
“หมายความว่า……”
ถังเฉามองทางต่งวี่ซู่ “ไม่ต้องสนใจเขา คิดซะว่าคำพูดของเขาเป็นตดหมาก็พอ ให้เขาเป็นพวกเลอะเทอะของเขาไป นายก็ฆ่าคนของนาย”
“……”
สีหน้าของต่งวี่ซู่และเสิ่นชิงหยุนเกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งคู่
ต่งวี่ซู่เป็นเพราะเดิมทีเขาตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไปฆ่าต่งอี้สิง กลางทางกลับมีเสิ่นชิงหยุนเข้ามาแทรก แวบหนึ่งการตัดสินใจแน่วแน่จึงหายไปแล้ว ถังเฉากลับให้เขาไม่ต้องสนใจคนอื่น นี่จะลงมือได้อย่างไร?
เสิ่นชิงหยุนคิดว่าเป็นเพราะคำพูดนี้ของถังเฉา ฉีกหน้าของเขาถึงที่สุด ทำให้เขาไม่พอใจมาก
“นายให้เขาลองแตะต้องดูสิ?”
เขามองถังเฉาอย่างเย็นชา ในคำพูดมีความหมายข่มขู่แบบเข้มข้น
ถังเฉาหัวเราะเสียงดังสามที จากนั้นโบกฝ่ามือใหญ่ “ต่งวี่ซู่ ยังไม่รีบลงมืออีก?”
พอต่งวี่ซู่กัดฟัน มีดแทงลงไปแล้ว
“ชิงหยุน ช่วย—-”
เสียงร้องโหยหวนที่โศกเศร้ามากของต่งอี้สิงหยุดลงกะทันหัน
ต่งวี่ซู่ปักมีดลงบนคอของเขาอย่างแรง เลือดสดสาดกระจาย พ่นใส่หน้าเขาแล้ว
มองต่งอี้สิงตายไปต่อหน้าเขา สีหน้าของเสิ่นชิงหยุนอึมครึมถึงขีดสุดเลย