ตูม—-
หลังจากนั้นสามวินาที ในสระว่ายน้ำเกิดการระเบิดที่มหาศาล
ควันหนาทึบที่เกิดจากการระเบิดปนเปื้อนน้ำที่ใสสะอาดจนดำไปหมด ระลอกน้ำดำระเบิดออก กลายเป็นสายฝนเต็มท้องฟ้า จากนั้นตกลงมาแล้ว
ในสระว่ายน้ำระลอกคลื่นซัดสาด เศษเสื้อที่ถูกเผาไหม้ลอยขึ้น
มีของเหวินเฉี่ยวหรู และมีของเหวินหนานเฉิงด้วยเช่นกัน
ที่เกิดเหตุเงียบงันทั้งแถบ ไม่มีใครพูดอะไรอยู่นาน บรรยากาศหนักหน่วงไร้ที่เปรียบ
เบ้าตาหลินฉ่ายเวยแดงก่ำ นี่คือเป็นครั้งแรกที่เธอเสียใจกับความตายของคนคนหนึ่ง
ถังเฉาโอบหลินชิงเสว่ไว้แน่น จ้องมองควันดินปืนที่สระว่ายน้ำ
“บนตัวของเขา ไม่มีกุญแจจริงเหรอ?”
ตั้งนาน หลินชิงเสว่เอียงศีรษะพิงบนไหล่ถังเฉา ถามเสียงเบา
ถังเฉาพยักหน้าหนักแน่น เงียบงันอยู่นาน ก่อนจะพูดออกมากะทันหัน “ผมก็เป็นคนเหมือนกันนะ”
เขารู้ความหมายของหลินชิงเสว่ นี่คือชีวิตคนผู้หนึ่ง ทำไมถึงมองหล่อนตายไปต่อหน้าต่อตาได้?
แต่อย่างที่ถังเฉาพูดไว้แบบนั้น เขาก็เป็นคนเช่นกัน ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่
เขาสามารถช่วยคนคนหนึ่งได้ และสามารถช่วยหลายสิบคนได้ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตทุกคนได้
ถังเฉาเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เจอกับการล้มหายตายจากมากที่สุด ลงสนามรบฆ่าศัตรู มักมีบาดเจ็บล้มตาย
จำนวนครั้งมากแล้ว จึงชินชาไปเอง
หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่กอดเขาเอาไว้ พยายามใช้ร่างกายที่อ่อนนุ่มมาละลายหัวใจที่ชินชา และเต็มไปด้วยความเสียใจของถังเฉา
ถังเฉาหลับตาลงสนิท ตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ในสายตาได้นิ่งสงบไปตั้งนานแล้ว
“ตั้งป้ายหน้าหลุมศพ ประกอบพิธีศพที่ยิ่งใหญ่!” ถังเฉาพูดด้วยเสียงทุ้ม
เขาไม่ได้หมุนตัว แต่เฟิ่งหวงรู้ว่านี่คือพูดกับหล่อนอยู่
“ค่ะ!”
เฟิ่งหวงเพิ่งได้รับคำสั่งมา กำลังจะโทรศัพท์หาหูอีซาน ตอนที่จะสั่งให้สร้างศิลาหน้าสุสานที่เป็นของเหวินเฉี่ยวหรูแผ่นหนึ่ง ตั้งไว้ที่สุสานสาธารณะชั้นสูงที่สุดดีที่สุดของเจียงเฉิง ทันใดนั้น ในสระว่ายน้ำกลับมีเสียงไอที่รุนแรงลอยมา
สายตาของทุกคนเปลี่ยนฉับพลัน พอได้ยินเสียงจึงรีบเข้าไป
ซู่ซ่า—–
เห็นเพียงในสระว่ายน้ำ ทันใดนั้น มือที่ไหม้ดำข้างหนึ่งยื่นออกมา หลังจากนั้นจมลงไปอีกครั้ง
สายตาถังเฉาแข็งทื่อ “รีบช่วยคน!”
เฟิ่งหวงรีบวางสายโทรศัพท์ ดึงมือที่เพิ่งจมลงไปข้างนั้นขึ้นแล้ว
“แคกๆ—-”
เหวินเฉี่ยวหรูถูกระเบิดจนไหม้เกรียมไปทั่วทั้งตัว บ้วนน้ำในท้องออกมามากมาย หน้าผากเปื้อนเลือดสดแถบหนึ่ง เดาได้ไม่ยากว่าเป็นแรงมหาศาลที่เกิดจากระเบิด หล่อนจึงกระแทกไปยังผนังสระว่ายน้ำ
“คุณน้าเหวิน คุณยังไม่ตาย?”
หลินฉ่ายเวยรีบเปลี่ยนจากอาการเสียใจเป็นดีใจ พูดด้วยความแปลกใจ
ถังเฉาตบลงบนหลังของเหวินเฉี่ยวหรูเบาๆ ตบเอาน้ำสกปรกในกระเพาะของหล่อนออกมา และถามว่า “คุณเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
“ฉันไม่เป็นไร……” เหวินเฉี่ยวหรูดีขึ้นมาแล้ว
เหวินเฉี่ยวหรูไม่ได้ตาย นี่เป็นข่าวดีที่ใหญ่โตจริงๆ หัวใจที่เป็นกังวลของทุกคนล้วนผ่อนคลายลงมา
หลินฉ่ายเวยถามด้วยความสงสัยทันที “คุณน้าเหวินคะ ทำไมคุณถึงไม่เป็นอะไรคะ?”
ถังเฉามองเหวินเฉี่ยวหรูด้วยความตกใจและสงสัยเช่นกัน การระเบิดเมื่อสักครู่นี้ ไม่ใช่แบบปิด อานุภาพแรงกว่าระเบิดC4เสียอีก
มองดูเหวินเฉี่ยวหรูอีกครั้ง ร่างกายเพียงโดนระเบิดบาดเจ็บ ศีรษะถูกกระแทกจนเจ็บเพียงเท่านั้นเอง—-นี่สำหรับการระเบิด ถือว่าบาดเจ็บเบาแล้ว
เหวินเฉี่ยวหรูเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นใต้น้ำมารอบหนึ่ง ทุกคนถึงเข้าใจกระจ่างกัน
ที่แท้เหวินเฉี่ยวหรูสามารถรอดมาได้ เป็นโชคดีอันใหญ่หลวง
อย่างแรก หล่อนลากเหวินหนานเฉิงกระโดดลงสระว่ายน้ำไปด้วยกัน ระเบิดได้ระเบิดอยู่ใต้น้ำ อานุภาพจึงน้อยกว่าระเบิดอยู่บนบกมาก
อีกอย่างต้องพูดว่าเหวินเฉี่ยวหรูโชคดีจริงๆ และไม่รู้ว่ากำไลระเบิดอันนี้ทำอย่างไรกัน พอแช่น้ำ คาดไม่ถึงว่าจะหลุดออกไปโดยอัตโนมัติ และบังเอิญเสียจริงที่หล่นเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเหวินหนานเฉิง
ดังนั้นกำไลจึงระเบิดบนตัวของเหวินหนานเฉิงแล้ว
สุดท้าย คือจุดหนึ่งที่สำคัญที่สุด—-
ตอนที่ระเบิด แรงระเบิดระลอกแรกดันเหวินเฉี่ยวหรูออกไปไกลมาก เกือบจะพุ่งข้ามไปทั้งสระว่ายน้ำ หลบผ่านศูนย์กลางของระเบิดแล้ว
สรุปทั้งสามจุดนี้ เหวินเฉี่ยวหรูถึงสามารถหลบเลี่ยงความตายมาได้
ส่วนเหวินหนานเฉิงไม่ได้โชคดีขนาดนี้ ร่างกายอยู่ใจกลางของระเบิดโดยตรง ระเบิดจนไม่เหลือซากศพ
“ช่างอันตรายเหลือเกินจริงๆ”
หลินฉ่ายเวยเช็ดเหงื่อบนหน้าลง ตบๆ หน้าอกพลางพูดขึ้น “ต่อไปฉันจะไม่แต่งงานแล้ว”
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
ถังเฉามองเธอแวบหนึ่ง ยิ้มพูดไป
นี่ไม่ต้องสงสัย วันนี้คือพิธีแต่งงานของเธอ กลับจบลงด้วยเหตุการณ์ที่สยองขวัญแบบนี้ได้ ชาตินี้คงต้องมีปมมืดในใจเป็นแน่
ผ่านไปสักพัก รถพยาบาลก็มาแล้ว
ถังเฉาและคนอื่นๆ ไม่ได้ออกไปไหน แต่ยังคุ้มครองส่งเหวินเฉี่ยวหรูไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดของเจียงเฉิงด้วยกัน
เหวินเฉี่ยวหรูได้ให้ยาน้ำไปสองสามขวด ทำแผลอยู่ไม่กี่ที่ก็ฟื้นตัวขึ้นมาได้
ส่วนเหวินเหวยเฉินที่ตรวจและวินิจฉัยก็ออกมาเช่นกัน ถูกตีจนกระดูกหักไปทั่วตัว
ลูกน้องลู่โป๋หานโหดเหี้ยมมาก ตีกระดูกทั้งตัวเหวินเหวยเฉินจนหักแล้ว และพูดได้ว่าชีวิตที่เหลือต้องอยู่ไปแบบนอนสลบ
เหวินเฉี่ยวหรูเศร้าใจอยู่บ้าง เวลานี้ หลินฉ่ายเวยพูดขึ้นกะทันหัน “คุณน้าเหวินคะ ถ้าไม่อย่างนั้นหนูไปเป็นลูกสาวคุณน้าแล้วกัน?”
คำพูดนี้ออกมา ไม่เพียงแค่ถังเฉา หลินเจิ้นสง เหวินเฉี่ยวหรูเองก็ตะลึงเช่นกัน
“ยัยเด็กคนนี้ เธอพูดมั่วอะไรกันน่ะ?”
เหวินเฉี่ยวหรูแกล้งทำเป็นพูดแบบหงุดหงิด “คุณพ่อเธอยังอยู่ตรงนี้นะ จะมารับฉันเป็นแม่ได้อย่างไรกันล่ะ?”
“ทำไมไม่ได้คะ?”
หลินฉ่ายเวยพูดอย่างดื้อรั้น “คุณน้าเหวิน พวกเราไม่รู้จักกันและกัน คุณน้ากลับคิดเพื่อหนูขนาดนี้ ตอนนี้คุณน้าไม่มีที่พึ่งพา หนูเป็นลูกสาวบุญธรรมของคุณน้า ไม่มีอะไรก็มาคุยเป็นเพื่อนคุณน้า ไม่ดีเหรอคะ?”
“คุณนายเหวิน คุณรับปากเถอะครับ”
เกิดกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลินเจิ้นสงก็ตอบรับด้วยเหมือนกัน
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองหลินฉ่ายเวยแบบลึกซึ้งแวบหนึ่ง
คนอื่นไม่รู้ความลับที่อยู่ภายในนี้ เขากลับพอรู้มาบ้าง
โจวเหม่ยหยูนเป็นเพียงภรรยาคนที่สองของหลินเจิ้นสง ก่อนหน้าหล่อน ยังมีภรรยาที่เสียชีวิตไปเพราะโรคภัยคนหนึ่ง
และพูดได้ว่านอกจากหลินฉ่ายเวยลูกสาวคนนี้แล้ว หลินเจิ้นสงยังมีลูกสาวคนโตคนหนึ่ง เพียงแต่หายไปในคลื่นมหาชนตั้งนานแล้ว และไม่รู้ว่าชาตินี้ยังสามารถพบเจอรู้จักกันได้หรือไม่
แน่นอนว่าพอสืบสาวราวเรื่องให้ถึงแก่นแท้ ยังเป็นนิสัยที่เชื่อมโยงกันกับโจวเหม่ยหยูน ทำให้หลินฉ่ายเวยเจ็บปวดด้วยความผิดหวัง
ภายใต้การเปรียบเทียบ เหวินเฉี่ยวหรูใจดีกว่ามาก หลินฉ่ายเวยเองก็ปรารถนาจะได้รับความรักของแม่แบบนี้บ้าง
เหวินเฉี่ยวหรูยังลังเล
เวลานี้ ถังเฉาจึงพูดว่า “คุณนายเหวิน คนดีได้รับสิ่งดีตอบแทน คุณรับปากเถอะครับ เจียงเฉิงกับหมิงจูอยู่ไม่ไกลกัน ช่วงที่ไม่มีธุระ พวกเราสามารถมาเยี่ยมคุณได้”
“งั้นก็ได้ค่ะ”
เผชิญหน้ากับการโน้มน้าวของทุกคนไม่หยุด ในที่สุดเหวินเฉี่ยวหรูก็รับปากแล้ว
“แม่!”
หลินฉ่ายเวยตื่นเต้นจนกอดเหวินเฉี่ยวหรูเอาไว้ทีหนึ่ง
บนหน้าเหวินเฉี่ยวหรูเผยรอยยิ้มออกมานิดๆ เช่นกัน กอดหลินฉ่ายเวยไว้เบาๆ
ถังเฉาพยักหน้าด้วยความพอใจ พูดว่า “ในเมื่อทุกคนพึงพอใจกัน งั้นพวกเรากลับหมิงจูก่อนนะ”
พูดจบจึงจูงมือหลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้เดินออกจากห้องคนไข้
แต่ทว่าหลินชิงเสว่และหลินเจิ้นสงเฉียดไหล่ผ่านกัน หลินเจิ้นสงกลับชำเลืองสายตาทีหนึ่ง มองเห็นที่เอวเสื้อผ้าของหลินชิงเสว่เผยหยกห้อยโบราณเรียบง่ายชิ้นหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ
หยกห้อยไม่ได้ราคาสูง ฝีมือการทำก็หยาบมากด้วย พอมองก็ดูไม่มีราคา แต่ว่าหลินชิงเสว่ยังคงห้อยไว้บนตัว
ร่างกายหลินเจิ้นสงสั่นเทานิดหน่อยทันที เรียกหลินชิงเสว่เอาไว้
“ประธานหลิน เดี๋ยวก่อน!”
หลินชิงเสว่หมุนตัวเข้ามา “ยังมีเรื่องอะไรเหรอคะ?”
หลินเจิ้นสงกลืนน้ำลายสักหน่อย ถามด้วยเสียงสั่นเครือ “หยกห้อยชิ้นนี้ คุณเอามาจากที่ไหน?”