“ชิงหยุน สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง ถังเฉาคนนั้นตายแล้วหรือยัง—-”
เสิ่นป้านซานไม่วางใจ จึงลงมาด้วยตนเองกับลุงหยาง ผลปรากฏว่าเป็นเหมือนกับเสิ่นชิงหยุน เสียงพูดหยุดลงฉับพลัน
เขามองเหตุการณ์หนึ่งตรงหน้าแบบตกตะลึงพรึงเพริด ทันใดนั้นหัวใจบีบแน่นอย่างแรง ความรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่เข้มข้นปกคลุมทั่วร่างกายเขาไว้
เขาเอาทุกอย่างฝากไว้บนตัวหงโฝ เพื่อที่จะฆ่าถังเฉาทิ้ง แต่ทว่าความเป็นจริงกลับโหดร้ายมาก ถังเฉาไม่ได้ลงมือด้วยตนเอง เพียงแค่ผู้ติดตามของเขา ก็แขวนหงโฝขึ้นมาตีอย่างกับตีลูกสาวอยู่
ทำให้คนหัวเราะออกมาในที่เกิดเหตุ แต่ทว่าเสิ่นป้านซานกลับขำไม่ออกสักนิดเดียว
“รู้ว่าผิดแล้วใช่มั้ย?” เฟิ่งหวงถามเสียงเย็นชา
“รู้ว่าผิดแล้ว”
หงโฝร้องไห้จนน้ำตานองหน้า น้ำเสียงดูไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ผิดตรงไหน?”
“ไม่ควรเยาะเย้ยเธอกับผู้ชายคนนั้น”
“ยังมีอีกไหม?”
“ไม่ควรรับเงินของตระกูลเสิ่นมาลงมือกับพวกเธอ”
“ต่อไปยังกล้าอีกมั้ย?”
“ไม่กล้าแล้ว”
จากนั้นเฟิ่งหวงถึงปล่อยหงโฝออก
หงโฝที่ได้รับการปล่อยตัวสิ่งแรกที่ทำคือลูบก้นของตนเอง หล่อนเจ็บจนจะแตกออกเป็นสองท่อนแล้ว
หล่อนมองถังเฉาด้วยสายตาเคียดแค้นแวบหนึ่ง รีบล้วงลูกบอลเล็กสีน้ำตาลลูกหนึ่งออกมาจากอ้อมอก โยนไปบนพื้น
ปึง—-
ลูกบอลเล็กระเบิดออก ควันสีเหลืองขนาดใหญ่แผ่กระจาย
ถังเฉาตะโกนเสียงดัง “ปิดจมูกไว้!”
ทุกคนถึงไม่ได้สูดควันพิษเข้าไปกัน
รอให้หมอกควันหายไป ภาพเงาของหงโฝหายลับไปแบบไร้ร่องรอยตั้งนานแล้ว
ถังเฉาหรี่ดวงตาขึ้นเล็กน้อย ครั้งนี้เป็นเฟิ่งหวงเตรียมพร้อมมาครบถ้วน ถึงทำให้หงโฝเสียเปรียบไปมาก
ครั้งหน้า ใครจะไปรู้ว่าหงโฝจะมาโจมตีเมื่อไรกัน?
เธอในฐานะยายหนอนพิษ และความสามารถที่ใช้หนอนมาฆ่าคนทำให้คนยากจะป้องกันตัวได้จริง และมาเจอกับถังเฉาและเฟิ่งหวงเข้า ถ้าเจอนักฆ่าคนอื่น บางทีแม้แต่ตายอย่างไรก็คงยังไม่รู้เลยมั้ง?
ถังเฉาหรี่ตาขึ้น พินิจพิเคราะห์เสิ่นป้านซานที่เหมือนแก่หง่อมลงไปสิบปีอยู่ครู่หนึ่ง “นายท่านเสิ่น แม้แต่นักฆ่าที่คุณเชิญมายังหนีหัวซุกหัวซุนไปแล้ว คุณมีวิธีอะไรอีกล่ะ?”
เสิ่นป้านซานจมสู่ความเงียบงันอันลุ่มลึก กุมหมัดแน่น มองถังเฉาด้วยสายตาอึมครึมเต็มที่ กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว
เขาสามารถพูดอะไรได้อีก?
ตระกูลที่เข้มแข็งเกรียงไกร สำหรับนักบู๊ที่บัญชาการด้วยตนเองมีมากเท่าไร ขบวนการสู้รบที่เขาสร้างขึ้นมาครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นท่านดาบตาบอด ยังมีหงโฝ ล้วนพอจะทำลายตระกูลยักษ์ใหญ่มากตระกูลหนึ่งลงได้ แต่ว่าเขายังคงล้มเหลว
ความแข็งแกร่งของถังเฉาเกินกว่าจินตนาการ
ถ้าเขาสามารถล่วงรู้ได้ก่อนหน้าสักหน่อย ทุกอย่างคงไม่เกิดขึ้น แต่เรื่องราวบนโลกมักเป็นเช่นนี้ มีเพียงช่วงเวลาที่หมดหวังอย่างแท้จริงถึงจะเสียใจ
หลังจากเงียบงันอยู่นาน เขาเงยหน้าขึ้นมองถังเฉา ถอนหายใจยาวๆ “การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นตระกูลเสิ่นของฉันแพ้แล้ว นายอยากจัดการพวกเราสามคนยังไงย่อมได้ทั้งหมด ขอเพียงปล่อยคนอื่นในตระกูลเสิ่นของฉันให้มีชีวิตรอด”
“คุณปู่ ประนีประนอมไม่ได้นะ!”
สีหน้าเสิ่นชิงหยุนเปลี่ยนกะทันหัน “หากพวกเรายอมแพ้กัน ที่รอคอยพวกเราอยู่ มีเพียงความตายเท่านั้น!”
ป้าบ!
เสิ่นป้านซานตบลงบนหน้าเสิ่นชิงหยุนอย่างแรงไปทีหนึ่ง หน้าตาอึมครึมมาก “เจ้าโง่คนนี้ แกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ พวกเราตระกูลเสิ่นไม่มีต้นทุนอะไรไปต่อกรกับเขาแล้ว พวกเราสามคนจำเป็นต้องตายแน่ เพียงสิ่งเดียวที่ทำได้ คือหวังว่าเขาจะสามารถปล่อยตระกูลเสิ่นคนอื่นไป!”
เสิ่นชิงหยุนหน้าหมดอาลัยตายอยาก แวบเดียวก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้น
ลุงหยางพูดโน้มน้าว “นายท่านครับ คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน!”
เสิ่นป้านซานกลับปัดมือ “ฉันตัดสินใจดีแล้ว พวกนายไม่ต้องมากล่อมฉัน ขอเพียงรักษาสายเลือดตระกูลเสิ่นไว้ได้ ฉันตายแล้วจะเป็นอะไร?”
ถึงแม้เสิ่นป้านซานจะโหดเหี้ยมดุร้าย แต่ในฐานะผู้นำที่ทระนงในศักดิ์ศรี ยังทำให้ถังเฉาไม่สามารถมองในรูปแบบเดิมได้อีก
“ที่จริงแล้วเสิ่นชิงหยุนอยากจะจัดการให้ฉันตายหลายครั้ง ตาแก่อย่างแกก็มีแผนการลงมือกับเมียฉัน เทพเจ้าคงยากจะช่วยได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องจะใช้ความตายมาแก้ไขได้”
ถังเฉาพูดด้วยเสียงฮึกเหิม
เสิ่นป้านซานเงยหน้าขึ้นทันใด มองถังเฉาแบบคาดไม่ถึง “นายว่าอะไรนะ?”
“ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ฉันฆ่าพวกแกแน่ เพียงแต่ตอนนี้ เมียของฉันไม่อยากให้ฉันฆ่าคนมาตลอด ดังนั้นฉันจะให้โอกาสพวกแกได้อยู่รอดสักครั้ง”
ถังเฉาพูดเสียงทุ้ม “ถึงแม้โทษประหารชีวิตจะไม่พูดถึง แต่จะโดนลงโทษแบบตายทั้งเป็น! เอาสมบัติทั้งหมดและทรัพย์สินทั้งหมดในบัญชีของตระกูลเสิ่นพวกแกออกมา ไม่มีเงินทองในฐานะเป็นเส้นสนกลใน ต่อให้พวกแกจะยังคงมีเจตนาไม่ดี ก็ก่อความวุ่นวายไม่ได้สักนิด!”
“นี่เป็นไปไม่ได้!”
ไม่รอให้เสิ่นป้านซานพูดจา เสิ่นชิงหยุนตะโกนแบบสีหน้าซีดเซียว เงื่อนไขของถังเฉาให้เอาทั้งตระกูลเสิ่นมาแลกกับชีวิตของพวกเขา
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เขาไม่ใช่คุณชายอีกต่อไป ตระกูลของเขาก็จะไม่ใช่ตระกูลยักษ์ใหญ่ เขาเป็นเหมือนคนธรรมดา ทุกวันต้องไปเบียดบนรถไฟใต้ดินตอนเก้าโมงเช้าหกโมงเย็น เงินมาถึงมือ มีเพียงไม่กี่พันแบบน่าสงสาร
เขาไม่อยากใช้ชีวิตที่น่าเศร้าใจประเภทนี้
“ให้พวกฉันมอบทุกอย่างของตระกูลเสิ่น ไม่สู้ให้พวกฉันตายไปซะดีกว่า!” สีหน้าเขาดุร้าย น้ำเสียงมีความแค้นเคืองต่อถังเฉาอย่างปกปิดไม่มิด
ป้าบ!
เสิ่นป้านซานตบลงบนหน้าเขาอีกทีหนึ่ง ใช้แรงหนักมาก ตบจนเลือดออกมาทันที
“แกหุบปากไปเลย!”
เขามองทางถังเฉาอีกที สายตานิ่งสงบ “นายต้องการทั้งตระกูลเสิ่น ได้ ฉันให้นาย แต่ฉันหวังว่านายจะพูดคำไหนคำนั้น ปล่อยคนตระกูลเสิ่นให้มีชีวิตรอด”
“คุณปู่!”
“นายท่าน!”
เสิ่นชิงหยุนและลุงหยางผู้ดูแลบ้านตะโกนห้ามเสียงดัง กลับถูกเสิ่นป้านซานผลักออก
“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
เขามองทางถังเฉา “ภายในพรุ่งนี้ ฉันจะโอนสมบัติและทรัพย์สินทุกอย่างของตระกูลเสิ่นไปอยู่ภายใต้ชื่อของนาย……”
เฮือก—-
แต่ทว่าเสิ่นป้านซานยังไม่ทันพูดจบ ลูกตาของเขาถลึงโตในชั่วขณะนั้น ในปากมีเลือดสดไหลออกมามากมาย
หน้าของเขามีรูเลือดอันหนึ่งเพิ่มขึ้นมา โดนมือข้างหนึ่งทะลุผ่านเข้าไปแล้ว
“อะไรกัน?”
ฉากตรงหน้านี้ เกินกว่าความคาดหมายของถังเฉามาก สีหน้าเขาดูอึมครึม
สายตาของทุกคนล้วนรวมตัวอยู่บนร่างลุงหยางผู้ดูแลบ้านที่อยู่ด้านหลังเสิ่นป้านซาน
“ลุงหยาง ลุงทำอะไร?”
เสิ่นชิงหยุนสีหน้าซีดเผือด ร้องตะโกนโวยวายอย่างกับเป็นบ้าไปแล้ว
ร่างกายเสิ่นป้านซานแข็งทื่อ พยายามใช้แรงที่เหลืออยู่ ค่อยๆ หันตัวเข้ามามองลุงหยางด้วยสายตาคาดไม่ถึง “เหล่าหยาง นาย—-”
“เสิ่นป้านซาน นายทำให้ฉันผิดหวังเสียจริงเลย สุดท้ายก็เป็นแค่เต่าหัวหด!”
ลุงหยางในเวลานี้ บนใบหน้ามีความเคารพสักนิดแบบในอดีตที่ไหนกัน บนหน้าเต็มไปด้วยความดุร้ายเกรี้ยวกราด
“ฉันกบดานอยู่ที่ตระกูลเสิ่นมานานหลายปีขนาดนี้ เพื่อใช้ตระกูลเสิ่นเป็นหมากตัวหนึ่ง ดำเนินแผนการขั้นต่อไปขององค์กรให้ง่ายๆ นึกไม่ถึงเพราะความปอดแหกของตาแก่อย่างนาย งานใหญ่ถึงมาล้มเหลวในขั้นสุดท้าย เพราะขาดความพยายามไปนิดเดียว!”
สายตาลุงหยางมืดครึ้ม ภายใต้ความโกรธเคือง ข้อมือที่ทะลุทั้งร่างกายข้างนั้นขยับไม่หยุด บีบหัวใจของเสิ่นป้านซานให้แหลกเหลว หมดลมหายใจทันที
“คุณปู่!”
เสิ่นชิงหยุนตะโกนแบบสีหน้าซีดขาว “ลุงหยาง คำพูดนี้ลุงหมายความว่าอะไร?”
“เดิมทีฉันไม่ได้ชื่อลุงหยาง! ชื่อของฉัน……นานเหลือเกิน ฉันเองยังลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนฉันชื่ออะไร”
ลุงหยางแอบถอนหายใจ จากนั้นสายตามองไปยังถังเฉา “เป็นแกอีกแล้ว ขัดขวางภารกิจของฉันครั้งแล้วครั้งเล่า วอนหาที่ตายชัดๆ!”
ถังเฉามองลุงหยางอย่างเย็นชา พูดขึ้นกะทันหัน “ห้าปีก่อน คนที่ถ่ายคลิปของฉันกับเมียฉัน ก็คือแกสินะ?”
“แกคือ’ค้างคาว’!