ปึง….
เหมือนว่าเหยนยงอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่วินาทีต่อมาก็ตัวสั่นแล้วก็เป็นลมไป
ถังเฉามองเขาอย่างเย็นชาทีหนึ่ง ไม่ได้ใส่ใจอะไร
สถานะของสมาคมการต่อสู้ แค่เพียงหมัดฟ้าแลบ ก็สามารถเดาได้ว่าเกี่ยวข้องกับบ้าบู๊
แต่ว่า แค่เพียงเท่านั้น พวกเขาคิดไม่ถึงแน่ว่าตัวเขาเป็นอาจารย์ของบ้าบู๊
ในตอนนี้ ในสายตาของเหยียนเสี้ยงหม่าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว รวมทั้งร่างกายถึงกับตัวสั่น
ไม่เพียงแค่เพราะพลังที่ถังเฉาแสดงออกมา แต่ยิ่งเพราะว่าการล้มลงของเหยนยง
“แก แกเอาชนะคุณลุงของฉันได้!”
“ตกใจมากเลยหรอ?”
ถังเฉายักคิ้วนิดหน่อย กวาดมองนิ่งๆไปทีหนึ่ง “ตามกฎแล้ว ฉันล้มคนที่เก่งที่สุดของสมาคมการต่อสู้ได้ ก็สามารถแทนที่ได้ใช่มั้ย?”
เมื่อประโยคนี้พูดออกมา ดวงตาของเหยียนเสี้ยงหม่าหดตัว ชี้หน้าถังเฉา แล้วพูดอย่างสั่นๆว่า “นายมาเพื่อตำแหน่งหัวหน้าของสมาคม?!”
ถังเฉากลับหัวเราะเบาๆ “แค่ตำแหน่งที่หนึ่งในสมาคมการต่อสู้ยังไม่มีสิทธิ์เข้าตาฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการจัดตั้งกองกำลัง นายคิดว่าฉันจะมาร่วมงานเด็กเล่นแบบนี้หรอ?”
“อะ…อะไรนะ? เด็กเล่น?”
คำพูดของถังเฉา สมาชิกของสมาคมการต่อสู้ต่างก็สำลัก โมโหจนถึงขีดสุด
พวกเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะฝึกฝนเพื่อล้มอีกฝ่าย เพื่อที่จะได้ขึ้นไปสู่อันดับที่สูงขึ้น แต่กลับถูกถังเฉาพูดว่า ‘เด็กเล่น’?
“หรือว่าไม่ใช่งั้นหรอ?”
ถังเฉาถามกลับ “ในสายตาฉัน พวกเขาก็แค่กำลังเล่นเป็นเด็ก หรือว่า ‘บูโด’ ที่พวกนายคิดก็คือแบบนี้?”
เหยียดหยาม
เหยียดหยามกันชัดๆ
ทุกคำพูดที่ถังเฉาพูด เหมือนดั่งมีดแหลม แทงเข้าไปในใจพวกเขาอย่างแรง
“หุบปากซะ!”
ตอนนี้เหยียนเสี้ยงหม่าเองก็ได้สติกลับมาแล้ว ตะโกนดุไปทีหนึ่ง จากนั้นก็จ้องมองถังเฉา “ใช่แล้ว สมาคมการต่อสู้เคารพนับถือผู้ที่เก่ากาจ ใครที่สามารถเอาชนะหัวหน้าสมาคมได้ ก็สามารถมาแทนที่ แต่ว่า ก็แค่กฎพื้นฐานเท่านั้น”
ถังเฉาขมวดคิ้ว ถามว่า “ยังมีกฎอะไรอีก?”
เหยียนเสี้ยงหม่าพูดต่อ “สมาคมการต่อสู้หมิงจู เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแถวเจียงเจ้อเท่านั้น ใครเป็นหัวหน้า มีหัวหน้าสมาคมหลักที่เจียงเจ้อมาตัดสินใจ”
เขาพูดอย่างนี้ หนึ่ง ความจริงก็เป็นอย่างนี้ สอง จะให้ถังเฉาขึ้นนั่งตำแหน่งสำคัญอย่างหัวหน้าได้ยังไงกัน?
เชิญถังเฉามางานการต่อสู้ เดิมทีก็เพื่อจะสั่งสอนเขา ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะต่างกับสิ่งที่เขาคิดอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ห้ามให้ถังเฉาได้ดั่งใจหวัง
แต่ว่า หลังจากที่ถังเฉาไตร่ตรองสักพัก ก็พูดขึ้นว่า “งั้นก็ให้หัวหน้าของสมาคมหลักอะไรนั่นตัดสินใจละกัน แต่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจ พวกนายก็ต้องเชื่อฟังฉัน”
คำพูดนี้ออกจากปาก สีหน้าของเหยียนเสี้ยงหม่าถึงกับแข็งทื่อ แล้วห้ามอย่างไว “รอ รอเดี๋ยว นี่มันไม่ตรงกับกฎนี่…”
“กฎ? ฉันก็คือกฎของที่นี่!”
อยู่ๆถังเฉาก็หันกลับมา จ้องเหยียนเสี้ยงหม่าอย่างเย็นชา ความอำมหิตในสายตาแวบเข้ามา “ในเมื่อฉันเป็นคนที่เก่งที่สุดของที่นี่ งั้นตำแหน่งที่หนึ่งของหัวหน้า ก็มีฉันมานั่ง!”
“ถ้าหากว่าคนทางสมาคมหลักไม่ตกลงก็ให้มาหาฉัน”
คำพูดของถังเฉาแข็งกร้าวอย่างมาก พูดซะเหยียนเสี้ยงหม่าเองก็ใจกระตุก
ภาพที่ฆ่าเหยนยงในชั่วพริบตายังติดอยู่ในใจ ถึงแม้ว่าเหยนยงจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในตระกูลเหยน แต่พลังก็ไม่น้อย แสดงว่านี่ยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของถังเฉา คนอย่างนี้ ถึงแม้คนของสมาคมหลักจะมา จะกล้าพูดคำว่าไม่สักคำหรอ?
“สวัสดีครับหัวหน้า!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งที่เคารพดังขึ้นมาจากกลุ่มผู้คน
เย่เทียนหลงคุกเข่าหนึ่งข้างทำความเคารพ และชื่นชมอย่างจริงใจ
คนรอบข้างต่างก็โมโหอย่างมาก อยากจะด่าออกมา แต่ก็กลัวกำลังของถังเฉา ทำได้แค่กล้าโมโหแต่ไม่กล้าพูด ทำได้เพียงแค่ทำตามเย่เทียนหลงและพูดอย่างพร้อมเพรียง
“สวัสดีครับหัวหน้า!”
ถังเฉากลับส่ายหัว “คนที่พวกนายต้องทำความเคารพไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเขา!”
จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่คนๆหนึ่ง
เย่เทียนหลงในกลุ่มผู้คนอึ้งในทันที “ผม?”
“ใช่แล้ว”
สีหน้าถังเฉานิ่งเฉย พูดนิ่งๆว่า “ฉันไม่ว่างจัดการเรื่องของสมาคม นายมาแทนที่ ต่อไป เจอเขาเหมือนเจอฉัน ถ้าหากมีคนต่อต้าน ไล่ออกได้เลย!”
น้ำเสียงที่หนักแน่น ดังสะท้อนทั่วโรงการต่อสู้อยู่นาน
สายตาของทุกคนถึงกับตกใจ มองไปยังเย่เทียนหลงอย่างน่าอัศจรรย์
เย่เทียนหลงเองก็นิ่งค้างอยู่กับที่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เมื่อได้สติ ก็หน้าแดงอย่างตื่นเต้น “ครับ คุณถัง!”
ตั้งแต่นี้ไป เขาก็จะมีชื่อมากขึ้นอีกอย่างหนึ่ง ถึงแม้จะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นพลังของสมาคมการต่อสู้ แต่ว่าตระกูลจ้าว จะต้องกลัวเขามากขึ้นแน่นอน
หลังจากที่ประกาศเรื่องนี้แล้ว ถังเฉาก็ออกมาจากสมาคมการต่อสู้ เย่เทียนหลงตามหลังตลอดทาง
ทั้งสองมาถึงคฤหาสน์หนึ่ง ถังเฉาถึงได้มองไปที่เขา “ต่อไป นี่คือภารกิจแรกจากที่ฉันประกาศให้นายเป็นหัวหน้า”
“เลือกคนกลุ่มหนึ่งที่มีคุณภาพดีมีความสามารถ และซื่อสัตย์ ก่อตั้งเป็นกองกำลังลับ เข้ารับการฝึกฝนที่เข้มงวดที่สุด ในตอนที่ฉันไม่อยู่หมิงจู ก็ให้ปกป้องดูแลญาติพี่น้องของฉันตลอดเวลา”
เย่เทียนหลงไม่ลังเลเลยสักนิด ตอบตกลงในทันที “คัดเลือกคนไม่มีปัญหาครับ แต่ว่าใครจะเป็นคนมาฝึกฝนพวกเขาละครับ?”
ถังเฉาโบกมือ “เรื่องนี้นายไม่ต้องสนใจ ฉันจะหาคนมาฝึกฝนพวกเขาเอง นายเองก็เข้ารับการฝึกฝนด้วย”
“ครับ!”
เย่เทียนหลงตอบตกลงอย่างไม่คิดด้วยซ้ำ เขามีพื้นฐาน ฝึกฝนมาคงจะไม่เหนื่อยขนาดนั้น
ถังเฉามองดูสีหน้าของเย่เทียนหลง อยู่ๆก็ยิ้มขึ้นมา “อีกอย่าง ขอเตือนอย่างเป็นมิตร อาจารย์ของพวกนาย เป็นผู้หญิง”
…….
เมื่อบอกกล่าวกับเจียงไป๋เสว่แล้วถังเฉาก็จากไป
ก่อนจะกลับยังหันไปมองเย่เทียนหลงที่ไม่วางเรื่องการฝึกฝนไว้ในใจอย่างเมตตา ตอนนี้ไม่ถือสาอะไร รอเจียงไป๋เสว่ฝึกฝนอย่างจริงจังนั่นก็ซวยแล้ว
เมื่อกลับถึงอาคารกั๋วจี้ รถ Lincoln แบบยาวคันหนึ่งก็จอดลงข้างทางอย่างนิ่ง
เจิงเทียนเสียงเดินลงจากรถ “คุณถังครับ เตรียมรถเสร็จแล้ว สามารถออกเดินทางสู่เมืองเจียงได้ตลอดเวลาเลยครับ”
ถังเฉาพยักหน้า “ออกเดินทางตอนนี้เลย”
“ครับ!”
หลังจากที่เจิงเทียนเสียงเปิดประตูให้ถังเฉา ก็มุดเข้ารถแล้วเอาเอกสารหนึ่งออกมาอธิบายให้ถังเฉา
“คุณถังครับ นี่คือข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกหลักในจวี้เฟิงกรุ๊ป เชิญคุณดูก่อนครับ”
ถังเฉารับมาดู ยีตาเล็กน้อย ชื่อบนรายชื่อ สูงถึงผู้จัดการใหญ่ ต่ำถึงหัวหน้าแผนก ล้วนแซ่หู
ผู้จัดการใหญ่คือคนที่มีชื่อว่า หูเข่อเฟิง อายุประมาณ 30 ปี
“ดูแล้ว ตระกูลหูคุมจวี้เฟิงกรุ๊ปไว้อย่างแน่นหนา แทบจะเป็นแผ่นเหล็กแล้ว”
สายตาของถังเฉาประกายความน่ากลัว พึมพำคนเดียว
เจิงเทียนเสียงอธิบาย “เสิ่นป้านซานพ่อบ้านคนนั้น ก่อนที่จะได้รู้จักกับเสิ่นป้านซาน ก็ใช้ชีวิตในเมืองเจียงเฉิงมาตลอด และตอนนี้ก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับผู้นำของตระกูลหูในตอนนี้ด้วยครับ”
ถังเฉาไม่สนใจอะไร อยู่ๆก็ถามขึ้นว่า “หูอีซาน มีความแค้นอะไรกับตระกูลหู?”
จากท่าทางของหูอีซานที่ปฏิบัติต่อตระกูลหู ดูหอได้ไม่ยากว่าเขาไม่เป็นมิตรกับตระกูลหู ถึงขั้นโกรธแค้น
เจิงเทียนเสียงส่ายหัว “เรื่องนี้ผมไม่ได้ถาม และก็ไม่ได้ไปตรวจสอบ เพราะยังไงซะ ตรวจสอบความเป็นมาของเหล่าหู ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่…..”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างเข้าใจ “งั้นก็รอใกล้ชิดกับตระกูลหู แล้วค่อยๆสอบถามดูแล้วกัน”
รถขับออกอย่างเร่งด่วนตลอดทาง ไม่นานก็ถึงเมืองเจียงเฉิง
ระหว่างทาง ถังเฉาส่งข้อความหาหลินชิงเสว่ว่าไม่กลับไปกินข้าวที่บ้าน แต่ข้อความกลับไม่ได้รับการตอบกลับสักที
ถังเฉาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
“คุณถังครับ!”
พื้นที่พักผ่อนบนทางด่วนที่หนึ่งของเมืองเจียงเฉิง หูอีซานมารอนานแล้ว เมื่อถังเฉาลงรถ ก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อมทีหนึ่ง
“ไปเถอะ ไปจวี้เฟิงกรุ๊ป ไปฟังคำอธิบายสักหน่อย”
สีหน้าถังเฉาเย็นชา สายตาไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด