“หลินโป๋หลาย!”
เมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ยืนพิงประตูอยู่ สีหน้าของหลินชิงเสว่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
แต่ไม่นานสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเฉยเมย จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ถ้าถังเฉาอยู่ที่นี่ เขาไม่ปล่อยหลินโป๋หลายไว้แน่
เพราะว่าเขาพูดว่าต้องการแยกถังเฉากับหลินชิงเสว่ แถมยังมองถังเสี่ยวลี้เป็นเด็กสารเลว
คนที่ไม่ปล่อยแม้แต่เด็กจะมีจิตใจดีสักแค่ไหนเชียว
หลินโป๋หลายหัวเราะเบาๆ เขายิ้มแล้วเดินเข้ามาหาหลินชิงเสว่ “ลูกพี่ลูกน้อง ไม่ได้กลับบ้านนาน ลืมไปแล้วเหรอว่าที่นี่คือที่ที่เราโตมา ผมไม่อยู่ที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอเงียบ
“ก่อนหน้านี้ฉันโดนใครไม่รู้ลักพาตัวมา ตอนนี้กลับมาอยู่ในตระกูลหลวงในเยี่ยนตู งั้นก็หมายความว่า…”
เหมือนคิดอะไรได้ สีหน้าของหลินชิงเสว่ซีดเผือด แววตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ “นายให้คนมาลักพาตัวฉันเหรอ”
“โอ๊ะ ลูกพี่ลูกน้องยังฉลาดเหมือนแต่ก่อนเลยนะ ผมคิดว่าเราพี่น้องเจอกันแล้วจะสามารถโกหกได้เสียอีก”
สีหน้าของหลินโป๋หลายเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่เขาไม่ได้เสียใจที่ถูกจับได้ ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้ม
“ทำไมนายต้องทำแบบนี้”
หลินชิงเสว่เดินเข้ามาหาเขาด้วยความโกรธ “สามีกับลูกสาวของฉันล่ะ นายทำอะไรกับพวกเขา!”
หลังจากที่เธอรู้ว่าคนในตระกูลเป็นคนลักพาตัว อารมณ์ของเธอพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที สองมือของเธอกำคอเสื้อของหลินโป๋หลายเอาไว้แน่น ขอบตาของเธอร้อนผ่าว
หลินโป๋หลายไม่ได้ขัดขืน และปล่อยให้หลินชิงเสว่เขย่าตัวของเขา เมื่ออารมณ์ของเธอดีขึ้น เขาจึงเงยหน้าขึ้นพูดว่า “ผมทำแบบนี้ก็เพราะว่าอยากพาพี่กลับบ้านไง พี่ไม่ได้กลับบ้านมานานเท่าไรแล้ว”
“ฉันรับปากพวกนายแล้วว่าจะกลับมา ทำไมต้องใช้วิธีนี้พาฉันกลับมาด้วย”
หลินชิงเสว่ไม่พอใจกับคำตอบนี้เป็นอย่างมาก อารมณ์ของเธอยังคงพลุ่งพล่าน
หลินโป๋หลายเงียบไปครู่หนึ่ง เขาจ้องหลินชิงเสว่อยู่อย่างนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อยๆ หายไป “ทำไมผมต้องใช้วิธีต่ำๆ อย่างนี้เชิญพี่กลับบ้านอย่างนั้นเหรอ พี่เดาไม่ได้เหรอ”
คำพูดของเขายิ่งทำให้หลินชิงเสว่โกรธขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่ได้พูดอะไรและเอาแต่จ้องหลินโป๋หลายอยู่อย่างนั้น
“กว่าจะกลับบ้านมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จะพาไอ้สวะกับเด็กสารเลวนั่นมาทำไม”
น้ำเสียงของหลินโป๋หลายเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ความอาฆาตก่อตัวขึ้นในดวงตาของเขา “พวกเราคือตระกูลหลวงในเยี่ยนตู เป็นตระกูลอันสูงศักดิ์ในประเทศ มันก็แค่สวะที่น่าขยะแขยง มันมีสิทธิ์อะไรที่จะมานั่งเทียบกับเรา”
เงียบไปครู่หนึ่ง หลินโป๋หลายจึงพูดต่อ “อย่าลืมสิว่าคนที่อยากให้สองพ่อลูกนั่นตาย ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว แค่พี่คนเดียวจะปกป้องพวกเขาได้เหรอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินโป๋หลาย สีหน้าของหลินชิงเสว่ก็นิ่งไป
“แล้วถังเฉากับเสี่ยวลี้ล่ะ”
เสียงของเธอเกือบจะสั่น เธอนั่งลงไปบนเตียงอีกครั้ง
หลินโป๋หลายเดินเข้ามา และยิ้มอย่างร้ายกาจ “พวกมันน่าจะหายไปจากโลกนี้แล้วล่ะมั้ง”
“ขอโทษนะพี่ ที่ทำให้การแต่งงานของพี่เปล่าประโยชน์ไปครั้งหนึ่ง”
หลินชิงเสว่ไม่พูดอะไร ตัวของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
“อย่าร้องสิพี่”
เมื่อเห็นหลินชิงเสว่ร้องไห้ สีหน้าของหลินโป๋หลายเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารีบพูดขึ้นว่า “นี่มันหมดหนทางแล้วจริงๆ ใครให้ไอ้หมอนั่นชอบพี่ล่ะ เจ้าหญิงกับคนธรรมดาอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก”
“ช่วงนี้พี่ก็อยู่ที่นี่ไปก่อน ตระกูลจัดหาคู่แต่งงานให้พี่เรียบร้อยแล้ว ดีกว่าไอ้ถังเฉาเป็นร้อยเท่า!”
“ฉันไม่ยอม..”
หลินชิงเสว่ที่เงียบมาตลอด ตะโกนออกมา ไม่รู้ว่าเธอเอาแรงมาจากไหนกระโจนเข้าไปหาหลินโป๋หลาย เธอใช้สองมือบีบคอของเขา
“พี่ หยุดนะ…”
หลินโป๋หลายไม่คิดว่าหลินชิงเสว่จะบุ่มบ่ามขนาดนี้ แววตาของเขาฉายแววแห่งความหวาดกลัวออกมา
ขอบตาของหลินชิงเสว่ร้อนผ่าว นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
ไม่ง่ายเลยกว่าที่เธอจะมีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ง่ายเลยกว่าจะเจอแสงสว่างในชีวิต แต่กลับโดนตระกูลทำให้พังจนย่อยยับ
เมื่อไม่รู้ว่าถังเฉากับเสี่ยวลี้เป็นตายร้ายดียังไง ใจของเธอเหมือนโดนมีดกรีด จิตใจของเธอแหลกสลาย
ในขณะที่เธอกำลังโกรธ เธอไร้สติขึ้นมา
“โป๋หลาย เกิดอะไรขึ้น”
เมื่อได้ยินเสียงข้างบน ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากข้างนอก
เหล่าพี่ๆ ที่แต่งตัวไม่ธรรมดาเดินเข้ามา ตามหลังมาด้วยพวกน้องๆ เมื่อเห็นหลินชิงเสว่กำลังบีบคอหลินโป๋หลาย ทุกคนถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
“ทำอะไรน่ะ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
กลุ่มคนพุ่งเข้ามาแยกพวกเขาสองคน
“ป้าใหญ่ ป้าเล็ก พี่ๆ ทุกคน ผมไม่เป็นอะไร”
หลินโป๋หลายโดนบีบคอจนหน้าแดง เขาหายใจเร็ว และลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างยากลำบาก เขามองไปยังหลินชิงเสว่ที่มองเขาด้วยความโกรธ “ผมรู้ว่าพี่เกลียดผม แต่ไม่เป็นไร เกลียดก็เกลียดไปเถอะ นี่คือสิ่งที่ตระกูลต้องการ”
เมื่อทุกคนได้ยินก็รู้ทันทีว่าทำไมทั้งสองคนถึงทะเลาะกัน ทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไป
“ชิงเสว่ ผู้ชายคนนั้นไม่เพียงแต่จะทำให้เธอแปดเปื้อน แถมมันยังไม่มีอะไรดีอีกด้วย ฆ่ามันแล้วจะเป็นอะไร”
“ใช่ เธอควรจะขอบคุณพ่อของเธอนะ ถึงเธอจะออกจากบ้านเพราะความโกรธ แต่เขาก็ยังไม่ไล่เธอออกจากตระกูล แถมยังปกป้องเธอตลอดด้วย”
“เธอเป็นคนของตระกูลหลิน ตายไปก็เป็นวิญญาณของตระกูลเหมือนกัน เธอหนีโชคชะตาไม่พ้นหรอก ยอมรับมันซะเถอะ”
“.…..”
ภายนอกเหล่าญาติดูเหมือนจะดีกับหลินชิงเสว่ แต่ภายในใจของพวกเขากลับต้องการให้หลินชิงเสว่แต่งงานใหม่ เพื่อแลกกับผลประโยชน์
หลินชิงเสว่พิงหน้าต่างอย่างหมดแรง เธอเจ็บปวดใจไปหมด
เธอยังคิดว่าตระกูลจะเข้าใจเธอ คิดไม่ถึงว่าเมื่อกลับมาเยี่ยนจิง ตระกูลก็แทงมีดใส่เธออย่างสาหัส
“ชิงเสว่อย่าโทษโป๋หลายเลย ความคิดนี้เป็นความคิดของฉันเอง”
ขณะนั้นก็มีชายวัยกลางคนใบหน้าเหลี่ยมเดินเข้ามา เขาคือหลินอิ่น พ่อของหลินโป๋หลาย
“ไอ้สวะกับเด็กต่ำตมนั่นต้องตาย ตระกูลจัดหาคู่แต่งงานใหม่ให้เธอแล้ว เขาคือฉินผู่หยางเป็นคุณชายตระกูลฉินที่มีฐานะเท่าเทียมกับตระกูลหลวงในเยี่ยนตู เธอทำใจให้เย็นก่อน หลังจากหมดเทศกาลไหว้พระจันทร์ เราจะไปที่ตระกูลฉิน”
หลินอิ่น พูดจบก็หันหลังเดินออกไป
ทุกคนก็เดินตามออกไปเช่นกัน ไม่มีใครช่วยหลินชิงเสว่พูดเลยสักคน
“นี่คือสิ่งที่พวกนายต้องการหรือสิ่งที่เขาต้องการ”
จู่ๆ หลินชิงเสว่ก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
สีหน้าของทุกคนดูกระอักกระอ่วน พวกเขาไม่ได้พูดตรงๆ แต่พูดเพียงว่า “ฉันว่าพ่อของเธอก็เห็นด้วยกับการแต่งงานนี้”
จากนั้นเขาก็เดินออกไป
ประตูถูกปิดลง
หลินชิงเสว่ลุกขึ้นมาอย่างโงนเงน เธอมองบรรยากาศข้างนอก รอยยิ้มสิ้นหวังผุดขึ้นมาบนใบหน้าอันซีดเผือด
“ถังเฉา ฉันแต่งงานเป็นภรรยาของนายแล้วก็จะเป็นคนของนายตลอดชีวิต ฉันจะไม่แต่งงานกับใครอีก!”
“ถ้านายตายไปแล้ว ฉันก็ไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้”
“ฉันจะตามนายไปด้วย!”
“.….