หลังถังเฉาพูดหยอกล้อจบ สีหน้าของลุงหยางก็อึมครึมถึงขีดสุดแล้ว บนหน้าผากมีเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมา
ถึงแม้ว่าเขาจะโอหังทรงอำนาจ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้
ถ้าเป็นสิบกว่าคน เขายังสามารถสู้ได้หน่อย เพียงนั่งรอคอยให้โชคลอยมา แต่นี่กลับเป็นนักฆ่าหลายพัน
นี่คือแนวความคิดอะไร?
เท่ากับว่าถังเฉาเรียกกองพลกำลังทหารนักฆ่ามาโดยตรง ให้คนหนึ่งถุยน้ำลายออกมาทีหนึ่ง ยังสามารถท่วมลุงหยางตายได้
ในขณะเดียวกันลุงหยางยังคงตื่นตกใจ ในใจสั่นเทิ้มนิดๆ เขาคิดจนสมองระเบิดก็คิดไม่ออก ทำไมถึงมีนักฆ่าปรากฏตัวมากขนาดนี้ได้?
มองสถานการณ์ตรงหน้าอยู่ เฟิ่งหวงหัวเราะออกมาแล้ว ดวงตาที่แดงสดเปลี่ยนเป็นแดงเลือด
สำหรับเสิ่นชิงหยุน ตกใจค้างไปโดยตรง ชีวิตนี้ไม่เคยเจอนักฆ่ามากขนาดนี้มาก่อน
โดยเฉพาะสายตาแต่ละคนอึมครึมและเย็นชา กลิ่นอายยิ่งใหญ่เกรียงไกร ราวกับทหารภูติผีปีศาจ หลบซ่อนอยู่ทั่วทิศของคฤหาสน์แห่งนี้มาโดยตลอด
“ถังเฉา แกเรียกนักฆ่ามามากขนาดนี้ ไม่กลัวว่าคนของเบื้องบนจะเจอเข้าเหรอ?”
ลุงหยางกัดฟันพูดขึ้น “รวบรวมนักฆ่าสามพันคน อย่าว่าแต่เซี่ยกั๋วเลย แม้แต่ทั่วทั้งโลกก็จะแตกตื่นเพราะแก!”
ถังเฉาหัวเราะนิ่งๆ “แกวางใจได้ พวกเขามีพาสปอร์ตกันหมด มากันในสถานะที่เหมาะสม”
“ยิ่งไปกว่านั้น……”
ถังเฉาหยุดคำพูดลงครู่หนึ่ง มองลุงหยางแบบหยอกเย้า “เดี๋ยวแกจะต้องตายแล้ว คนตาย เปิดโปงไม่ได้หรอก”
ลุงหยางนิ่งชะงักทันที ฟังถังเฉากำลังเยาะเย้ยเขาไม่ออกได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ เขาเคยพูดประโยคนี้ออกไป วางแผนบ้าระห่ำฆ่าคนทั้งหมดในที่นี้ ผลปรากฏว่าพริบตาเดียวถังเฉาดันใช้คำพูดเดียวกับเขามาตอบกลับ
เวลานี้ ทั่วทุกด้านของทั้งคฤหาสน์มีนักฆ่าล้อมรอบแน่นขนัด แม้กระทั่งฝูงชนยังยาวเหยียดไปถึงด้านหลังเทือกเขา อีกาดำมืดแต่ละตัวส่งเสียงร้องกาๆ ราวกับกาดำในยมโลก
ที่ยิ่งทำให้คนแปลกใจคือนักฆ่าล้วนมีความทระนงองอาจของตนเอง จะไม่ยอมประนีประนอมต่อนักฆ่าคนอื่นเด็ดขาด นักฆ่ารวมตัวกันมากขนาดนี้ คาดไม่ถึงไม่มีฆ่าซึ่งกันและกัน
“เขาเป็นเพียงลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงธรรมดามากๆ คนหนึ่ง พวกนายเป็นนักบู๊ที่มีหน้ามีตากันหมด จะยอมมาขายชีวิตให้กับสวะคนหนึ่งแบบนี้เหรอ?”
ลุงหยางเปลี่ยนปากกระบอกปืนอีกที มองนักฆ่าทั้งหมด เสียงดังกึกก้อง
“พวกนายนักฆ่า เพียงแค่เพื่อเรื่องเงินก็ออกไปให้ไว เขาให้พวกนายคนหนึ่งเท่าไร ฉันจะให้พวกนายเป็นสองเท่า!”
แต่ทว่านักฆ่าทุกคนยังไม่ขยับเขยื้อน มองลุงหยางเหมือนกับมองคนโง่อย่างนั้น
“ดูแล้วแกเป็นหมาจนตรอกยอมทำทุกอย่างเสียจริง”
สีหน้าถังเฉานิ่งสงบ พูดเรียบเฉย “แกคิดว่านักฆ่ามากขนาดนี้ ล้วนเป็นฉันดึงดูดมาเหรอ?”
“หรือว่าไม่ใช่รึไง?”
ภายในลุงหยางถึงแม้จะตกใจ แต่ยังฝืนทำเป็นแน่นิ่ง
“ทำไมนักฆ่าสามพันคนถึงมา ฉันคิดว่าคุณชายเสิ่นรู้ดียิ่งกว่าแกนะ”
คำพูดนี้ออกมา สายตาลุงหยางหนาวเหน็บทันที มองทางเสิ่นชิงหยุนอย่างดุร้าย “นี่สรุปมันเรื่องอะไรกันแน่?”
เสิ่นชิงหยุนตกใจจนสีหน้าซีดขาวตั้งแต่นานแล้ว พูดจาติดๆ ขัดๆ
“นี่……นักฆ่าพวกนี้ ล้วนมาฆ่าผม!”
“อะไรนะ?”
จิตใจลุงหยางสั่นสะเทือน ทันใดนั้น เขาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ในที่สุดน้ำเสียงเปลี่ยนไปหวาดวิตก
“หลายวันก่อน มีนักฆ่าปรากฏตัวขึ้นที่ตระกูลเสิ่น เสิ่นป้านซานเกือบโดนฆ่าตาย คือพุ่งเป้ามาที่แก?”
“ใช่ ใช่ครับ……”
“สารเลว!”
ลุงหยางเดือดดาลอยู่ในที่เกิดเหตุ ตบบนศีรษะของเสิ่นชิงหยุนอย่างหนักทีหนึ่ง อยากตบเขาเป็นๆ ให้ตายไปตรงนี้
เสิ่นชิงหยุนรีบกุมศีรษะเอาไว้ แต่ทว่าระหว่างที่เขาลงมือ ถังเฉาก็ลงมือเช่นกัน
ยังคงเป็นหินก้อนหนึ่ง ถูกถังเฉางอนิ้วดีดออกไป
ปึก—-
ชั่วขณะหนึ่ง ก้อนหินทะลุผ่านฝ่ามือของลุงหยาง ใจกลางฝ่ามือของเขา มีรูเลือดที่กลวงรอยหนึ่ง
“อ๊าก—-”
เขาร้องโหยหวนออกมาติดกันทันที อุดฝ่ามือไว้ คล้ายกับฝืนกลั้นความเจ็บปวดมหาศาล
“อยู่ต่อหน้าฉัน แกมีโอกาสลงมือได้เหรอ?”
สีหน้าถังเฉาเย็นชา ราวกับมนุษยธรรมสูญสิ้นไป
ลุงหยางสั่นไปทั่วตัว ในที่สุดสายตาที่มองทางถังเฉาก็เปลี่ยนไปหวาดหวั่น
“สุดท้ายจะบอกความจริงอย่างหนึ่งให้แกได้ตายอย่างกระจ่างบ้าง”
ถังเฉาพูดจาเฉยชา “คนที่ลงประกาศจัดการเสิ่นชิงหยุน ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นหล่อน!”
เขาชี้ไปยังเฟิ่งหวงที่อยู่ด้านหลัง มุมปากของเฟิ่งหวงมียิ้มเยาะเย้ย สายตาระดับนั้น เหมือนผู้ควบคุมที่อยู่เหนือมวลชน
ลุงหยางมองทางเฟิ่งหวงเช่นกัน ร่างกายยิ่งสั่นเทาหนักขึ้นกว่าเดิม
“เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปไม่ได้ ถึงแม้หล่อนจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่อาจเรียกนักฆ่ามากขนาดนี้มาได้!”
“ในโลกนี้ไม่มีเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ผู้ติดตามของฉันคนนี้คือนักฆ่าอันดับหนึ่งที่หายตัวไปจากวงการนักฆ่าในช่วงระหว่างจุดสูงสุดเมื่อห้าปีก่อน นายหญิงแก๊งมืด!”
ถังเฉามองเขาจากบนลงล่าง “ตอนนี้ ตอนนี้แกยังคิดว่าหล่อนไม่อาจจะเรียกนักฆ่าบนโลกมาได้อีกเหรอ?”
“ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้……เป็นไปไม่ได้!”
สายตาลุงหยางตกใจหวาดกลัวถึงขั้นสุด ทันใดนั้นตะโกนขึ้นมาแบบเสียประสาท “หล่อนเป็นนายหญิงแก๊งมืดไม่ได้ นายหญิงแก๊งมืดตายไปตั้งแต่ห้าปีก่อนแล้ว!”
ถังเฉาแอบถอนหายใจ เฟิ่งหวงมองเขาด้วยสายตาสงสาร
ความจริง นอกจากถังเฉา ลุงหยางน่าจะเป็นคนที่สองที่ชัดเจนต่ออดีตของเฟิ่งหวง แต่ก็เพียงจำกัดอยู่หลังจากที่เฟิ่งหวงลอบสังหารถังเฉาล้มเหลว
เขาต้องคิดว่าเฟิ่งหวงทำภารกิจล้มเหลว จนได้รับการลงโทษขององค์กรแล้ว แต่ความเป็นจริงกลับเป็นถังเฉาช่วยชีวิตเฟิ่งหวงไว้ ทำลายองค์กรที่เฟิ่งหวงสังกัดอยู่ลง
แต่เขาไม่ได้อธิบาย เรื่องจริงบางอย่าง ต่อให้เป็นความจริง ก็ไม่มีใครยินยอมเชื่อ
เห็นถังเฉาไม่พูดอะไร ลุงหยางจึงหัวเราะฮาๆ เสียงดังขึ้นมา
“เป็นยังไงบ้าง โดนฉันเปิดโปงแล้วสิ? เดิมทีหล่อนไม่ใช่นายหญิงแก๊งมืดที่แท้จริง ข่าวที่ฉันได้มา นายหญิงแก๊งมืดตายไปแล้ว ฮ่าๆๆ—-”
ซู่ๆๆ—-
แต่ทว่าในขณะที่ลุงหยางหัวเราะยกใหญ่ นักฆ่าจากทั่วทิศทางล้วนคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นกันแบบพร้อมเพรียง เหมือนผู้คนมากมายมาเข้าเฝ้า ขณะเดียวกันทำความเคารพต่อหน้าถังเฉาและเฟิ่งหวง
บรรยากาศยิ่งใหญ่ ภาพอันสง่างาม เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งของลุงหยางหยุดลงกะทันหันในชั่วขณะหนึ่ง
เห็นเพียงนักฆ่าทั้งหมดเอามือข้างหนึ่งจับหน้าอก ก้มศีรษะลง เปล่งเสียงออกมาพร้อมกัน
“คำนับนายหญิง!”
“คำนับนายหญิง!”
“คำนับนายหญิง!”
“……”
เสียงราวกับสายรุ้ง ดุจดั่งระฆังยักษ์ พุ่งทะยานขึ้นท้องฟ้าโดยตรง
พวกเขามาจากสารทิศทั่วโลก แต่ล้วนใช้ภาษาแม่ของตนเอง ตะโกนคำนับ’นายหญิงสอง’คำนี้ออกมา
ฉากนี้ สั่นสะเทือนลูกตาและจิตวิญญาณของลุงหยางอย่างลึกซึ้ง ภายใต้เสียงที่ดังกระหึ่มเช่นนี้ เกิดเสียงกระแทกดัง เขาล้มนั่งลงบนพื้นแล้ว
นายหญิงแก๊งมืดเพียงหายตัวไปห้าปี ผู้ติดตามของเธอยังคงมีมากมาย ในวงการนักฆ่ามีคำพูดประโยคหนึ่งแพร่หลาย—-ไม่มีใครสามารถทำให้นักฆ่าสารพัดที่บนโลกรวมตัวเป็นหนึ่งได้ ถ้ามี คนผู้นั้นจะต้องเป็นนายหญิงแก๊งมืดแน่นอน
ปัจจุบันนี้ นักฆ่าสามพันคนคุกเข่าพร้อมเพรียง เรียกนายหญิงพร้อมกัน อย่างนั้นจึงไม่มีข้อสงสัยใดๆ ผู้หญิงผมดำตาแดงคนนี้ก็คือนายหญิงแก๊งมืด
เฟิ่งหวงมองเหตุการณ์ฉากนี้อยู่ เบ้าตาประกายสีแดงๆ สีหน้าซาบซึ้งใจนิดหน่อย
เธอนึกถึงวันเวลาที่สูงตระหง่านในอดีต
ช่วงก่อนหน้านี้ เธอยืนอยู่จุดสูงสุดของโลก ในมือถือมีดคม ฆ่าตั้งแต่ทิศเหนือของโลกไปถึงทิศใต้ของโลก เลือดสดเปื้อนเสื้อผ้าของเธอแดงฉาน ศพกองกันอยู่ที่ใต้เท้าของเธอ
ช่วงก่อนหน้านี้ เธอยังเคยไปเยือนนรก ระหว่างเข้าใกล้ความตาย ผู้ชายสูงใหญ่คนหนึ่งกลับดึงเธอออกมาจากนรกด้วยมือของตนเอง
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป บนโลกจึงขาดนักฆ่าที่ชื่อนายหญิงแก๊งมืดไปคนหนึ่ง เพิ่มผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ที่ชื่อเฟิ่งหวงคนหนึ่งเข้ามา
เธอโบกมือเบาๆ ให้หยุดเสียงตะโกนลง
เธอยิ้มนิ่งๆ ไปยังนักฆ่าทุกคน ส่ายหน้าเบาๆ “ขอบคุณพวกนายที่มากัน เพียงแต่ฉันไม่ใช่นายหญิงแก๊งมืดแล้ว ฉันคือเฟิ่งหวง”
“เฟิ่งหวงที่นิพพานเก้ารอบ และฟื้นขึ้นมามีชีวิตใหม่”