วันต่อมา ถังเฉาตื่นนอนแต่เช้า พบบางอย่างที่น่าแปลกใจ หลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้ตื่นเช้ายิ่งกว่า จึงถามไปแบบอดแปลกใจไม่ได้ “ทำไมตื่นเช้าขนาดนี้กัน?”
บนหน้าหลินชิงเสว่ไม่มีรอยยิ้มใดๆ “เสี่ยวลี้นอนแปลกที่ เลยตื่นมาเช้ามาก ฉันก็เหมือนกัน”
ในใจถังเฉาสั่นไหวครู่หนึ่ง ไม่ได้พูดอะไรต่อ งานเลี้ยงของค่ำคืนวันนี้ คนที่ไม่ดีใจที่สุด คงเป็นหลินชิงเสว่แล้วกระมัง
ไม่ง่ายที่ตัดสินใจมาคืนดีกับครอบครัว พอมาถึงเยี่ยนจิง กลับถูกครอบครัวปฏิบัติเช่นนี้ ทั้งยังบังคับให้เธอแต่งงานใหม่ ทำให้เธอไม่มีความหวังใดหลงเหลือ โดยเฉพาะในคืนนี้ผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ด้วย ยิ่งทำให้อารมณ์สนุกของเธอจืดชืดลง
“ผมพาพวกคุณไปเล่นสวนสนุกที่เยี่ยนจิงแล้วกัน?”
ทันใดนั้น ถังเฉาเอ่ยปากบอก
หลินชิงเสว่หน้าตาดูตกใจเต็มที่ทันที ระหว่างที่กำลังลังเล ถังเสี่ยวลี้เข้ามากอด ตื่นเต้นจนหัวใจพองโต
“แม่คะ หนูอยากไปสวนสนุก!”
หลินชิงเสว่เงียบงันอยู่สักพักหนึ่ง สายตาที่มองทางถังเฉาเปลี่ยนไปอ่อนโยนมากกว่าเดิม
พูดออกมาจากใจว่า “ถังเฉา ขอบคุณนะ!”
เธอพบเข้าทันใด เดิมทีในใจที่เหมือนสภาพที่ไร้ชีวิตชีวา แวบหนึ่งเกิดแสงสว่างนิดๆ ขึ้นแล้ว
ตั้งแต่รู้จักถังเฉามาจนถึงตอนนี้ เขาดูแลอารมณ์ของตนเองอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด ไม่ว่าอารมณ์เล็กน้อยอะไร ล้วนไม่เคยรอดพ้นไปจากสายตาของเขา
ถังเฉาหัวเราะแบบไม่สนใจ “ผมเคยบอกแล้วไง ไม่ว่าเรื่องใด ผมจะเผชิญหน้ากับคุณ”
“ฉันก็อยากไป—-”
หลินจ้าวหยูนหูไว พอได้ยินว่าจะไปสวนสนุก จึงวิ่งเข้ามาอย่างว่องไว
ทว่ากลับถูกลั่วเยนอวิ๋นผลักศีรษะเข้าให้หน่อย “คนอื่นเขาจะไปเดตกันสองคน เธอเป็นก้างขวางคอไปวุ่นวายอะไรด้วย”
“……”
หลินจ้าวหยูนจับหน้าผากไว้ หน้าตาไม่พอใจเต็มที่ “หนูก็อยากไปด้วยนี่”
ลั่วเยนอวิ๋นสนุกแล้ว “ได้สิ น้าไปเป็นเพื่อนเธอเอง”
หลินจ้าวหยูนรีบทำหน้าขมขื่นทันที “งั้นหนูรออยู่ที่บ้านดีกว่า”
“เธอหมายความว่ายังไง? ฉันหน้าตาออกจะสดสวย ยังกล้ามารังเกียจฉันเหรอ?”
ชั่วขณะนั้นลั่วเยนอวิ๋นโมโหยกใหญ่ วิ่งตามหลินจ้าวหยูนไปทั่วห้อง
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ถังเฉาพาหลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้ออกเดินทางแล้ว
ความคิดของเขาธรรมดามาก ในเมื่องานเลี้ยงจัดตอนกลางคืน ช่วงกลางวันเที่ยวให้พอแล้วถึงค่อยไป
เมื่อมาถึงสวนสนุก ถังเสี่ยวลี้เหมือนม้าป่าที่หลุดบังเหียน วิ่งรวดเร็ว หลินชิงเสว่ยังไม่วางใจ มองรายการเครื่องเล่นมากขนาดนี้แล้วส่ายหน้า “ถังเฉา คุณไปเป็นเพื่อนเสี่ยวลี้เถอะ”
แต่ทว่าเพิ่งพูดจบ กลับถูกถังเฉาอุ้มประคองขึ้น
หลินชิงเสว่ร้องตกใจในชั่วขณะนั้น “อ๊ะ! ถังเฉา คุณทำอะไร?”
“เคยได้ยินคำพูดหนึ่งหรือเปล่า ตอนที่ทุกข์ใจ ก็ร้องออกมาดังๆ แบบนี้อารมณ์แย่ๆ ทั้งหมดก็จะออกไปไกลคุณแล้ว”
บนหน้าถังเฉามีรอยยิ้มที่จริงใจ อุ้มเธอไว้เดินไปพลางพูดขึ้น
มองใบหน้าด้านข้างของถังเฉา ชั่วขณะนั้นหลินชิงเสว่ไม่พูดอะไร และไม่ดิ้นรนด้วย ปล่อยให้ถังเฉาอุ้มไว้
ภายใต้การชี้นำของถังเฉา หลินชิงเสว่นั่งอยู่บนเรือไวกิ้งลำหนึ่ง
พอเห็นชื่อก็นึกไปถึงความหมายของมัน ตอนแรกเพียงแค่แกว่งเบาๆ แต่ว่ารัศมีในการเคลื่อนไหวนับวันยิ่งใหญ่ สุดท้ายเป็นระดับเส้นตรงดิ่ง
ผู้เล่นโดยรอบส่งเสียงร้องดังกันไม่หยุด มีเพียงหลินชิงเสว่คนเดียวจับมือของถังเฉาไว้แน่น ตกใจจนสีหน้าซีดเผือด
ถังเฉากลับมองเธออยู่ “ทำเหมือนผม ร้องออกมา”
พูดจบ ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
“ที่รัก ผมรักคุณ!”
หลินชิงเสว่สีหน้าเปลี่ยนไปมากทันใด หน้าแดงระเรื่อเต็มไปหมด “คุณพูดมั่วอะไรเนี่ย?”
“ถึงตาคุณแล้ว”
ตะโกนจบ ถังเฉากะพริบตาให้เธอ
หลินชิงเสว่ถึงเข้าใจว่าเขากำลังทำตัวอย่างให้ตนเองดู อ้าปากเล็กน้อย ผ่านไปตั้งนานกลับไม่ได้ตะโกนออกมา
ครืน—-
ในเวลานี้ เรือไวกิ้งกวัดแกว่งแรงขึ้นมา
หลินชิงเสว่ไม่ทันระวัง ร้องตกใจทีหนึ่ง “อ๊าย—-”
ร้องจบ เธอเองก็ตะลึงไปสักครู่เช่นกัน
ถังเฉามองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ถังเสี่ยวลี้ก็หัวเราะคิกคักทันที
หลินชิงเสว่ถลึงตาใส่พวกเขาอย่างแรงทีหนึ่ง แต่พอร้องออกมาก็ทำให้สบายใจไปมากอย่างเห็นได้ชัด
ตามมาด้วยพวกเขาไปเล่นรถไฟเหาะ ม้าหมุน และรายการอื่นๆ หลินชิงเสว่ที่หน้าตาเคร่งตึงมาตลอด จึงผ่อนคลายตามลงมา
เล่นรายการของเล่นทั้งหมดจบ ฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว
“พวกเรากลับไปกันเถอะ” ถังเฉาพูดขึ้น
“อืม”
หลินชิงเสว่จูงมือถังเสี่ยวลี้ พยักหน้าแบบเหมือนมีอะไรค้างคา ทันใดนั้นตะโกนเรียก “ถังเฉา”
ถังเฉาหันหน้ามาโดยจิตใต้สำนึก กลับพบว่ามีภาพคนเข้ามาอย่างฉับไว จูบบนแก้มเขาไปทีหนึ่ง
ชั่วขณะนั้นดวงตาถังเฉาเบิกโต มองหลินชิงเสว่อย่างงุนงง
“ตาโง่ ไปเถอะ”
หลินชิงเสว่ยากจะหัวเราะ อุ้มถังเสี่ยวลี้เดินออกจากสวนสนุก
“มาแล้ว……”
ถังเฉาลูบบริเวณที่ถูกจูบ อึ้งอยู่ตั้งนาน ถึงหัวเราะอย่างเข้าใจความหมายแฝง
ยิ่งคนเราเสียใจกับเรื่องบนโลกที่ไร้จิตใจ เพียงแค่นับวันยิ่งเข้าใกล้เรื่องงดงามที่จริงใจต่อเธอมากขึ้น
ตามที่หลินจ้าวหยูนส่งตำแหน่งที่อยู่เข้ามา พวกเขาก็มาถึงคฤหาสน์หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ชานเมืองกันแล้ว
ปราสาทที่พวกเขาพักอยู่ก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะกล่าวว่าเป็นตระกูลหลวงในเยี่ยนตู แต่เนื่องจากเป็นเรือนหอตอนแต่งงานของหลินรั่วหวี ความรู้สึกอ่อนไหวเกินไป จึงค่อยๆ ถูกคนทอดทิ้ง
“พี่คะ!”
พอลงจากรถ หลินจ้าวหยูนเข้าไปต้อนรับอย่างตื่นเต้น
ด้านหลัง นอกจากหลินโป๋หลายที่เจอเมื่อวาน ยังมีผู้ชายผู้หญิงอีกหลายคน
ผู้ชายอายุประมาณยี่สิบห้าถึงสามสิบ ผู้หญิงอายุยี่สามยี่สิบสี่ปี แต่ละคนสวมแว่นตากรอบทอง แต่งตัวไม่ธรรมดา ทั้งหมดล้วนเป็นพี่น้องของหลินชิงเสว่
เวลานี้ สายตาของพวกเขาล้วนรวมไปอยู่บนตัวของถังเฉาหลินชิงเสว่สามคนพ่อแม่ลูก คาดไม่ถึงไม่มีสักคนเข้าไปทักทายก่อน
ยังเป็นหลินชิงเสว่ที่เข้าไปเอง หยิบของขวัญที่ซื้อมาเมื่อวานออกมา ยื่นให้แต่ละคน
“จื่ออิน เสี่ยวหลิง พี่หมิงหู่ ไม่เจอกันนานเลย นี่คือของที่ฉันซื้อให้ทุกคน”
“ไม่เจอกันนานเลยนะ”
หลินจื่ออิน หลินหลิง หลินหมิงหู่ คนอื่นๆ ยิ้มแบบขอไปที รับของขวัญที่หลินชิงเสว่ส่งมาให้ ไม่มีความหมายขอบคุณสักนิด
ถังเฉามองอยู่ในสายตา รู้สึกไม่คุ้มค่าแทนหลินชิงเสว่
หลายปีก่อนหลินชิงเสว่ออกไปจากบ้าน คนที่ดีใจสุดก็คือพวกเขา ห้าปีก่อนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก พวกเขาจึงอยากให้หลินชิงเสว่แท้งลูกตายไปใจแทบขาด
“ฉันขอแนะนำให้พวกเธอรู้จักสักหน่อย นี่คือสามีของฉัน—-”
แต่หลินชิงเสว่ไม่ได้สังเกตถึงทุกอย่างนี้ กำลังอยากแนะนำถังเฉาให้พวกเขารู้จัก
หลินหมิงหู่กลับหัวเราะนิ่งๆ พูดจาแบบยิ้มเจ้าเล่ห์ “ไม่ต้องหรอก บอกไปพวกฉันก็จำไม่ได้”
พูดจบ มองหน้ากันและกันกับทุกคนด้านหลังแวบหนึ่ง หัวเราะฮาๆ เสียงดัง
สายตาหลินชิงเสว่อึ้งค้าง จากนั้นโกรธจนตัวสั่นเทาไปหมด “พวกเธอหมายความว่าอะไร!”
คำพูดนี้กำลังบอกอย่างแจ่มแจ้งว่าสถานะของถังเฉาต่ำต้อยเหลือเกิน ไม่คู่ควรให้พวกเขาจดจำ
“หมายความว่าอะไร? ชิงเสว่ คำพูดนี้น่าจะเป็นพวกเราถามเธอถึงจะถูกนะ?”
หลินหมิงหู่มองถังเฉาแวบหนึ่ง พูดกับหลินชิงเสว่ว่า “เจ้าหมอนี่คือไอ้สารเลวที่ทำเธอท้องโตเมื่อห้าปีก่อน เธอไม่เอาออกก็ช่างไป แต่ยังคลอดออกมา และยังแต่งงานกับมันอีก เธอคิดว่ามันสามารถเข้ามาตระกูลใหญ่นี้ได้เหรอ?”
ใบหน้าหลินชิงเสว่หนาวเหน็บ เบ้าตากลับแดงก่ำ เรื่องที่เธอกังวลเกิดขึ้นแล้ว
“ฉันไม่สนใจรู้ว่านายเป็นใคร แต่ถ้านายรักชิงเสว่จริง ก็ไปจากเธอเถอะ เธอเป็นเจ้าหญิงของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ไม่ใช่คนที่นายมาอาจเอื้อมได้!”
หลินหมิงหู่มองทางถังเฉาอีกครั้ง พูดจาด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ
“ก็จริง พี่คะ ทางตระกูลจัดหาคู่ครองในการแต่งงานให้พี่เรียบร้อยแล้ว กำลังพูดคุยกับคุณอาหมิงจวินอยู่ข้างในบ้านอยู่แหละ ยังไม่รีบเข้าไปดูอีก?”
และมีผู้หญิงสูงเพรียวแต่งหน้าหนาคนหนึ่งยิ้มกริ่มพูดกับหลินชิงเสว่ไป ก็คือน้องสาวคนหนึ่งของหลินชิงเสว่ หลินจื่ออิน
สีหน้าหลินชิงเสว่ดูแย่ขึ้นมาถึงขีดสุด ในสายตาถังเฉามีแรงอาฆาตแวบผ่าน
ป้าบ—-
แต่ทว่าวินาทีต่อมา บนหน้าหลินจื่ออินถูกตบไปทีหนึ่ง
“หุบปากไปเลยนะ พี่เขยฉันแกร่งกว่าพวกเธอเป็นหมื่นเท่า!”
หลินจ้าวหยูนทำหน้าเย็นชา กวาดสายตามองทุกคน “ใครว่าร้ายพี่เขยฉันอีกสักคำเดียว มีจุดจบแบบหล่อนแน่!”
เห็นหลินจ้าวหยูนเอาตนมาเป็นไก่แบบเชือดไก่ให้ลิงดู หลินจื่ออินหน้าตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ทว่ากลับไม่กล้ากำเริบเสิบสาน
หลินหมิงหู่ หลินหลิงและคนอื่นๆ ไม่กล้าพูดอะไรเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ที่สาวงามอันดับหนึ่งยังคงอยู่ หลินชิงเสว่เป็นคนรวยอันดับหนึ่งในตอนนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้สาวงามอันดับหนึ่งไปแล้ว หลินชิงเสว่เสื่อมถอยลง คนที่เข้ามาแทนที่ คือลูกสาวคนเล็กของหลินรั่วหวี หลินจ้าวหยูน
“จ้าวหยูน ทำไมถึงตบคนอื่น!”
ในเวลานี้ ในบ้านกลับมีเสียงผู้หญิงที่โกรธเคืองลอยมา
หลินจ้าวหยูนสีหน้าเปลี่ยนกะทันหัน อย่างกับหนูเห็นแมวเข้า หลบอยู่ด้านหลังถังเฉา
ประตูใหญ่เปิดออก หญิงมีอายุสง่างามที่ถังเฉาแปลกหน้า แต่กลับมีกลิ่นอายความเป็นผู้หญิงมากคนหนึ่งค่อยๆ เดินออกมาแล้ว