เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บางทีเนื่องจากที่ปวดท้องอยู่ สายตาที่เว่ยหมิงจวินมองไปทางถังขยะ คาดไม่ถึงจะดิ้นรนอย่างยิ่ง
มีความลำบากใจ และมี……ความปรารถนา
ยาแก้ก็อยู่ด้านใน ขอเพียงหล่อนไปคุ้ยหาสักหน่อย ก็สามารถหาเจอ
แต่ในขณะเดียวกัน พอไปคุ้ยหา หล่อนคงต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่มีทางไปสู้หน้าใครอีกตลอดกาล
“เจ้าแม่ตระกูลครับ อย่าคุ้ยนะครับ ไม่อย่างนั้นศักดิ์ศรีของตระกูลคงไม่เหลือแน่!”
สีหน้าหลินโป๋หลายเปลี่ยนฉับพลัน ตะโกนไปยังเว่ยหมิงจวิน
หลินหมิงหู่ หลินจื่ออินและคนอื่นก็ล้วนมองหล่อนด้วยท่าทางประหม่าเต็มที่
เห็นแบบนี้ ในจิตใจของหลินชิงเสว่อดมีอารมณ์เศร้าสลดอย่างหนึ่งผุดขึ้นไม่ได้
เธอรู้สึกเศร้าเสียใจต่อตระกูลของเธอ รู้สึกเศร้าใจต่อญาติพี่น้องที่เห็นแก่หน้าตายิ่งกว่าทุกอย่างกลุ่มนี้
เมื่อศักดิ์ศรีมาอยู่ตรงหน้า ไม่มีอะไรสำคัญเทียบเท่าได้ รวมทั้งชีวิต
เธอนึกถึงลูกสาวของตนเอง ถังเสี่ยวลี้
ห้าปีก่อน เธอแบกท้องโต ตั้งครรภ์มาสิบเดือน กลับเจออุบัติเหตุรถชนหลายครั้ง หลังเกิดเรื่องถึงได้รู้ว่านี่คือตระกูลของเธอเป็นคนทำ อยากให้เธอแท้งลูก
ในสายตาของคนกลุ่มนี้ ลูกสาวของตนเองคือลูกนอกสมรส
เหมือนสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของหลินชิงเสว่ ถังเฉากุมมือของเธอไว้แน่น ในสายตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่
หลินชิงเสว่ถึงสงบลงมาได้ แต่มองเว่ยหมิงจวินที่ปวดจนเป็นตะคริวไปทั้งตัว เธอทนไม่ไหวอยู่บ้าง “พวกเราทำเกินเลยไปหรือเปล่า……”
ถึงแม้เป็นเพราะสาเหตุของมารดาทำให้ไม่ชอบเว่ยหมิงจวิน แต่ก็ไม่ถึงขั้นอยากทำให้หล่อนเป็นอะไรถึงขั้นนี้
หลินชิงเสว่เกลียดใครสักคนยังธรรมดามาก นั่นคือเพิกเฉย ไม่เอามาใส่ใจ
ถังเฉากลับส่ายหน้า ทำหน้าเย็นชา “ตอนที่คุณตั้งท้องอยู่ หล่อนทำร้ายคุณ พยายามทำให้คุณแท้ง นั่นไม่เกินไปเหรอ?”
หลินชิงเสว่สั่นไปทั้งตัวทันที จากนั้นกัดริมฝีปากแน่น
ช่วงเวลาที่ตั้งท้องถังเสี่ยวลี้อยู่นั้น เป็นช่วงเวลาที่เธอตกใจหวาดกลัวมากที่สุด ไม่เพียงต้องอดทนต่อความเจ็บปวดของการตั้งครรภ์ ยังต้องระวังอันตรายที่เกิดขึ้นมากะทันหันอีก
ถ้าไม่ใช่ว่าเธอระมัดระวังมากพอ ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เธอไม่มีทางจินตนาการได้เลย
“อยู่ในยุคสมัยที่คนดีสูญพันธุ์ และคนเลวเที่ยวใช้อำนาจบาตรใหญ่ เมตตากับคนเลว เท่ากับว่าทรมานตัวเอง มีเพียงตีพวกเขาให้เจ็บ ตีให้หลาบจำ ถึงจะรู้จักหวาดกลัว!”
ถังเฉายืนตัวตรงดิ่ง สายตาลุ่มลึก น้ำเสียงเย็นเฉียบ
คำพูดแบบเดียวกันนี้ เขาเคยพูดกับหลินจ้าวหยูนแล้ว
หลินชิงเสว่จมสู่การครุ่นคิด ท้ายที่สุดตัดสินใจเด็ดขาด จากนั้นไม่พูดอะไร
ท่ามกลางเสียงเรียกของหลินโป๋หลาย เว่ยหมิงจวินได้รักษาสติให้แจ่มแจ้งไว้ระดับหนึ่ง
พอหันหน้ามองไป กลับพบว่าหลินรั่วหวีก็มองหล่อนแบบนิ่งเฉย
ถึงแม้ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาก็เตือนสติหล่อนแล้ว เธอเป็นเจ้าแม่ตระกูลของตระกูลหลวง
เวลานี้ฉินผู่หยางลุกออกมา ยิ้มให้กับทุกคน “ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ผู่หยางไม่รบกวนทุกท่านแล้ว”
พูดจบ จับไม้เท้า หมุนตัวเดินไป
เขาชัดเจนดีมาก ที่นี่คือตระกูลหลิน เรื่องวุ่นวายมากขนาดนี้ถูกเขามองเห็นเข้าหมด ต้องหาเรื่องเดือดร้อนมาไม่มีที่สิ้นสุด ยังไม่สู้ทำเป็นว่าไม่เห็นอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ออกไปก่อนที่จะเกิดเรื่องราวขึ้นมาดีกว่า
เพียงแต่ตอนที่เฉียดผ่านไหล่กับถังเฉา ร่างกายเขาชะงักครู่หนึ่ง มองอย่างเย็นชาทีหนึ่ง แล้วถึงจากไป
ตอนแรกเพียงอาศัยความมุ่งมั่น เว่ยหมิงจวินยังอดกลั้นได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ หล่อนทนไม่ไหวแล้ว
“พวกเธอ ใครก็ได้ช่วยเอาให้ฉันที……”
หล่อนมองทุกคนในที่เกิดเหตุ พูดด้วยเสียงสั่นเครือ
ได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนต่างไม่ได้พูดจาอะไร หันหน้าหนีไปทางอื่น
พวกเขาล้วนเป็นคนของตระกูลหลวง จะไปคุ้ยถังขยะเองได้อย่างไรกัน?
เว่ยหมิงจวินมองเห็นอยู่ในสายตา ชั่วขณะนั้นในสายตามีความดุร้ายแวบผ่าน
ในที่สุดระหว่างความเจ็บปวดกับศักดิ์ศรี หล่อนยังเลือกอย่างแรกแล้ว
หล่อนเดินไปยังถังขยะช้าๆ ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ทันที
“เจ้าแม่ตระกูล ไม่ได้นะ!”
“รีบหยุดนะ!”
“จบเห่แล้ว ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ตระกูลหลินของพวกเราตกเป็นตัวตลกของทั้งเมืองแน่!”
เสียงตะโกนดังรอบทิศ กลับไม่มีใครสักคนเข้าไปห้ามปราม สายตาของหลินรั่วหวี แวบเดียวเปลี่ยนไปอึมครึมไร้ที่เปรียบเช่นกัน
สำหรับเสียงห้ามรอบด้านที่ทำเป็นไม่ได้ยิน เว่ยหมิงจวินมาถึงด้านข้างถังขยะ ไม่สนใจกลิ่นกับข้าวเหลือทิ้ง เทถังขยะคุ้ยหาขึ้นมา
ทั้งกระบวนการ สีหน้าหล่อนไม่ได้รับความเป็นธรรมที่สุด น้ำตายังคลออยู่ในเบ้า ทว่ากลับกลั้นไม่ให้ไหลลงมา
“……”
ทันใดนั้น ทั้งห้องรับแขกเงียบเป็นเป่าสาก ทุกคนล้วนมองผู้หญิงที่คุ้ยถังขยะคนนี้อย่างตกตะลึงพรึงเพริด
เวลานี้ ถึงมีคนนึกขึ้นได้ ยี่สิบปีก่อน หล่อนเป็นเพียงนกกระจอกที่บินขึ้นกิ่งไม้
ไม่มีหลินรั่วหวี หล่อนก็ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น
ทันใดนั้น เว่ยหมิงจวินเหมือนหาอะไรเจอแล้ว ครู่หนึ่งสีหน้าดูดีใจ
จากนั้น ภายใต้ความตกตะลึงของผู้คน หล่อนประคองยาเม็ดหนึ่งเหมือนประคองของล้ำค่าเอาไว้ลุกขึ้นมาแล้ว
คือยาที่ก่อนหน้านี้ถังเฉามอบให้
เห็นเพียงหล่อนมือสั่นเทา นำยาเม็ดนี้ใส่เข้าในปากไป และเทน้ำแก้วหนึ่ง ดื่มตามลงไปอย่างเร่งรีบ
เมื่อยาเข้าสู่ท้อง ความรู้สึกปวดท้องลดลงไปมากจริงด้วย เว่ยหมิงจวินโล่งอกไปเหมือนยกภูเขาออกจากอกไป
ทันใดนั้น หล่อนรู้สึกถึงสายตานับไม่ถ้วนที่จ้องหล่อนอยู่ เว่ยหมิงจวินหมุนตัวโดยจิตใต้สำนึก ตามมาด้วยสีหน้าซีดขาวลง
“รั่วหวี คุณฟังฉันอธิบาย—-”
จิตใจหล่อนสั่นเทาอย่างรุนแรง อยากจะอธิบายอะไรกับหลินรั่วหวีทันที
แต่ทว่าหลินรั่วหวีเพียงยกมือทำท่าทางห้ามเอาไว้ เว่ยหมิงจวินไม่กล้าพูดต่อไป ลูกตาเบิกโต สั่นเทาทั้งตัวรุนแรง
“ขึ้นไปเถอะ”
เขาไม่ได้โกรธ ยิ่งไม่ได้ตำหนิเว่ยหมิงจวินด้วย เพียงแค่พูดสามคำออกมาแล้ว
แต่ทว่าสามคำนี้ เพียงพอที่จะทำให้เว่ยหมิงจวินหมดหวังได้เลย
“รั่วหวี—-”
น้ำเสียงของหล่อนมีการอ้อนวอน สายตาหมดหวังอย่างยิ่ง
ทว่าตั้งแต่แรกจนจบหลินรั่วหวีไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองหล่อนอย่างนิ่งสงบ
“คือ……”
ในที่สุดเว่ยหมิงจวินหุบปากลงแล้ว ไม่กล้าขัดขืนความประสงค์ของหลินรั่วหวี เดินขึ้นไปบนบ้านแบบจิตใจล่องลอย
หลินโป๋หลาย หลินหมิงหู่ หลินจื่ออินเห็นสถานการณ์ไม่ดี ต่างบอกลาออกไปกัน
มีเพียงสายตาของถังเฉา หลินชิงเสว่ ลั่วเยนอวิ๋นมองภาพด้านหลังของเว่ยหมิงจวินอยู่ตลอด จนกระทั่งหล่อนลับหายไป
พวกเขาเจอเรื่องราวที่สนุกเรื่องหนึ่งเข้าแล้ว
เว่ยหมิงจวินยังคงแต่งตัวสวยงาม และอลังการ แต่ไม่มีใครรู้สึกว่าสถานะหล่อนสูงศักดิ์อีกต่อไป กลับกัน ยังธรรมดาจนไม่รู้จะธรรมดาไปถึงไหนแล้ว
“มีบางคน ใส่ชุดใหม่ของพระราชา ก็ยากจะเป็นที่สนใจของผู้คน มีบางคน ถึงแม้แต่งตัวธรรมดา ก็ยังคงสูงส่งเต็มที่”
ผ่านไปนาน ลั่วเยนอวิ๋นรู้สึกทอดถอนใจ เดาได้ไม่ยาก วันข้างหน้า เว่ยหมิงจวินคงอยู่ไม่ง่ายแล้ว
ตึก! ตึก! ตึก!
ทันใดนั้น หลินชิงเสว่ก้าวมาด้านหน้าของหลินรั่วหวี อารมณ์ดูเหมือนโกรธเคืองอยู่บ้าง “ทำไมพ่อต้องทำกับหล่อนขนาดนั้น?”
บนหน้าหลินรั่วหวียังคงมีรอยยิ้มที่อบอุ่นอยู่ ถามกลับไป “ลูกกำลังโมโหแทนหล่อน?”
หลินชิงเสว่ชะงัก ไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแค่พูดว่า “หล่อนเป็นภรรยาของพ่อ!”
ถังเฉามองอยู่ในสายตา ไม่ได้ขัดขวาง
ดูเหมือนหลินชิงเสว่จะออกหน้าช่วยเหลือผู้โดนรังแกแทนเว่ยหมิงจวิน ในความเป็นจริง กลับเป็นเพื่อนในฐานะภรรยาเหมือนกัน จึงรู้สึกมีอารมณ์ร่วมเท่านั้น
หลินรั่วหวีจมสู่ในความคิดอยู่นาน รอยยิ้มบนหน้าจางลงบ้าง
“พ่อมีภรรยาเพียงคนเดียว”
พูดคำพูดประโยคนี้จบ ก็เดินผ่านด้านข้างหลินชิงเสว่ไป
ลั่วเยนอวิ๋นที่อยู่ด้านหลังร่างกายสั่นเทิ้ม มองภาพด้านหลังของหลินรั่วหวีแบบไม่อยากเชื่อ บ่นพึมพำ “เขายังรักพี่สาวฉันอยู่…….”