ถังเฉาหูไว ย่อมได้ยินคำพูดประโยคนี้เป็นธรรมดา ตอนนี้สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
พ่อมีภรรยาเพียงคนเดียว
คำพูดนี้ ฟังทีแรกดูไม่มีอะไร แต่ว่าพอฟังคำพูดนี้ให้ละเอียด กลับคุ้มค่าให้พิจารณาใคร่ครวญ
ถ้าเป็นเว่ยหมิงจวินแล้วล่ะก็ หลินรั่วหวีคงไม่อาจไร้จิตใจขนาดนี้ได้ อย่างนั้นมีเพียงคนเดียว
มารดาของหลินชิงเสว่ อดีตสาวงามอันดับหนึ่งของเยี่ยนจิง
เพียงแค่ที่ถังเฉาไม่เข้าใจคือ ในเมื่อถึงตอนนี้คุณพ่อตายังรักมารดาของหลินชิงเสว่อยู่ ทำไมถึงยินยอมหย่าขาดกันล่ะ?
และทำไมต้องแต่งงานกับมือที่สามคนหนึ่งด้วย?
ลั่วเยนอวิ๋นก็เหมือนสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ถังเฉาคิดอยู่ในใจ พูดขึ้นเสียงเบาๆ “ถึงตอนนี้ฉันก็ไม่ชัดเจนว่าในใจเขากำลังคิดยังไง ผู้ชายแบบพวกเธอ ไม่มีดีๆ สักคน”
ชั่วขณะนั้นถังเฉาหัวเราะแบบขมขื่น ไม่พอใจที่พี่สาวตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ว่าไปสิ ทำไมยังเอาเขาไปเกี่ยวด้วย?
จากนั้นเขามองทางคุณพ่อตาที่ยืนตัวตรงสูบบุหรี่อยู่ด้านนอกสวน
ร่างกายยังคงตรงดิ่งสูงใหญ่ เพียงแค่ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง กลับมีความโดดเดี่ยวที่แยกตัวออกจากโลกแบบหนึ่งเพิ่มเข้ามา
สำหรับพ่อตาคนหนึ่งแบบนี้ ถังเฉาจะเกลียดก็เกลียดไม่ลง
ลังเลอยู่ตั้งนาน เขายังเดินไปข้างกายของหลินรั่วหวีแล้ว แหงนหน้ามองพระจันทร์ด้วยกันกับเขา
“วันนี้พระจันทร์กลมจริงๆ เลย……” ถังเฉาพูดทอดถอนใจขึ้นมา
หลินรั่วหวีมองเขาแวบหนึ่ง สีหน้าเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร
ถังเฉาไม่ได้ถือสาเช่นกัน ยิ้มพูดต่อไป “คุณลุงครับ ขอบคุณที่ท่านไม่ได้แทรกแซงเรื่องระหว่างผมกับคุณป้านะครับ”
หลินรั่วหวีพ่นควันบุหรี่ออกมา พูดแบบนิ่งเฉย “ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อไม่ใช่เพราะฉันอยู่แล้ว”
“ผมรู้ครับ เหมือนกัน”
ถังเฉาหัวเราะ เขาเข้าใจแล้ว หลินรั่วหวีไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น เพียงมองออกว่าภรรยาของเขาอยากใช้ถังเฉามาทำให้ลูกสาวคนโตของเขาอัปยศอดสู มองดูอย่างเย็นชาอยู่ด้านข้างย่อมเป็นสิ่งแน่นอน เพียงแต่ว่าเป็นเพราะหลินชิงเสว่
หลินรั่วหวีส่งเสียงหัวเราะเยาะ “คืนนี้การตอบโต้ของนายเรียกได้ว่าชาญฉลาดมาก แต่ยังคงไม่มีทางเปลี่ยนภาพจำของนายในใจฉันได้ อย่างมาก ก็เป็นวิธีการเฉียบแหลมนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
ถังเฉาไม่ได้ใส่ใจ มองพระจันทร์อยู่พลางบอกว่า “อนาคตข้างหน้าอีกยาวนาน ต้องมีสักวัน คุณลุงจะต้องยอมรับผม”
รอยยิ้มเยาะบนหน้าหลินรั่วหวียิ่งเข้มขึ้น “นายยังมีอนาคตอีกเหรอ?”
คำพูดประโยคนี้แฝงด้วยการข่มขู่ที่น่าสะพรึงกลัว ถังเฉากลับหัวเราะ ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย ยังชี้ไปยังดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นมาจากที่ไกลๆ ออกไปพูดว่า “เดี๋ยวพวกเราจะกลับไปจุดดอกไม้ไฟ คุณลุงจะไปด้วยกันไหมครับ?”
หลินรั่วหวีไม่ได้พูดอะไร มองดอกไม้ไฟที่อยู่ไม่ไกลนัก
“ไม่ไปก็ไม่เป็นไรครับ”
ถังเฉาหัวเราะแล้ว หมุนตัวจะเดินไป
ไม่นานนักก็เดินออกไปจากคฤหาสน์พร้อมกับหลินชิงเสว่ และลั่วเยนอวิ๋น
ในสายตาของหลินรั่วหวี ดอกไม้ไฟที่สีสันหลากหลายไกลออกไปค่อยๆ เปลี่ยนเป็นใบหน้างดงามที่มีความคล้ายหลินชิงเสว่อยู่มาก ในที่สุดเขาไม่เงียบเฉยอีก เรียกถังเฉาไว้
“รอก่อน ฉันจะไปด้วยกัน!”
ทั้งสามคนตกตะลึงนิดหน่อย จากนั้นถังเฉาก็เผยรอยยิ้มออกมา หลินชิงเสว่กลับทำหน้าตาไร้ความรู้สึก สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ ทว่ากลับไม่ได้พูดอะไร
“นั่งรถฉันไปเถอะ”
ไม่นานรถลีมูซีนที่กว้างขวางคันหนึ่งขับเข้ามาแล้ว จากนั้นขับไปทางปราสาท
ในขณะเดียวกัน คฤหาสน์ที่ชั้นสาม ผ้าม่านดึงเปิด
เว่ยหมิงจวินทำหน้าเย็นชา จ้องมองรถลีมูซีนขับไปไกล ท่าทางแค้นเคืองอย่างยิ่ง
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง รถลีมูซีนค่อยๆ ขับเข้ามาในปราสาทที่ใหญ่โต
หลินจ้าวหยูนกำลังพาถังเสี่ยวลี้แยกชนิดของดอกไม้สดอยู่ มองเห็นถังเฉาพวกเขาลงมาจากรถกัน จึงรีบกวักมือทันที
“พี่ พี่เขย คุณน้า ยังมีแดดดี้—-”
โดยเฉพาะเสียงเรียกท้ายสุดยิ่งดูตกใจ หล่อนคิดไม่ถึงว่าแดดดี้ที่เย็นชาจะมาจุดดอกไม้ไฟด้วย
“บางทีก็อยากผ่อนคลายหน่อย”
บนหน้าของหลินรั่วหวีสงบและเด็ดเดี่ยว ยากจะมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา
“พวกคุณจุดกันเถอะ”
สีหน้าหลินชิงเสว่ต่อต้านอยู่บ้าง ไม่พอใจมากที่หลินรั่วหวีอยู่ด้วย
หลินรั่วหวีหน้าตาเต็มไปด้วยความเสียใจทันที มีความคิดอยากพูดอะไร แต่ก็ไม่เอ่ยปากสักที
ถังเฉามองอยู่ในสายตา พูดเสียงเบา “เทศกาลไหว้พระจันทร์ปีหนึ่งมีแค่ครั้งเดียว ไปจุดหน่อยเถอะ”
หลินชิงเสว่เข้าใจความหมายของถังเฉาที่ไหนกัน เงียบเชียบอยู่พักหนึ่ง ชายตามองหลินรั่วหวี ยังฝืนใจรับปากไปด้วย “งั้นก็ได้”
หลินรั่วหวีจิตใจสั่นไหวทันที สีหน้าดูตื่นเต้นพอสมควร
ขณะเดียวกัน สายตาที่มองทางถังเฉาไม่ได้เต็มไปด้วยเจตนาเป็นศัตรูขนาดนั้นอีก แต่พยักหน้าไปยังเขา ถือว่าแสดงการขอบคุณ
ผ่านมาเนิ่นนาน ความสัมพันธ์ของเขากับลูกสาวคนโตไม่มีทางกลับมาคืนดีหลังแตกร้าวได้ ถังเฉาชักนำอยู่ตรงกลาง ถึงทำให้เขามีโอกาสได้จุดดอกไม้ไฟด้วยกันกับลูกสาวคนโต
ถึงแม้ไม่ชอบถังเฉา ก็คงต้องแสดงความรู้สึกขอบคุณด้วย
หลินจ้าวหยูนส่งดอกไม้ไฟให้แต่ละคนไปอันหนึ่ง ในมือของหลินรั่วหวีก็มีอันหนึ่ง
ถังเฉาใช้ไฟแช็กจุดไฟให้ในมือของหลินชิงเสว่ และจุดให้ตนเองเช่นกัน ไม่นานดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นฟ้า เป็นประกายท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด
ปุงปัง—-
ช่อหนึ่งพุ่งขึ้น ช่อหนึ่งร่วงลง สาดส่องใบหน้าของหลินชิงเสว่ให้สว่างและมืดลงอยู่ไม่ขาดสาย
มองดอกไม้ไฟพวกนี้อยู่ หลินชิงเสว่ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงมา บนหน้าเผยรอยยิ้มขึ้นมา
“พวกคุณเล่นกันนะ”
ถังเฉาจุดอันหนึ่งเสร็จ ก็ไม่จุดแล้ว มาที่ด้านหน้าของหลินรั่วหวี
หลินรั่วหวีก็เป็นเช่นกัน ผู้ชายสองคนต่างมองไปยังทิศทางเดียวกัน
หลินชิงเสว่
นับวันดอกไม้ไฟยิ่งมาก ภูเขาน้ำแข็งบนหน้าของเธอละลายลง รอยยิ้มดูสดใส
คือรอยยิ้มอันนี้ กลายเป็นสิ่งที่ผู้ชายทั้งสองคนปกป้องไว้ทั้งชีวิต
เพียงแต่ว่าวิธีการไม่เหมือนกัน
“ถ้านายสามารถทำให้ชิงเสว่ไม่เกลียดฉันอีกต่อไป ฉันจะยอมรับนาย”
ในความมืดมิด หลินรั่วหวีเอ่ยปากทันใด
ถังเฉามึนงง จากนั้นหัวเราะนิ่งๆ ไม่ได้พูดจา
จุดดอกไม้ไฟเสร็จ หลินรั่วหวีก็ออกไปจากที่นี่แบบไม่อาลัยอาวรณ์สักนิด หลินชิงเสว่จองตั๋วเครื่องบินวันพรุ่งนี้ตอนเก้าโมงไว้เรียบร้อย กำลังจะเข้าห้อง กลับพบว่าถังเฉายังคงยืนอยู่ที่เดิม
“ทำไมคุณถึงไม่เข้าไป?”
ถังเฉายิ้มๆ “คุณกล่อมเสี่ยวลี้นอนก่อนนะ ผมยังมีธุระนิดหน่อย”
พูดจบ ก็ก้าวใหญ่ๆ ออกไปจากประตูแล้ว
หน้าหลินชิงเสว่เผยความกังวลออกมา เพราะเธอพบว่าตอนที่พูดคำนี้ ในตาถังเฉามีแสงหนาวเหน็บแฉลบผ่าน
……
หลังออกมาจากตระกูลหลิน ฉินผู่หยางไม่ได้กลับมาที่ตระกูลฉิน แต่ว่าให้คนขับรถขับไปที่เขตชานเมืองที่ไม่ไกลนัก
ไร้แสงจันทร์ลมแรง ลมหนาวพัดไอเย็นมา
ฉินผู่หยางใช้ไม้เท้าพยุง มองโดยรอบที่ไร้ผู้คนด้วยสีหน้าอึมครึม ทันใดนั้นพูดว่า “ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ ยังไม่รีบออกมาอีก!”
ครืนๆ—-
ลมพัดอย่างไม่มีมูลเหตุ พัดเงาต้นไม้รอบด้านจนเสียงดังซู่ซ่า
ทันใดนั้นจากตรงกลางมีเสียงหัวเราะของเด็กน้อยที่กังวานเหมือนเสียงระฆังลอยมา
“คิๆ ดึกป่านนี้นายไม่อยู่ที่บ้าน มาหาฉันทำไม?”
ในดงต้นไม้ที่มืดดำมีภาพเงาเตี้ยๆ กระโดดปรากฏตัวขึ้นทันใด
ทำผมม้วนขึ้น ดวงตาโต ที่เท้าสวมรองเท้าปักลายดอกไม้สีแดงคู่หนึ่ง
นอกจากเสื้อคลุมสัตว์พิษห้าชนิดบนตัว บนคอยังห้อยสร้อยอายุยืนไว้
ถ้าถังเฉาอยู่ที่นี่ จะต้องตกใจแน่ เพราะเด็กผู้หญิงที่ส่วนสูงเพียงหนึ่งเมตรยี่สิบคนนี้ คือนักฆ่าที่ใช้หนอนพิษ หงโฝ
ฉินผู่หยางกลับไม่มีอารมณ์มาพูดเล่นกับเธอ สีหน้ายิ่งอึมครึมขึ้น “ภารกิจล้มเหลวแล้ว”
ได้ยินเข้า ใบหน้างดงามของหงโฝเปลี่ยนไปเคร่งขรึมทีละนิด “เป็นไปไม่ได้ ดอกริมฝีปากของฉันฆ่าคนได้แยบยล เป็นไปไม่ได้จะล้มเหลว!”