ความหลงตัวเองของหงโฝ ทำเอาสีหน้าของฉินผู่หยางยิ่งนิ่งเฉยกว่าเดิม
“ความจริงก็คือมันล้มเหลวแล้ว ดอกริมฝีปากของเธอ ตอนนี้มีคนหาเจอแล้วและถูกถอนรากถอนโคนแล้วด้วย!”
“อะไรนะ? ถอนรากถอนโคน!”
คำพูดของฉินผู่หยาง ทำให้สีหน้าของหงโฝเปลี่ยนไปทันที
ทำเพียงแค่มองอยู่อย่างนั้นนิ่งๆ แววตาของเธอเปลี่ยนเป็นมืดมัว แม้แต่น้ำเสียงก็แข็งขึ้นไม่น้อย “ดอกไม้ที่หาได้ยากเป็นสิบปีในดินแดนแห่ง ซีเจียงของฉัน กลับถูกถอนรากถอนโคน! ใครมันใจกล้าขนาดนี้?”
“ยังจะมีใครอีก ถังเฉานั่นแน่นอนอยู่แล้วสิ”
น้ำเสียงฉินผู่หยางเย็นเฉียบ ขณะที่พูดถึง ‘ถังเฉา’ ฟันของเขายังสั่นไหว
เห็นได้เลยว่าเขาเกลียดถังเฉามากขนาดไหน
“ถังเฉา!”
“อ๊าๆๆ โมโหที่สุด!”
หงโฝเองก็โกรธจนอยู่ไม่นิ่ง โมโหจนกระทืบเท้าไปสองที
แต่ฉินผู่หยางกลับมองหงโฝที่โมโหด้วยสายตาเย็นชา ความเชื่อมั่นที่มีต่อเธอเองก็หายไปจนหมด
“ในเมื่อล้มเหลว ถังเฉาไม่ถูกตระกูลหลินคาดโทษว่าเป็นผู้ร้าย การร่วมมือระหว่างเราก็จบเพียงเท่านี้”
เขาพูดกับหงโฝด้วยใบหน้านิ่งเฉย “เงินที่เหลือ และเรื่องที่ฉันตกลงกับเธอ ฉันจะไม่ทำมัน เธอรีบไปจากเมืองเยี่ยนจิงเถอะ!”
ซ่า…..
เมื่อประโยคนี้พูดออกมา หงโฝที่ยังอยู่ในความโมโหก็เงียบในทันที ท่าทางเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมในทันที “นายอยากจะผิดคำพูด?”
ฉินผู้หยางพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ภารกิจล้มเหลว เธอยังอยากจะได้เงินที่เหลือ? ฝันไปเถอะ!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น รังสีความอำมหิตในตัวของหงโฝก็ยิ่งเพิ่มขึ้น “นี่ไม่เหมือนกับที่คุยกันไว้ ก่อนหน้านี้นายพูดว่าเพียงแค่ฉันเอาดอกริมฝีปากออกมา ให้หญิงตระกูลหลินคนนั้นได้รับพิษก็พอแล้ว”
“ฉันไม่สน เงินที่เหลือที่ตกลงกับฉันไว้ และสร้างโรงเรียนที่ซีเจียง นายล้วนต้องทำตาม!”
“ไม่อย่างนั้น ฉันจะฆ่านาย!”
พูดถึงนี่ สีหน้าของหงโฝนั้นเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างถึงที่สุด
การเจรจาล้มเหลว สีหน้าของฉินผู่หยางเองก็ค่อยๆเย็นชาลง
เรื่องจะต้องเริ่มเล่าจากการที่พ่อลูกหลินอิ่นสัญญาว่าจะให้หลินชิงเสว่หย่ามาแต่งกับเขา แต่ไม่คิดเลยว่า จะจบลงเพราะการที่ถังเฉามาขัดขวางและหลินชิงเสว่พยายามฆ่าตัวตาย
ฉินผู่หยางเกลียดถังเฉามาก จึงพยายามที่จะฆ่า และในตอนนี้เองที่หงโฝเสนอตัวเข้ามา
ข่าวที่ถังเฉาเข้ามาในเมือง แพร่ไปทั่วเมืองหมิงจู หงโฝเองก็รู้ข่าวนี้ จึงได้เดินทางไกลมาร่วมมือกับฉินผู่หยาง
ดอกริมฝีปากหงโฝเป็นคนใส่ไว้ เป้าหมายก็เพื่อให้เว่ยหมิงจวินได้รับพิษและใส่ร้ายถังเฉา ใช้อำนาจของตระกูลหลินเพื่อฆ่าถังเฉา แต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกถังเฉาดูออก และภารกิจก็จบลงที่ความพ่ายแพ้
ฉินผู่หยางโมโหและไม่มีทางจ่ายเงินที่เหลือ และนี่ก็ทำให้หงโฝโมโห
ซ่าๆๆ……
สายตาหงโฝเย็นเฉียบ อำนาจในตัวพุ่งขึ้น งูไผ่สีเขียวตัวหนึ่ง คลานตามแขนของเธอขึ้นไปอยู่บนไหล่ และแฉกลิ้นงู มองฉินผู่หยางอย่างเย็นชา
แต่ว่า ฉินผู่หยางไม่ได้มีความกลัวสักนิด แต่กลับหัวเราะเยาะทีหนึ่ง “อยากจะฆ่าฉัน เธอเนี่ยนะ?”
เพิ่งพูดจบ คนขับรถที่รออยู่ในรถก็เดินลงมาอยู่ตรงหน้าของฉินผู่หยาง มองหน้าหงโฝด้วยความเย็นชา
ต่อหน้าคนขับรถคนนี้ หงโฝนั้นสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่ง
แต่ว่า เธอนั้นก็ยังไม่กลัวเหมือนเดิม ที่นี่คือป่าไม้ เป็นถิ่นของเธอ
และแล้ว ก่อนที่จะมีการปะทะกันเกิดขึ้น เสียงหัวเราะเบาๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ฉินผู่หยาง ฉันว่าแล้วว่านายเป็นคนทำ”
“ใคร?”
สีหน้าของฉินผู่หยางและหงโฝต่างก็เปลี่ยนไป และหันหลังไปมอง กลับเจอเข้ากับคนที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัว
ไฟข้างทางที่มืดสลัว ทำให้เงาของเขานั้นยืดยาวไม่มีที่สิ้นสุด
ถังเฉามองพวกเขาด้วยแววตานิ่งเฉย เหมือนกับกำลังมองคนตายสองคน
ด้านหลัง เฟิ่งหวงที่ผมสยายก็มองพวกเขาอย่างเย็นชาเช่นกัน
“ถังเฉา?!”
ทันใดนั้น ฉินผู่หยางและหงโฝต่างก็เหมือนกับว่าเจอเข้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง ต่างถอยหลังกันคนละก้าว
โดยเฉพาะหงโฝ เธอเคยถูกเฟิ่งหวงสั่งสอน ยังจำได้จนถึงทุกวันนี้
แต่ว่าความโกรธนั้นไม่ว่ายังไงก็กลืนไม่ลง จึงใช้ช่วงที่ถังเฉาเข้าเมือง เสี่ยงเข้าไปร่วมมือกับฉินผู่หยาง
ตอนนี้ไม่เพียงแต่ล้มเหลว ยังถูกถังเฉาจับได้ ทำเอาเธอตกเข้าไปอยู่ในความสิ้นหวัง
แต่ว่า เหมือนว่าความสนใจของถังเฉาไม่ได้อยู่ที่ตัวเธอ เพียงแค่กวาดมองทีเดียวก็เพ่งสายตามองไปที่ตัวฉินผู่หยาง
อยู่ๆใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มที่ทำเอาคนหวาดกลัวอย่างมากขึ้น
“ดูเหมือนว่าห้าปีก่อนที่หักขาข้างหนึ่งของนาย ยังไม่ทำให้นายหลาบจำ ต้องให้ขาหักทั้งสองข้างถึงจะรู้จักเจ็บงั้นหรอ?”
เมื่อประโยคนี้ออกมา ฉินผู่หยางเหมือนกับว่าถูกจี้ให้โมโห ดวงตาเบิกโต ยืดอกอย่างแรง
มองดูสีหน้าของเขา หงโฝที่อยู่ด้านข้างกะพริบตา จากนั้นก็เหมือนกับว่านึกอะไรขึ้นได้ แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป
ขาที่หักของฉินผู่หยาง ถังเฉาเป็นคนหักมัน?
“นายยังกล้าพูดถึง!”
สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย มองถังเฉาด้วยความโกรธ
จากปฏิกิริยาของฉินผู่หยาง หงโฝก็รู้ว่า โอกาสที่เป็นจริงนั้นเยอะมาก
“ทำไมฉันจะไม่กล้า?”
ถังเฉายกยิ้มมุมปาก มองฉินผู่หยางอย่างดูถูก “เรื่องนั้นผ่านมาห้าปีแล้ว ไม่คิดเลยว่านายก็ยังไม่รู้จักสำนึกผิด”
ฮึ่ม!
ประโยคนี้ทำเอาฉินผู่หยางโมโหอย่างมาก ความโกรธกลืนกินสติของเขาไป
“คุณชายครับ ใจเย็นครับ”
คนขับรถที่อยู่ข้างๆรีบพูดขึ้น “ที่นี่คือเยี่ยนจิง คุณมีเกียรติเป็นถึงคุณชายของตระกูลหลวงตระกูลฉิน ทำไมจะต้องไปตัวต่อตัวกับมันที่เป็นเขยแต่งเข้าบ้านด้วยละครับ”
ในที่สุดฉินผู่หยางก็สงบลง มุมปากยิ้มเย็นชา “ไม่เลว ถังเฉา ถึงแม้ฉันจะถอยก่อนนาย แต่ว่า นายก็ไม่ได้ดีไปถึงไหน ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ไปเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้าน นายจะเอาอะไรมาเทียบกับฉัน?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ถังเฉาเองก็อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา “นายคิดว่าอย่างนั้นจริงหรอ?”
เขาและฉินผู่หยางรู้จักกันตั้งแต่ห้าปีก่อน เพียงแต่ว่า ฉินผู่หยางชอบเจียงไป๋เสว่ พยายามที่จะเข้าครอบครอง สุดท้ายถูกถังเฉาตีจนขาหัก จึงได้ถอยออกไปด้วยความเศร้า
เดิมทีคิดว่าผ่านไปห้าปี เขาจะรู้จักควบคุมหน่อย ไม่คิดเลยว่าจะยังเหมือนกับห้าปีก่อน
“แน่นอน”
ใบหน้าฉินผู่หยางยิ้มเย็นชาไม่หยุด “ถ้าหากว่านายมีความเป็นคนสักหน่อย ก็คงไม่มาปรากฏอยู่ที่นี่ และเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านขี้แพ้หรอก!”
“เดิมที่แค่อยากได้เมียนายมาเป็นของตัวเอง แย่งชิงทั้งหมดของนาย ตอนนี้ นายมาถึงที่เอง ก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน”
ถึงแม้ว่าเขาจะขากะเผลกข้างหนึ่ง แต่ว่าร่างกายก็ยังยืดตรงเหมือนเดิม “หักขาข้างหนึ่งของตัวเอง แล้วคุกเข่าลง ไม่อย่างนั้น……”
“ฉันให้นายนั่งรถฉุกเฉินกลับไป แน่นอนว่า ก็สามารถให้นายนั่งรถป่อเต็กตึ๊งกลับไปได้!”
ฮึ่ม!
หลังจากที่น้ำเสียงแก้แค้นของฉินผู่หยางสิ้นสุดลง คนขับรถที่อยู่ด้านข้างก็ก้าวเข้าไปก้าวหนึ่ง มองถังเฉาด้วยสายตาเย็นชา “หักขาตัวเองข้างหนึ่ง แล้วจะปล่อยนายไป”
เฟิ่งหวงเองก็ก้าวเข้าไป ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ในมือก็มีใบมีดเพิ่มเข้ามาแล้ว
หงโฝมองดูอยู่นาน ถึงได้ดูสถานการณ์ตอนนี้ออก ฉินผู่หยางจะลงมือกับถังเฉา
นี่เป็นไปตามที่เธอต้องการ จึงได้หนีไปหลบตรงมุม แล้วนั่งดูพวกเขาตีกัน