เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ดูออกได้ว่า หงโฝไม่ได้พูดโกหกแม้แต่นิดคนเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางไป จะต้องบอกในสิ่งที่รู้ทั้งหมดแน่
แต่ว่า ความจริงก็โหดร้ายอย่างนั้น ถึงแม้จะเป็นถังเฉา ยังรู้สึกว่าหัวใจถูกแทงอย่างหนักหนึ่งที
เขามองเฟิ่งหวงด้วยสายตามืดขรึม ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจเฟิ่งหวง
เฟิ่งหวงติดตามตัวเขามาห้าปี ถังเฉาเชื่อว่าเฟิ่งหวงบริสุทธิ์ สิ่งที่เขายอมรับไม่ได้คือเธอยังมีสิ่งที่ปิดบังกับเขาไว้
จับตัวคนที่ไม่รู้เรื่องไปทั่วสารทิศทุกปี มีเจ้าหน้าที่บริหารแบ่งระดับ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งที่หงโฝพูดก็คือ ‘หว่างเหลี่ยง’
ถังเฉาไม่กล้าเชื่อว่าเฟิ่งหวงเกิดจากหว่างเหลี่ยง
ห้าปีก่อน เขาลากเฟิ่งหวงที่สิ้นหวังดิ่งลงเหวขึ้นมาด้วยมือตัวเอง คืออิสระให้เธอ เดิมทีคิดว่าจบลงแล้ว ไม่คิดเลยว่า นี่เป็นเพียงแค่องค์กรในเครือของเฟิ่งหวงเท่านั้น ที่เบื้องบน ยังมีฝ่ามือใหญ่ที่กำลังจัดการเรื่องพวกนี้
ในตอนนี้ ถังเฉามีความรู้สึกว่าหายใจลำบาก เหมือนกับว่ามีตาข่ายไร้ตัวตนมุ่งมาปกคลุมเขา
เฟิ่งหวงเองก็สีหน้าซีดขาว ดวงตาแดงก่ำ พูดกับถังเฉาด้วยอารมณ์ตื่นตระหนก “ขอโทษค่ะรองหัวหน้า นี่เป็นเพียงเรื่องเดียวที่ฉันปิดบังคุณไว้…..ฉันกลัวว่าถิ่นกำเนิดของฉัน คุณจะรังเกียจฉัน ฉันไม่อยากถูกทิ้งอีกครั้งแล้วค่ะ!”
“รังเกียจ? ทำไมต้องรังเกียจ!”
ท่าทางถังเฉาจริงจัง สายตาจ้องเฟิ่งหวงเขม็ง “ถ้าหากว่าฉันรังเกียจเธอ ในตอนที่เธอวางแผนจะฆ่าฉัน ฉันก็ไม่มีทางปล่อยเธอไป ยิ่งไม่มีทางช่วยเธอ ที่ฉันเชื่อใจคือเธอคนนี้ ไม่ใช่ถิ่นกำเนิดของเธอ!”
คำพูดนี้พูดอย่างทุ้มต่ำ และมีเพียงคนที่ถังเฉาเชื่อใจ และใกล้ชิดที่สุด ถึงจะทำให้มีผลกระทบต่ออารมณ์ของเขา
ส่วนหงโฝที่อยู่ด้านหลัง ถึงกับนิ่งอึ้ง ตัวเธอเพียงแค่พูดความจริงออกมาเท่านั้น แต่กลับพูดถึงความจริงที่เฟิ่งหวงจงใจปกปิดมาตลอด
“รองหัวหน้าคะ ฉันผิดไปแล้วค่ะ!”
เฟิ่งหวงที่เย็นชาอยู่เสมอ ตอนนี้กลับกำลังเสียน้ำตา “ฉันเป็นนักฆ่าที่หว่างเหลี่ยงฝึกฝนมาก็จริง แต่ตั้งแต่ที่ฉันตัดสินใจติดตามคุณ หว่างเหลี่ยงก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉันอีก คนที่ฉันซื่อสัตย์มีเพียงแต่คุณเสมอมา”
“ฉันรู้”
ในที่สุดสายตาของถังเฉาก็อบอุ่นขึ้นมาบ้าง ห้าปีมานี้ การกระทำแต่ละอย่างของเฟิ่งหวงล้วนอยู่ในสายตาของเขา ถ้าหากว่าเป็นสายลับที่แฝงตัวมาอยู่ข้างกายเขา ไม่มีทางทำได้ถึงขั้นชดใช้ด้วยชีวิต
เขาเพียงแค่ รับการโดนหักหลังไม่ได้ โดยเฉพาะการหักหลังจากคนที่สนิทที่สุด ยิ่งเหมือนกับถูกควักหัวใจ
“เธอให้ฉันอยู่เงียบๆคนเดียวก่อน”
สุดท้ายถังเฉาก็ไม่ได้พูดอะไร เปิดประตูด้วยท่าทางเศร้าโศก ยืนอยู่ข้างทางคนเดียว และสูบบุหรี่เงียบๆ
เฟิ่งหวงมองอยู่ในสายตา ในเวลาเดียวกับที่โทษตัวเองนั้นมีความเจ็บปวดมากกว่า เป็นครั้งแรกที่เกลียดถิ่นกำเนิดของตัวเองขนาดนี้
เธอเสียใจ
เสียใจที่ตอนนั้นหวาดระแวง และปิดบังความจริงนี้
โดยเฉพาะที่หลังจากเรื่องนั้นเกิดขึ้น พี่ชายคนโตของรองหัวหน้าหายตัวไป เขาเกลียดคนของหว่างเหลี่ยงเข้ากระดูกดำ เฟิ่งหวงก็ไม่กล้าพูดความจริงนี้ออกไปแล้ว
“เอ่อ ฉันพูดอะไรผิดไปใช่มั้ย?”
หงโฝที่นั่งอยู่ด้านหลังยังหน้าตางุนงง ถามไปคำหนึ่งอย่างระมัดระวัง
เฟิ่งหวงหันหลัง ดวงตาแดงก่ำ มองเธออย่างเย็นชา “ถ้าหากว่ารองหัวหน้าสงสัยฉัน ฉันจะฆ่าเธอแน่!”
“…….”
หงโฝสีหน้าน้อยใจ ตัวเธอก็แค่พูดความจริงก็เท่านั้น ไปทำให้ใครโมโหอะไรกันละ?
นานมาก ถังเฉาสูบบุหรี่หมดหนึ่งม้วน กลับเข้ามาในรถ
“รองหัวหน้าคะ ฉัน…..”
เฟิ่งหวงกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถังเฉากลับโบกมือแล้วยิ้มๆ “ไม่ต้องพูดแล้ว เข้าใจผิดก็ปรับความเข้าใจกันก็พอ อย่าได้คิดมาก”
พูดจบ เขาก็สั่งงานหงโฝ ให้เธอกลับหมิงจูด้วยกัน แล้วก็ปิดตาพักผ่อน
เฟิ่งหวงทำได้แค่ตอบรับหนึ่งคำ ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของถังเฉาจะอบอุ่นขึ้นไม่น้อย แต่เธอก็ฟังออกถึงความห่างเหินในประโยค รองหัวหน้าไม่ได้ทำตัวกับตัวเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว!
คิดถึงนี่ ในใจเฟิ่งหวงก็รู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนมีดแทง เจ็บปวดอย่างมาก
“ส่งถึงนี่ก็แล้วกัน”
ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู หน้าประตูบ้านตระกูลหลิน ถังเฉายิ้มกับเฟิ่งหวง
เฟิ่งหวงไม่ได้พักอยู่กับถังเฉา แต่พักที่โรงแรมห้าดาวในเมือง
“ค่ะ รองหัวหน้า”
เฟิ่งหวงมองถังเฉาเดินเข้าในตระกูลหลวง ตัวเองกลับหยุดอยู่ข้างนอกอยู่นาน ถึงได้สตาร์ตรถออกไป
ถังเฉากลับไม่ได้เข้าไปในทันที แต่กลับหยุดยืนอยู่ที่ลานบ้านคนเดียวอยู่นาน
เขาห้ามให้หลินชิงเสว่ดูออกว่าเขามีเรื่องในใจ บางเรื่อง ผู้ชายก็ต้องแบกรับไว้เงียบๆ ห้ามให้ลูกเมียเป็นห่วง
ในสมองสะท้อนคำพูดก่อนตายของเซียกาง
“ ‘ค้างคาว’ อยู่ที่รอบข้างนาย!”
“จะเป็นเธอมั้ย….”
ถังเฉาสีหน้าซับซ้อน พึมพำคนเดียว
พัฒนาการของเรื่อง ก็อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา
เดิมทีอยากจะรู้ที่มาของหงโฝ แต่ไม่คิดเลยว่าจะขุดตัวตนของเฟิ่งหวงออกมาด้วย ถึงถังเฉาจะเชื่อว่าเฟิ่งหวงไม่มีทางหักหลังเขา แต่ว่าสิ่งต่างๆก็แสดงให้เห็นว่า เธอเป็นตัวเลือกหนึ่งในการเป็น ‘ค้างคาว’
บุหรี่ม้วนหนึ่งไม่นานก็เกือบหมด ถังเฉาจัดการจิตใจตัวเอง จากนั้นก็ค่อยๆเปิดประตูห้อง
ดึกมากแล้ว แต่หลินชิงเสว่กับถังเสี่ยวลี้กลับยังไม่นอน
หลินชิงเสว่เป็นเพราะเป็นห่วงถังเฉา ส่วนเด็กน้อยนั้นเป็นเพราะยังไม่ง่วง มีพลังอย่างมาก
“ที่รัก”
“พ่อคะ!”
เมื่อเห็นถังเฉากลับมา หลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้ต่างก็เข้ามาหา
“ทำไมดึกขนาดนี้แล้วถึงยังไม่นอน ไฟล์ทบินพรุ่งนี้ 9 โมงเช้านะ”
ถังเฉาลูบหัวถังเสี่ยวลี้ ส่วนสายตานั้นมองไปที่หลินชิงเสว่อย่างอบอุ่น
การเดินทางมาเยี่ยนจริงครั้งนี้ ถึงแม้จะได้เจอหน้าตาไม่ดีจากพวกตระกูลหลวงในเยี่ยนตู แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รับอะไรเลย
การเรียกของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปแล้ว
จาก ‘ถังเฉา’ เป็น ‘ที่รัก’
หลังจากเรื่องราวมากมาย การป้องกันทางจิตใจเส้นสุดท้ายของหลินชิงเสว่ก็ได้ทลายลง ถังเฉาอยู่ในใจเธอ ครอบครองตำแหน่งที่สำคัญมาก เธอขาดเขาไม่ได้
“นายไม่อยู่ นอนไม่หลับ”
หลินชิงเสว่กอดถังเฉาเบาๆแล้วพูดเสียงอ่อน
ถังเฉายิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร
หลินชิงเสว่จ้องมองถังเฉา ถึงแม้ว่าเขาจะเก็บซ่อนไว้อย่างดีแล้ว แต่ว่าหลินชิงเสว่ก็ยังดูพิรุธออก
“เสี่ยวลี้ ดึกมากแล้ว รีบนอนกันดีมั้ย?”
เธอหันไปมองถังเสี่ยวลี้ พูดเสียงอ่อนหวาน
“ไม่เอา หนูไม่ง่วง หนูจะดูการ์ตูน!”
ถังเสี่ยวลี้ไม่เข้าใจความหมายแฝงในประโยคของหลินชิงเสว่ แล้วยังจะกอดกับถังเฉาอย่างซุกซน
“เสี่ยวลี้! เชื่อฟัง!”
น้ำเสียงของหลินชิงเสว่หนักขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ถังเสี่ยวลี้หดหัวอย่างหวาดกลัวในทันที หลบไปอยู่ด้านหลังของถังเฉา
สำหรับหลินชิงเสว่แล้ว เจ้าเด็กน้อยนั้นกลัวอยู่เสมอ
ถังเฉาเองก็ลูบหัวถังเสี่ยวลี้อย่างเอ็นดู “อย่าดุลูกสิ”
“สิบโมงครึ่งแล้วยังไม่นอน เหมือนอะไรกัน? พรุ่งนี้ยังต้องบินอีก!”
หลินชิงเสว่ไม่ได้ตามใจถังเสี่ยวลี้ พูดอย่างหนักแน่น
ถังเฉามองดูแววตาของหลินชิงเสว่ออก จึงได้พูดกับถังเสี่ยวลี้อย่างหมดหนทางว่า “เสี่ยวลี้ นอนกันก่อนดีมั้ย?”
“ก็ได้ค่ะ”
แม้แต่คุณพ่อก็พูดอย่างนี้แล้ว ถังเสี่ยวลี้จึงทำได้เพียงไปนอนอย่างไม่เต็มใจ เพียงแต่ว่าใบหน้าก่อนนอนของถังเสี่ยวลี้ที่มองถังเฉาด้วยความไม่พอใจนั้นชัดมาก แม้แต่เขาก็ยังโกรธไปด้วย
สองผัวเมียช่วยกันกล่อมถังเสี่ยวลี้จนหลับ ถึงได้ล้มตัวลงบนเตียงพร้อมกัน
ถังเฉาไม่ได้กอดหลินชิงเสว่เหมือนที่ผ่านมา แต่กลับมองไปด้านหน้า
หลินชิงเสว่ยิ่งอยู่ยิ่งมั่นใจว่าถังเฉามีเรื่องในใจ แต่ว่า เธอไม่ได้ถาม เพียงแค่กอดถังเฉาเบาๆ
“ชิงเสว่?”
ถังเฉาอึ้งไปนิดหน่อย แล้วถามอย่างไม่เข้าใจ
“มีอะไรที่ไม่สบายใจ นายต้องจำไว้ว่ามีฉันและเสี่ยวลี้อยู่”
หลินชิงเสว่พูด “เหมือนที่ฉันมีเรื่องในใจ นายก็อยู่ข้างฉันอย่างไม่ลังเล”
ถังเฉารู้สึกหวั่นไหว แต่ก็ไม่มีความคิดที่จะบอกเรื่องของเฟิ่งหวง เพียงแค่หันกลับมามองเธอ “ขอบคุณนะ ชิงเสว่”
“สองวันนี้ที่กลับมาบ้าน ฉันคิดอยู่นาน นิ่งพวกเขาไม่อยากให้ฉันอยู่กับนาย ฉันก็จะยิ่งอยู่กับนาย”
หลินของเสว่นั่งตัวตรง มองถังเฉา “ครั้งนี้ ฉันคิดมาอย่างดี ไม่ได้ใจร้อน และก็ไม่ได้รู้สึกขอบคุณ มีเพียงแค่…..อยากรวมเป็นหนึ่งกับนาย”
“ที่รัก จูบฉัน”
พูดจบ ก็หลับตาลง ท่าทางยินยอมให้กระทำ