“ถังเฉา…..”
หลินฉ่ายเวยมองถังเฉา แสบจมูกแล้วน้ำตาก็เกือบจะไหลลงมา
เธอจำไม่ได้แล้วว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่ถังเฉาปกป้องเธอ
เมื่อก่อนตอนเด็ก เธอถูกเด็กซนรังแก ก็จะมีถังเฉาที่มาช่วยเหลือเธอ
ทุกครั้งทำเอาหน้าบวมช้ำกลับบ้าน เธอถามเขาว่าไม่เป็นไรหรอ เขาก็เอาแต่ยิ้มแล้วก็บอกว่าไม่เป็นไร
และก็คนที่เหมือนพี่ชายอย่างนี้ ที่มีโอกาสที่จะได้เป็นคนที่อยู่ข้างกายเธอทั้งชีวิต แต่กลับถูกเธอผลักทิ้งไป
เมื่อรู้สึกตัวก็สายไปแล้ว เขาได้แต่งงานกับคนอื่นแล้ว
สำหรับถังเฉาคนนี้ หลินฉ่ายเวยมักจะมีความรู้สึกที่พิเศษเสมอ….สามารถสัมผัสได้ถึงก้นลึกหัวใจและความอ่อนโยนที่สุดของเธอเสมอ
“ชีวิตนี้คงจะไม่แต่งงานแล้วมั้งนะ”
มองดูผู้ชายที่จับมือเธออยู่ข้างหน้า หลินฉ่ายเวยคิดในใจอย่างเศร้าใจ
ถังเฉาส่ายหน้า พูดนิ่งๆว่า “ฉันไม่อนุญาต เธอก็ห้ามทำร้ายตัวเองอย่างนี้”
หลินฉ่ายเวยกัดฟันแน่น แล้วก็วางมือตัวเองลง
หวังวี่ไม่พอใจในทันที แล้วลุกขึ้นยืน ชี้หน้าถังเฉาอย่างโมโห “แกเป็นใครห้ะ ที่นี่เป็นแผนกการค้าต่างประเทศ นายเป็นหัวหน้าที่นี่หรือฉันที่เป็นหัวหน้าที่นี่!”
ถังเฉาปล่อยมือของหลินฉ่ายเวย มองหวังวี่อย่างเย็นชา “หนึ่ง ไม่ว่าเป็นอะไรเธอก็ไม่ควรจงใจหาเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งเข้าทำงาน อีกอย่าง ตัวเธอก็ทำได้ดีแล้ว”
“สอง ยิ่งไม่ควรทำร้ายคนอื่น!”
เพิ่งพูดจบ เขาก็เดินไปทางหวังวี่ช้าๆ สายตาเย็นชา มองเอาจนเธอหวาดกลัว
แต่ว่า คิดไปอีกที เธอเป็นหัวหน้าแผนกการค้าต่างประเทศ แล้วมีประธานเฉิงอยู่เบื้องหลัง ยังจะกลัวใคร?
ดังนั้น ก็ชี้ถังเฉาและด่าอีกครั้ง “นายเป็นคนของแผนกไหนกันแน่ ไปเรียกผู้นำของนายมา!”
ถังเฉาพูดนิ่งเฉยว่า “ฉันก็คือผู้นำ”
“ห๊ะ!”
ประโยคนี้ออกมา หวังวี่ถึงกับหัวเราะ “นายกล้าแกล้งเป็นผู้นำ? ไม่พูดถึงแผนกชั้นสูง แต่ผู้นำชั้นกลางฉันรู้จักทั้งหมด ไม่เคยเจอหน้านาย!”
หลินฉ่ายเวยยืนอยู่ด้านข้าง อยากจะเตือนหวังวี่มากว่าเมียของเขาก็คือประธานของลี่จิงกรุ๊ป แต่นึกถึงที่เมื่อก่อนเธอทำกับตัวเอง จึงได้อดไว้ไม่พูด
ถังเฉายิ้ม ย่อตัวลง แล้วเก็บเอกสารที่เขาช่วยหลินฉ่ายเวยทำขึ้นมาทีละใบ “เรามาคุยเรื่องงานกัน เธอบอกว่าพวกนี้เป็นขยะใช่มั้ย?”
“คนแบบไหนก็อยู่กับคนแบบนั้นจริงๆ ผู้หญิงยังไงเหมาะกับผู้ชายยังงั้น!”
“ผู้นำนายเป็นใคร ฉันไปหาเธอ ตามความสามารถของนายแล้ว ไม่เหมาะที่จะทำงานในลี่จิงกรุ๊ปสักนิด!”
สีหน้าเธอภาคภูมิใจ การเป็นผู้นำระดับกลางนั้นมีความเหนือกว่าอย่างชัดเจน
หลินฉ่ายเวยดึงชายเสื้อของถังเฉา แสดงออกว่าไม่ต้องช่วยเธอแล้ว เธอรู้ว่าหวังวี่กำลังหาเรื่องเธอ ไม่ว่าเธอทำดีขนาดไหน ก็จะถูกหวังวี่มองเป็นไร้ค่า
ถังเฉากลับยิ้ม แล้วมองไปยังหวังวี่ “แต่ว่าตามที่ฉันดูแล้วกลับกันพอดี เอกสารพวกนี้หลินฉ่ายเวยทำได้อย่างดี นอกจากรายละเอียดเล็กๆแล้วก็แทบไม่มีอะไรที่ต้องแก้ไข แล้วทำไมพอมาอยู่ที่เธอถึงได้ดูไร้ค่าละ!”
“นี่…..”
สีหน้าของหวังวี่ไม่เป็นธรรมชาติอยู่แวบหนึ่ง ไม่นาน ก็พูดไปว่า “ความสามารถพวกนายพอๆกัน คิดว่าเธอดีก็ไม่มีอะไรจะพูด”
รอยยิ้มบนใบหน้าถังเฉาชัดขึ้น แต่กลับไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด “แล้วเธอรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?”
“นายเป็นใคร?”
หวังวี่ไม่กลัวสักนิด และถามกลับ
เธอเป็นหัวหน้าของแผนกการค้าต่างประเทศ และเป็นคนของเฉิงเพ่ย สามารถพูดได้ว่านอกจากรองประธานแล้ว ไม่มีใครที่สามารถทำให้เธอกลัวได้….
หลินฉ่ายเวยสบายใจขึ้นหน่อยแล้ว แต่ว่า ตอนที่เธอกำลังคิดว่าถังเฉาจะพูดว่าเขาเป็นสามีของประธานหลิน ถังเฉากลับยิ้มเล็กน้อย “ฉันก็คือผู้จัดการแผนกการค้าต่างประเทศ หัวหน้าของเธอ”
“……”
ประโยคนี้ออกมา ทั้งห้องทำงานก็เงียบกริบ ไม่เพียงแค่ทุกคนในแผนกการค้าต่างประเทศ แต่หลินฉ่ายเวยเองก็อึ้งไปเช่นกัน
จากนั้น เธอก็มองถังเฉาเหมือนกับว่าเห็นผี และพูดว่า “นายคือผู้จัดการแผนกการค้าต่างประเทศ?!”
สถานการณ์ตอนนี้ของลี่จิงกรุ๊ปเธอก็รู้อยู่บ้าง ซุนเสว่หนึ่งในสามรองประธานลาออก ยังมีตำแหน่งรองประธานว่างอีกหนึ่งตำแหน่ง เห็นบอกว่าก่อนวันไหว้พระจันทร์ ได้เลือกคนที่จะเป็นรองประธานแล้ว เพียงแค่ยังไม่ได้ประกาศแค่นั้น
คนๆนี้ คือถังเฉา?
หลังจากที่ตกตะลึง หลินฉ่ายเวยก็รู้สึกว่าอยู่ในเหตุ
ภรรยาของถังเฉาคือหลินชิงเสว่ ตำแหน่งใหญ่ของรองประธาน จะต้องเก็บไว้ให้คนของตัวเองอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้หลินฉ่ายเวยตกตะลึงไม่ใช่สิ่งนี้ แต่คือถังเฉานั้นตกลงเข้าทำงานที่ลี่จิง
ตามที่เธอรู้ เจ้าของอาคารคนเดิม เศรษฐีอันดับหนึ่งของหมิงจู ต่างก็เคารพนอบน้อมถังเฉา เพียงแค่เขาตกลง ก็สามาขึ้นเป็นท่านประธานของบริษัทขนาดใหญ่สักบ้าน เพียงแค่ตำแหน่งรองประธานนั้นไม่เหมาะกับเขา
ส่วนหวังวี่นั้นถึงกับอึ้งค้างไปแล้ว ยืนอยู่กับที่อย่างไม่รู้ว่าควรทำยังไง แม้แต่กาแฟในมือหกแล้วก็ยังไม่รู้ตัว
เธอรู้ว่าวันนี้หัวหน้าของเธอจะมาที่แผนกการค้าต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ไม่เคยคิดว่า ถังเฉาจะเป็นหนึ่งในสามรองประธาน!
ตอนนี้ สีหน้าของเธอแสดงออกอย่างสุดยอด ปากขยับเบาๆหลายที แต่กลับพูดอะไรไม่ออกเลย
ผู้จัดการแผนกการค้าต่างประเทศช่วยเด็กฝึกงานที่เพิ่งเข้าทำงานแก้งาน?! แต่เธอ กลับด่าว่าเอกสารที่ผู้จัดการแผนกการค้าต่างประเทศแก้ไขด้วยตัวเองว่าขยะ?!
หน้าเธอกระตุกไปทีหนึ่ง กลายเป็นม่วงเขียว
หลี่ถาวที่มองดูอยู่หน้าประตูอยู่ตลอดเหตุการณ์ถึงกับตกใจ รู้สึกเซอร์ไพรส์กับวิธีการของถังเฉา
ไม่สามารถไล่คนระดับหัวหน้าออกอย่างไร้เหตุผลได้ แต่ว่า ถ้าหัวหน้าคนนั้นลามปามเขาละ?
เพราะงั้นที่เขาปิดบังตัวตน ไม่ได้พูดว่าตัวเองเป็นผู้จัดการแผนกการค้าต่างประเทศแต่แรก จนถึงตอนนี้ถึงได้บอกตัวตนออกมา!
หวังวี่ได้สติ จ้องมองถังเฉาเขม็ง ตะโกนขึ้นอย่างคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ “ฉันไม่เชื่อ ผู้ชายอย่างเขา ไม่มีทางเป็นผู้จัดการแผนกการค้าต่างประเทศ!”
สีหน้าหลี่ถาวมืดขรึมในทันที แม้แต่เธอยังไม่กล้าล่วงเกินคุณถัง แต่แค่หัวหน้าคนหนึ่ง ทำไมถึงได้กล้าละ?
เธอรีบมาถึงตรงหน้าของหวังวี่ แล้วฝ่ามือตบไปหนึ่งทีที่หน้าเธอ “กล้าไม่เคารพคุณถัง ฉันว่าเธอคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!”
“เลขาหลี่?!”
หวังวี่ถูกฝ่ามือนี้ตบจนเลือดออกมุมปาก แต่ว่าเมื่อดูว่าคนนั้นคือหลี่ถาวเลขาห้องท่านประธาน สีหน้าก็ยิ่งซีดกว่าเดิม
แม้แต่เลขาท่านประธานก็ออกหน้าเองแล้ว แสดงให้เห็นว่านี่คือความจริง ถ้ารู้แต่แรกว่าเขาคือผู้จัดการแผนกการค้าต่างประเทศเธอก็ไม่พูดจาแล้ว
ถ้ารู้แต่แรกว่าผู้จัดการแผนกการค้าต่างประเทศและหลินฉ่ายเวยรู้จักกัน เธอก็ไม่หาเรื่องหลินฉ่ายเวยแล้ว
แต่ว่า ทั้งหมดนั้นเปล่าประโยชน์
“คุณ….คุณถัง…..ผู้นำ…..”
เธอพยายามยิ้มที่ดูน่าเกลียดมากกว่าร้องไห้ออกมา มองถังเฉาและพูดขอร้องว่า “เมื่อกี้ล้วนเป็นความเข้าใจผิด เข้าใจผิดค่ะ…..”
“อ้อ เข้าใจผิด”
ถังเฉานึกขึ้นได้ทันที แล้วแสยะยิ้มใส่เธอ “เมื่อกี้เธอพูดว่า เอกสารที่ฉันแก้มันคือขยะ? ไม่งั้นก็ ตำแหน่งรองประธานให้เธอมารับ?”
“คือแม่แบบโลโก้ค่ะ แม่แบบ….”
หวังวี่กลัวจนจะร้องไห้ รีบแก้คำพูด
“เมื่อกี้เธอ ตบหล่อนหนึ่งที แล้วยังข่มขู่ให้หล่อนคุกเข่าขอโทษ?”
ถังเฉายังยิ้มอ่อนอยู่ แล้วก้มหัวลงต่ำมากๆ
ครั้งนี้ ในที่สุดเธอก็กลัวจนร้องไห้แล้ว น้ำเสียงสั่น
“ผู้นำคะ ฉันผิดไปแล้ว ขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ!”