แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ของงานประมูลเงียบเหมือนตาย มีเพียงคำพูดที่เย็นชาหนาวยะเยือกนั้นสะท้อนอยู่ สายตาของทุก ๆ คนล้วนอยู่บนร่างของถังเฉาอย่างพร้อมเพรียงกัน
ไม่มีข้อสงสัยเลยสักนิด ชายหนุ่มคนนี้เปล่งประกายที่สุดในงาน ไม่เพียงแต่โยนบัตรผ่านประตูทิ้งไป ยิ่งทำให้ท่านหานของฝ่ายประมูลล้วนปฏิบัติตัวด้วยอย่างระมัดระวัง ไม่เสียดายที่จะล่วงเกินคุณชายสองท่านจากตระกูลเซี่ยและตระกูลลู่ ก็จะต้องเอาใจถังเฉาให้ได้
ทุกคนกลั้นความคิดที่ทยอยผุดขึ้นมาในสมองติด ๆ ไม่ได้ รู้สึกประหลาดใจในฐานะของชายหนุ่มคนนี้
ติ๊ด ๆ!
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของหานเทียนเจิ้งดังขึ้นมา พอมองเห็นคนที่โทรเข้ามา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมโดยพลัน
“หัวหน้า!”
น้ำเสียงของเขามีความเคารพนบนอบ แม้แต่ร่างกายก็โค้งไปโค้งมาอย่างห้ามไม่อยู่
นาทีถัดมา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์พูดอะไร สีหน้าของหานเทียนเจิ้งตกตะลึง จากนั้นรูม่านตาก็หดลง สายตาที่มองไปยังแผ่นหลังของถังเฉา คาดไม่ถึงว่าจะหวาดกลัวอย่างล้ำลึก
ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม “ครับ หัวหน้า ผมจะบริการให้ดีครับ!”
ทุกคนฟังจนสับสนงงงวย ไม่เข้าใจว่าทำไมโทรศัพท์สายหนึ่งนี้ ท่านหานก็เปลี่ยนเป็นเกรงอกเกรงใจ ไม่มีท่าทางหยิ่งยโสของฝ่ายประมูลเลยแม้แต่น้อย
ชั่วพริบตาถัดมา ภายใต้สายตาจับจ้องอย่างสับสนงงงวยของทุกคน นึกไม่ถึงว่าหานเทียนเจิ้งจะวิ่งเหยาะ ๆ มาอยู่ตรงหน้าถังเฉาที่หลับตาพักผ่อนอยู่
“คุณถังครับ ไม่ทราบว่าคนแก่อย่างผมจัดการแบบนี้ ท่านหายโมโหแล้วหรือยังครับ?”
บนใบหน้าที่ชราภาพ นึกไม่ถึงว่าจะมีความประจบและเอาใจ
ถังเฉาลืมตาขึ้นมา ยิ้มอย่างเรียบ ๆ “หลักการยุติธรรมของท่านหานมีชื่อเสียงขจรขจาย ผมต้องพอใจอยู่แล้วครับ”
“สามารถทำให้คุณถังพอใจได้ นั่นต้องดีที่สุดเป็นธรรมดา”
หานเจิ้งเทียนลอบเช็ดเหงื่อเย็นบนศีรษะ จากนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเข้มงวด “คุณถังครับ งานประมูลใกล้จะเริ่มแล้ว ถ้าหากท่านชอบอะไร บอกผมได้เต็มที่ ผมมอบให้ท่าน”
พอคำนี้พูดออกมา ทั่วทั้งงานก็ตกตะลึง
ทุกคนล้วนเบิกตาโตเหมือนกับเห็นผี
ตั้งแต่จัดงานประมูลมาจนถึงตอนนี้ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ฝ่ายประมูลเป็นฝ่ายมอบของ มาเอาอกเอาใจคนอื่นเช่นนี้!
ถังเฉากลับขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ว่าคุณให้ความสำคัญกับความยุติธรรมเหรอครับ เรื่องแบบนี้ นับว่ายุติธรรมได้ที่ไหนกัน?”
“รองหัวหน้าไม่ได้ขาดเงินค่ะ”
เฟิ่งหวงที่อยู่ด้านหลังยิ่งอย่างเยือกเย็น เอ่ยอย่างเย็นชา
สีหน้าของหานเทียนเจิ้งเปลี่ยนไปอย่างบ้าคลั่ง ไม่ง่ายเลยกว่าจะเก็บเหงื่อกลับเข้าไปหมด ตอนนี้ก็ผุดขึ้นมาอีกแล้ว ก้มศีรษะนอบน้อม ยอมรับผิดติด ๆ กัน
“ครับ ๆ ๆ ที่คุณถังสั่งสอนนั้นถูกต้อง เป็นคนแก่อย่างผมที่ไม่ระวัง”
พอได้รู้ฐานะของถังเฉา แม้แต่ผู้อำนวยการของสมาคมการค้าก็ล้วนต้องปฏิบัติอย่างระมัดระวัง เขาที่เป็นขุนนางจากต่างประเทศคนหนึ่งกลับเกือบจะกระทำหยาบคายต่อเขาติดต่อกันถึงสองครั้ง หานเทียนเจิ้งคิดที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์กลับมา คิดไม่ถึงว่าจะเอาอกเอาใจผิดที่
เพียงแต่ฉากนี้ก็ยิ่งสะเทือนจิตใจของคนที่อยู่ในงาน เดิมพวกเขาคิดว่าท่านหานจากฝ่ายประมูลเพียงแค่ชื่นชมคนหนุ่มคนนี้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นสวามิภักดิ์!
สวามิภักดิ์โดยไม่มีเงื่อนไข!
สายตาของจ้าวเย็นหรานที่มองไปยังถังเฉาใกล้จะกลายเป็นดวงดาวไปแล้ว แอบโกรธตัวเองว่าทำไมถึงไม่พบถังเฉาให้เร็วกว่านี้
“แต่ตอนนี้ก็ไม่นับว่าสายเกินไป”
ตอนนี้เธอตัดสินใจในใจแล้ว จะต้องพึ่งพาอาศัยอยู่ข้างกายถังเฉา
แต่ว่าฉากนี้ไม่ได้ทำให้เซี่ยหรูหลงกับลู่โป๋หานมองเห็น ตำแหน่งห้องวีไอพีที่พวกเขาซื้อ ตอนนี้ต่างคนต่างเข้าไปอยู่ในห้องวีไอพีของตน
เซี่ยหรูหลงกับลู่โป๋หานหนึ่งห้องวีไอพี สื่อเหลยเหมาห้องแยกคนเดียว
ปัง!
พอเข้าห้องมา เซี่ยหรูหลงก็ต่อยหนัก ๆ อัดไปบนกำแพง “รังแกกันเกินไปแล้ว ฉันเซี่ยหรูหลง เคยถูกเอาเปรียบแบบนี้ตอนไหนกัน?”
ลู่โป๋หานโอบสาวงามสองคนอย่างสบายอกสบายใจ แต่ใบหน้าไร้ความรู้สึก
“หรูหลง ระงับอารมณ์หน่อย จากที่ฉันเห็น เจ้าหมอนั่นอาจจะไม่ได้เรียบง่ายเหมือนอย่างที่เห็นจากภายนอก”
“ถ้าหากเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านจริง ๆ จะมีความมั่นใจแบบนี้ได้อย่างไร? คุณหนูใหญ่ของตระกูลจ้าวจะเต็มใจเป็นหญิงชู้ของเขาเหรอ?”
คำพูดของลู่โป๋หานทำให้เซี่ยหรูหลงสงบใจได้นิดหน่อย ทันใดนั้นก็มองไปที่ลู่โป๋หานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโห “เมื่อกี้ทำไมนายไม่ช่วยฉันพูด?”
ลู่โป๋หานปล่อยสาวสวยออก สีหน้าเย็นชาขึ้นนิดหนึ่ง “สถานการณ์แบบนั้นฉันช่วยนายได้เหรอ? ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้ดีขนาดที่จะโดนตีเป็นเพื่อนนายได้นะ”
คำพูดนี้พูดได้อย่างเสียดสี เซี่ยหรูหลงกับร้องเฮอะเสียงเย็นออกมา ไม่ได้พูดอะไร
ที่จริงแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาสองคนจะเดินใกล้กันมาก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นตัวแทนตระกูลร่ำรวยสองตระกูล สามารถร่วมรบกันได้ แต่ไม่สามารถร่วมเสพสุขด้วยกันได้
“ตามที่ฉันพูด ปัญหาเกิดที่ข้อมูลข่าวสาร เพราะอะไรนายถึงพูดว่าถังเฉาคนนั้นเป็นลูกเขยไร้ประโยชน์ที่ไม่มีความสามารถเลยสักนิดคนหนึ่งล่ะ?”
นัยน์ตาของลู่โป๋หานเปล่งประกายระยิบระยับ จ้องไปที่เซี่ยหรูหลงเขม็ง
สีหน้าของเซี่ยหรูหลงเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูทันที
ไม่มีข้อสงสัยเลยสักนิด คนที่ส่งข่าวให้กับเซี่ยหรูหลงยังมีคนอื่นอีก
แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมาอย่างเปิดเผย เพียงแต่เปิดเผยใบหน้าที่ร้ายออกมาโดยสิ้นเชิง “ความโกรธนี้ ฉันเก็บไว้ไม่ได้”
“นายยังคิดจะลงมือ?”
สีหน้าของลู่โป๋หานเปลี่ยนไปเล็กน้อย โบกมืออย่างลนลาน “ครั้งนี้ฉันจะไม่ร่วมด้วยนะ”
“งานประมูลเริ่มแล้ว ประมูลกันก่อน”
“งานประมูลครั้งนี้มีตราแสดงฐานะของสาขาย่อยของตระกูลถังตระกูลหลวงในเยี่ยนตู คนที่นี่ส่วนมากล้วนมาเพื่อเหรียญตรานี้”
ในดวงตาของเซี่ยหรูหลงมีความเยียบเย็น “ขอเพียงฉันประมูลเหรียญตรานี้ได้ ฉันก็จะมีฐานะเป็นบ้านสาขาของตระกูลถังในเยี่ยนตู จัดการลูกเขยแต่งเข้าบ้านคนหนึ่ง เหลือเฟือ”
……
อีกด้านหนึ่ง หานเทียนเจิ้งมองนาฬิกาข้อมือ เอ่ยเสียงดังว่า “ตอนนี้ฉันขอประกาศเริ่มงานประมูลอย่างเป็นทางการ ขอให้แขกที่มาเข้าร่วมแข่งขันประมูลประทุกท่านเตรียมตัวให้พร้อม!”
พอคำนี้พูดออกมา จ้าวเย็นหรานเอาฝ่ามือวางไว้บนปุ่มกดทันที เตรียมประมูลแข่งทุกเมื่อ
เธอจะต้องเอาโสมพันปีกิ่งนี้มาให้ได้
เฟิ่งหวงกลับกระซิบอยู่ข้างหูของถังเฉาว่า “รองหัวหน้าคะ เมื่อครู่ฉันแอบไปดูมา งานประมูลครั้งนี้ ดูเหมือนจะมีตราแสดงฐานะของตระกูลถัง ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูอยู่ด้วยค่ะ”
“ตระกูลถังในเยี่ยนตู?”
คิ้วของถังเฉากระตุก ชั่วพริบตามีความประหลาดใจอยู่ในดวงตา จากนั้นก็กลับเป็นสงบนิ่ง
ในตอนนี้เอง แสงไฟบนเวทีก็ส่องแสงแรงจ้า
ผู้หญิงรูปร่างผอมสูงคนหนึ่งที่สวมชุดราตรีสีขาวยาวลากพื้นเดินมาอยู่ตรงกลาง ดึงดูดใจของทุกคนทันที
เครื่องหน้าของเธองดงาม ใบหน้าสวยงาม เสน่ห์บนร่างกายของเธอมีมากกว่าพวกดาราดังเสียอีก
ก็คือพิธีกรประมูลของค่ำคืนนี้
ถังเฉาเองก็มองเธอ ในตอนนี้ข้างหูก็มีเสียงไม่พอใจดังขึ้นพักหนึ่ง
“วันนี้คุณเป็นแฟนของฉัน ไม่อนุญาตให้คุณมองผู้หญิงคนอื่น มองฉันได้เท่านั้น!”
ถังเฉาขมวดคิ้ว หันกลับไปมองจ้าวเย็นหรานที่มีสีหน้าไม่พอใจ “เธอเป็นพิธีกรประมูล ผมไม่มองเธอแล้วจะมองใคร?”
“ของที่พวกเราจะประมูลยังมาไม่ถึง คุณมองฉันก่อนได้”
จ้าวเย็นหรานพิงเข้ามาด้วยตัวเอง
ฉากนี้ หวางเยี่ยนที่มองอยู่ข้าง ๆ เบิกตากว้างอ้าปากค้าง เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอกลับทำเรื่องโถมตัวใส่อ้อมอกเองเช่นนี้ไม่ได้
ถังเฉายิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น กำลังจะหาข้ออ้างหลีกไป จ้าวเย็นหรานที่แอบอิงเข้ามาด้วยตัวเองกลับกลับเข้าไปนั่งในตำแหน่งของตนเองกะทันหัน ยื่นมือออกไปชี้บนเวที อารมณ์ตื่นเต้น
“เร็ว ๆ ๆ ของที่ฉันต้องการเริ่มประมูลแล้ว!”
ถังเฉามองไปตามเสียง เห็นเพียงสินค้าที่นำมาประมูลถูกส่งขึ้นมาแล้วหนึ่งชิ้น พิธีกรประมูลสาวสวยกำลังพูดแนะนำสินค้าไม่หยุด ก็คือโสมพันปี
“ของประมูลชิ้นแรกของค่ำคืนนี้คือโสมพันปีหนึ่งกิ่งที่โตขึ้นมาบนภูเขาไท่หาง…”
“ราคาประมูลเริ่มต้นที่สองล้านหยวน ทุกครั้งที่เพิ่มราคาประมูลจะต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนหยวน เริ่มต้นการแข่งประมูล!”
ในมือของพิธีการสาวสวยถือค้อนสีทองเล็ก ๆ เอาไว้ เคาะเบา ๆ หนึ่งครั้ง