เมื่อจ้าวเย็นหรานกลับมาที่ตระกูลจ้าว เธอบังเอิญเห็นจ้าวตงชิวจ้าวจือชิวและสื่อเหลยออกมาพร้อมกัน
ในขณะนั้น หรี่ตาลงเล็กน้อย
ทั้งสามมารวมกันมันไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ใช่ จ้าวเย็นหรานเริ่มสงสัยแล้ว
ตอนนี้ มีปัญหาสองประการวางอยู่ตรงหน้าเธอ
อันดับแรก หาสาเหตุการเสียชีวิตของจ้าวเหล่าลิ่ว ประการที่สอง ป้องกันการก่อกบฏของลูกนอกสมรสเหล่านี้
อย่างแรก คำถามแรกคือ แม้ว่าจ้าวเหล่าลิ่วจะถูกลอบสังหาร คนแรกที่คนอื่นคิดได้คือตระกูลเย่ แต่ จ้าวเย็นหรานรู้ว่า เย่เทียนหลงจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน แต่เธอสงสัยว่าเป็นคนวงในมากกว่า
พวกเขามีแรงจูงใจและพื้นที่เพียงพอที่จะทำการลอบสังหารให้เสร็จสิ้น แต่ไม่มีหลักฐาน
ปัญหาที่สองเป็นปัญหาที่ยากที่สุด
เธอมีผู้สนับสนุนไม่เพียงพอ แต่โชคดีที่เธอได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเย่ ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เธอจะไม่ยอมให้เย่เทียนหลงช่วย
จ้าวตงชิวทั้งสามคนก็เหลือบมองจ้าวเย็นหราน สายตาเย็นชาเล็กน้อย
หลังจากเดินออกไปไกล จ้าวจือชิวก็พูดกับอีกสองคนว่า “สักครู่ผมต้องไปพบใครสักคน สถานการณ์ปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยสำหรับเรา คุณสองคนต้องรับผิดชอบ สิ่งที่พวกคุณทำห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด”
จ้าวตงชิวและสื่อเหลยมองหน้ากันและพยักหน้า
“ดีมาก”
จ้าวจือชิวพยักหน้าแล้วพูดว่า “เราจะลงมือ ต้องทำในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เมื่อเทียบกับจ้าวเย็นหราน เราต้องระวังอีกคนมากกว่า”
“ใคร!”
“เย่เทียนหลง ตระกูลเย่!”
จ้าวจือชิวพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม จากนั้นมองไปที่สื่อเหลย“ลูกพี่ลูกน้อง คุณได้รับการเลื่อนตำแหน่งด้วยความช่วยเหลือจากพ่อ คุณมีสิทธิ์มากกว่าเรา ผมไม่สนว่าคุณจะใช้วิธีใดก็ตาม ต้องขวางทางตระกูลเย่ไว้!”
สื่อเหลยพยักหน้าทันที“ได้”
“คุณด้วย พี่ใหญ่”
จ้าวจือชิวมองไปที่จ้าวตงชิวอีกครั้ง “ชุนเซิงพิการแล้ว จ้าวเชียนจูนก็ไม่กล้าทำอะไร มีเพียงคุณต้องไปรวบรวมคนและเตรียมพร้อมที่จะลงมือ!”
“ได้!”
จ้าวตงชิวตอบตกลงโดยไม่ลังเล
หัวหมออย่างจ้าวจือชิว ในตระกูลจ้าวทั้งตระกูล ถือว่าฉลาดอันดับต้นๆ จ้าวตงชิวและสื่อเหลยต่างก็ฟังเขา
จ้าวจือชิวรู้สึกโล่งใจในตอนนี้ และใบหน้าของเขาเผยความโหดเหี้ยม “แค่ลูกเขยแต่งเข้าไปในบ้านฝ่ายหญิงตัวเล็กๆ ยังอยากจะมาแย่งมรดกของตระกูลจ้าวของเรา หาที่ตายชัดๆ!”
จ้าวตงชิวและสื่อเหลยก็มีสีหน้าที่ชั่วร้ายเช่นกัน
ครั้งแรกที่พวกเขาเห็นถังเฉา คือที่ลานบ้านของตระกูลหลิน
ในเวลานั้น ทั้งตระกูลจ้าวได้ขอโทษตระกูลหลิน แต่พวกเขาก็ยังคงได้รับคำสั่งจากผู้บริหารระดับสูง ความลับนี้ถูกกำหนดให้ไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งสามแยกทางกัน จ้าวจือชิวขึ้นรถของเขา จ้าวตงชิวและสื่อเหลยก็จากไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทั้งสามคนจากไป สีหน้าของทุกคนก็ดูเย็นชาและโหดเหี้ยม
ตอนนี้ ทุกคนกำลังอยู่สถานการณ์ที่ใช้คนอื่นและโดนคนอื่นใช้ จ้าวจือชิวใช้พลังของจ้าวตงชิวและอำนาจของสื่อเหลย ส่วนจ้าวตงชิวและสื่อเหลยก็ใช้ความฉลาดของจ้าวจือชิวเช่นกันไม่ใช่หรอกเหรอ?
ยังไม่รู้ว่าใครแพ้ใครชนะ และไม่แสดงไพ่ใบสุดท้าย
จ้าวจือชิวจอดรถของเขาไว้ในสถานที่ที่เรียกว่า “สโมสรม้าขาว” และเดินเข้าไป
ทันทีที่เข้าประตู ก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังก้อง
“พี่จ้าว คุณมาแล้วเหรอ”
จ้าวจือชิวเงยหน้าขึ้นและเห็นชายรูปงามยืนอยู่บนชั้นสองพร้อมพัดในมือ
มันคือเหยียนเสี้ยงหม่า
สโมสรม้าขาวนี้ เป็นสโมสรส่วนตัวของเหยียนเสี้ยงหม่า
จ้าวจือชิวกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ครอบครัวผมเกิดเรื่องนิดหน่อย จ้าวเหล่าลิ่วตายไปแล้วจริงๆ แต่พินัยกรรมไม่ได้มอบให้ผม แต่เป็นชายหนุ่มชื่อถังเฉา”
กับข่าวนี้ เหยียนเสี้ยงหม่าก็ตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง แล้วก็หัวเราะเสียงดัง “สมแล้วที่เป็นผู้นำตระกูลจ้าว กลยุทธ์ลักขื่อเปลี่ยนเสา(เอาของปลอมมาแทงของจริง) ช่างสุดยอดจริงๆ!”
การแสดงออกของจ้าวจือชิวยิ่งมืดมนยิ่งขึ้น “ถังเฉาคนนี้ มันยากที่จะจัดการขนาดนั้นเลย?พ่อ ทำไมพ่อถึงคิดว่าเขาคนเดียวสามารถจัดการลูกนอกสมรสทั้งหมดได้?”
เหยียนเสี้ยงหม่ากล่าวอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “คุณอย่าดูถูกเขา เขาเก่งกาจมาก แม้แต่ตระกูลซ่งก็ต้องระมัดระวัง หากวางแผนที่สมบูรณ์แบบไม่ได้ อย่าลงมือเด็ดขาด”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา จ้าวจือชิวก็ตกใจ เขาเคยได้ยินชื่อซ่งหรูอี้จากตระกูลซ่งมาโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ ถ้าถังเฉาเก่งกาจขนาดนี้ เขาจะกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าไปในบ้านฝ่ายหญิงของตระกูลซ่งเมื่อห้าปีก่อนได้อย่างไร?
“ไม่ว่ายังไง ที่ผมสัญญาว่าจะช่วยคุณเป็นผู้นำของตระกูลจ้าว ผมจะทำให้มันเป็นจริงอย่างแน่นอน”
เหยียนเสี้ยงหม่ายิ้มและกล่าว “นี่เป็นแผนใหญ่ ตระกูลจ้าวของคุณ เป็นเพียงขั้นแรก เป้าหมายของเราคือมากกว่าเอาชนะเขา”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวจือชิวก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก
นี่เป็นเพียงแผนแรกจริงๆ แล้วเบื้องหลังมีการวางแผนไว้มากแค่ไหน?
“ใจเย็นๆ อย่าตื่นเต้น”
เหยียนเสี้ยงหม่าเห็นความประหม่าของเขาและยื่นถ้วยชาให้เขา “ผมจะให้ยืมพลังของสมาคมการต่อสู้ เมื่อมีผู้คนเก่งกาจเหล่านี้ คุณยังกลัวว่าคุณจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรือ?”
“ขอบคุณคุณชายเสี้ยงหม่ามาก”
หลังจากออกจากสโมสรม้าขาว หลังของจ้าวจือชิวก็ยังเย็นวาบ
เขาได้ยินมาว่า ประธานของสมาคมการต่อสู้ได้กลายเป็นเย่เทียนหลง แต่เหยียนเสี้ยงหม่ายังคงสามารถใช้อำนาจของสมาคมได้ ซึ่งทำให้เขาค่อนข้างสงสัยในตระกูลเหยียน ซึ่งแตกต่างจากตระกูลยักษ์ใหญ่อื่นๆ
สามวันต่อมา ทุกอย่างดูสงบ ตระกูลจ้าวไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และถังเฉาก็มุ่งพัฒนาการค้าต่างประเทศเช่นกัน
ภายใต้การนำของถังเฉา แผนกการค้าต่างประเทศก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ และมีสัญญาณจางๆว่าจะแซงหน้าแผนกประชาสัมพันธ์ของฟางหย่า กลายเป็นแผนกอันดับหนึ่งของลี่จิงกรุ๊ป
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทตระกูลซ่งลงทุนด้วยเงินจำนวนมากในโครงการของสำนักงานการก่อสร้าง หลินฉ่ายเวยเสนอตัว รู้จักกับประธานของบริษัทตระกูลซ่ง ได้เจรจากับซ่งหรูอี้และได้โครงงานนี้มา กลายเป็นดาวใหม่ที่โดดเด่นในกรู๊ป
มีเพียงหลินฉ่ายเวยเท่านั้นที่รู้ นี่เป็นเพราะถังเฉาแอบช่วยเธอ
อย่างไรก็ตาม หลินฉ่ายเวยไม่สามารถมีความสุขได้เลย แต่เธอกลับกังวล และเธอไม่มีความอยากอาหารในโต๊ะอาหารเย็น
“ฉันอิ่มแล้ว”
หลินฉ่ายเวยวางชามและตะเกียบลงแล้วขึ้นไปชั้นบน
ถังเฉาและหลินเจิ้นสงไม่สนใจอะไรมากเช่นกัน
“งานที่ผมมอบหมายให้เธอในตอนท้ายค่อนข้างหนัก ยุ่งสักพักก็คงจะดีขึ้น” ถังเฉากล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลินเจิ้นสงโบกมือของเขา “เธอเพิ่งเข้ามาทำงาน ให้ความกดดันเธอมากหน่อยก็เป็นเรื่องที่ดี”
“แต่ว่า เสี่ยวเฉา ที่ตระกูลหลินมีทุกวันนี้ เพราะพึ่งพาคุณทั้งนั้น!”
หลินเจิ้นสงดื่มเหล้าไปเล็กน้อย และหน้าแดงเล็กน้อย “มา เราสองคนมาดื่มกัน”
ถังเฉายิ้มและชนแก้ว”ครอบครัวเดียวกัน เป็นเรื่องที่ควรทำ”
หลินชิงเสว่ก็ชนแก้วด้วย หลินเจิ้นสงก็ชนแก้วอย่างรวดเร็ว “ชิงเสว่ ผมหมดแก้ว คุณดื่มตามสบายเลยนะ”
พูดจบ ก็ดื่มจนหมดแก้ว แม้แต่หนึ่งหยดก็ไม่เหลือ
ถังเฉาเดาได้สิ่งหนึ่ง และมองทั้งหมดนี้ด้วยรอยยิ้ม บางสิ่งบางอย่างให้มันเน่าเสียไว้ในท้องดีกว่าพูดมันออกมา
โจวเหม่ยหยูนที่ไม่ได้พบเธอมาเป็นเวลานาน ดูมีความกังวลมากมายในใจ ใบหน้าของเธอดูหดหู่
หลังจากที่ครอบครัวของถังเฉาจากไป เธอจับมือของหลินเจิ้นสงและพูดอย่างประหม่าว่า “เจิ้นสง คุณฟังฉัน นะ เราต้องให้ถังเฉาหย่ากับผู้หญิงคนนั้น ไม่เช่นนั้น ครอบครัวของเราจะพังพินาศแน่!”
“คุณกำลังพูดอะไรของคุณ ภรรยาที่ดีขนาดนี้อย่างชิงเสว่ จะหาได้จากที่ไหน?”
หลินเจิ้นสงดื่มเหล้าไปหน่อย เมื่อได้ยินโจวเหม่ยหยูนพูดไม่ดีเกี่ยวกับหลินชิงเสว่ ก็หงุดหงิดทันทีและชี้ไปที่จมูกของเธอแล้วพูดว่า “ผมขอเตือนคุณนะ ต่อไปอย่าให้กูได้ยินมึงนินทาหลินชิงเสว่อีก เดี๋ยวกูทุบมึงให้ตายเลยแน่!”
โจวเหม่ยหยูนผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นโมโหเล็กน้อย “ฉันให้พวกเขาหย่า มันมีเหตุผลนะ ฉันหาหมอดู ชีวิตของเธอขัดกับเสือขาว เมื่อแก่ไปจะทำให้สามีโชคร้าย—”
ผัวะ!
ก่อนที่คำพูดจะจบลง ก็มีเสียงตบหน้าในห้องรับแขก
จากนั้นเสียงกรีดร้องของโจวเหม่ยหยูนก็ดังขึ้น
“เอ๊ะ! ไอ้สารเลว กล้าดียังไงมาตีฉัน!”
โจวเหม่ยหยูนเป็นเหมือนแมวที่โดนเหยียบหาง ร้องไห้และตะโกน “ฉันอยู่กับคุณมายี่สิบปีแล้ว คุณตบตีฉันเพราะผู้หญิงที่จะทำให้สามีโชคร้าย ฉันตายดีกว่า!”
หลังจากนั้น เธอก็ไปชนกำแพงจริงๆ
หลินเจิ้นสงมองเธออย่างเย็นชาและไม่ได้ห้ามเธอ “ชนสิ ไปชนเร็ว แต่งงานกับคุณ เป็นเรื่องที่โชคร้ายที่สุดในชีวิต ชอบประจบคนรวย ตีสองหน้า ตัวเองไม่ดี คุณยังจะไปใส่ร้ายชิงเสว่!”
โจวเหม่ยหยูนเหม่ออยู่ครู่หนึ่ง และเธอก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้หนักกว่าเก่าทันที “คุณยังมีหน้ามาว่าฉัน หลังจากที่ฉันแต่งงานกับคุณ คุณเคยให้ฉันได้ใช้ชีวิตดีๆสักวันไหม อยู่กันไม่ได้แล้ว!”
โจวเหม่ยหยูนร้องไห้วิ่งขึ้นไปชั้นบน
ปิดประตูห้อง สีหน้าของเธอก็ดูโหดเหี้ยมทันที
“หลินเจิ้นสง คุณบังคับฉันเองนะ อย่าโทษฉันถ้าคุณตาย!”