พร้อมกับที่กองทัพตระกูลจ้าวจำนวนมากถือปืนจ่อศีรษะถังเฉา จ้าวเย็นหรานและเฟิ่งหวง บรรยากาศในที่นั้นเปลี่ยนเป็นตึงเครียดชวนอึดอัด กลิ่นของความตายที่เข้มข้นตลบอบอวลไปในอากาศอย่างเงียบ ๆ
ดวงตาของถังเฉาก็หรี่ลงอย่างอันตราย
ผู้คุ้มกันตระกูลจ้าวเหล่านี้ล้วนแต่มาขอพึ่งพาอาศัยพวกของจ้าวจือชิวกันทั้งนั้น และบนใบหน้าของทุกคนล้วนแต่มีความตระหนักถึงการสู้จนตัวตายทั้งนั้น
คืนนี้ เป็นการจัดรูปแบบใหม่ของตระกูลจ้าว กล่าวคือเป็นคืนที่ประเมินมูลค่าชีวิตของพวกเขา
ดังนั้น ขอเพียงจ้าวจือชิวออกคำสั่งหนึ่งคำ พวกเขาก็จะระเบิดสมองของถังเฉาอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
บนใบหน้าของจ้าวเย็นหรานเองก็มีความลนลานวาบผ่าน ต่อให้เธอจะวางแผนเก่งกว่านี้มากแค่ไหน แต่ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกปืนมากมายจ่อศีรษะขนาดนั้น จะบอกว่าไม่กลัวก็ไม่ใช่แล้ว
“พวกนายจะฆ่าฉันงั้นเหรอ?”
พอเธอสำนึกได้ก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว ตึงเครียดไปทั้งร่าง
ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของจ้าวจือชิวก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน ถ้าเธอสามารถประนีประนอมได้เร็วกว่านี้ ก็คงไม่เดินมาถึงขั้นนี้
เขาส่ายศีรษะ พูดกับจ้าวเย็นหรานด้วยใบหน้าจริงใจ “น้องสาว ฉันไม่เคยคิดจะฆ่าเธอเลย ไม่ว่าจะตอนไหนที่ไหน เธอก็เป็นน้องสาวของฉัน เชื่อฟังฉัน มาอยู่ที่นี่กับพวกเรา”
จ้าวเย็นหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ย่ำเท้าสั้น ๆ ถอยหลังไม่หยุด
รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ ไม่มีตรงไหนเลยที่ไม่บ่งบอกถึงความไม่สบายใจในใจของเธอ
จ้าวจือชิวมองเห็นมัน เดินหน้าเขาไปเอ่ยโน้มน้าวหนึ่งก้าว “น้องสาว คนเรามีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เพื่อแสวงหาความมั่นคงและปลอดภัยหรอกหรือ? ขอเพียงเธอออกไปจากที่นี่ได้ ฉันรับรองความมั่งคั่งของเธอตลอดชีวิต”
“แสวงหาความมั่นคงและปลอดภัย? เหอะ…”
จ้าวเย็นหรานหัวเราะเสียงเย็นออกมา “พูดคำพูดนี้ ฉันรู้สึกย้อนแย้งแทนนายจริง ๆ พวกลูกนอกสมรสอย่างพวกนาย ไม่เสียดายที่จะทำให้ในตระกูลต้องบ้านแตกสาแหรกขาดเพื่อที่จะได้ขึ้นนั่งตำแหน่งผู้นำ นี่เป็นผลลัพธ์ที่พวกนายอยากได้เหรอ?”
บนใบหน้าของจ้าวจือชิวไม่มีความละอายใจเลยแม้แต่น้อย “นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรจะได้”
“เธอเป็นคุณหนูใหญ่สายเลือดโดยตรง แต่ไหนแต่ไรก็ไม่รู้ถึงความยากลำบากของลูกนอกสมรสอย่างพวกเรา ตอนนี้พวกเราแค่อยากจะเอาของที่เป็นของพวกเรากลับคืนมาก็เท่านั้น”
“อะไรที่เป็นของพวกนาย เดิมทีนี่ก็เป็นของตระกูลจ้าวของฉัน!”
จ้าวเย็นหรานตวาดลั่นในทันที “นี่เป็นข้ออ้างทั้งนั้น นายมันก็แค่คนสันดานชั่ว!”
จ้าวจือชิวสีหน้าอึมครึม ชี้ถังเฉาแล้วเอ่ยอย่างโมโหว่า “น้องสาว ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด วันนี้เธอไปได้ แต่เขาจะต้องตาย!”
ตัวของจ้าวเย็นหรานสั่นน้อย ๆ กลับหันกลับไปมองถังเฉาแวบหนึ่ง ทันใดนั้นก็ส่ายศีรษะ “ฉันไปไม่ได้ ถ้านายเก่งนักก็ฆ่าฉันสิ!”
ถังเฉามองเห็นอยู่ในสายตา ดึงเธอมาอยู่ข้างหลังเบา ๆ จากนั้นก็มองจ้าวจือชิวด้วยสายตาเยียบเย็น “ผมขอแนะนำว่าทางที่ดีอย่าเอาปืนมาจ่อผม”
ปืนมากมายขนาดนี้ เขาไม่กลัวแม้แต่น้อย
จ้าวจือชิวยิ้ม “นั่นต้องดูว่านายจะให้ความร่วมมือไหม ตอนนี้ฉันให้นายสองทาง ทางแรกส่งทรัพย์สมบัติออกมา จากนั้นก็เชื่อฟังคำสั่งของฉัน ทางที่สอง ตาย!”
พูดมาถึงตอนสุดท้าย จ้าวจือชิวก็มีสีหน้าคุกคามแล้ว
ทุกคนล้วนดูออกแล้วว่าจ้าวจือชิวเป็นคนที่ชื่นชมคนเก่งคนหนึ่ง ข้างกายของถังเฉามีเฟิ่งหวงที่เป็นบอดี้การ์ดสาวที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ ถ้าสามารถเอามาใช้เป็นประโยชน์ต่อตระกูลจ้าวได้ เช่นนั้นการจะขุดรากถอนโคนตระกูลเย่ก็มีปัญหาแค่เรื่องเวลาเท่านั้น
พอคำนี้พูดออกมา สีหน้าของจ้าวเย็นหรานก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจในทันที
สื่อเหลยที่เป็นคนเดียวที่เคยไปงานประมูลเจียงเฉิงในที่นี้ก็ถูกจับตัวไปแล้ว เขาเป็นคนเดียวที่รู้ถึงอิทธิพลของถังเฉา
แม้แต่เซี่ยหรูหลงและลู่โป๋หานที่อยู่บนสุดของคุณชายตระกูลมั่งมีเช่นนี้ก็ล้วนแต่ไม่อยู่ในสายตา จ้าวจือชิวกลับต้องการให้ถังเฉาสวามิภักดิ์ ช่างเป็นเรื่องขบขันบันลือโลกจริง ๆ
ถังเฉายิ้มอย่างเย็นชา มองลูกนอกสมรสรอบ ๆ ทั้งหมด มุมปากยกขึ้น “แม้แต่ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูล้วนแต่ไม่มีคุณสมบัติจะมาสั่งให้ผมสวามิภักดิ์ ตระกูลจ้าวของคุณ ก็ยิ่งไม่มีคุณสมบัตินี้”
ศักยภาพของตระกูลจ้าว ที่จริงแล้วเหนือกว่าตระกูลแนวหน้าของเมืองหมิงจู แต่ในสายตาของถังเฉาก็ยังคงถูกประเมินค่าว่าไม่มีค่าแม้แต่แดงเดียว นี่ทำให้คนในตระกูลจ้าวทุกคนมีสีหน้าแข็งค้าง
“ดูเหมือนว่าแกเลือกทางตายนะ!”
จ้าวจือชิวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ดวงตารูปสามเหลี่ยมที่มืดครึ้มสาดประกายเย็นยะเยือก
ในตอนที่เขาตัดสินใจจะสั่งให้ยิงนั่นเอง ถังเฉาก็ยิ้มออกมาอย่างหยอกเย้าในทันที “พวกคุณว่า… ปืนกระบอกหนึ่งกับปืนยี่สิบกระบอก ใครร้ายกาจยิ่งกว่ากันแน่?”
พอคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนไม่เข้าใจเลยสักนิด ไม่เข้าใจว่าถังเฉาต้องการจะสื่ออะไร
จ้าวจือชิวคิดว่าถังเฉามีปืนอยู่ในมือ อดที่จะหัวเราะออกมาอย่างหยิ่งยโสไม่ได้ “แน่นอนว่าปืนยี่สิบกระบอกต้องร้ายกาจยิ่งกว่าอยู่แล้ว ต่อให้แกมีปืน คืนนี้แกก็ต้องตาย!”
“อย่างนั้นหรือ?”
ถังเฉาดีดนิ้วหนึ่งที
ในห้องโถงตระกูลจ้าว กลับมีเสียงดึงสลักปืนไรเฟิลดังขึ้นฉับพลันอย่างน่าประหลาด
พอจ้าวจือชิวสำนึกได้ก็หันกลับมา กลับพบว่าท้ายทอยเย็นเยียบ ถูกปืนกระบอกหนึ่งจ่ออยู่
ฟึ่บ!
ทันใดนั้น สีหน้าของทุกคนในตระกูลจ้าวเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
“จ้าวเชียนจูน แกรู้ไหมว่าแกกำลังทำอะไรอยู่?”
“แกกล้าเอาปืนมาจ่อหัวที่ปรึกษา!”
“ยังไม่รีบหยุดมืออีก!”
ทุกคนพากันตำหนิด้วยความโกรธ จ้าวจือชิวเป็นบุคคลระดับที่ปรึกษาของตระกูลจ้าว ตอนนี้กลับถูกปืนจ่อศีรษะ
“ตอนนี้คุณยังรู้สึกว่าปืนยี่สิบกระบอกร้ายกาจกว่าปืนหนึ่งกระบอกอยู่ไหมครับ?”
ถังเฉามองฉากนี้อย่างให้ความสนใจ หัวเราะหึหึแล้วพูดว่า “ปืนไม่ได้อยู่ที่เยอะแค่ไหน แต่อยู่ที่จ่อศีรษะของใครอยู่ต่างหาก”
สีหน้าของจ้าวจือชิวเปลี่ยนเป็นเข้มครึ้มในทันที “จ้าวเชียนจูน แกคิดจะก่อกบฏเหรอ?”
“ผมก่อกบฏ? คนที่ก่อกบฏควรจะเป็นคุณไม่ใช่เหรอ?”
จ้าวเชียนจูนถือปืนจ่อจ้าวจือชิว เอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
นิ่งอยู่พักหนึ่ง ก็มองไปที่ลูกนอกสมรสทั้งหมดอีก พูดด้วยเสียงดังว่า “ทุกคนลองคิดดูให้ละเอียดสิ คนที่คิดจะก่อกบฏเป็นใคร ตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนแต่เป็นจ้าวจือชิวที่ออกคำสั่งให้พวกเราทำหน้าที่ ได้ทำเหมือนพวกเราเป็นคนกันเองสักนิดไหม?”
“เขาเพียงแค่เอาพวกเราเป็นหมากในมือ รอจนเขาได้ขึ้นนั่งตำแหน่งผู้นำแล้ว เรื่องแรกที่จะต้องสะสาง เกรงว่าจะเป็นพวกเรา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกนายยังยินดีที่จะเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของเขาอยู่ไหม?”
เสียงของจ้าวเชียนจูนดังกึกก้อง สะท้อนไปทั่วทั้งตระกูลจ้าว
พวกลูกนอกสมรสตะลึงอยู่กับที่อยู่พักหนึ่ง เริ่มหวนคิด คำสั่งที่จ้าวจือชิวสั่งเอื้อประโยชน์ต่อเขาจริง ๆ
“เขาคิดจะเป็นผู้นำเอง เอาพวกเราเป็นเป้ากระสุน ในเมื่อไม่มีใครเดินออกมา ถ้าอย่างนั้นผมจะออกหน้าเอง!”
จ้าวเชียนจูนตะโกนเสียงดัง
ความเปลี่ยนแปลงที่น่าประหลาดเช่นนี้ จ้าวเย็นหรานมองอย่างโง่เง่า
“ฉันเข้าใจแล้ว นี่ล้วนแต่เป็นแผนการที่แกวางไว้ล่วงหน้า…”
จ้าวจือชิวไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย ฉับพลันดวงตาก็จ้องถังเฉาอย่างแน่วแน่
ถังเฉาหลุดหัวเราะออกมาเงียบ ๆ “ผมแค่ดูละคร จะไปสมรู้ร่วมคิดกับจ้าวเชียนจูนล่วงหน้าได้อย่างไร?”
จ้าวจือชิวตกอยู่ในความเงียบ ที่จริงหลังจากที่ถังเฉาเดินเข้ามาในตระกูลจ้าวแล้ว ก็ล้วนอยู่ในการมองเห็นของเขา ไม่มีโอกาสจะได้ไปติดต่อกับจ้าวเชียนจูนโดยสิ้นเชิง หรือว่า จ้าวเชียนจูนคิดจะทรยศจริง ๆ?
แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไร จ้าวเชียนจูนได้เคบพบเห็นความน่าสะพรึงกลัวของถังเฉามานานมากแล้ว ครั้งล่าสุดก็ในสมาคมการต่อสู้
ในตอนนั้น ถังเฉาคนเดียวเอาชนะผู้มีฝีมือสูงในสมาคมการต่อสู้หลายคน แม้แต่เหยียนยงอดีตหัวหน้าก็ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้
ส่วนเขาเป็นเพียงแค่ผู้ชมที่ขอบสนาม แม้แต่ความกล้าที่จะไปท้าประลองก็ไม่มี
เป็นศัตรูกับคนแบบนี้ ไม่ใช่รนหาที่ตายหรอกหรือ?
ดังนั้น ถังเฉาไม่เคยติดต่อกับเขามาก่อน แต่ตัวเขาเองเสนอหน้าเดินออกมาเอง
และในสายตาของจ้าวตงชิวเองก็มีความเยือกเย็นวาบผ่าน “เชียนจูนพูดถูก จ้าวจือชิวสันดานชั่ว ฆ่าเขาก่อน!”
“ฆ่า!”
ทันใดนั้น เสียงร้องคำว่าฆ่าสะเทือนฟ้าดังไปทั่วตระกูลจ้าว ผู้คุ้มกันที่เดิมทีถือปืนจ่อศีรษะของถังเฉากับจ้าวเย็นหรานพวกนั้นก็ทยอยกันจ่อไปที่จ้าวจือชิว
โกลาหลกันไปหมด