ตามจังหวะการก้าวเท้า พลังของถังเฉาเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
นาทีนี้ เขาเป็นศูนย์กลาง คนที่อยู่บริเวณสิบเมตรรอบนอกล้วนแต่จิตใจสั่นสะท้าน
นั่นเป็นการสั่นที่มาจากเบื้องลึกของจิตวิญญาณชนิดหนึ่ง ไม่เพียงแต่จ้าวจือชิว แม้แต่ผู้มีฝีมือสูงที่มาจากตระกูลเหยียนหลายคนนั้นก็ล้วนแต่เปลี่ยนสีหน้าไปเป็นอย่างมาก
จ้าวเชียนจูนคิดอยู่นาน ทันใดนั้นก็ราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“พวกเขาล้วนเป็นสังฆานุกรที่ซ่อนตัวอยู่ในสายใน!”
“หมายความว่ายังไง?”
จ้าวเย็นหรานเค้นถามต่อทันที
เธอเองก็เคยได้ยินเรื่องสมาคมการต่อสู้ เย่เทียนหลงของเธอก็เป็นหัวหน้าของสมาคมการต่อสู้
เดิมคิดว่าเย่เทียนหลงกุมอำนาจใหญ่ไว้ในมือ แต่มาดูตอนนี้ หัวหน้าอย่างเขาดูเหมือนจะนับเป็นอะไรไม่ได้
สีหน้าของจ้าวเชียนจูนเอาจริงเอาจัง
“ทุก ๆ สายย่อยของสมาคมการต่อสู้ ล้วนมีการแบ่งเป็นสายในกับสายนอก เทียบกันแล้วสายนอกเปิดศูนย์ฝึกศิลปะการต่อสู้ รับออร์เดอร์ ทำเงิน ทั้งยังต้องรักษาหน้าตาของสมาคมการต่อสู้ กิจการของสายในนั้นเรียบง่ายกว่านั้นเยอะเลย”
“แค่สี่คำ ฝึกฝนขั้นสุด สองหูไม่ฟังเรื่องภายนอกหน้าต่าง มุ่งมั่นฝึกฝนดินแดนการต่อสู้”
“ดังนั้นทุกคนในสายในจึงล้วนแต่เป็นผู้มีฝีมือสูงสุด แต่ว่า ปกติผู้มีฝีมือสูงสายในน้อยมากที่จะปรากฏตัว นอกจากสายนอกจะประสบกับภัยพิบัติที่นำไปสู่หนทางแห่งความตาย”
จ้าวเชียนจูนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ คราวที่แล้วถังเฉาพลิกคว่ำทั้งสมาคมการต่อสู้ด้วยตัวคนเดียว นอกจากนี้เหยียนยงหัวหน้าที่แพ้ราบคาบก็ล้วนไม่ได้ไปรบกวนผู้มีฝีมือสูงสายใน ทำไมครั้งนี้ตระกูลจ้าวที่มีโครงสร้างเล็ก ๆ ถึงได้ดึงดูดผู้มีฝีมือสูงสายในมา?
ในตอนนี้ มองถังเฉาที่เดินมา จ้าวจือชิวกลับหัวเราะเยาะเย้ยออกมา “แม้แต่ผู้มีฝีมือสูงของสมาคมการต่อสู้สายในก็ยังกล้าท้าทาย ไม่รู้จริง ๆ ว่าแกอวดดีหรือว่าแข็งแกร่งจริง ๆ”
“ผมบอกแล้ว จัดการพวกที่ไร้ระบบระเบียบพวกนั้นแล้ว ต่อไปก็ตาแกแล้ว ฆ่ามัน!”
จ้าวจือชิวตะโกนเสียงดัง ในสายตาของเขา ถังเฉาได้เป็นศพไปแล้ว
ผู้มีฝีมือสูงสายในเหล่านี้กลับสีหน้าเคร่งขรึมกันทุกคน พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังปราณของยอดฝีมือจากบนร่างของถังเฉา
ในตอนที่ถังเฉาเตรียมจะลงมือนั้นเอง ทันใดนั้นเงาดำจากการย้อนแสงเงาหนึ่งก็แย่งเข้ามาอยู่ด้านหน้าของเขา
“ฝูงมดฝูงหนึ่ง จำเป็นต้องให้รองหัวหน้าลงมือที่ไหนกัน?”
สีหน้าของเฟิ่งหวงเยือกเย็น มองไปยังผู้มีฝีมือสูงสายในเหล่านั้นอย่างเยือกเย็น
ถังเฉาเห็นอย่างนั้นก็พยักหน้า ไม่ก้าวไปข้างหน้าอีก
“งั้นมอบให้เธอแล้วกัน”
เห็นฉากนี้แล้วจ้าวจือชิวก็ตะลึง จากนั้นสีหน้าก็ยิ่งเหยียดหยาม
“ทำได้แค่แสดงอำนาจ สุดท้ายก็ยังต้องให้บอดี้การ์ดของตัวเองลงมือ!”
ผู้มีฝีมือสูงสายในทั้งหมดมองฉากนี้แล้วก็ผ่อนลมหายใจ ในสายตาของพวกเขา เฟิ่งหวงนั้นสู้ถังเฉาไม่ได้
“ถึงอย่างไรช้าเร็วก็ต้องตาย ตายช้าตายเร็ว แล้วจะมีความแตกต่างอะไรล่ะ?”
หัวเราะเสียงเย็นออกมา ผู้มีฝีมือสูงสายในทั้งหมดก็โจมตีไปทางเฟิ่งหวงพร้อมกัน
คมมีดในมือของเฟิ่งหวงก็เปลี่ยนทิศทาง ประจันหน้าออกไป
อีกด้านหนึ่ง พอได้ฟังจ้าวเชียนจูนพูดถึงสมาคมการต่อสู้สายในจบ จ้าวเย็นหรานก็หน้าซีดเผือด รีบร้องไปทางถังเฉาทันที “คุณรีบหนีไป!”
จ้าวเย็นหรานไม่รู้ศักยภาพที่แท้จริงของถังเฉา รู้เพียงผู้มีฝีมือสูงสายในมาโจมตี ถังเฉากับเฟิ่งหวงต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้แน่
แต่ทว่า ถังเฉายังคงยืนอยู่อย่างไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ไม่ใส่ใจแม้แต่สถานการณ์การรบ
ราวกับ… รู้ผลลัพธ์ตั้งแต่แรกแล้วอย่างไรอย่างนั้น
“พวกเราตายแน่แล้ว…”
บนใบหน้าของจ้าวจือชิว ก็ปรากฏความดุร้ายขึ้นมา
ทว่านาทีถัดมา สายตาของทุกคนก็เบิกกว้าง
ผลัวะ ผลัวะ!
พวกเขาเห็นเพียงเงาดำตัดสลับกัน มองไม่ชัดเลยสักนิดว่าเฟิ่งหวงลงมืออย่างไร ศพร่วงลงอย่างไร้คุณภาพทีละร่าง
กล่องเสียงของทุกคนถูกตัดขาด แม้แต่เสียงร้องอย่างน่าเวทนาก็ยังไม่มีโอกาสได้เปล่งออกมา ก็ตายอย่างกะทันหัน
ทันใดนั้นทุกคนล้วนมีความรู้สึกเหมือนภาพลวงตาในความฝัน เบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ใบหน้าของจ้าวจือชิวก็ยิ่งเต็มไปด้วยความไม่กล้าที่จะเชื่อ ไพ่ที่ยังไม่ได้เปิดที่เขาภาคภูมิใจ ที่หยิบยืมมาจากเหยียนเสี้ยงหม่า นึกไม่ถึงว่าจะถูกสังหารในชั่วพริบตา!
ถังเฉาเพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชาให้เหตุการณ์นี้
ถึงแม้ว่าผู้มีฝีมือสูงสายในจะแข็งแกร่ง แต่ถ้าเทียบกับนักสังหารมืออาชีพแล้ว ยังห่างกันไม่ใช่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น เฟิ่งหวงเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก สังหารพวกเขา ก็เหมือนหั่นผักหั่นปลา
แต่ว่า เฟิ่งหวงได้เหลือพยานปากไว้คนหนึ่ง โยนไปไว้ตรงหน้าถังเฉาเหมือนกับโยนศพสุนัขตัวหนึ่ง
“ตอนนี้บอกได้หรือยัง?”
ถังเฉาเดินมาอยู่ข้างหน้า มองเขาอย่างเย็นชา “พวกคุณมีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลเหยียน”
ผู้มีฝีมือสูงคนนั้นมองถังเฉาด้วยใบหน้าประหวั่นพรั่นพรึง ภายใต้สายตาที่เย็นชาของถังเฉา นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงของการขอมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้ ขอความตายก็ไม่สามารถ
“ผมบอกแล้ว คุณก็จะไว้ชีวิตผมใช่ไหม?”
เสียงของเขาหวาดกลัวจนถึงขีดสุด
“ผมปล่อยคุณไปแน่” ถังเฉาเอ่ยอย่างเย็นชา
ผู้มีฝีมือสูงคนนั้นฟังเสียงที่อยู่เบื้องหลังของถังเฉาไม่ออก รีบร้อนพยักหน้า
“คุณทายไม่ผิด พวกเราเป็นคนของตระกูลเหยียน”
ได้ยินอย่างนั้น ถังเฉาก็ถามอีก “แล้วตระกูลเหยียนมีความสัมพันธ์อะไรกับสมาคมการต่อสู้สายใน?”
เจิงเทียนเสียงเคยบอกเขาไว้ว่า สี่ตระกูลมั่งคั่งและทรงอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ของเมืองหมิงจู ตระกูลเหยียนเป็นตระกูลที่มัธยัสถ์ที่สุด และก็เป็นตระกูลหนึ่งที่ผู้คนยากจะคาดเดาได้
เหมือนกับตัดขาดจากโลกภายนอก ทั้งไม่เข้าร่วมการต่อสู้แย่งลาภยศสรรเสริญ ทั้งยังไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะอีก
ถังเฉาไม่เชื่อว่าผู้นำของตระกูลเหยียนสันโดษได้ขนาดนั้น
ผู้มีฝีมือสูงคนนั้นพูดทุกอย่างที่รู้ออกมาทันที
“ตระกูลเหยียน ก็เป็นสมาคมการต่อสู้สายใน ทุกคนในตระกูลเหยียนล้วนเป็นบูโดอยู่นิดหน่อย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเหยียนยงถึงได้กลายเป็นหัวหน้าสมาคมการต่อสู้สายนอก!”
“อะไรนะ ตระกูลเหยียนเป็นสายในในตัวเอง?”
ได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของถังเฉาก็หรี่ลงอย่างล้ำลึก
แน่นอนว่าเขามองออก ผู้มีฝีมือสูงคนนี้ไม่ได้พูดโกหก
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ นึกไม่ถึงว่าเนื้อแท้ของตระกูลเหยียนจะเป็นสายในของสมาคมการต่อสู้
ที่จริง ถังเฉาควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว
ตระกูลเหยียนเป็นตระกูลที่ลึกลับที่สุดในสี่ตระกูลมั่งคั่งและทรงอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ในเมืองหมิงจูตระกูลหนึ่ง ทั้งยังไม่เหมือนกับอีกสามตระกูลใหญ่ตระกูลอื่น ไม่สู้แย่งชิงอะไรทั้งนั้น สามารถมองออกจากเหยียนยงหัวหน้าเก่าได้ว่าจะต้องมีความสัมพันธ์กับสมาคมการต่อสู้แน่ ๆ
เพียงแต่ว่า เรื่องนี้สั่นสะเทือนวงการเกินไป คนทั่วไปใครจะไปคิดถึงความสัมพันธ์ขั้นนี้ได้?
“แล้วทำไมพวกคุณถึงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลจ้าวได้?”
นี่เป็นคำสามที่สองที่ถังเฉาให้ความสำคัญ
คนคนนั้นหันกลับไปมองจ้าวจือชิวแวบหนึ่ง พอตัดสินใจอย่างแน่วแน่ก็กัดฟันพูดว่า “เพื่อสองเรื่อง ช่วยเหลือให้จ้าวจือชิวอยู่บนยอดสูงสุด สอง เพื่อที่จะฆ่าคุณ!”
“รนหาที่ตาย!”
พอคำนี้พูดออกมา ในดวงตาของเฟิ่งหวงก็ปะทุรังสีสังหารที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นมาทันที
ถังเฉาเองก็มีสีหน้าไร้อารมณ์ ไม่ต้องคิดเลย จะต้องหมายถึงเหยียนเสี้ยงหม่าแน่ ๆ
“ฆ่าเถอะ”
เขาเอ่ยอย่างเย็นชา
สีหน้าของผู้มีฝีมือสูงคนนั้นเปลี่ยนไปเป็นหวาดกลัวในชั่วพริบตา “คุณรับปากผมว่าจะไม่ฆ่าผม จะมาพูดแล้วกลับคำได้อย่างไร?”
ถังเฉายิ้มอย่างเย็นชา “ผมทำเหรอ? ผมรับปากว่าจะไม่ฆ่าคุณ แต่ว่า ไม่ได้หมายความว่าเฟิ่งหวงจะไม่ฆ่าคุณ”
“ตาย!”
กริชในมือของเฟิ่งหวงยกขึ้นอย่างรวดเร็ว ศีรษะหล่นลงมาส่งเสียงรับ
“ตาคุณแล้ว”
ถังเฉามองไปที่จ้าวจือชิว สายตาเรียบเรื่อย “คุณยังมีไพ่อะไรที่ยังไม่เปิดอีกไหม ถ้าไม่มี ทั้งหมดก็จบแล้ว”
จ้าวจือชิวสีหน้าซีดเผือด ผู้มีฝีมือสูงสายในพวกนี้เป็นไพ่ที่ยังไม่เปิดใบสุดท้ายของเขาแล้ว แต่ว่ากลับถูกผู้หญิงชุดหนังคนนั้นฆ่าเสียเรียบ เหลือเขาไว้เพียงคนเดียว สถานการณ์เลวร้ายจนไม่อาจหยุดยั้งได้แล้ว
จ้าวเย็นหรานมองอย่างโง่เง่า เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้ทุกเรื่องล้วนเกินความคาดเดาของเธอ
เธอคิดไม่ถึงว่าจ้าวเชียนจูนจะหักหลังได้ เธอคิดไม่ถึงว่าจ้าวจือชิวจะเชิญเอาผู้มีฝีมือสูงจากสมาคมการต่อสู้สายในมาได้ และเธอก็คือไม่ถึงว่า… ศักยภาพของถังเฉา… จะแข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้
มองดูถังเฉาที่เดินมาทางเขา กำปั้นของจ้าวจือชิวบีบแล้วคลาย ในที่สุดก็ไม่ต่อต้านอีก
เขามองจ้าวเย็นหรานแวบหนึ่ง พูดหัวเราะเยาะตัวเองว่า “เดิมทีฉันคิดว่าสถานการณ์โดยรวมของคืนนี้อยู่ในกำมือ แต่คิดไม่ถึงว่าตั้งแต่เริ่ม ฉันจะเป็นไอ้ขี้แพ้ตั้งแต่หัวจรดเท้าคนหนึ่ง”
“คุณผิดแล้วล่ะ”
ถังเฉาเอ่ยด้วยใบหน้าไร้ความอารมณ์ “ถ้าหากคุณไม่วางแผนก่อความวุ่นวายในครั้งนี้ ทั้งหมดนี่ก็จะไม่เกิดขึ้น”
จ้าวจือชิวมึนงง จากนั้นก็หัวเราะด้วยความขมฝาด “พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ผู้แพ้มักผิดเสมอ น้องสาว ในเมื่อฉันแพ้แล้ว จะอยู่หรือตายก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอ”
พูดจบก็ส่งปืนกระบอกหนึ่งให้กับจ้าวเย็นหราน
ได้ยินอย่างนั้น ถังเฉาก็หยุดย่างก้าว ถอยตัวออกไป
ดูเหมือนจ้าวเย็นหรานจะกระสับกระส่ายไม่สบายใจ ถึงขั้นจุดบุหรี่อย่างสั่น ๆ
เธอเคียดแค้นจ้าวจือชิวก็จริง แต่ถ้าเธอฆ่าคน เธอก็ทำไม่ได้
มองดูฉากนี้ เฟิ่งหวงก็มองไปที่ถังเฉาทันที “รองหัวหน้าคะ ทำไมถึงไม่ให้ฉันฆ่าเขาแทนเธอล่ะคะ?”
“เพราะว่าคุณไม่มีคุณสมบัตินี้ ผมเองก็ไม่มี”
ถังเฉาจ้องมองเธอเช่นเดียวกัน “นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของตระกูลจ้าวของพวกเขา พวกเราไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย”
เฟิ่งหวงส่ายศีรษะ “แบบนั้นโหดร้ายกับเธอมากไป”
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวของตระกูลจ้าว แต่เธอก็ไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายใดใด ยิ่งไม่เคยฆ่าคน
“เธอก็สามารถกลายเป็นคุณอีกคนหนึ่งได้”
ถังเฉาหันกลับไปทันที มองเธอแล้วพูดขึ้น
เพิ่งหวงตกตะลึง ไม่นานก็ส่ายหน้ายิ้ม ๆ “เธอเป็นฉันไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้เจอคุณเหมือนกับฉัน”
ถังเฉายิ้ม จากนั้นก็ติดตามสถานการณ์ต่อ
เขาเคารพการตัดสินใจของจ้าวเย็นหราน ถ้าเธอไม่มีความกล้าที่จะยิง เขาก็จะปล่อยจ้าวจือชิวไป
ด้วยความรวดเร็ว บุหรี่ตัวหนึ่งมอดไหม้จนหมดมวน สีหน้าของจ้าวเย็นหรานเปลี่ยนไปทันที กัดฟันพูดอย่างฉับพลัน “นายไปเถอะ!”
สีหน้าของจ้าวจือชิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เธอจริงจังเหรอ?”
“ไปเซ่! ต่อไปอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก!”
จ้าวเย็นหรานตะคอกเสียงดัง
จ้าวจือชิวเงียบไปพักหนึ่ง มองเธออย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง “หวังว่าเธอจะไม่เสียใจภายหลังนะ”
พูดจบก็เดินก้าวยาว ๆ ออกจากตระกูลจ้าวไป
เฟิ่งหวงผ่อนลมหายใจเฮือกหนึ่ง “โชคดีที่เธอไม่ได้ยิง”
“บางที ความสิ้นหวังของคืนนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะให้เธอเหนี่ยวไกปืน”
ถังเฉายิ้ม ตั้งใจจะพาเฟิ่งหวงจากไป
ปัง!
แต่ทว่า ในตอนนี้เอง ในบ้านกลับส่งเสียงปืนขึ้นมาทันทีโดยไม่มีพื้นเพ
ทันใดนั้น สีหน้าของถังเฉากับเฟิ่งหวงก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก จ้าวเย็นหรานเองก็แข็งทื่อไปทั้งตัว หมุนตัวช้า ๆ
เห็นเพียงจ้าวจือชิวยังเดินออกไม่พ้นประตูใหญ่ตระกูลจ้าว ก็ล้มลงไปอย่างปวกเปียก
ตายตาไม่หลับ