สามชั่วโมงต่อมา ผู้บ้าการแพทย์ออกมาจากห้องคนไข้ด้วยท่าทีที่เหนื่อยล้า ซ่งสวินและซ่งหมิงเวยรีบลุกขึ้นมาทักทายทันที
“ผู้บ้าการแพทย์ครับ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
ผู้บ้าการแพทย์เช็ดเหงื่อออกจากศีรษะและยิ้มเล็กน้อย พูดออกมาแค่สี่คำเท่านั้น
“ภารกิจลุล่วง!”
ซ่งสวินและซ่งหมิงเวยมองหน้ากัน ทั้งคู่ต่างมีความสุข
“เยี่ยมไปเลย!”
ดวงตาของซ่งหมิงเวยนั้นเปียกเล็กน้อย กลับกันดวงตาของซ่งสวินนั้นมีน้ำตาไหลมากยิ่งนัก เป็นการหลั่งน้ำตาออกมาอย่างตื้นตัน
พวกเขาประสบความเจริญรุ่งเรืองและความเสื่อมโทรมของตระกูลซ่ง สุดท้ายพวกเขาก็เข้าใจหนทางที่เรียบง่ายที่สุด
มีเงินมากแค่ไหน มีอำนาจมากเท่าไหร่ ก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสัมพันธ์ของคนในสายเลือด
ถ้าหากซ่งสวินปฏิบัติกับซ่งหรูอี้เหมือนที่เขาปฏิบัติกับหลานชายล่ะก็ บางทีตอนจบของตระกูลซ่งอาจแตกต่างไปจากเดิม?
น่าเสียดาย ที่มันไม่มีคำว่าถ้าหาก สิ่งที่มีคือการทะนุถนอมช่วงเวลาในตอนนี้ไว้
ถังเฉายังคงแสดงรอยยิ้มออกมา
แท้จริงแล้ว ไม่มีใครเกิดมาเพื่อเป็นคนเลว หากปล่อยวางชื่อเสียงเงินทอง ก็จะมีเพียงความบริสุทธิ์ที่แท้จริง
ผู้บ้าการแพทย์บอกกับพวกเขาว่า “ใบหน้าของซ่งชิงอวิ๋นนั้นไหม้อย่างรุนแรง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะซ่อมแซมมันให้กลับมาสมบูรณ์ แต่ฉันได้ขจัดรอยไหม้บนใบหน้าของเขา ในอนาคตถ้ารักษาอย่างดี ก็สามารถออกมาเจอผู้คนได้แล้ว”
“ส่วนซ่งเทียนซาน เขาได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เพียงแต่เขาจะต้องนั่งรถเข็นไปตลอดครึ่งชีวิตที่เหลือของเขา”
“ขอบคุณผู้บ้าการแพทย์ ขอบคุณผู้บ้าการแพทย์จริงๆ!”
ผลลัพธ์นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขามีความสุขแล้ว
ขอเพียงแค่ซ่งเทียนซานตื่นขึ้นมา ไม่ว่าชีวิตที่เหลือของเขาจะเป็นรูปแบบไหน พวกเขาก็ไม่ได้สนใจมันอีกต่อไป
“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปข้างในกันเถอะ”
ผู้บ้าการแพทย์ก้าวออกไป ซ่งสวินและซ่งหมิงเวยต่างก็รีบกรูกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ถังเฉาเองก็ตามติดมาอย่างใกล้ชิด
สิ่งที่เห็นบนเตียงคนไข้คือ คนหนุ่มสองคนที่นั่งกันอยู่บนเตียง
ซ่งชิงอวิ๋นถอดผ้าพันแผลที่หนาออก แม้ว่าจะมีอาการบวมที่เกิดจากการเผาไหม้บนใบหน้าของเขา แต่ก็ถือว่ารักษาไปได้มากแล้ว
ซ่งเทียนซานนั่งอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่สงบ เขาหลับไปนานเกินไป จู่ๆตื่นขึ้นมาก็รู้สึกทนต่อแสงแดดไม่ไหว อดไม่ได้ที่ต้องหรี่ตาลง
“เทียนซาน ชิงอวิ๋น…”
“ลูกพี่ลูกน้อง!”
ซ่งสวินและซ่งหมิงเวยตะโกนออกไปอย่างตื่นเต้น
ซ่งเทียนซานและซ่งชิงอวิ๋นต่างหันกลับมามองพวกเขา ด้วยท่าทีที่ดูเฉื่อยชา
“คุณปู่!”
“หมิงเวย!”
ทั้งสี่คนกอดกัน เมื่อเห็นฉากนี้ ถังเฉาก็ยิ้มเบาๆ
เขาเข้าใจแล้วว่า ความคับข้องใจเมื่อห้าปีที่แล้ว ตอนนี้ได้สิ้นสุดลงสักที
“ไปเถอะ”
ถังเฉาตั้งใจที่จะหันหลังและเดินจากไป
ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงตะโกนที่ดูโกรธเคืองออกมาสองครั้ง
“ถังเฉา นั่นแกเอง!”
“แกยังมีหน้ากล้ามาที่นี่อีกนะ!”
ซ่งเทียนซานและซ่งชิงอวิ๋นต่างตะโกนออกมา การแสดงออกของพวกเขานั้นดูโกรธแค้นเป็นอย่างมาก
ถังเฉาหยุดลง พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
ขณะที่เขากำลังจะพูด มีเสียงตบดังๆ สองครั้งในห้องผู้ป่วย
เปี๊ยะ เปี๊ยะ!
ซ่งสวินตบเข้าไปที่ใบหน้าของแต่ละคน ใบหน้าเต็มไปด้วยความมืดมน “เงียบซะ!”
“คุณปู่ ไอเด็กนี่คนนี้ทำให้ตระกูลซ่งของเราถูกทำลาย ทำไมท่านถึงยังปกป้องเขาอยู่ได้?”
ซ่งเทียนซานมองไปที่ถังเฉาอย่างเย็นชากว่าเดิม พร้อมกับพูดว่า “กล้ามากที่มาลงมือกับฉัน ฉันแนะนำให้แกคุกเข่าลงเลยเร็วๆ เพื่อที่ตระกูลซ่งจะยังได้ไว้ชีวิตแกอยู่!”
ซ่งหมิงเวยที่เห็นเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ลูกพี่ลูกน้องทั้งสอง ได้โปรดสงบปากสงบคำเถอะ ตระกูลซ่งในตอนนี้ ไม่เหมือนตระกูลซ่งในอดีตแล้ว!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ใบหน้าของซ่งเทียนซานและซ่งชิงอวิ๋นก็ถอดสี
“หมายความว่าอย่างไร?”
“ตระกูลซ่งของเราเป็นตระกูลที่มั่งคั่งไม่ใช่เหรอ เคยกลัวใครในหมิงจูบ้างหรือไง?”
เพราะพวกเขาอยู่ในอาการโคม่านานเกินไป ความรู้ความเข้าใจของพวกเขายังคงอยู่ก่อนอาการโคม่านั้น
ก่อนที่ซ่งชิงอวิ๋นจะอยู่ในอาการโคม่า ตระกูลซ่งถูกล้อมด้วยทหารที่มีปืนและทุกคนก็ถูกนำตัวกลับไปรอการพิจารณาคดี
ความทรงจำของซ่งเทียนซานนั้นกลับหยุดนิ่งนานกว่าเดิม
ร่วมมือกันลักพาตัวหลินชิงเสว่กับฉางเว่ยที่ตายไปแล้ว แต่ดันเข้าใจผิดคิดว่าหลินจ้าวหยูนคือหลินชิงเสว่ เจียงไป๋เสว่ที่ตามติดมามีบาดแผลเต็มทั้งร่างกายและหมดสติไป
อย่างที่ทุกคนรู้ ในระหว่างที่พวกเขานอนโคม่ากันอยู่นั้น วันเวลาของโลกภายนอกที่ล่วงเลยไปนั้นเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆไปมากมายนัก
อีกทั้งคนที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบของหมิงจูนั้น คือถังเฉาผู้ที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าพวกเขา!
ซ่งหมิงเวยที่ทนไม่ได้จึงเผลอบอกสถานการณ์ของหมิงจูออกมา
“ตอนนี้ตระกูลซ่งของเรา มีลูกพี่ลูกน้องซ่งหรูอี้เป็นหัวหน้าตระกูล นอกจากตระกูลเหยียนแล้ว ก็มีตระกูลเสิ่นที่ล่มสลายไป ตระกูลต่งก็ได้สับเปลี่ยนระบบ มีต่งวี่ซูเป็นหัวหน้าตระกูลแทน หรือจะกล่าวได้ว่าตอนนี้ในหมิงจูไม่มีสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่อีกแล้ว!”
“ตระกูลซ่งถูกแบ่งออกโดยคุณถัง ตระกูลเสิ่นเองก็ถูกฆ่าโดยคุณถัง ตระกูลต่งเองก็ไม่มีเงื่อนไขอะไรกับคุณถัง อีกทั้งยังมีสมาคมการต่อสู้อีก ทั้งหมดนี้เป็นคนของคุณถังทั้งนั้น!”
“นี่ยังไม่รวมถึงตระกูลน้อยใหญ่ที่ถูกทำลายไป เพียงเพราะทำการละเมิดคุณถัง ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหวาง ตระกูลจ้าว ตระกูลเจิ้ง!นอกจากนี้ก็ยังมีบางตระกูลที่ได้เป็นใหญ่เป็นโตจากการหันไปพึ่งพาตระกูลถัง เช่นตระกูลซุนและตระกูลเย่!”
“เรื่องที่พวกนายทั้งสองได้ตื่นขึ้นมา ก็ต้องขอบคุณคุณถัง ยังไม่รีบขอโทษคุณถังอีกเหรอ!”
“…..”
ทุกๆคนต่างเงียบสนิท
ไม่เพียงแต่ซ่งเทียนซานและซ่งชิงอวิ๋นที่ตกใจกลัว ซ่งสวินเองก็ใจสั่นคลอนเช่นกัน หัวใจนั้นเหมือนจะเด้งออกมาจากลำคอของพวกเขา
พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากนั้นไม่นาน รูปแบบของหมิงจูจะถูกพลิกกลับโดยถังเฉาและกลายเป็นเพียงสวนหลังบ้านของเขาแทน
แต่มีสิ่งที่พวกเขาไม่รู้อีกก็คือ ไม่ใช่แค่ในหมิงจูเท่านั้น แต่ยังมีเมืองหลินเฉิงและเมืองเจียงเฉิง ที่ยังมีตำนานของถังเฉาแพร่สะพัดไปอีกด้วย
การทำลายล้างตระกูลเหวิน ทำลายบ้านบรรพบุรุษของตระกูลหู รู้จักกับตระกูลเซี่ย แถมยังมีความสามารถในการชนะประมูลอีก
ชื่อของถังเฉา นั้นถูกกำหนดให้เป็นตำนาน
ดวงตาของซ่งหมิงเวยเองก็แดงเช่นกัน “การที่มีฉันในวันนี้ได้ ส่วนใหญ่ๆเลยก็มาจากคุณถังนั่นแหละ”
“ตระกูลไหนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณถัง ทั้งหมดล้วนแต่ไปได้ดี แต่หากตระกูลใดทำตัวเป็นศัตรูกับคุณถังล่ะก็ มันผู้นั้นก็จะถูกทำลายลงไปให้สิ้นซาก พวกเรานี่มองพลาดไปจริงๆ!”
ประโยคสุดท้ายที่บอกว่า ‘พวกเรานี่มองพลาดไปจริงๆ’ ทำให้ร่างกายของซ่งสวินนั้นสั่นเทา ภายในพริบตา ร่างกายของเขาก็แก่ลงไปหลายปี
นี่คือลูกเขยที่เขาตามหา ตอนนี้ได้กลายเป็นความอยู่รอดที่พวกเขาต้องแหงนมองขึ้นไปซะนี่
ถ้าให้เขากับซ่งหรูอี้ได้แต่งงานกัน ตอนนี้ตระกูลซ่งคงกลายเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ไปแล้ว?
ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ก็ไม่ได้เก่งกาจอะไร!
ซ่งเทียนซานและซ่งชิงอวิ๋นนั้นดูเอื่อยเฉื่อยอย่างสมบูรณ์ กลัวจนไม่กล้าที่จะหายใจแรงออกมาเลยด้วยซ้ำ
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เหลือบมองพวกเขาอย่างใจเย็น และจากไปพร้อมกับผู้บ้าการแพทย์
“คุณถัง ผมขอไปส่งท่านเองครับ!”
ซ่งหมิงเวยรีบออกไป ตามหลังถังเฉาไปอย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นซ่งหมิงเวยที่อยู่ด้านหลัง ถังเฉาก็ยิ้มออกมาทันที “นายไม่ต้องกลัวฉันขนาดนี้ก็ได้ เกียรติประวัติที่นายได้กล่าวมาทั้งหมด มันไม่ใช่เจตนาเดิมของฉันหรอกนะ”
ซ่งหมิงเวยตะลึง หัวใจของเขาเต้นแรง
เห็นเพียงถังเฉาเงยหน้าขึ้นแหงนหน้าไปบนท้องฟ้า พร้อมกับกล่าวอย่างสบายๆว่า “ความตั้งใจเดิมของฉันก็คือการได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับพวกเขา ไม่ต้องตลอดไป ขอแค่เพียงใช้เวลาให้คุ้มค่าก็พอ”
ซ่งหมิงเวยตกใจในทันที
ใช่ นี่คือชีวิตที่เขาใฝ่ฝัน อย่างไรก็ตาม ในโลกนี้มีคนมากมายที่มีตาแต่หามีแววไม่ มักจะบังคับให้เขาต้องโชว์เขี้ยวเล็บที่ยากต่อการขจัดออกไปอยู่เรื่อย
ด้านนอกของศาลอันเก่าแก่ มีคนที่รักใคร่อยู่เคียงข้าง แสงเทียนที่สั่นไหวแผดเผาตัวตนและมอบความอบอุ่นให้แผ่กระจายออกไป
เมื่อสายลมได้พัดผ่าน วันเวลาได้ล่วงลับและล่วงเลยไป ดอกท้อที่งดงามก็ยังคงเบ่งบานอยู่เสมอ
ถังเฉาและผู้บ้าการแพทย์ได้หายไปแล้ว เหลือเพียงแต่ซ่งหมิงเวยที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ตอบสนองเป็นเวลานาน
ในเวลานี้เอง ถังเฉาก็ได้รับสายจากหลินชิงเสว่
เนื้อหามีเพียงไม่กี่คำ
“พ่อใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้ว!