“ฮ่าๆๆๆ……”
ทันทีที่ตงหลี่พูดเช่นนี้ ผู้ชมทั้งหมดก็หัวเราะเสียงดังออกมา
ผู้หญิงที่มาร่วมงานทั้งหมดต่างมองถังเฉาด้วยท่าทีเยาะเย้ย แม้กะทั่งผู้ชายที่อยู่ข้างๆพวกเธอ สีหน้ายิ่งแสดงความดูถูก
เสื้อผ้าถังเฉารวมกันแล้วยังไม่ถึงหลักห้า ในมือก็ไม่มีเครื่องประดับสักชิ้น แน่นอนพวกเธอต้องคิดว่าถังเฉาเป็นคนขับรถของหลินจ้าวหยูนอยู่แล้ว
ตัวถังเฉาเองก็ตกตะลึงครู่หนึ่ง
การประชุมเพื่อนร่วมชั้น พึ่งจะเริ่มต้น ทำไมเขาบริสุทธิ์นอนอยู่เฉยๆยังถูกยิง?
หลินจ้างหยูนรู้สึกมึงงงอยู่ครู่หนึ่ง ในใจรู้สึกโกรธเล็กน้อย
แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมชั้น เธอจึงไม่เหมาะที่จะโกรธ เธอจึงต้องบากหน้าพูดว่า “เขาเป็นแฟนของฉัน”
สุดท้าย ต่งลี่เป็นตัวนำกลุ่มสาวยิ่งหัวเราะอย่างมีความสุขมากขึ้น
“โอ้ จ้าวหยูน พวกเรารู้ว่าเขาเป็นแฟนของคุณ คุณก็ไม่ต้องเจาะจงพูดออกมาก็ได้นะ”
“นั่นสิ จ้าวหยูนเอ้ย พี่น้องทุกคนรู้สึกสงสารคุณจัง ตอนอยู่มัธยม เธอเฉิดฉายขนาดนี้ เป็นดาวโรงเรียนเชียวนะ ทำไมพอเรียนจบแล้วคุณถึงหาแฟนแบบนี้นะ?”
“จ้าวหยูน ฟังฉันนะ สักครู่เดี๋ยวฉันแนะนำคนใหม่ให้ เขาไม่คู่ควรกับคุณ”
“…”
หลินจ้าวหยูนตกตะลึง ครู่เดียว ใบหน้าประณีตของเธอก็เต็มไปด้วยความโกรธ
“พวกคุณหุบปากไปเลย !”
เธอตะโกนด้วยความโมโห ต่งลี่พวกเขาต่างก็หยุดหัวเราะทันที และมองหลินจ้าวหยูนด้วยความประหลาดใจ
“เขาเป็นแฟนฉัน ถ้าใครกล้าเหยียดหยามเขา อย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้า!”
น้ำเสียงของหลินจ้าวหยูนมืดมน คงโกรธจริงๆแล้ว
ซูเซี่ยก็พูดอย่างโกรธเคือง “ตัดสินผู้คนจากรูปลักษณ์ของเขา นี่ก็คือธาตุแท้ของพวกคุณหรือไง?”
ตอนแรกเธอคิดว่าพวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าถังเฉาเป็นคนขับรถ เธอยังตั้งใจที่จะอธิบาย ตอนนี้ เธอถึงจะเข้าใจว่า ที่แท้พวกเขานั้นจงใจ
ทั้งๆที่รู้ว่าถังเฉาเป็นแฟนของเธอ ยังจงใจบอกว่าเขาเป็นคนขับรถและทำให้เขาอับอาย !
ต่งลี่ก็ไม่คาดคิดว่าหลินจ้าวหยูนจะมีปฏิกิริยาได้ขนาดนี้ ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้มออกมาทันที “จ้าวหยูน หลายปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน พวกเราล้อคุณเล่นหน่อยไม่ได้เหรอ? ”
“ใช่ จ้าวหยูน อย่าโกรธเลย ในเมื่อเป็นแฟนของคุณ ก็เข้ามาด้วยกันสิ”
คนทั้งกลุ่มเดินไปที่ห้องวีไอพีถงเชว่ถาย
บรรยากาศกลายเป็นความปองดองอีกครั้ง แต่ทุกคนรู้สึกได้ว่าเป็นเพราะถังเฉาความสัมพันธ์ค่อนข้างแข็งทื่อ
ถังเฉายิ้มอย่างไม่ใส่ใจและพูดว่า “จ้าวหยูน ผมไม่เป็นไร ”
ในฐานะคนที่เคยผ่านมา เขาดูออกแต่แรกถึงเนื้อแท้ของการประชุมรวมตัวเพื่อนชั้นเรียนในครั้งนี้
อ้างว่าเป็นการรวมตัวของเพื่อนร่วมชั้น แต่จริงๆแล้วเป็นการเปรียบเทียบและเยาะเย้ยซึ่งกันและกันมากกว่า
รายได้ เสื้อผ้า รถบ้าน และแม้กระทั่งเพื่อนผู้หญิงที่อยู่ข้างกาย ก็ได้กลายเป็นเครื่องมือสำหรับการเปรียบเทียบ
“ไม่เป็นไรได้ไง พวกเขาหมายความว่ายังไง?”
หลินจ้าวหยูนกัดริมฝีปาก และพูดอย่างโกรธเคือง
ที่เธอกลัวไม่ใช่เรื่องเสียหน้า แต่กลัวว่าพี่เขยของเธอจะมองตัวเองอีกแบบหนึ่ง ระหว่างสองคนต้องมีความห่างเหินเกิดขึ้น
เรื่องนี้ เธอจะไม่ปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้
ระหว่างที่สาวต้อนรับนำทางไป กลุ่มคนเข้าไปในห้องวีไอพีที่หรูหรา
จะเห็นได้ว่าคนที่จัดงานรวมตัวของเพื่อนร่วมชั้นนั้นรวยมาก ก็แค่วีไอพีห้องนี้ ค่าใช้จ่ายอย่างน้อยก็เป็น 100,000 แล้ว
ประตูห้องวีไอพีเปิดออก และมีเพียงชายที่แต่งตัวดีอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปีนั่งอยู่ข้างใน
“มาแล้วเหรอ?”
เมื่อเห็นเพื่อนร่วมชั้นสูงวัยเข้ามา ชายคนนั้นก็ยิ้มอย่างสุขุม
“โจวข่าย?”
เมื่อเห็นชายหนุ่มคนนี้ ต่งลี่ สวีเจีย หวังนั่วอีและคนอื่นๆ ก็จ้องตาไม่กระพริบ “ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”
โจวข่ายในสมัยเรียนเป็นผู้ชายที่มีอิทธิพลควบคุมสถานการณ์ มีผู้หญิงตามจีบเขาเยอะมาก และสาวๆทุกคนในห้องนี้ก็เคยแอบชอบเขา
ทันใดนั้น ต่งลี่อุทานอย่างประหลาดใจ“ฉันเข้าใจแล้ว โจวข่ายเป็นคนจัดงานการรวมตัวของเพื่อนร่วมชั้นครั้งนี้ใช่ไหม!”
เมื่อทุกคนได้ยินก็เห็นด้วย
“ก็ควรจะเป็นเช่นนั้น ไม่อย่างนั้น โจวข่ายจะมานั่งอยู่ข้างในทำไมล่ะ?”
“สมแล้วที่เป็นโจวข่าย เขาเป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างมากในสมัยเรียน หลังจากที่เขาออกจากโรงเรียน เขาก็เจริญรุ่งเรืองมากเช่นกัน”
“โจวข่าย อยู่ในกรมสรรพากรจะขึ้นตำแหน่งสูงแล้วสิ?”
หลินจ้าวหยูนกลับขมวดคิ้ว สำหรับโจวข่ายคนนี้ เธอไม่ได้สนใจเลยสักนิด
โจวข่ายยิ้ม และโบกมือให้ทุกคนสงบลง
เขายิ้มแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้เป็นผู้จัดการประชุมเพื่อนร่วมชั้นในครั้งนี้ แต่เป็นคนอื่น พวกคุณลองเดาสิว่าใคร?”
คำพูดไม่กี่ประโยค บรรยากาศก็ถูกปรับเปลี่ยนทันที
ต่งลี่ สวีเจียและคนอื่นๆ ต่างก็เดา แจ้งรายชื่อทีละชื่อ
“ไม่ใช่ทั้งนั้น ”
โจวข่ายยิ้มเล็กน้อย แล้วมองไปที่หลินจ้าวหยูน “จ้าวหยูน คุณเดาสิ?”
หลินจ้าวหยูนด้วยท่าทีที่ไม่แยแส และพูดชื่อหนึ่งขึ้นมาโดยไม่จริงจัง “หวังอิ่ง?”
โจวข่ายปรบมือ “เดาถูกแล้ว ก็คือเธอ!”
“เธอไม่ใช่ลูกเป็ดขี้เหร่ในตอนนั้นแล้ว ตอนนี้เธอสวยมาก เธอยังแต่งงานกับGolden bachelor งานรวมตัวเพื่อนชั้นเรียนครั้งนี้ก็เข้าร่วมด้วย”
“โอ้ พระเจ้า ที่แท้เป็นเธอ ฉันจำได้ว่าตอนเรียนมัธยมปลาย เธอทั้งดำทั้งขี้เหร่ ถึงกลับหาได้Golden bachelor”
“โตเป็นสาวสิบแปดแล้วหน้าตาเปลี่ยนจริงๆ อีกซักพักคงต้องชนกับเธอหลายแก้วหน่อย”
…
ต่งลี่ สวีเจีย หวังยั่วอีแววตาพวกเธอเต็มไปด้วยความอิจฉา
แต่หลินจ้าวหยูนกลับพาถังเฉากับซูเซี่ยนั่งลงตามที่นั่ง
โจวข่ายสังเกตเห็นซูเซี่ยในทันที ถามว่า “สองท่านนี้คือ?”
“พี่น้องของฉัน ซูเซี่ย นี่คือแฟนของฉัน ถังเฉา”
“ถังเฉา…”
โจวข่ายรู้สึกว่าชื่อนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่จำไม่ได้ในทันที ดังนั้นเขาจึงไม่อยากไปคิด
ด้วยเหตุที่ติดนิสัยจากการทำงาน ไม่ได้ทำให้เขาเยาะเย้ยเหมือนต่งลี่ และเป็นคนที่ยื่นมือไปหาซูเซี่ยก่อน
“สวัสดีครับ ผมชื่อโจวข่าย และผมทำงานอยู่กรมสรรพากรที่เจียงเฉิง”
“สวัสดีค่ะ”
ซูเซี่ยกล่าวทักทายอย่างสุภาพ แต่ไม่ได้จับมือกับเขา
โจวข่ายขมวดคิ้วทันที ด้วยฐานะตำแหน่งงานของเขาแล้ว ใครๆก็แย่งกันที่จะจับมือกับเขา?
ตอนนี้เขาเป็นคนเริ่มก่อน ถึงกับถูกปฏิเสธ
“นี่เธอกำลังปฏิเสธโจวข่ายเหรอ?”
“ผู้หญิงโง่ เธอพลาดโอกาสที่จะได้สามีรวยแล้ว!”
“เฮ้อ ถ้าเป็นฉันจะดีขนาดไหนนะ?”
ต่งลี่และคนอื่นๆ ต่างก็อิจฉาซุบซิบนินทา
โจวข่ายมองไปทางถังเฉาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้ยื่นมือออกไป “โจวข่าย คุณเป็นแฟนของหลินจ้าวหยูน ต่อไปติดต่อกันบ่อยๆนะครับ”
“ถังเฉา”
ถังเฉายิ้มแล้วพยักหน้า
พูดตามตรง เขามีความประทับใจที่ดีต่อโจวข่าย อย่างน้อยเขาก็จะไม่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการทำงานของเขา เป็นคนใหญ่โตวางตัวสบายๆ ดูเหมือนจะกลายเป็นหลักเกณฑ์แบบหนึ่งของเขา
“หวังอิ่งมาแล้ว!”
ทันใดนั้น ประตูห้องวีไอพีก็ถูกผลักออก
หญิงสาวที่ส่องประกายความงามเดินเข้ามา
เธออาจจะดูไม่สวยเท่าหลินจ้าวหยูน แต่จากตัวเธอ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่สูงส่งโดยเฉพาะสร้อยคอเพชรที่เธอสวมบนคอ ช่างน่าอิจฉา
“เธอชื่อหวังอิ่ง เมื่อก่อนเคยชอบโจวข่าย แต่โจวข่ายกลับชอบฉัน จึงไม่ชอบฉันมาโดยตลอด”
หลินจ้าวหยูนกระซิบข้างๆถังเฉา
หลังจากพูดจบ ก็เพิ่มอีกประโยคหนึ่งว่า “แน่นอนฉันก็ไม่ชอบเธอเหมือนกัน”
ข้างกายเธอเป็นชายชราสูงเพียง 1 เมตร 7 ฟุต ซึ่งมีอายุประมาณ 50 ปี พอเข้ามาก็เขาทักทายทุกคนให้กินดื่มตามสบาย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคิดที่เขา
เมื่อตอนพูด ดวงตาของเขาจ้องไปที่หลินจ้าวหยูนกับซูเซี่ย
หวังอิ่งกลับไม่ได้สังเกต
เธอนั่งลงข้างโจวข่ายอย่างเป็นธรรมชาติ และพูดกับทุกคนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “นี่คือสามีของฉัน เปาฉวน เขาก็รักฉันมากแบบนี้แหละ”
ต่งลี่และคนอื่นๆ แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของหวังอิ่งต่างก็พากันชนแก้วกับเธอ
หวังอิ่งมีความสุขมาก จู่ๆสายตาเธอก็จับจ้องไปที่ตัวหลินจ้าวหยูนกับถังเฉา
“จ้าวหยูนเอ้ย นี่ก็คือแฟนของคุณเหรอ? ก็ไม่เท่าไหร่นิ”