เซี่ยหรูหลงได้เดินออกไปนานแล้ว แต่ห้องอาหารก็ยังเงียบสงัดเหมือนเดิม
ไม่นานโจวข่ายถึงได้สติกลับมา และไปโค้งคำนับต่อหน้าถังเฉา
“คุณถังเฉา ขอบคุณนะครับ!”
ทักคนได้ได้ยินว่า โจวข่ายใช้คำที่เคารพ
ถังเฉายิ้มและโบกมือ: “เรื่องเล็กน้อย”
ทุกคนก็ได้กลับไปที่โต๊ะอาหาร และบรรยากาศดูคึกคักมาก
ก็เหมือนดั่งตอนที่หวังอิ่งพึ่งเข้ามา
แต่ตอนนี้บนโต๊ะอาหารเหมือนมีอะไรผิดแปลกไป
หัวข้อที่ทุกคนคุยกัน
ตอนแรกหัวข้อที่คุยกันหนีไม่พ้นหวังอิ่งและโจวข่าย ตอนนี้ก็หนีไม่พ้นถังเฉาและหลินจ้าวหยูน
“ต่งลี่ จริงๆแล้วเมื่อกี้……”
ต่งลี่ผลักเธอออกไป
“เฮ้อๆ จ้าวหยูน แฟนของเธอก็ร้ายกาจไม่เบานะ?”
“สวีเจีย ฉัน….”
“จ้าวหยูน แฟนเธอทำงานอะไรหรือ? ”
“อีอี……”
“พวกเธอเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆนะ”
สวีเจีย หวังนั่วอีไม่ได้มองไปหาหวังอิ่งสักนิดเลย และพยายามประจบประแจงหลินจ้าวหยูน จุดประสงค์ก็คืออยากกู้สถานการณ์ที่เก้อเขินนี้
หลินจ้าวหยูนจะยอมรับได้ไง และพูดออกมาอย่างจืดชืดว่า: “ไม่โกหกแล้ว ถังเฉาไม่ใช่แฟนฉัน แต่เป็นพึ่เขยฉัน!”
คำพูดนี้ถูกพูดออกมาทุกคนมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะโจวข่าย
ต่งลี่เหลือบตาไปมองและหัวเราะ: “ไม่ต้องแสดงแล้ว เขาก็คือแฟนของเธอ และที่ฉันเคยล่วงเกินไป ฉันก็ข้อโทษด้วยนะ”
“เขาเป็นพี่เขยฉันจริงๆ และโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาเมื่อกี้ พี่สาวฉันเอง”
หลินจ้าวหยูนพูดอย่างจริงจัง: “ไม่งั้นพวกเธอคิดว่าใครจะได้ใจพี่สาวฉันไปได้?”
ตอนนี้ทุกคนถึงได้รู้ความจริงว่า ถังเฉาเป็นพี่เขยของหลินจ้าวหยูนจริงๆ
ต่งลี่เหมือนอยากถามอะไร โจวข่ายได้ใช่สายตาห้ามเธอไว้
เขาได้ถือแก้วเดินไปตรงหน้าของถังเฉา: “คุณถังเฉา ผมขอเชิญดื่มไวน์สักแก้ว”
ถังเฉารับคำขอนั้นด้วยความปิติยินดีอย่างยิ่ง
แต่ไวน์แก้วนี้ เป็นแก้วที่ครบรสจริงๆ
ผู้ขายคนนี้สูบบุหรี่บุหรี่พิเศษสนามรบ ยังมีบัตรสมาชิกถงเชว่ถาย เซี่ยหรูหลงทั้งโกรธทั้งเกลียดเขา
ยังมีอะไรที่เขายังไม่ได้ค้นพบหรือเปล่า?
โจวข่ายไม่ต้องการคำอธิบาย แต่ถึงเขาจะลองคิดสมมติฐานดู แต่ยังคิดไม่ออกอยู่ดี
ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่แบบนี้ คงใช้ไม้บันทัดคงวัดได้ไม่หมดหรอก?
แต่สิ่งหนึ่งที่โจวข่ายรู้เลยก็คือ จะต้องสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรสหายกับเขาจะเป็นศัตรูไม่ได้ !
หวังอิ่งที่ถูกมองข้ามไปนั้นหายใจเข้าลึกๆ และตะโกนขึ้นมา: “พวกเธอหุบปากไปเลย!”
ทันใดนั้น บรรยากาศเงียบสงัด
ทุกคนมองเธอด้วยสีหน้าที่แปลกใจ
“พวกเธอไม่ได้ไว้หน้าฉันเลย งานเลี้ยงสังสรรค์กลุ่มเพื่อนนี้ ฉันเป็นคนจัดขึ้น พวกเธอกลับไม่สนใจฉัน!”
หวังอิ่งมองต่งลี่ สวีเจียและเพื่อนๆด้วยแววตาที่โกรธ สุดท้ายสายตาไปอยู่ที่หลินจ้าวหยูน
พวกเขากำลังมองเธออย่างมึนงง ในแววตาไม่มีความโกรธเลย เหมือนกำลังมองสุนัขพันธุ์ปักกิ่งที่กำลังเห่าอยู่
เพียงแค่มองไปแวบเดียว ต่งลี่ สวีเจียพวกเธอก็ได้ไปล้อมรอบและคุยกับหลินจ้าวหยูนต่อ
ความที่เร่าร้อนได้ลุกไหม้ขึ้นในดวงตาของหวังอิ่ง
หวังอิ่งก็ได้ลุกขึ้นมาทันทีและเดินไปตรงหน้าหลินจ้าวหยูนและถังเฉา: “พวกคุณออกไปจากที่นี้เดี๋ยวนี้ ที่นี้ไม่ต้อนรับพวกคุณ!”
ถังเฉาและหลินจ้าวหยูนได้แย่งฟน้าตาของเธอไปหมด ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี้ เพื่อนๆก็คงสนใจตัวเธอมากขึ้น
หลินจ้าวหยูนขมวดคิ้ว: “ครั้งนี้มีเหตุผลอะไรอีก?”
ในแววตาของต่งลี่สวีเจียแลเะพื่อนๆแฝงไปด้วยความโกรธ แววตาของโจวข่ายก็เยือกเย็นลงไม่น้อย
หลังจากที่รู้ฐานะจริงๆของถังเฉาแล้ว หวังอิ่งก็กลายเป็นเหมือนขอทานที่ใส่ชุดของราชา จากในสู่ข้างนอก เต็มไปด้วยกลิ่นอายของคนรวยชั่วข้ามคืน
หวังอิ่งหัวเราะและพูดว่า: “งานเลี้ยงสังสรรค์นี้ ฉันเป็นคนจัดขึ้น ฉันจะให้ใครออกไป คนนั้นก็ต้องออกไป”
หลินจ้าวหยูนกำลังจะพูดอะไรออกมา ทันใดนั้นผู้จัดการของถงเชว่ถายเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก
“คนที่ต้องออกไปคือเธอ เธอมีสิทธิ์อะไรจะมาไล่คุณถัง คุณเป็นใครมาจากไหน?”
หวังอิ่งได้ยินแบบนี้ก็โกรธขึ้นมา: “คุณพูดอะไรนะ ฉันเป็นลูกค้านะ!”
“ฉันใช้เงินมากมายในการจัดงานนี้ คุณกลับจะมาไล่ฉันหรือ คุณคงอยากตกงานสินะ?”
เรื่องเซี่ยหรูหลงที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ หวังอิ่งยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื้องใหญ่แค่ไหน เธอยังมีท่าทีที่หยิ่งผยองเหมือนเดิม
ผู้จัดการของถงเชว่ถายมองเธออย่างนิ่งเฉย: “เธอยังมีอะไรกับห้องอาหารนี้มั้ย คุณถังมาท่านข้าวที่นี้ ทุกอย่างฟรีหมด เงินที่เล็กน้อยของเธอ ไม่สมควรที่จะพูดถึงเลย
พูดถึงประเด็นพอดี ห้องอาหารนี้หวังอิ่งเป็นคนเปิดก็จริง และพวกเธอได้กินอาหารนี้หมดแล้ว
แต่อาหารที่นำมาเสริฟ์เหล่านี้ ถูกนำมาเสริฟ์เพราะเห็นแก่หน้าของถังเฉา
” อะไรนะ? ฉันไม่เชื่อ!”
สีหน้าของหวังอิ่งตอนนี้ดูแย่มาก:” ไม่ต้องคำนึงถึงหน้าเขาหรอก ฉันมีเงินฉันจะไม่มีปัญญาจ่ายเองหรือ?”
ผู้จัดการหัวเราะเยาะ:” เธอคงคิดว่า มีสามีที่รวยแล้วจะไม่ต้อมกลัวใครแล้วใช่มั้ย?”
” ผมขอโทษที่ต้องพูดตรงๆนะ สมบัติของสามีของ ยังเทียบไม่ได้กับบัตรสมาชิกใบบั้นเลย ”
“เอาตัวออกไป!”
ผู้จัดการได้โบกมือขึ้นมา และมียามได้เข้ามาทันทีแล้วเอาตัวเธอออกไป
เปาฉวนเป็นสามีของเธอก็ถูกเอาตัวออกไปด้วย
หวังอิ่งยังตะโกนออกมาไม่หยุด
“พวกคุณกล้าที่จะไล่ฉันออกไปหรือ บ้าไปแล้ว!”
“อ้า? พวกนายดึงกระโปรงฉันเพื่ออะไร? ถ้ากระโปรงขาดพวกนายชดเชยไหวมั้ย? ”
เพียะ!
ยามได้ตอบไปที่ใบหน้าของเธอ: “ถ้าคุณยังไม่หยุดตะโกน ผมจะตบให้หน้าคุณลายแน่นอน”
หวังอิ่งเงียบไปทันที
ทั้งสองคนถูกโยงออกไป
ตอนนี้ใบหน้าของเปาฉวนมีแต่ดิน และสีหน้าเขามืดมนถึงขีดสุด
หวังอิ่งยังด่าไม่หยุด: “พวกคนจน ที่รักเราไม่ไปถือสาพวกเขานะ…..”
ปั่ง!
เปาฉวนกลับถีบเธอลงไปนั่งกับพื้น และดึงผมเธออย่างแรงตบไปที่ใบหน้าเธอหลายครั้ง
“ไอผู้หญิงหน้าไม่อายไม่รู้จักเจียมตัว คิดว่ามีเงินแค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวใครแล้วหรือ? แม่มึงที่สำคัญเงินเหล่านี้ก็ไม่ใช่ของมึง! มึงเป็นตัวอะไร!”
“กูจะตบมึงจนตาย!”
เปาฉวนตบไปที่ใบหน้าของหวังอิ่งอย่างแรก และไม่นานก็มีเสียงร้องหวยหวงของเธอดังขึ้น
“หย่า มึงออกจากบ้านกูไปกูจะไม่ให้สมบัติอะไรติดตัวมึงไปเลย!”
สุดท้ายก็ทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่เยือกเย็นนี้แล้วก็จากไป
อีกฝั่งทุกคนก็ได้กินข้าวอิ่มก็ได้ต่างคนแต่งแยกย้าย
ถังเฉากำลังจะพาหลินจ้าวหยูน ซูเซี่ยกลับไป โจวข่ายได้รีบวิ่งตามมา
“คุณถัง รอก่อนครับ””
ทั้งสามคนมองโจวข่ายด้วยความแปลกใจ
โจวข่ายยิ้มอย่างลำบากใจ:” ผมมาขอโทษครับ คุณถัง ผมขอโทษ”
” มาขอโทษทำไม?”
โจวข่ายพูดว่า:” ตอนแรกผมคิดว่าคุณเป็นแฟนของหลินจ้าวหยูน ผมก็รู้สึกได้ว่าคุณก็รู้ว่าตอนนั้นผมมีเจตนาที่ไม่ดีกับคุณ”
ได้ยินแบบนี้แล้ว ถังเฉาหัวเราะ:” คนที่มีเจตนาร้ายกับผมมีมากมาย แต่นายเป็นคนที่จริงใจที่สุด
ถังเฉาเอาบุหรี่พิเศษสนามรบยัดเข้าไปในมือของโจวข่าย
โจวข่ายรีบรับไว้ ใช้สายตาบอกลาพวกเขา แววตานั้นเป็นแววตาที่เคารพ
บางครั้งทำให้คนตอบแทนด้วยความจริงใจเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
ส่งหลินจ้าวหยูนและซูเซี่ยกลับไปถึงบ้านพักตากอากาศที่เช้าไว้แล้ว ถังเฉาก็รีบขับรถกลับไป
ต่อมาเขาก็ได้รับสายที่โทรมาจากเจียงไป๋เสว่
“ถังเฉา นายอยู่ไหน…..”
เสียงเธอดูอ่อนแรงมาก เธอน่าจะบาดเจ็บแน่ๆ