คำพูดของหวังอิ่ง ทำให้ต่งลี่ สวีเจียและหวังนั่วอีเพื่อนเก่าของเธอผ่อนคลายลง และหัวเราะเฮ้อๆแล้วอวยพรให้กับหวังอิ่ง
“สมกับเป็นคนที่เข้าสู้สังคมเร็วที่สุดจริงๆ แถมยังมีการงานที่ดีที่สุดอีกด้วย”
อาหารถูกเสิร์ฟหมดแล้ว แต่เด็กเสิร์ฟคนนี้พูดอย่างชัดเจนแล้วว่า เป็นเพราะเห็นแก่หน้าของแขกวีไอพีถึงได้นำอาหารพวกนี้มาเสิร์ฟ
เสิร์ฟพร้อมไวน์โรมาเน่คอนติที่ถูกมักมานาน
คนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ นอกจากโจวข่ายแล้ว ใครจะได้รับการดูแลที่ดีแบบนี้นอกจากเขา
หลินชิงเสว่ซูเซี่ยมองไปหาถังเฉาไปพร้อมกัน
ถ้าเห็นแก่หน้าของโจวข่ายถึงนำอาหารพวกนี้มาเสริฟ์จริงๆ ทำไมไม่นำมาเสริฟ์ตั้งแต่ตอนแรก?
ที่สำคัญ อาหารพวกนี้ถูกนำมาเสริฟ์หลังจากถังเฉาออกไป
หลินจ้าวหยูนซูเซี่ยมองตาถลนทันที: “พี่เขย พี่เองหรือ?”
ถังเฉาโบกมือ: “อย่าพูดเสียงดัง”
ถึงหลินจ้าวหยูนจะอยากที่จะพูดออกมา แต่ถังเฉาไม่ให้เธอทำแบบนั้น เธอก็เลยทำอะไม่ได้
เธอก็ยิ่งรู้สึกยกย่องนับถือถังเฉามากยิ่งขึ้น
“โจวข่าย ตอนนี้นายเป็นคนดังที่ติดตามคุณชายตระกูลเซี่ย ระหว่างความสัมพันธ์ของพวกเราแล้ว เรื่องของสามีฉัน นายคงจะช่วยใช่มั้ย?”
หวังอิ่งเปลี่ยนหัวข้อที่คุยกันกะทันหัน และซอกไปที่แขนของโจวข่าย แสดงให้เขารู้ถึงความต้องการของตัวเองชัดเจน
หวังอิ่งชอบโจวข่ายมาโดยตลอด ตั้งแต่ตอนสมัยจบใหม่แล้วจนถึงตอนนี้ ที่เขาไปเป็นแฟนกับเปาฉวนเป็นเพราะเงินล้วนๆ
เปาฉวนมีสีหน้าที่มืดมน แต่ก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหัวเราะและพูดกับโจวข่ายว่า: “อิ่งอิ่งพูดถูก พวกเธอสองคนเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว เรื่องแค่นี้ คงไม่ช่วยไม่ได้นะ?”
โจวข่ายขมวดคิ้ว
ไม่รู้เพราะอะไร เห็นอาหารที่น่ากินแบบนี้ถูกส่งมา พร้อมกับไวน์ โรเน่คอนติสองขวด ในใจของเขากลับรู้สึกกดดันอย่างมาก
“รอก่อน!”
เขารีบโบกมือ:”นายบอกว่าอาหารพวกนี้ นำมาเสริฟ์เพราะเห็นแก่หน้าของฉันหรือ?”
“ใช่ครับ นอกจากนาย ยังจะมีใครหรือ?”
หวังอิ่งยิ้มอย่างอ่อนหวานฟ: “เป็นถึงคนดังที่อยู่ข้างๆคุณชายเซี่ยเลยนะ”
โจวข่ายตกอยู่ในความเงียบ และไม่ได้ตอบอะไรหวังอิ่งแล้วลุกขึ้น
“ฉันไปเข้าห้องน้ำสักครู่”
เขาออกจากที้นังขอวตัสเองอย่างลำบากใจ
ในโต๊ะอาหารก็เริ่มพูดคุยกัน โดยนำโดยหวังอิ่ง พูดคุยถึงเรื่องเจ้าชู้ตอนสมัยเรียนของโจวข่าย
หลินจ้าวหยูนไม่อยากจะเข้าร่วม หันกลับไปอีกที ถังเฉาก็หายไปแล้ว
กำลังจะไปตามหา ซูเซี่ยกลับมาดึกแขนไว้และส่ายหัว
ในห้องน้ำที่หรูหรา
โจวข่ายล้างมือด้วยน้ำที่เย็น และล้างหน้า
เขามองตัวเองที่อยู่ในกระจก
เป็นเพราะเห็นแก่หน้าฉันหรือ?
โจวข่ายขำตัวเอง
ดูปลอมมาก
เขาพึ่งเคยเจอหน้าเซี่ยหรูหลงไม่กี่ครั้งเอง เป็นไปไม่ได้ที่เซี่ยหรูหลงจะเลี้ยงอาหารที่หรูหราและไวน์ชื่อดังแบบนี้
โต๊ะอาหารนี้ต้องมีแขกที่สูงส่งกว่าเขาแน่นอน!
ขณะเดียวกัน มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้เดิมมาหยุดตรงหลังเขา
เมื่อเห็นหน้าเขาชัดแล้ว โจวข่ายหน้าเปลี่ยนสีอึ้งเล็กน้อย
“คุณเองหรือ?” แฟนของจ้าวหยูน
ถังเฉาพยักหน้าเบาๆ โจวข่ายรีบหลีกทางให้เขา
ถังเฉาเปิดน้ำจนแรงสุด แต่ก็ไม่ได้ล้างมือ
แต่กลับเงยหน้าไปมองตัวเองที่อยู่ในกระจก
“ผมไม่ใช่แฟนของจ้าวหยูน” ถังเฉาพูดออกมา
ได้ยินแบบนี้ โจวข่ายอึ้งไปเลยแล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่แปลกใจ: “แล้วทำไมคุณถึง……”
“ผมเป็นพี่เขยเธอเอง”
โจวข่ายถึงรู้ความจริง
“จ้าวหยูนกลัวขายหน้าต่อหน้าเพื่อนๆ เลยให้ฉันมา แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ นี้กลับทำให้เธอยิ่งขายหน้าขึ้นไปอีก”
ถังเฉาหยิบบุหรี่ออกมาแล้วส่งไปให้โจวข่าย: “สูบบุหรี่มั้ย?”
โจวข่ายลังเลอยู่สักพักแต่ก็รับมา
เมื่อเห็นหอของบุหรี่แล้ว มือของเขาสั่น และทำบุหรี่นัมานั้นล่วง
หอของบุหรี่เป็นสีเขียวลายพราง แถมยังมีรูปปืนครกอยู่หน้าซองด้วย
“บหรี่พิเษศของสนามรบ……”
โดยเฉพาะรูปปืนครกนั้นเป็นสัญลักษณ์ของบุหรี่ชั้นสูง
บุหรี่ชนิดนี้มีเพียงหัวหน้าสนามรบถึงมีสิทธิ์สูบกัน…..
โจวข่ายมองถังเฉาด้วยแววตาที่ตกตะลึง
หรือว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสนามรบ?
ไม่ว่าน้อยหรือมากถังเฉาก็อ่านใจของโจวข่ายในตอนนี้ออกว่าเขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ ก็เลยไม่ได้หัวเราะเขาที่ทำบุหรี่ตก และส่งม้วนใหม่ไปให้เขา
“ขอบ ขอบคุณครับ”
โจวข่ายรับมาสั่นกลัวและจุดบุหรี่ด้วยความสั่นกลัว
ลังเลอยู่พักหนึ่ง กำลังคิดว่าจะไปจุดบุหรี่ให้ถังเฉา
การกระทำนี้ เขายังไม่รู้เลยว่าทำไมเขาต้องทำแบบนั้น
เหมือนเป็นการทำตัวให้เขากับสถานการณ์
แต่ถังเฉากลับปฏิเสธ: “ฉันมีแล้ว”
เขาก็ได้จุดบุหรี่และทั้งสองคนก็ได้สูบบุหรี่อยู่ในห้องน้ำ
แค่ก! แค่ก! แค่ก!
บุหรี่พิเศษสนามรบมีกลิ่นที่แสบจมูกมาก คนมักไม่ค่อยคุ้นชิน โจวข่าย สำลัก และไอออกมา
“ค่อยๆ สูบ บุหรี่นี้คนทั่วไปไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่”
โจวข่ายยิ้มอย่างลำบากใจ: “ขายหน้าหรือ? ผมไม่เห็นคุณจะขายหน้าตรงไหนเลย?”
เขามองออก ไม่ว่าจะเป็นการพูดเสียดสีของต่งลี่ สวีเจียหรือหวังอิ่งพูดเสียดสีมากขึ้น ถังเฉาก็ไม่ได้โกรธจริงๆ
เขาก็เหมือนคนนอก ดูพวกหวังอิ่งแสดง
ถังเฉาแค่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
โจวข่ายพูดต่อว่า: “แล้วพวกอาหารและไวน์…… นำมาเสริฟ์เพราะคุณใช่มั้ย?”
ถังเฉาสูบบุหรี่เข้าลึกๆ เหมือนคิดถึงกลิ่นบุหรี่นี้มาก
จนสูบบุหรี่หมดม้วนแล้วทิ้งลงไปที่โถขี้บุหรี่: “ถึงหวังอิ่งคนนี้จะร้ายกาจ แต่อย่างน้อยก็พูดถูกประโยคหนึ่ง คบเพื่อนแบบไหน สำคัญมาก”
“คุณน่าจะรู้พลังที่แฝงอยู่ในประโยคนี้มากกว่าผม”
พูดจบก็ได้โบกมือกำลังจะเดินกลับไป
โจวข่ายเงียบอยู่สักพักและมองไปที่บุหรี่พิเศษในมือและ
เมื่อดับบุหรี่แล้วเขาก็ได้เดินกลับไป
เห็นถังเฉาเดินมาก่อนและโจวข่ายเดินตามมาหวังอิ่งได้หัวเราะอย่างเยือกเย็นออกมา
“จ้าวหยูน แฟนเธอหน้าไม่อายจริงๆ เห็นโจวข่ายไปห้องห้องน้ำแล้วยังตามไปอีก มุมานะหน่อยไม่ได้หรือ”
“หวังอิ่ง!”
หลินจ้าวหยูนยังไม่ทันที่จะพูดอะไรเลย โจวข่ายก็ได้ตะคอกออกมาแล้ว ดูเหมือนไม่พอใจเล็กน้อย
ถังเฉาก็ยังนั่งอยู่ที่ที่นั่งของเขาเองและกินและดื่มอย่างสบายใจ
หวังอิ่งก็ได้อึ้งไปและเงียบไปอย่างไม่เต็มใจ
แต่ทำอะไรไม่ได้หวังอิ่งก็ยิ้มให้โจวข่ายอีกอย่างมีอะไรแอบแฝงอีกครั้ง: “โจวข่ายฉันรู้ว่านายเป็นคนถ่อมตัว ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่านายเป็นคนที่อยู่กับถังเฉา แต่นี่มันงานเลี้ยงสังสรรค์ของเพื่อน มีอะไรก็พูดออกมาให้เต็มที่ไปเลย!”
โจวข่ายมีความรู้สึกที่ไม่ดีเท่าไหร่ และทันใดนั้นเขาก็ได้ไปจับที่ไหล่ของหวังอิ่ง: “เธอทำอะไร?”
เขาจ้องมองหวังอิ่งอย่างไม่ละสายตา สีหน้าเขาดุร้ายและน่ากลัว
หวังอิ่งอึ้งไปและเหวี่ยงแขนที่อยู่ตรงไหล่ของเธอออก : “ก็ไม่มีอะไร ก็เพราะคุณชายเซี่ยเลี้ยงอาหารพวกนี้ให้กับนาย ฉันก็แค่อยากจะขอบคุณต่อหน้าเขาเฉยๆ ฉันก็เลยให้ผู้จัดการถงเชว่ถายเชิญเขามา”
“…….”
คำพูดของหวังอิ่งทำให้โจวข่ายอึ้งไปเลย
วินาทีต่อมา สีหน้าเขาเปลี่ยนไปมากและกัดฟัน
“หวังอิ่งเธอรู้มั้ยว่า เธอทำอะไรลงไป?!”
หวังอิ่งก็ตกใจเหมือนกัน: “ก็ไม่มีอะไรฉันก็แค่เชิญคุณชายเซี่ยมา ให้ทุกคนได้ทำความรู้จักเฉยๆ!”
“ฉัน……”
โจวข่ายเกือบจะบ้า
เขาและเซี่ยหรูหลงไม่ได้สนิทกันเลย!
ตึก! ตึก! ตึก!
ในตอนนี้ เสียงรองเท้าหนังได้รอยมาจากข้างนอกต