โรงงานที่ไหนสักแห่งในเมืองเจียงเฉิง
ชายคนหนึ่งกำลังนั่งเงียบๆอยู่ห้องทำงานในโรงงาน
ร่างกายทั้งหมดของเขาแฝงตัวอยู่ในเงามืด จึงทำให้มองเห็นใบหน้าของเขาได้ไม่ชัดเจน
ในขณะนี้ มีคนๆหนึ่งเหมือนกับเป็นลูกน้องของเขาเดินเข้ามา มองดูเขาอย่างระมัดระวัง และพูดว่า: “คุณชายครับ ภารกิจล้มเหลวแล้ว ลูกน้องสองคนที่ท่านส่งไปนั่นได้เสียชีวิตแล้ว”
“อะไรนะ!”
น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายคนนั้นมีร่องรอยของความโกรธ
“อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของท่าน แต่โยนความผิดให้กับหูจิ้งจู๋แห่งตระกูลหู”
ลูกน้องนั้นรายงานอีกครั้ง
น้ำเสียงของชายคนนั้นสงบลงมาก และพูดอย่างเย็นชา: “ดูเหมือนว่า สองคนนั้นจะมีจรรยาบรรณในวิชาชีพบ้าง จึงไม่ได้เปิดเผยตัวตนของผม”
“แล้วขั้นตอนต่อไปควรทำอย่างไร?”
ชายคนนั้นคร่ำครวญอยู่ครู่หนึ่ง และพูดว่า: “ตอนนี้เมืองหมิงจูถูกถังเฉาเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว และแม้แต่ตระกูลในเจียงเฉินของผม ก็ใกล้จะถูกเขาเก็บกวาดแล้วแหละ”
“ตระกูลเหวินล่มสลาย ตระกูลเซี่ยเป็นมิตร ตระกูลหูใจมีแต่แรงไม่พอ และมีเพียงตระกูลลู่ที่เหลืออยู่เท่านั้นที่พึ่งพาอาศัยในตัวเขา นี่แหละที่เรียกกันว่าตระกูลเจียงเฉิง
ชายคนนั้นพูดสรุปสถานการณ์ในเจียงเฉิงด้วยคำพูดที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งสามารถดูออกได้ว่า เขารู้อย่างทะลุปรุโปร่งเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองเจียงเฉิง
ลูกน้องเงียบไปครู่หนึ่ง และพูดโน้มน้าวในทันที: “คุณชาย ถ้าไม่เช่นนั้นเราล้มเลิกการแก้แค้นเถอะนะครับ เขาแข็งแกร่งเกินไป”
“ไม่ ต้องล้างแค้น ไม่ใช่แก้แค้นเพื่อตระกูล แต่เพื่อตัวฉันเอง”
ในความมืดมิด เสียงของชายคนนั้นเคร่งขรึมและน่าสะพรึงกลัว และยิ่งกว่านั้นแถมยังปะปนกับเสียงขบเคี้ยวกรุบกรับ
“ยิ่งเขาแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ การแก้แค้นก็ยิ่งง่ายขึ้น เพราะว่าจุดสนใจของเขาไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา”
ชายคนนั้นพูดด้วยเสียงทุ้ม: “ตอนนี้ ก็ไม่ใช่จะไม่สามารถเอาชนะเขาได้”
“คุณชาย ความหมายของท่านคือ?”
ลูกน้องคนนั้นยอมรับคำชี้แนะ
ชายคนนั้นพูดอย่างช้าๆ: “ไปหาลู่โป๋หานของตระกูลลู่ และร่วมมือกับเขา”
“ลู่โป๋หานของตระกูลลู่?”
ลูกน้องคนนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ: “เขาพึ่งพาอาศัยถังเฉาแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ชายคนนั้นหัวเราะเยาะและพูดว่า: “ผมรู้จักเขาดี เขาเป็นคนฉลาดมาก และตระกูลลู่ก็ไม่ได้เข้าสวามิภักดิ์ อย่างแท้จริง”
เขากระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูลูกน้อง จากนั้นก็พูดว่า: “นายไปทำตามที่ผมพูด ประสบสำเร็จอย่างแน่นอน”
“เมืองเจียงเฉิงจะวุ่นวายในอนาคต และเขาก็เป็นคนแรกที่จะถูกสังเวย”
เมื่อลูกน้องจากไป ชายคนนั้นก็พูดอย่างแผ่วเบา
“เหมือนกับผม”
……
ถังเฉาไม่รู้ตอนนี้เมืองเจียงเฉิงเกิดความวุ่นวายเป็นอย่างมาก เมื่อเขากลับมาจากคฤหาสน์ของหูจิ้งจู๋ และเขาก็กลับไปอยู่ข้างกายหลินชิงเสว่โดยเร็วที่สุด
ในเวลานี้ ฟางหย่าและหลินฉ่ายเวยได้จากไปแล้ว เหลือเพียงเธอกับถังเสี่ยวลี้
“คุณพ่อ!”
เมื่อเห็นถังเฉากลับมา เจ้าเด็กน้อยวิ่งเข้าไปกอดต้นขาของถังเฉาทันที และถังเฉาก็ถือโอกาสนี้อุ้มเธอขึ้น
หลิงชิงเสว่ยังคงดื่มกาแฟอยู่อย่างเงียบๆ ด้วยท่าทางเย็นชา
ถังเฉาหัวเราะเล็กน้อย: “ยังโกรธอยู่เหรอครับ?”
หลิงชิงเสว่หยุดลง เหลือบมองไปที่ถังเฉาและพูดว่า: “พี่สะใภ้ของคุณ……เธอเป็นอะไร?”
จนกระทั่งในเวลานี้ ถังเฉาถึงก็รู้สึกวางใจลงทั้งหมด และเขารู้ว่าหลินชิงเสว่ได้ยกโทษให้เขาแล้ว
“เธอได้รับบาดเจ็บ”
จากนั้นหลินชิงเสว่ก็ไม่ได้พูดอะไร สายตาของเธอจ้องมองไปที่รอยฟันเรียงเป็นแถวที่อยู่บนแขนของถังเฉา และขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ยื่นมือมานี้”
เธอพูดกับถังเฉา
ถังเฉาไม่รู้ว่าหลินชิงเสว่คิดจะทำอะไร แต่เขาก็ยังเอื้อมมือออกไป
หลินชิงเสว่อ้าปากและกัดทันที
สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนไปในทันที แต่เขาก็ฝืนทน ไม่ดึงกลับ
ในไม่ช้า หลินชิงเสว่ก็ปล่อย และถังเฉาก็ดึงแขนของตัวเองกลับเช่นกัน
เพียงแค่เห็นแขนอีกข้างหนึ่งของเขาก็มีรอยฟันเรียงเป็นแถว
ถังเฉายิ้มอย่างเจื่อนๆ: “คุณนี่มันชอบเอาชนะจริงๆเลย”
หลินชิงเสว่เชอะอย่างเย็นชา: “ต้องแบบนี้ถึงจะไม่โกรธแล้ว”
หลังจากเล่นกับถังเสี่ยวลี้ในสวนสนุกมาสักพักแล้ว หลินชิงเสว่ก็ไปเดินเล่นรอบๆที่ลี่จิงกรุ๊ปสาขาแยกของเมืองเจียงเฉิง
หลังจากหารือเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องจัดการบางอย่างกับฟางหย่าและหลินฉ่ายเวยแล้ว เธอก็กลับไปแล้ว
ถังเฉากำลังโทรโทรศัพท์หาเฟิ่งหวง: “ไปตรวจสอบให้ผม ต้องตรวจสอบให้เจอว่าใครต้องการลักพาตัวภรรยาและลูกสาวของผม!”
“ค่ะ!”
เฟิ่งหวงรับคำสั่งในทันที
หลังจากวางสาย ดวงตาของถังเฉาก็ลึกล้ำ
เมืองเจียงเฉิงนั้นลึกและอันตรายกว่าเมืองหมิงจูมาก
เขาคนเดียวสามารถไปและมาได้อย่างอิสระ แต่ญาติพี่น้องของเขาล่ะ?
เขาต้องป้องกันไม่ให้อันเป็นไปเหล่านี้เกิดขึ้น
กระดิ่งกริ๊ง!
ในขณะนี้ ถังเฉาได้รับสายโทรศัพท์จากเซี่ยสิงจู๋
“คุณถังครับ อาการป่วยของลูกสาวของผม……”
เซี่ยสิงจู๋อยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา
“ผมจะโทรหาผู้บ้าการแพทย์ให้เดี๋ยวนี้ครับ”
หลังจากวางสาย ถังเฉาก็เรียกผู้บ้าการแพทย์มา และทั้งสองคนก็ไปที่ต้าเซี่ย กรุ๊ป
นี่คือกรุ๊ปที่ใหญ่ที่สุดในนามของตระกูลเซี่ย
แน่นอนว่าประธานกรรมการคือเซี่ยสิงจู๋ผู้นำของตระกูลเซี่ย
เลขานุการได้แจ้งการมาของทั้งสองคนให้กับเซี่ยสิงจู๋ แต่เซี่ยสิงจู๋ไม่ได้ออกมาในทันที
เลขานุการกล่าวขอโทษ: “ต้องขอโทษคุณสองคนด้วยนะคะ ประธานกรรมการกำลังทำการประชุมครั้งสำคัญ และอาจจะยังไม่จบการประชุมจนกว่าจะเลิกงาน คุณสองคนจะรอต่อไป หรือว่า……”
ถังเฉาพยักหน้าทันที: “ถ้าอย่างนั้นคุณไปบอกเซี่ยสิงจู๋ พวกเราจะไปรอเขาที่บ้านตระกูลเซี่ย”
เมื่อมองดูถังเฉาและผู้บ้าการแพทย์จากไป เลขานุการก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเมืองเจียงเฉิง ก็มีไม่กี่คนที่กล้าเรียกชื่อของประธานกรรมการโดยตรง
อีกด้านหนึ่ง พวกถังเฉาก็มาถึงบ้านใหญ่ตระกูลเซี่ย
สิ่งที่ทำให้ถังเฉาตะลึงพรึงเพริดคือ ในขณะนี้บ้านใหญ่ตระกูลเซี่ยหัวกระไดไม่แห้ง และมีรถยนต์หรูหราที่มีมูลค่านับพันล้านจอดอยู่หลายคัน
“ดูเหมือนว่า วันนี้ตระกูลเซี่ยจะจัดงานเลี้ยงอะไรบางอย่าง”
เจียงสือเหนียนหรี่ตาลงเล็กน้อยและพูดว่า
“นั้นมันเป็นเรื่องของตระกูลเซี่ย หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องที่พวกเราได้สัญญากับเซี่ยสิงจู๋แล้ว พวกเราก็จากไป”
หลังจากพูดจบ ถังเฉาเดินเข้าไปแบบไม่สนใจอะไรเลย
“หยุด!”
ถังเฉาและผู้บ้าการแพทย์กำลังจะเดินเข้าไป แต่มีตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหลังพวกเขา
พอหันกลับไปมอง เห็นเพียงแค่มีรถลัมโบร์กีนีจอดอยู่ที่ประตู และมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินลงมาพร้อมกับพูดไปด่าไป
“ไอ่เด็กน้อย คุณรู้ไหมว่าที่นี้คือที่ไหน? ที่นี้คือตระกูลเซี่ย คุณมาผิดที่แล้วหรือเปล่า?”
ถังเฉาเหลือบมองไปที่ป้ายตระกูลเซี่ย: “ไม่ผิด ที่นี่แหละ”
ชายหนุ่มชะงักไปครู่งหนึ่ง และหัวเราะดังๆสามที
“ฮ่าฮ่าฮ่า! พวกคุณสองคนเป็นใคร ประตูนี้ ไม่ใช่ใครก็สามารถก้าวเข้าไปได้”
ถังเฉาพูดด้วยความนิ่งเฉย: “ผมชื่อถังเฉา และผมได้รับคำเชิญจากผู้นำของคุณ”
เมื่อชายหนุ่มได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเขายิ่งแสดงออกด้วยความรังเกียจ: “โถ่ หนังหน้าอย่างคุณ กล้าที่จะบอกว่าได้รับคำเชิญจากผู้นำของเราเหรอ?”
“รีบออกไปให้พ้น ที่นี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างพวกคุณสามารถมาได้”
ในขณะที่ชายหนุ่มพูดก็กำลังจะไล่เขาออกไป แต่กลับพบว่าร่ายกายของถังเฉานั้นราวกับก้อนหิน ดันยังไงก็ไม่ขยับ
ชายหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่ง หลังจากมีปฏิกิริยาโต้ตอบกลับ ก็ตะโกนด่าอย่างโกรธเคือง: “เชี่ย คุณกล้าไม่เชื่อฟังคำพูดของฉันเซี่ยหย่งเฉิงเหรอ ตราบใดที่มีฉันเซี่ยหย่งเฉิงอยู่ที่นี้ คุณก็อย่าคิดที่จะก้าวเข้าไปประตูนี้!”
ถังเฉากวาดตามองไปที่เขาเล็กน้อย และจากนั้นก็ก้าวเดินเข้าไปประตูของตระกูลเซี่ยโดยตรง
ผู้บ้าการแพทย์ส่ายหัวเล็กน้อย และก็เดินตามเข้าไป
เมื่อเห็นว่าคนสองคนนี้เดินเข้าไปในบ้านตระกูลเซี่ยต่อหน้าต่อตาเขา เซี่ยหย่งเฉิงโกรธเคืองอย่างมาก: “เชี่ยเอ้ย พวกมึงหยุดเดี๋ยวนี้!”