“เหวินเหรินวี่?”
เมื่อได้ยินเฟิ่งหวงพูดถึงบุคคลนี้ สายตาของถังเฉาก็พร่ามัว
เขาจำชื่อนี้ได้
เจ้าชายคนที่สองของตระกูลเหวิน
เหวินเหวยเฉินเป็นลูกชายของเหวินเฉี่ยวหรูและคนรักที่แท้จริงของเธอนั้น
ส่วนเหวินเหรินวี่กลับเป็นลูกชายที่เหวินหนานเฉิงข่มขู่ให้เหวินเฉี่ยวหรูนั้นคลอดลงมา เป็นทายาทที่แท้จริงของตระกูลเหวิน
เพื่อได้เป็นตำแหน่งเจ้าของตระกูลในอนาคต คนทั้งสองเกินการแย่งชิงอย่างร้ายแรงมาก
แต่ในที่สุดก็คือลูกชายหมาขี้เรื้อน เหวินเหวยเฉินได้รับชัยชนะ และเหวินเหรินวี่พ่ายแพ้อย่างน่าเสียดาย
สำหรับผู้พ่ายแพ้ เหวินเหวยเฉินไม่มีความเมตตาแม้แต่น้อย แม้ว่าคู่แข่งขันจะเป็นน้องชายของเขาก็ตาม
เขาตบตีขาของเหวินเหรินวี่จนหัก และไล่ออกจากบ้านตระกูลเหวิน
เหวินเหรินวี่มีความเกลียดอยู่ในใจตลอด จนถึงหลินฉ่ายเวยจะแต่งงานกับเหวินเหวยเฉิน เขาถึงออกตัว และต้องใช้หลินฉ่ายเวยมาแก้แค้นเหวินเหวยเฉิน
หลังจากนั้นตระกูลเหวินเสียชีวิต เขาก็ไม่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ถังเฉาไม่ได้ยินข่าวของเหวินเหรินวี่มาเป็นเวลานานมากแล้ว
“คุณสงสัยว่าเป็นเขาเหรอ?”
เฟิ่งหวงส่ายหัว: “ณ ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานใดๆว่าเหวินเหรินวี่เป็นคนทำ แต่ที่แน่นอนได้ก็คือ คนที่ทำต้องเป็นเศษซากของตระกูลเหวิน”
“นี่คือข้อมูลรายละเอียดปัจจุบันที่เหลือของตระกูลเหวิน”
เฟิ่งหวงยื่นเล่มรายงานเล่มหนึ่งออกมา
ถังเฉาอ่านอย่างตั้งใจ
ปรากฎว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองเจียงเฉิงแล้ว แต่มีบางคนอาศัยอยู่ในเมืองเจียงเจ้อและและภูมิภาคอื่นๆ มีเพียงเหวินเหรินวี่เท่านั้นที่ยังคงอาศัยอยู่ในเมืองเจียงเฉิง
และก็ เมื่อไม่นานมานี้ เคยเจอตัวที่อยู่ที่เมืองหมิงจู
ถังเฉารวบรวมข้อมูลเหล่านี้: “ข้อมูลเหล่านี้ สามารถระบุได้ว่าเหวินเหรินวี่เป็นผู้ที่น่าสงสัยมาก แต่ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเขา เรียกคนดำเนินการสอบสวนหาหลักฐานอีกต่อไป”
เล่นที่เมืองเจียงเฉิงเป็นระยะสองวัน หลินชิงเสว่ก็พาถังเสี่ยวลี้กลับไปที่เมืองหมิงจู
ก่อนไป ถังเฉาได้เตือนชิงเสว่เป็นพิเศษ ว่าเขาไม่ได้อยู่เคียงข้าง ต้องระวังความปลอดภัยด้วย
เพื่อปกป้องหลินชิงเสว่ ถังเฉาจงใจให้เทียนหลงและหงโฝอยู่ในเมื่องหมิงจู และยังให้เย่เทียนหลงเป็นผู้นำของสมาคมการต่อสู้หมิงจู
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ
หลินชิงเสว่แต่กลับยิ้ม :“คุณก็เหมือนกัน”
เธอปอกแอปเปิลหนึ่งลูก และปอกเปลือกแอปเปิลอย่างยาว:“เมื่อเห็นเปลือกแอปเปิลนี้ ถ้าคุณทำอะไรให้ฉันเสียใจ ฉันจะห่างเป็นส่วนๆเหมือนที่ฉันปอกเปลือกแอปเปิลนี้”
ถังเฉาจะหัวเราะหรือจะร้องไห้ก็ไม่ได้ เธอยังคงจำเรื่องของเจียงไป๋เสว่ได้
หลังจากนั้น ถังเฉาก็ได้เปิดห้องให้เจียงไป๋เสว่อีกห้องหนึ่ง แต่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน
เมื่อได้ส่งหลินชิงเสว่พวกเขาออกไป ถังเฉา ฟางหย่าและหลินชิงเสว่ก็ไปปฏิบัติงานที่สาขาเจียงเฉิงแล้ว
ที่สำนักงานใหญ่ ทีมงานหลักได้ส่งผู้ช่วยเก่งๆมาฝ่างนี้ มาช่วยเหลือพัฒนาสาขาเจียงเฉิงให้ดีอย่างราบรื่น
ด้วยความช่วยเหลือจากจวี้เฟิงกรุ๊ปแล้ว ฝ่ายเจียงเฉินจากที่เริ่มต้น ก็ได้นำหน้าวิสาหกิจท้องถิ่นอื่นๆขอสาขาเจียงเฉินละ
ในช่วงเวลานี้เจียงไป๋เสว่ต้องการที่จะลาออก และไปตามหาหลี่เห้าอีกต่อไป แต่กลับถูกถังเฉาห้ามไว้
“คุณก็อยู่ที่นี่ เรื่องของหลี่เห่า ผมก็จะไปตามหาด้วย”
สีหน้าของถังเฉานั้นจริงจังมาก
เขากลัวว่าเจียงไป๋เสว่จะได้พบเจอกับคนของ“หว่างเหลี่ยง” อีกครั้ง
แต่ที่สำคัญคือ คนที่พวกเขาจัดกลุ่ม ก็ไม่น่าจะใช่มนุษย์
“ถังเฉา ฉันขอลาหยุดสักสองสามวันได้ไหม? ฉันอยากไปเยี่ยมแม่ทูนหัวของฉันหน่อย”
หลินฉ่าย้วยรายงานให้ถังเฉา
เธอมาที่เจียงเฉิง เหตุผลส่วนใหญ่นั้นเป็นเพราะเหวินเฉี่ยวหรู
หลังจากมาถึงที่เจียงเฉิง เพราะงานยุ่ง เธอก็ไม่เคยได้มีเวลาไปเยี่ยมเหวินเฉี่ยวหรู และเธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ถังเฉาตกลงทันที “อีกสักครู่ผมจะไปกับเธอ ผมก็จะไปเยี่ยมท่านด้วย”
เขายังคงคิดถึงเรื่องของเหวินเหรินวี่อยู่ ถ้าเหวินเหรินวี่อยู่ในเจียงเฉิง จะไปหาเหวินเฉี่ยวหรูแน่นอน
เป็นเพราะ เหวินเฉี่ยวหรูเป็นแม่แท้ๆของเหวินเหรินวี่
แม้ว่าหลินฉ่ายเวยจะประหลาดใจเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ซื้อของขวัญที่จะเอาไปเยี่ยมเสร็จ ถังเฉากับหลินฉ่ายเวยก็ไปโรงพยาบาลที่เหวินเฉี่ยวหรูทำงานโดยตรงเลย และได้ข่าวว่าวันนี้เป็นวันหยุดของท่าน
โชคดีที่ขอที่อยู่ไว้
หลังจากตระกูลเหวินล้มละลาย เหวินเฉี่ยวหรูได้เอาเงินทรัพย์สินครอบครัวของตระกูลเหวินทั้งหมดนี้บริจาคให้การกุศล
ตัวเองก็ไม่ได้อาศัยอยู่บ้านที่คฤหาสน์ แต่กลับย้ายไปอยู่บ้านเก่า
ถนนบ้านเซว
นี่คือบ้านเกิดของเหวินเฉี่ยวหรู ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านในเมืองเจียงเฉิง
บ้านไม่ได้ถือว่าแย่ แต่ทุกสิ่งเป็นบ้านที่มนุษย์ใช้มือสร้างเอง ซึ่งเทียบกับบ้านในใจกลางเมืองไม่ได้
“คุณแม่!”
หลินฉ่ายเวยกดกริ่ง: “หนูเอง ฉ่ายเวย”
“มาแล้ว”
เสียงไอของของเหวินเฉี่ยวหรูดังมาจากข้างใน
“ฉ่ายเวย คุณถัง พวกคุณถึงมาที่นี่?”
เมื่อเห็นถังเฉากับหลินฉ่านเวย เหวินเฉี่ยงหรูดูมีความสุขมาก และรีบเชิญพวกเขาเข้ามาทันที
ไม่ได้เจอมาระยะหนึ่งแล้ว ถังเฉารู้สึกว่า ร่างกายของเหวินเฉี่ยวหรูนั้นไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อนแล้วชอบไออยู่ตลอดเวลา
“แม่คะ เป็นหวัดเหรอค่ะ”
หลินฉ่ายเวยถามอย่างสีหน้าที่เป็นห่วง
เหวินเฉี่ยวหรูไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มแล้วพูดว่า: “โรคเก่าแล้ว”
หลินฉ่ายเวยก็ไม่ได้ถามไรมากมาย และนำอาหารเสริมที่ซื้อให้เธอ: “แม่คะ สุขภาพของท่านไม่ค่อยแข็งแรง ต้องกินอาหารเสริมเหล่านี้เยอะๆ”
เหวินเฉี่ยวหรูยิ้ม: “เจ้าหนูนี่ มาก็มาสิ ยังจะซื้ออาหารเสริมราคาแพงเหล่านี้มาทำไม?”
“ใครมาหรอ?”
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งที่จับไม้ค้ำยันนั้นก็เดินออกมา
พอเห็นบุคคลนี้ ถังเฉาและหลินฉ่ายเวยรู้สึกตกใจมาก
“เหวินเหรินวี่?!”
คนที่กำลังเดินออกมานี้ เป็นเหวินเหรินวี่ที่ถังเฉาตามหาอยู่ทุกวันนี้
“พวกเธอนี่เอง?”
เมื่อเห็นถังเฉากับหลินฉ่ายเวย เหวินเหรินวี่ก็ตกใจมากเช่นกัน ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขาจะมา
“คุณมาทำอะไรที่นี่?”
เนื่องจากเหตุการณ์ในบาร์ครั้งล่าสุด ในความทรงจำของหลินฉ่ายเวยรู้สึกแย่กับเหวินเหรินวี่มาก
เหวินเฉี่ยวหรูรีบเข้ามาอธิบาย: “ฉ่ายเวย เหรินวี่เป็นลูกชายของฉันเอง หลังจากที่ตระกูลเหวินล้มละลาย เขาก็อยู่กับฉันแล้ว?”
“อยู่ด้วยกัน?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินฉ่ายเวยก็กังวลใจมาก สีหน้านั้นเต็มไปด้วยความระแวดระวัง
ถังเฉาหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องมองเหวินเหรินวี่
ลูกชายทั้งสองของเหวินเฉี่ยวหรูนั้น เป็นคนอันตรายที่มีจิตใจที่บิดเบี้ยวมาก
เหวินเหรินวี่ยิ้มอย่างแผ่วเบา: “ผมรู้ว่าพวกเธอไม่ชอบผม และผมก็ไม่ชอบพวกเธอเช่นกัน แต่ว่า นั่นก็เป็นเรื่องของอดีตแล้ว”
“ตอนนี้ตระกูลเหวินล้มละลายแล้ว ผมไม่ใช่เจ้าชายของตระกูลเหวินอีกต่อไป และแม่ของผมก็ไม่ใช่เจ้าแม่ตระกูลเหวินอีกต่อไป พวกเราเป็นแค่ครอบครัวธรรมดาๆแค่นั้นเอง”
คำพูดของเหวินเหรินวี่ทำให้ถังเฉาและหลินฉ่ายเวยประหลาดใจมาก
นี่คือ กลับตัวกลับใจเป็นคนดีละเหรอ?
เหวินเหรินวี่มองไปที่หลินฉ่าย้วย: “ถ้าคุณยังเกลียดผมเพราะเรื่องที่อยู่ในบาร์ งั้นผมต้องขอโทษได้”
“ขอโทษครับ”
เหวินเหรินวี่โค้งตัวลงให้กับหลินฉ่ายเวย
“ไม่ ไม่ต้อง เธอรีบๆลุกขึ้นมาเถอะ……”
หลินฉ่ายเวยรู้สึกอึดอัดใจมากรีบเรียกเหวินเหรินวี่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นฉากนี้ เหวินเฉี่ยวหรูมีความสุขมาก และทักทายพวกเขาให้นั่งลงอย่างรวดเร็ว
“พวกเธอนั่งก่อน เดี๋ยวอาหารก็จะทำเสร็จละ”
“แม่ครับ ให้ผมช่วยนะครับ”
ดูเหมือนเหวินเหรินวี่ไม่ค่อยอยากนั่งด้วยกันกับถังเฉาพวกเขาสะเท่าไหร่ แกว่งไม้ค้ำยันและเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างลำบาก
หลินฉ่ายเวยยังยืนอยู่ที่นั่นราวกับว่าเห็นผี เป็นเวลานาน หันกลับไปมองถังเฉาครั้งหนึ่ง: “เขาเปลี่ยนเป็นคนดีจริงๆแล้วเหรอ?”
เขาไม่กล้าจินตนาการว่าเหวินเหริววี่ในปัจจุบันและเหวินเหริววี่ในบาร์ในคืนนั้นเป็นคนเดียว
“อาจจะมั้ง”
ถังเฉายิ้มและดื่มน้ำ
หันไปมองดูด้านหลังของเหวินเหรินวี่ที่อยู่ในห้องครัว เขาหรี่ตาลง
เขารู้สึกถึงว่าเรื่องมันไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น