“อ๊ากกก…”
ห้องใต้ดินที่มืดสลัวเต็มไปด้วยเสียงร้องอย่างน่าเวทนาอย่างใกล้จะพังทลายของหูจิ้งจู๋
พวกของหูจิ้งซู หูเซียวและเซี่ยสิงจู๋เบิกตาโพลง มองอย่างเอ๋อ ๆ
ทุกคนล้วนแต่นึกว่าหูจิ้งจู๋จะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ชีวิตของหูจิ้งจู๋ไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ
แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าถังเฉาจะโยนหูจิ้งจู๋ลงไปในบ่อเกรอะตรง ๆ
ฆ่าเขาเสียยังดีกว่า!
คนที่อยู่ตรงนั้นไหนเลยจะใครที่มีประสบการณ์เช่นนี้ ไม่สู้เอาหัวโขกเต้าหู้แช่แข็งตาย
เห็นเพียงชุด Tailcoat สะอาดสะอ้านบนร่างของหูจิ้งจู๋เปรอะเปื้อนสิ่งปฏิกูลสีเหลืองสกปรกเต็มไปทั่วในทันที
ราวกับโยนก้อนหินใหญ่ ๆ ก้อนหนึ่งลงไปบนผิวทะเลสาบที่สงบนิ่งอย่างไรอย่างนั้น น้ำเสียในบ่อเกรอะกระเซ็นขึ้นมาบนพื้นแล้ว
ทุกคนล้วนสำนึกได้ถอยหลังไปหนึ่งก้าว มองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง
เห็นเพียงบนใบหน้า เส้นผม และบนชุดของหูจิ้งจู๋เปรอะเปื้อนของเสียเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นเน่าอบอวนไปทั่ว
“แหวะ…”
ฉากนี้น่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าเฉิงเพ่ยกินหมั่นโถวเสียอีก คนมากมายในที่นั้นมวนท้องขึ้นมาทันที เอาของที่กินเข้าไปตอนเย็นอาเจียนออกมา
เฟิ่งหวงปิดตาของถังเสี่ยวลี้เอาไว้ ไม่ให้เธอมองฉากที่น่าคลื่นไส้นี้
ใบหน้าของหูเซียวเต็มไปด้วยความเดือดดาลทันที จ้องถังเฉาเขม็งด้วยความเดือดดาล “ถังเฉา แกกล้าทำกับหลานฉันแบบนี้ รนหาที่ตายจริง ๆ!”
“ใครกันที่รนหาที่ตาย?”
ถังเฉาตอบกลับอย่างโอหัง “เห็นแก่หน้าของคุณหู ผมก็ไว้ชีวิตไร้ค่าของเขาแล้วไง เพียงแค่โยนเขาลงบ่อเกรอะเท่านั้นเอง ทำไม… หรือว่าคุณอยากลงไปเป็นเพื่อนเขา?”
ตามจากคำพูดนั้น ถังเฉาก้าวขายาว ๆ เดินไปทางหูเซียว
สีหน้าของหูเซียวเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก รีบเก็บสำรวมอาการในทันที ไม่เอ่ยปากออกมาแม้แต่คำเดียว
ในใจของหูเข่อเฟิงหดหู่เหลือแสน
ตระกูลหูถูกปฏิบัติเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขายังไม่กล้าต่อต้านอีก
ปากเล็ก ๆ ของหูจิ้งซูเผยอน้อย ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
แต่ว่านี่เป็นโทษที่หูจิ้งจู๋สมควรได้รับ ถังเฉาไว้ชีวิตของเขาแล้ว เมตตาเพียงพอแล้ว
พอตั้งสติได้หูเซียวก็ตวาดเสียงดังด้วยความโมโห “ยังไม่รีบเอาตัวคุณชายขึ้นมาอีก!”
พวกบอดี้การ์ดของตระกูลหูกลับไม่กล้าเดินหน้า
เหม็นเกินไป
ทำได้เพียงให้เขาขึ้นมาเอง
สุดท้ายหูจิ้งจู๋ก็ปีนขึ้นมาเอง แต่ทุกคนก็ยังคงเว้นระยะห่างจากเขาอย่างน้อยสิบเมตร
นี่ทำให้หูจิ้งจู๋ช้ำใจเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งโกรธแค้นถังเฉาเพิ่มมากขึ้นไปอีก
‘ถังเฉา ครั้งนี้แกปล่อยฉันไป รอฉันกลายเป็นผู้นำแล้วจะไม่ปล่อยแกไว้แน่…’
หูจิ้งจู๋สาบานกับตัวเองในใจ
หูจิ้งจู๋ถูกพาไปอาบน้ำแล้ว กลิ่นเหม็นทั้งร่างไม่เหมาะที่จะอยู่ต่อที่นี่จริง ๆ
“ถังเฉา แค้นนี้ก็ชำระแล้ว ลูกสาวก็ตามกลับมาได้แล้ว หลานชายฉันถูกแกสั่งสอนไปรอบหนึ่งแล้ว แกจะให้คนของแกกลับไปได้หรือยัง?”
หูเซียวเก็บกดอารมณ์ร้อนในใจพลางเอ่ยถาม
ตอนนี้เขาเพียงอยากจะส่งเทพเจ้าแห่งโรคห่าออกไปเร็ว ๆ
ถังเฉากำลังจะตอบตกลง ฉับพลันเสียงจ๊อกก็ดังขึ้นครั้งหนึ่ง เสียงแบบนี้ส่งมาจากในสถานที่แห่งนั้น
ถังเฉาพบว่าเสียงนั้นส่งมาจากท้องของถังเสี่ยวลี้
ใบหน้าของถังเสี่ยวลี้แดงก่ำ เอ่ยอย่างขัดเขินเป็นอย่างมากว่า “คุณพ่อขา หนูหิวค่ะ”
ถังเฉาก็เลยอุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นมา หันกลับไปมองไปยังหูเซียว “ลูกสาวผมหิวแล้ว กินข้าวฟรีที่นี่หนึ่งมื้อ ไม่ถือสาใช่ไหม?”
หูเซียวแทบจะกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ แต่เผชิญหน้ากับสายตาดุดันของถังเฉาแล้ว เขาก็ไม่กล้าไม่ทำตาม
ออกจากห้องใต้ดินแล้วถังเฉาก็อุ้มถังเสี่ยวลี้มาขึ้นโต๊ะ
เจ้าหนูน้อยมองอาหารน่ากินมากมายบนโต๊ะก็กินอย่างมูมมามอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
ถังเฉาเองก็รินเหล้าหนึ่งแก้ว ลิ้มรสอย่างละเอียด
วันเกิดอายุเจ็บสิบปีของหูเซียวอาหารดีอย่าบอกใคร
“พวกคุณยังตะลึงกันอยู่ทำไม? กินด้วยกันสิ!”
ถังเฉาเอ่ยเร่งรัด
เขาพบว่าโต๊ะมากมายขนาดนี้มีเพียงแค่ตนกับถังเสี่ยวลี้ที่กำลังนั่งอยู่
นึกไม่ถึงว่าคนที่เหลือจะยืนอยู่ข้าง ๆ เขากันหมด มองดูพวกเขากิน
พวกเขาส่ายศีรษะติด ๆ กัน
“ไม่ ๆ ๆ คุณถัง ท่านทานเถอะ ๆ”
“พวกเรากินไปแล้ว ไม่หิว!”
“รีบกินให้เสร็จแล้วรีบไปซะ!”
ไม่เพียงแต่หูจิ้งซูที่ยืนอยู่ หูเซียวกับเซี่ยสิงจู๋พวกเขาก็ยืนอยู่เช่นกัน ราวกับคนรับใช้ดูแลเจ้านายอย่างไรอย่างนั้น
แกร๊ก!
ถังเฉาวางตะเกียบลง ใบหน้าแข็งค้าง “พวกคุณยืนมองผมกินแบบนี้ผมจะกินลงได้ยังไง?”
“นั่งลง กินด้วยกัน!”
“อย่างนั้นก็ได้…”
เฟิ่งหวงนั่งลงก่อน
จากนั้นก็เป็นพวกของเซี่ยสิงจู๋กับหูอีซาน
สุดท้ายหูเซียวก็ทนไม่ไหว นั่งลงกินข้าว
“แบบนี้ถึงจะถูก”
ถังเฉายิ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นมา แสดงความนอบน้อมต่อหูเซียว
“นายท่าน วันนี้เป็นวันเกิดเจ็บสิบปีของท่าน พวกเราวางบุญคุณความแค้นลง ผมอวยพรให้ท่านสุขสันต์ในวันเกิดเจ็ดสิบปีครับ”
“ขะ… ขอบใจ…”
หูเซียวไม่ยกแก้วเหล้าขึ้นมาไม่ได้ ชนแก้วกับถังเฉาครั้งหนึ่ง
หลังจากเหล้าแก้วนี้ บรรยากาศในที่นั้นก็ผ่อนคลายลงไปบ้าง
ถังเฉายิ้ม “ผมมาก็เพื่อที่จะตามหาลูกสาว ส่งออกมาตั้งแต่แรกก็จะดีมาก จะได้ไม่ต้องมาลำบาก จริงไหมครับ?”
“ใช่ ๆ…”
หูเซียวพยักหน้าติด ๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
คาดไม่ถึงว่าตอนนี้ในสมองของเขาจะมีความคิดแปลกประหลาดมาก ๆ ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา”
ขอเพียงเอาใจถังเฉา ตระกูลหูก็จะยังมีชีวิตอยู่ดี ๆ
ฮึ่ม ๆ ๆ!
ในตอนนี้เอง ประตูบ้านใหญ่ตระกูลหูมีรถหุ้มเกราะที่ยอดเยี่ยมคันหนึ่งขับมาเทียบ
ชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งกระโดดลงมาจากบนรถ
วันทยหัตถ์ตามมาตรฐานให้กับถังเฉาครั้งหนึ่ง
นึกไม่ถึงว่าจะเป็นหลี่หงกัง หัวหน้าของสนามรบแห่งเมืองเจียงเฉิง!
หูเซียวลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“หัวหน้าหลี่ ท่านมาได้อย่างไรครับ? รีบเข้ามา!”
ท่าทีกระตือรือร้นของเขานั่น แทบจะคุกเข่าให้กับหลี่หงกังแล้ว
“ไอ้แก่หู คุณทำอะไรน่ะ?”
หลี่หงกังขมวดคิ้ว ในภาพทรงจำของเขา เขาไม่ได้รู้จักใกล้ชิดกับหูเซียวสักเท่าไหร่
ก่อนหน้านี้ที่บ้านใหญ่ตระกูลหู หลี่หงกังยังเคยพากองทหารไปทำให้กลัวอยู่เลย
เหตุผลก็เพราะบอดี้การ์ดของตระกูลหูรบกวนการพักผ่อนของลูกเมียของเขา
ครั้งนั้นทำให้หูเซียวตกใจจนเกือบจะตาย!
หูเซียวตะลึง “วันนี้เป็นวันเกิดเจ็ดสิบปีของผม หรือว่าหัวหน้าหลี่ไม่ได้มาอวยพรให้ผมหรือ?”
หูเซียวก็ได้เชิญหลี่หงกังไปแล้ว เพียงแต่ว่าหลี่หงกังไม่ได้ตอบรับ
“ผมก็แค่มาทวงรถจี๊ปกับเจ้า… คุณถังน่ะครับ”
หลี่หงกังเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก เกือบจะเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเจ้ามังกรเสียแล้ว
ว่าแล้วก็มองไปยังถังเฉา “คุณถังครับ อีกสักพักผมจะส่งคุณกลับไป ไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ?”
ถังเฉาโบกโบกมือ “ไม่มีปัญหา”
บทสนทนาของทั้งสองคนทำให้หูเซียวตะลึงงัน แทบจะกรีดร้องออกมา
ถังเฉา… ดูเหมือนว่าจะสนิทกับหัวหน้าหลี่มาเลยนะ?!
ในตอนนี้เขาก็นึกเรื่องที่แต่ก่อนหลี่หงกังพาทหารมาทำให้ตกใจขึ้นมาได้
บังเอิญเกินไปแล้ว!
หรือว่าถังเฉาจะเรียกให้มา?
พอความคิดนี้พุ่งขึ้นมา หูเซียวเองก็ตะลึงงัน
ตอนนี้หลี่หงกังก็ตะโกนเสียงดัง “คุณถังกำลังทานอาหารอยู่ ตั้งแถว เดินตามระเบียบ คุ้มกันคุณถัง!”
พรึ่บ!
คนที่หลี่หงกังพามาด้วยยืนอยู่ทั้งสองด้านทันที ทั้งตระกูลหูถูกล้อมไว้อย่างแน่นหนา
เพียงแค่ถังเฉาพาลูกสาวมากินข้าวที่ตระกูลหูแค่นี้!
หูเซียวตกตะลึงไปแล้ว
ตัวหลี่หงกังเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะนั่งลง เขาตั้งใจที่จะเฝ้าระวังตระกูลหูด้วยตัวเอง
ในตอนนี้ถังเฉาหยิบตะเกียบขึ้นมา ร้องเรียกขึ้น “เรียกพี่น้องมากินด้วยกันเถอะ สุราอาหารที่นี่ไม่เลวเลยจริง ๆ”
หลี่หงกังลังเลใจ จากนั้นก็ทำความเคารพทันที “ครับ!”
จากนั้นก็เรียกทุกคนมานั่งลง
“ตั้งแถว นั่งประจำที่ ร้องเพลง ’สามัคคีคือพลัง’!” (เพลงของประเทศจีน)
หลี่หงกังตะโกนเสียงดัง
“สามัคคีคือพลัง เตรียมตัว เริ่มได้!”
“ความสามัคคีก็คือพลัง ความสามัคคีก็คือพลัง พลังนี้คือโลหะ พลังนี้คือเหล็กกล้า…”
ทั่วทั้งบ้านใหญ่ตระกูลหูสะท้อนเสียงร้องเพลง ‘สามัคคีคือพลัง’ สะเทือนเลื่อนลั่นจนหูแทบหนวก
ร้องจบพลทหารทุกนายก็ประคองชามข้าวขึ้นมา ก้มหน้าก้มตาทานข้าว
ทั้งขั้นตอนไม่มีเสียงแม้แต่น้อย มีเพียงเสียงตะเกียบกระทบชามข้าวดังก็อกแก็กเท่านั้น
เด็ดขาดเป็นระเบียบ!
หูเซียวมองเหม่ออย่างถึงที่สุด
เขาเปลืองสมองจนหมดก็ยังเชิญหลี่หงกังหัวหน้าสนามรบมาไม่ได้ ถังเฉาเอ่ยประโยคเดียวเขาก็มาทานอาหารในงานเลี้ยงวันเกิดของเขาแล้ว?