“ผู้นำ…”
“คุณปู่…”
นาทีนี้สายตาของทุกคนในตระกูลหูก็ชุ่มฉ่ำ ทุกคนร้องเสียงหลง
ไม่ใช่แค่พวกเขา แม้แต่ถังเฉาก็ยังมองฉากนี้ด้วยสายตาแปลกประหลาด
เขาคิดไม่ถึงว่าเพื่อที่จะปกป้องทั้งตระกูลหู หูเซียวจะยินดีอุทิศชีวิตของตัวเองจริง ๆ
สีหน้าของหูอีซานเองก็มืดครึ้ม ไม่พูดไม่จา
มองเห็นทุกคนในตระกูลหูกำลังร้องไห้น้ำตาไหลพราก ทันใดนั้นหูเซียวก็ตะโกนขึ้นมา
“หุบปากกันให้หมด!”
เสียงราวกับอสุนีบาต ทั่วทั้งบ้านตระกูลหูเงียบสงัดอย่างรวดเร็ว
สายตาของหูเซียวกวาดมองไปทั้งสถานที่นั้น
“ร้องห่มร้องไห้ ใช้ได้ที่ไหน? ไม่ใช่ว่าฉันสอนพวกแกตั้งแต่เด็กหรอกเหรอว่าน้ำตาเป็นการกระทำของผู้อ่อนแอน่ะ?”
“ห้ามร้องกันทั้งหมด คนเราก็ต้องตาย จะหนักกว่าภูเขาไท่ซาน หรือเบากว่าขนห่านป่า ลูกหลานของตระกูลหูจะต้องหนักยิ่งกว่าภูเขาไท่ซาน!”
ภายใต้คำพูดครั้งนี้ของหูเซียว ทุกคนล้วนซาบซึ้งใจ และก็หยุดร้องไห้จริง ๆ
“เอามีดมา นี่เป็นคำสั่งสุดท้ายของฉันที่เป็นผู้นำ!”
หูเซียวเอ่ยเสียงหนักแน่น
มีคนตระกูลหูรุ่นหลังถือกริชสั้นหนึ่งเล่มมาด้วยท่าทางสั่นงก ๆ เงิ่น ๆ
หูเซียวแย่งเอามา หันกลับไปมองหูอีซานแวบหนึ่ง
“ฉันจะชดใช้ชีวิตเมียให้แกแล้ว จำเรื่องที่แกรับปากฉันไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงตายตาไม่หลับ!”
พูดจบก็หยิบกริชขึ้นมา แทงลงไปที่คอของตัวเองอย่างแรง
ทุกคนล้วนเรียกสติกลับมาได้ ไม่ยินดีที่จะมองฉากที่หูเซียวจบชีวิตของตัวเอง
แม้แต่ถังเฉาก็ปิดตาของถังเสี่ยวลี้เอาไว้ มองฉากนี้นิ่ง ๆ
ฉัวะ!
ทว่าในนาทีวิกฤตนี้เงาร่างหนึ่งก็ขึ้นมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว กุมกริชในมือของหูเซียวเอาไว้
ไม่ว่าหูเซียวจะออกแรงอย่างไร กริชก็แทงไม่ลง
ตัวหูเซียวเองก็ลืมตาขึ้นมามองหูอีซานที่ยืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
“อีซาน แกทำอะไร?! รีบปล่อยมือนะ!”
หูอีซานคว้าคมมีดเอาไว้ เป็นตายก็ไม่ยอมปล่อยมือ
ดังนั้นคมมีดจึงเฉือนเนื้อหนังของเขาขาด เลือดจำนวนมากไหลอาบลงมา ชั่วพริบตาก็อาบย้อมไปทั่วทั้งข้อมือของเขา
แต่หูอีซานกลับยังคงจับกริชนั้นเอาไว้อย่างแน่วแน่ราวกับไม่รู้สึกอะไร
ดวงตาของเขาแดงก่ำหาที่เปรียบไม่ได้ จ้องหูเซียวเขม็ง พลางเอ่ยว่า “คุณเอาชีวิตของคุณมาและชีวิตภรรยาของผม แต่ภรรยาของผมตายไปแล้ว คุณตายไปจะไปมีประโยชน์อะไร?”
เสียงของเขาแหบพร่าหาใดเปรียบ ทั้งยังเต็มไปด้วยความโกรธอย่างรุนแรงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ได้ยินอย่างนั้นร่างกายของหูเซียวก็สั่นเบา ๆ มองหูอีซานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เคร้ง!
สุดท้ายกริชที่ถูกอาบไปด้วยเลือดก็ถูกหูอีซานแย่งเอาไปโยนทิ้งลงพื้น
“พ่อคะ!”
ซูเซี่ยตะโกนเสียงดัง ในดวงตามีน้ำตาไหลลงมา รีบล้วงเอาทิชชูเปียกออกมาเตรียมจะพันแผลให้กับหูอีซาน
ทว่าหูอีซานกลับปฏิเสธไป
“ลูก ไปอยู่กับถังเฉาตรงโน้น นี่เป็นบุญคุณความแค้นระหว่างของพ่อกับเขา!”
จนกระทั่งซูเซี่ยมาอยู่ด้านข้างถังเฉาแล้ว หูอีซานถึงได้มองหูเซียวแล้วเอ่ยขึ้นว่า “คนตายไปแล้วจะฟื้นขึ้นมาไม่ได้ ถ้าหากผมบังคับให้คุณตายไป ผมจะแตกต่างอะไรกับคุณ?”
มองดูกริชที่อยู่บนพื้นด้วยสายไร้จิตวิญญาณ สายตาของหูเซียวค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสุขุมเยือกเย็น
บนใบหน้าของเขามีความหยอกเย้าบาง ๆ “นี่แกเห็นใจฉันงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่เห็นใจ ยี่สิบปีแล้ว ต่อให้แค้นมากกว่านี้ก็ควรจะปล่อยวางมันลง สิ่งที่ผมต้องการก็แค่ท่าทีหนึ่งของคุณเท่านั้น”
หูอีซานมองหูเซียว เอ่ยอย่างสงบ “ภายใต้การปกครองของคุณ ตระกูลหูไร้น้ำใจของมนุษย์ พี่น้องต่อสู้กันเอง ฆ่าแกงกันเอง ต่อให้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยแล้วจะไปมีประโยชน์อะไรล่ะ?
“ผมต้องการแก้ไขวงศ์ตระกูลนี้ ให้มันเป็นตระกูลร่ำรวยที่แท้จริง ไม่เพียงแต่เจริญรุ่งเรือง ยังมีความรักในครอบครัว”
พอคำพูดนี้ออกมาหูเซียวก็ตกอยู่ในความเงียบทันที
ไม่เพียงแต่เขา ทุกคนในตระกูลหูก็ล้วนแต่ตกอยู่ในความเงียบ
ความรักในครอบครัว
นั่นเป็นคำศัพท์คำหนึ่งที่ห่างไกลจากพวกเขาเหลือเกิน
พี่น้องคิดร้ายต่อกันตลอดเวลา
การที่หูจิ้งจู๋วางแผนทำร้ายหูจิ้งซูก็ตัวอย่างที่ดีที่สุด
ผ่านไปนานวันเข้านิยามต่อคำว่าความรักในครอบครัวของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นจืดจางไป
รู้ทั้งรู้ว่าการต่อสู้กันเองในครอบครัวนั้นไม่ดี แต่ก็อดใจไว้ไม่ได้
ตอนนี้มีคนต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ต่างกับการปฏิวัติ
การปฏิวัติจะต้องจ่ายค่าแลกเปลี่ยน
สายตาของหูเซียวเปลี่ยนเป็นล้ำลึก มองหูอีซานอย่างแน่วแน่
“แกคิดที่จะตกลงจะเป็นผู้นำคนต่อไปกับฉันใช่หรือเปล่า?”
หูอีซานพยักหน้า “ตกลง แต่ไม่ใช่เพื่อคุณ แต่เป็นเพื่อลูกสาวของผม”
สายตาของหูอีซานมองไปยังซูเซี่ย ยิ้มออกมา “กลับมาครั้งนี้ผมก็ตั้งใจจะให้เสี่ยวเซี่ยกลับมาอยู่ในตระกูลหู ผมไม่หวังว่าลูกสาวของผมกลับมาแล้วจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่อสู้วางแผนเพื่อแย่งชิงอำนาจกันแบบนี้”
หูเซียวเองก็มองไปยังซูเซี่ย สายตาซับซ้อนหาใดเปรียบ
เวลาผ่านไปนานเขาถึงจะพูดออกมาหนึ่งประโยค “เจ้าหนูเหมือนเมียของแก”
“ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่ต้องการความรักในครอบครัว เมื่อก่อนคุณก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ ถูกไหม?”
“พ่อ!”
หูอีซานมองคนแก่อายุเจ็ดสิบปีไปแล้วตรงหน้าคนนี้ เวลาห่างกันยี่สิบกว่าปี สุดท้ายก็ได้เรียกคำสำคัญที่ถูกแช่แข็งเอาไว้คำนั้นอีกครั้ง
ร่างกายของหูเซียวสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ริมฝีปากขมุบขมิบอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็ยังไม่สามารถพูดคำนั้นออกมาได้
“ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไร ผมก็ยังเป็นคนคู่อริที่คุณฆ่าเมียไป ความแค้นทั้งหมดนับอยู่บนตัวของผม”
“ต่อไปแกก็จะเป็นผู้นำของตระกูลหู จะต้องนำพาตระกูลหูเดินไปสู่ความรุ่งโรจน์!”
หูเซียวมองหูอีซานอย่างแน่วแน่พลางเอ่ยขึ้น
สุดท้ายหูอีซานก็รับตำแหน่งนี้ไป
หูเซียวมาอยู่ตรงหน้าของถังเฉาอีกครั้ง เอ่ยขึ้นว่า “คุณถังครับ ตามเงื่อนไขของคุณ คนที่รับตำแหน่งผู้นำคนต่อไปคือหูอีซาน ครั้งนี้จะปล่อยตระกูลหูไปได้หรือยังครับ?”
ถังเฉาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน ผลลัพธ์นี้ผมชอบมันทั้งหมด ผมไม่เพียงแต่จะปล่อยตระกูลหูไป แต่ยังจะมีประโยชน์ให้กับตระกูลหูด้วย”
“ต่อไปถ้าตระกูลหูเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็เรียกหาผมได้เต็มที่”
มีประโยคนี้แล้วหูเซียวก็ผ่อนลมหายใจ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มออกมา
สายตาของถังเฉาตกอยู่บนร่างของซูเซี่ย เอ่ยกับหูเซียวว่า “นอกจากนี้ อายุอานามของเสี่ยวเซี่ยก็ไม่น้อยแล้ว ถึงวัยที่จะต้องตบแต่งแล้ว ต่อไปงานแต่งงานของเสี่ยวเซี่ยคุณจะต้องเข้าร่วมด้วย”
หูเซียวมองซูเซี่ยแวบหนึ่ง ลังเลอยู่พักหนึ่ง เอ่ยว่า “ต่อไปลูกของเสี่ยวเซี่ยจะใช้แซ่หูเหมือนกันได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหา”
คนที่ตอบก็คือหูอีซาน
“พวกคุณพูดเหลวไหลอะไรกันน่ะ?”
ใบหน้าของซูเซี่ยเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองทันที ทำให้ใบหน้าแดงก่ำ
ทว่าสายตาของเธอกลับตกอยู่บนร่างของถังเฉาอย่างเหมือนมีและไม่มีความหมาย ถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่ง
ความในใจของสาวน้อยเกรงว่าจะต้องซ่อนอยู่ลึกสุดใจแล้ว
ถังเฉาอุ้มถังเสี่ยวลี้ ตั้งใจจะไปจากบ้านตระกูลหู
เฟิ่งหวงลุกขึ้นทันที “รองหัวหน้าคะ ฉันไปส่งท่าน!”
ถังเฉายิ้มแล้วส่ายศีรษะ “ไม่จำเป็น เสี่ยวหลี่ส่งผมก็พอแล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะ”
“ค่ะ…”
ถึงแม้ว่าเฟิ่งหวงจะขานรับ แต่ในดวงตากลับมีความผิดหวัง
เธอขับรถไปถึงในเมืองด้วยตัวคนเดียว เตรียมจะกลับเข้าที่พัก
โครม!
ทันใดนั้น รถยนต์คันหนึ่งก็ขวางอยู่ตรงหน้าของเธอ
ด้านหน้าของเธอมีผู้ชายสวมชุดดำรูปร่างกำยำแข็งแรงเดินลงมาหลายคน
สายตาของเฟิ่งหวงเย็นเยียบ ความดุร้ายในใจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“รนหาที่ตาย!”
เฟิ่งหวงลงจากรถในทันที เตรียมจะลงมือ
สีหน้าของผู้ชายพวกนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมากในทันที “คุณเฟิ่งหวงอย่าตื่นเต้นไป พวกเราไม่ได้มีเจตนาไม่ดี!”
เฟิ่งหวงหยุดมือ มองพวกเขาอย่างเยียบเย็น “พวกคุณรู้จักฉัน?”
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าเอ่ยว่า “คุณหนูตระกูลเราอยากเชิญคุณเฟิ่งหวงไปดื่มชาสักถ้วย”