เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 570

ตอนที่ 570

เสียงของชายค้างคาวเบามาก เบามากๆ แต่กลับทำให้เฟิ่งหวงรูม่านตาหดทันที

“คุณ……คุณรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?”

เฟิ่งหวงมองชายค้างคาวด้วยสายตาระแวดระวัง ใจเต้นรัว

ชายค้างคาวมองเธอด้วยสายตานิ่งๆ“ที่นี่เก็บเสียงดีมาก ดังนั้น บทสนทนาของพวกเรา จะไม่มีบุคคลที่สามรู้อย่างแน่นอน รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่ฆ่าเธอเมื่อตอนนั้น?”

“เพราะว่า พวกเรามันหัวอกเดียวกันยังไงล่ะ”

ชายค้างคาวยกมือขึ้น ชี้ไปที่หัวของตัวเอง

เฟิ่งหวงสีหน้ายิ่งซีดขาวมากขึ้น“คุณ……ก็ถูกองค์กรบีบบังคับเหมือนกันเหรอ?”

ชายค้างคาวยิ้มอย่างนิ่งๆ“ในบรรดาคนรับใช้ของ‘หว่างเหลี่ยง’ มีคนไหนที่ไม่ถูกบีบบังคับบ้างล่ะ? พวกเขาควักเหตุผลออกมาร้อยแปดพันอย่าง เข้าร่วมองค์กรไปแล้ว ไม่มีทางพลิกกลับขึ้นมาได้อีกแล้ว”

“มีหลายคน หลายคนมากที่นึกว่าเขาตายแล้ว มีหลายคน ที่รอพวกเขากลับมาอย่างโง่เขลามาโดยตลอด แม้ว่าในใจจะรู้ดี ว่าพวกเขาไม่มีทางกลับมาแล้วก็ตาม……ฉันอิจฉาคนแบบนี้”

ชายค้างคาวสีหน้าโศกเศร้าและเสียใจ

“ดังนั้น คุณก็คือ……”

เฟิ่งหวงรูม่านตาขยายออก ใจเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ

เธอรู้สึกว่า ตัวเองใกล้เข้าใกล้ความจริงแล้ว

ชายค้างคาวค่อยๆถอดเสื้อคลุมออกช้าๆ เผยให้เห็นถึงใบหน้าที่ดูผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน

เป็นใบหน้าที่น่ากลัว รอยแผลเต็มใบหน้าไปหมด แต่ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว เฟิ่งหวงก็พอจะมองออกว่าเขาคือใคร

“เป็นคุณอย่างนั้นเหรอ?!”

เฟิ่งหวงสีหน้าตกใจ “คุณคือค้างคาวอย่างนั้นเหรอ?”

ชายคนนั้นยิ้มนิ่งๆ“คุณรู้สึกว่าใช่ มันก็ใช่”

เฟิ่งหวงอารมณ์ตื่นเต้นขึ้นมาทันที เหมือนจะมีคำถามมากมายที่อยากจะถาม กลับถูกชายคนนั้นกดเอาไว้ก่อน

“ฉันรู้ว่าเธออยากจะพูดอะไร แต่เธอต้องเข้าใจเรื่องเรื่องหนึ่งก่อน ว่าตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ความสัมพันธ์เมื่อในสมัยก่อนพวกนั้นก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาที่เดินผ่านไป”

“ตอนนี้ ฉันเป็น‘ค้างคาว’ทำงานให้กับ‘หว่างเหลี่ยง’”

ชายคนนั้นสีหน้านิ่งเฉย น้ำเสียงเย็นชาอย่างหาที่เปรียบมิได้

เฟิ่งหวงสายตาซึมเศร้าทันที

ผลลัพธ์นี้ เธอรับมันไม่ได้จริงๆ

แถมทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำให้กับรองหัวหน้า ก็ไร้ความหมาย

ชายคนนั้นยิ้มๆ“พูดให้ถูกก็คือ พวกเราถือว่าเป็นพวกเดียวกัน ไม่ว่ายังไงก็เคยทำงานให้กับ‘หว่างเหลี่ยง’เหมือนกัน ตอนนี้ก็นับว่าได้มาร่วมมือกันอีกครั้ง”

“ตอนนี้เธอคงอยากจะถอดสิ่งที่อยู่ที่คอของเธอออกแล้วสินะ?”

ชายคนนั้นมองเฟิ่งหวง พร้อมกับถามยิ้มๆ

นิ่งเงียบไปนาน เฟิ่งหวงก็พยักหน้า

“เธอแค่แสดงความจงรักภักดีต่อพวกเราก็พอ”

ชายคนนั้นพูดยิ้มๆ“เธอรับปากฉันว่าจะจัดการธุระให้หนึ่งเรื่อง ฉันก็จะช่วยเธอเอาปลอกคอไฟฟ้านี้ออก แล้วก็จะบอกวิธีการเอาระเบิดที่ฝังอยู่ในหัวของเธอออกให้ด้วย”

เฟิ่งหวงสีหน้าตื่นตระหนกทันที“ในหัวของฉันไม่มีระเบิด”

“จริงเหรอ? ”

ชายคนนั้นมุมปากยกขึ้นยิ้มอย่างขี้เล่น“เธอนึกว่าฉายานักฆ่าอันดับหนึ่งของเธอในสมัยก่อน มันได้มาเปล่าๆฟรีๆอย่างนั้นหรือไง? จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่าสินะ”

เฟิ่งหวงสีหน้าดูไม่ได้ กลับจ้องมองไม่พูดอะไรสักคำ

เธอไม่รู้จริงๆ

“หยุดโง่ได้แล้ว”

ชายคนนั้นน้ำเสียงอ่อนลง“ถ้าเธอไม่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงมา ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมาถึงอันดับหนึ่งของโลกได้ขนาดนี้หรอก”

เฟิ่งหวงก็ยังไม่เชื่อ“แสดงว่าคุณจะบอกว่า ฉันทรยศต่อองค์กรแล้ว แต่ทำไมระเบิดในหัวถึงยังไม่ระเบิดอย่างนั้นสินะ?”

“นั่นก็เพราะว่าเธอเป็นสินค้าชิ้นแรก มันยังคงไม่สมบูรณ์ยังไงล่ะ”

ชายคนนั้นพูดนิ่งๆ“ระเบิดชิปรุ่นแรก มีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่แน่ไม่นอน”

หยุดไปสักพัก ชายคนนั้นก็พูดขึ้นมาต่อ“โอกาสมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าเธอปฏิเสธ แล้วพลาดไป ก็ไม่มีอีกแล้ว”

คำพูดของชายคนนั้น ทำให้เฟิ่งหวงตกอยู่ในความเงียบ

หลังจากผ่านไปนานสองนาน เธอก็มองชายคนนั้นด้วยสีหน้าซับซ้อน“จะให้ทำอะไร?”

ชายคนนั้นยิ้ม พูดออกมาหนึ่งประโยค

“ฆ่าถังเฉา”

“……”

หลังจากที่ออกมาจากวาเลียนท์ วิลล่า หลินชิงเสว่ก็ไม่ได้กลับบ้าน แต่กลับไปที่บริษัท

ดูเหมือนว่าที่บริษัทจะเกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย

“เป็นอะไรเหรอ?”

ถังเฉาที่อยู่ข้างๆพูดถามขึ้น

หลินชิงเสว่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง“สมาคมการค้าเจียงผิงลงมือจัดการกับพวกเราแล้ว!”

ในตาของถังเฉาแฝงไปด้วยความเยือกเย็น

ประธานของสมาคมการค้าเจียงผิงเริ่นจวินตงเคยยื่นคำขาดให้กับลี่จิงกรุ๊ปและจวี้เฟิงกรุ๊ป

ว่าถ้าเกิดไม่เข้าร่วมและกลายเป็นสมาชิกของสมาคมการค้าเจียงผิง ก็เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับสมาคมการค้าเจียงผิง

โดยเฉพาะจวี้เฟิงกรุ๊ปก็ยิ่งเป็นหนามยอกอกของสมาคมการค้าเจียงผิงไปอีก

แต่เดิมก็เห็นด้วยเห็นชอบที่จะเข้าร่วมสมาคมการค้าเจียงผิง แต่กลับถูกถังเฉามาสกัดกั้นเอาไว้ก่อน

เริ่นจวินตงก็เลยแค้นมาโดยตลอด

ถังเฉายิ้มๆ ไม่สนเลยสักนิด“ถ้าสมาคมการค้าเจียงผิงเข้ากับคุณไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็เปลี่ยนประธานก็ได้แล้วนี่”

หลินชิงเสว่คิดซะว่าถังเฉากำลังปลอบเธออยู่“คุณหยุดล้อเล่นได้แล้ว ประธานของสมาคมการค้าเจียงผิงจะเปลี่ยนง่ายขนาดนั้นได้ยังไงกันล่ะ?”

ไม่แปลกที่หลินชิงเสว่ไม่เชื่อ ถึงยังไงนี่มันก็ดูเหมือนเกมเด็กเล่น

ถังเฉาก็ไม่พูดอธิบาย แต่พูดถามขึ้น“แล้ว พวกคุณจะทำยังไง?”

หลินชิงเสว่พูดอย่างเคร่งขรึมจริงจัง“ในส่วนของจวี้เฟิงกรุ๊ปฉันไม่ค่อยรู้มากนัก แต่ทุกช่องทางสาขาของลี่จิงกรุ๊ปในเมืองเจียงเฉิงของฉันซบเซาลงไปมาก ตอนนี้ในตลาดถูกแบรนด์ที่ชื่อว่า‘เหม่ยหมอ’ผูกขาดไปแล้ว”

“‘เหม่ยหมอ’เครื่องสำอาง?”

ถังเฉาขำกับชื่อของสินค้าแบรนด์แทบไม่ไหว

สินค้าที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดแล้วก็ขายดีที่สุดของลี่จิงกรุ๊ปชื่อว่า‘แองเจิ้ล’ แล้วตอนนี้ก็มีแบรนด์ที่ชื่อ‘เหม่ยหมอ’ออกมา

นี่คิดจะมาเป็นปฏิปักษ์กันชัดๆ

ถังเฉาโทรศัพท์ไปหาหูอีซาน ผลลัพธ์ที่ได้รับกลับเป็นจวี้เฟิงกรุ๊ปไม่ได้รับผลกระทบเลย

มีแค่ลี่จิงกรุ๊ปเท่านั้นที่ถูกตลาดแบน

“ใช่แล้ว ฟางหย่าส่งข้อมูลมาแล้วนี่”

หลินชิงเสว่พูดขึ้นอย่างเข้มงวดจริงจัง“เครื่องสำอาง‘เหม่ยหมอ’นี้ผลิตจากบริษัทต่างประเทศที่ชื่อว่าบริษัทหยีเซียง เครื่องสำอางเหม่ยหมอราคาต่ำกว่า‘แองเจิ้ล’ ของพวกเรานิดหน่อย แถมประสิทธิภาพก็ดีกว่า อีกทั้งมีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับสินค้าของบริษัทพวกเราในอินเทอร์เน็ตอีกด้วย”

หลินชิงเสว่เปิดมือถือ ยื่นให้กับถังเฉา

พอถังเฉามอง สายตาก็เพ่งเล็ง

บนอินเทอร์เน็ตมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชุดผลิตภัณฑ์‘แองเจิ้ล’อยู่ไม่น้อย

ส่วนใหญ่แล้ว จะบอกประมาณว่า ใช้เครื่องสำอางของแองเจิ้ลแล้วทำร้ายผิวหน้า หน้าเป็นสิว

“ฉ่ายเวยตรวจสอบมาแล้ว ข่าวเหล่านี้ผ่านการคัดกรองผู้บริโภคมาแล้ว คนพวกนี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ เคยซื้อผลิตภัณฑ์ของ‘แองเจิ้ล’กับ‘เหม่ยหมอ’มาใช้ทั้งสองแบรนด์ ต่างก็พากันอวยเหม่ยหมอ แล้วก็รุมด่าวิจารณ์แองเจิ้ลกันทั้งนั้น”

หลินชิงเสว่พูดอย่างเข้มงวดจริงจัง

“นี่มันเป็นสงครามความคิดเห็นของผู้คน”

สีหน้าของถังเฉาก็เคร่งขรึมลงไปไม่น้อย

สินค้าอัพเดตล่าสุดเร็วมาก แม้จะบอกว่าตลาดจะมีคนควบคุมอยู่ แต่ถ้าสืบสาวไปจนถึงแก่นแล้ว ก็ไม่พ้นคำว่า แสวงหาเงิน อยู่ดี

สินค้าไหนดังได้รับความนิยมมาก ก็เอาสินค้านั้นมาวางขาย พวกสินค้าที่เทียบไม่ได้ ก็ไม่มีใครสนใจใยดี

ตลาดมันก็โหดร้ายแบบนี้แหละ

แต่สินค้ามันได้รับความนิยมได้ยังไง?

ก็แค่มาจากคำวิพากษ์วิจารณ์ของพวกผู้คนไม่ใช่หรือไง?

ถังเฉามองออกว่าสมาคมการค้าเจียงผิงให้ความเคารพผลิตภัณฑ์‘เหม่ยหมอ’อย่างมาก ลี่จิงกรุ๊ปสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดแล้ว

“อย่าเพิ่งใจร้อน พวกเราไปซื้อ‘เหม่ยหมอ’อะไรนั่นมาลองดูก่อนสักขวด”

ห้างสรรพสินค้าก็เหมือนสนามรบ ถังเฉากับหลินชิงเสว่ไม่ได้ตื่นตระหนกมาก

นี่เป็นแผนการที่เห็นได้บ่อยในห้างสรรพสินค้า

ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงย่านห้างสรรพสินค้าที่มีคนผู้คนหนาแน่น

ที่นี่มีแต่โฆษณาของผลิตภัณฑ์สินค้าเหม่ยหมออยู่ทั่วทุกที่ ล้วนแต่เอาฉายขึ้นจอใหญ่ๆทั้งนั้น

ในทางกลับกัน แทบจะไม่มีโฆษณาของผลิตภัณฑ์สินค้า‘แองเจิ้ล’ของลี่จิงกรุ๊ปเลย

“ที่แท้ตำแหน่งในโฆษณาที่เป็นของพวกเราในตอนแรก ตอนนี้ก็ให้กับสินค้าของ‘เหม่ยหมอ’ไปจนหมด”หลินชิงเสว่พูดขึ้น

ถังเฉานิ่งเงียบไปสักพัก ก็พูดขึ้นมาต่อ“ต้นแบบของผลิตภัณฑ์แองเจิ้ลก็คือลูกสาวของพวกเราเอง ผมไม่ยอมให้ถูกกดข่มเหงแบบนี้หรอก”

หลินชิงเสว่ซื้อชุดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาหนึ่งชุด

แกะออกแล้วทาลงบนแขน รู้สึกเย็นๆ

หลินชิงเสว่กลับสีหน้าเปลี่ยนไป“นี่มันคือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว‘แองเจิ้ล’ของพวกเราไม่ใช่เหรอ?”

พอหันไปอ่านดูสูตร ในที่สุดหลินชิงเสว่สีหน้าก็เผยให้เห็นถึงความโมโหทันที

“ขนาดสูตรยังเหมือนเลย!”

ถังเฉาหรี่ตาลง“ลอกเลียนสินค้าทางธุรกิจอย่างนั้นเหรอ?”

ถ้าคิดจะกลั่นสกัดสูตรออกมาจริงๆ นี่มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

หลินชิงเสว่โกรธสุดๆ อีกฝ่ายลอกเลียนผลิตภัณฑ์ของบริษัทเธอ แถมยังกดผลิตภัณฑ์ของเธอซะจนย่อยยับแบบนี้อีก

หลินชิงเสว่เดินเข้าไปในบูธที่ขายสินค้าโดยเฉพาะ“ฉันอยากพบกับผู้จัดการร้านของพวกคุณ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของพวกคุณ ล้วนแต่ลอกเลียนมาจากผลิตภัณฑ์ของ‘แองเจิ้ล’จากลี่จิงกรุ๊ปมาทั้งนั้น นี่มันถือเป็นการก่ออาชญากรรมแล้ว”

พนักงานขายของบูธขมวดคิ้ว“คุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาหาว่าผลิตภัณฑ์ของร้านพวกเราไปลอกเลียนมาจากลี่จิงกรุ๊ป?”

“เพราะว่าผลิตภัณฑ์ของพวกคุณเหมือนกับของลี่จิงกรุ๊ปเด๊ะๆ เปลี่ยนแค่แพ็คเกจจิ้งเท่านั้น”

หลินชิงเสว่พูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา

“คุณพูดไร้สาระอะไร!ผลิตภัณฑ์ของร้านพวกเรา พวกเราผลิตเอง ฉันว่าพวกคุณอยากดังจนบ้าไปแล้วแน่ๆ อยากเด่นอยากมีประเด็นใช่ไหม? หา?”

พนักงานขายไม่สนใจหลินชิงเสว่เลยแม้แต่น้อย ทำตัวก้าวร้าวกดขี่ข่มเหง

การวิวาทมีปากเสียงดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมายภายในร้าน

ถึงขนาดที่คนที่เดินไปมามากมายต่างก็พากันหันมามองด้วยความประหลาดใจ

พอเห็นอีกฝั่งเริ่มไม่มีเหตุผลแล้ว หลินชิงเสว่ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา“เรียกผู้จัดการร้านของพวกคุณมา ฉันต้องการถามเหตุผลให้รู้เรื่อง”

พนักงานขายคนนั้นด่าทอออกมายกใหญ่“คุณเป็นใคร ผู้จัดการร้านของพวกเรายุ่งมาก มีเวลามาพบคุณที่ไหนกัน? คุณจะซื้อหรือไม่ซื้อ? ไม่ซื้อก็ไสหัวออกไปซะ!”

ในขณะเดียวกัน พนักงานขายก็เรียกรปภ.มาเรียบร้อยแล้ว

ไม่นาน รปภ.เจ็ดแปดคนก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของหลินชิงเสว่

“คุณนี่เองเหรอที่เป็นคนก่อเรื่อง?”

หลินชิงเสว่ไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย“ฉันเป็นประธานของลี่จิงกรุ๊ป หลินชิงเสว่ ผลิตภัณฑ์ที่พวกคุณจำหน่าย ลอกเลียนมาจากของบริษัทพวกเราเด๊ะๆไม่มีเปลี่ยนเลยสักนิด ถ้ายังไม่หยุด ฉันฟ้องพวกคุณได้นะ!”

ไม่มีใครรู้จักกฎหมายดีไปกว่าหลินชิงเสว่

เป็นอย่างที่คิดไว้ พอหลินชิงเสว่พูดประโยคนี้จบ พวกรปภ.เหล่านั้นก็ไม่กล้าเข้ามา

แม้แต่พนักงานขายคนนั้นก็คิดไม่ถึงว่าคนคนนี้จะเป็นประธานของลี่จิงกรุ๊ป สีหน้าสำนึกผิดขึ้นมาทันที

แล้วก็เข้าใจแล้วว่าคนคนนี้ไม่ใช่อยู่ในระดับที่ตนเองจะต่อกรได้

“คุณรอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปเรียกผู้จัดการมาเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”

พูดเสร็จ ก็วิ่งเข้าไปในห้องทำงานของผู้จัดการทันที

“ผู้จัดการคะ เกิดเรื่องแล้วค่ะ ข้างนอกมีคนมาหาเรื่องค่ะ บอกว่าเป็นประธานของลี่จิงกรุ๊ป”

ในห้องทำงานมีผู้หญิงอายุประมาณสามสิบกำลังนั่งตัดเล็บอยู่หนึ่งคน

พอได้ยินว่าประธานของลี่จิงกรุ๊ปมา เธอก็แทบจะตัดโดนเนื้อของตัวเอง

“ว่าไงนะ? ประธานของลี่จิงกรุ๊ปมาอย่างนั้นเหรอ?”

ผู้หญิงสีหน้าตกใจ แต่เหมือนว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้ จากนั้นเธอก็สงบสติอารมณ์ลง

“บริษัทหยีเซียงเป็นคนผลิตสินค้า เกี่ยวอะไรกับพวกเราล่ะ เธอไปเรียกใครก็ไม่มีใครช่วยเหลือหรอก ไป ออกไปเจอหน้าประธานของลี่จิงกรุ๊ปอะไรนั่นสักหน่อย ”

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท