ผู้คนรู้เพียงว่าบ้าบู๊มาที่เมืองเจียงเฉิง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเขามาทำอะไรที่เมืองเจียงเฉิง
มันอยู่ในช่วงการจัดประชุมแดนเหนือพอดี รวมถึงสถานะของบ้าบู๊ในสมาคมการต่อสู้นั้น ชวนให้นึกถึงสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกัน
“บ้าบู๊มาให้กำลังใจประชุมแดนเหนือ!”
ตั้งแต่คนในวัยแปดสิบตลอดจนคนหนุ่มสาวในวัยยี่สิบสามสิบ พวกเขาต่างก็คิดอย่างนั้นโดยไม่รู้ตัว
บรรดาผู้ที่เป็นผู้สนับสนุนประชุมแดนเหนือต่างตกตะลึง
บ้าบู๊ลงจากเครื่องแล้วจะพบใครสักคน มีเรื่องนี้ด้วยเหรอ?
พวกเขาไม่รู้!
ไม่มีใครได้รับแจ้ง
หลินชิงเสว่ก็ตะลึงเช่นกัน ชี้ไปที่ตัวเองแล้วถามว่า “ทำไมต้องเป็นฉัน?”
ถังเฉายิ้มและส่ายหัว”ผมไม่รู้เหตุผล ผมรู้สึกว่ามันจะเป็นคุณ”
หลินชิงเสว่มองบนใส่เขาทันที และด่าด้วยรอยยิ้มว่า “ต่อไปคำพูดที่อวยฉันแบบนี้ไม่ต้องพูดอีกแล้วนะ!”
ถังเฉากล่าวทันทีว่า “แต่เป็นความจริงที่บ้าบู๊จะพบกับใครบางคนเมื่อเขาลงจากเครื่องบิน!”
เมื่อเห็นว่าถังเฉาพูดอย่างมั่นใจ เรื่องนี้แปดในสิบก็น่าจะเป็นจริง
ประธานบริษัทเหล่านั้นก็ตื่นเต้นเช่นกัน
หากพวกเขาได้รับเลือก บริษัทของพวกเขาก็จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น รอยยิ้มที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นบนใบหน้าของแต่ละคนก็เพิ่มขึ้น
“คุณหลิน คุณควรไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด พวกคุณไม่ใช่องค์กรธุรกิจที่ประชุมแดนเหนือมอบหมายให้เป็นผู้สนับสนุน คุณมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
“ใช่ มันเป็นไปไม่ได้ที่บ้าบู๊จะเลือกพวกคุณ อย่าฝันกลางวันเลย”
ใบหน้าที่ไร้ที่ติของหลินชิงเสว่เต็มไปด้วยความโกรธ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ตอนนี้ประชุมแดนเหนือเป็นแกนหลัก บริษัทที่ไม่ใช่ประชุมแดนเหนือมอบให้เป็นผู้สนับสนุน โดยพื้นฐานแล้วอยู่ยาก
“เราไปกันเถอะ ได้ไปเห็นใบหน้าที่แท้จริงของบ้าบู๊ก็ไม่เลวนิ”
หลินชิงเสว่เคลียร์อารมณ์ของเธอ ไม่โต้เถียงกับเจ้าของธุรกิจเหล่านั้น
ถังเฉารู้นิสัยของหลินชิงเสว่ ไม่ค่อยชอบโต้เถียงกับคนอื่น เขาจึงไม่พูดอะไร ดังนั้นเขาจึงพาเธอไปรอที่อื่น
สนามบินเมืองตะวันตกเต็มไปด้วยผู้คน ทุกคนที่มาที่นี่ก็เพราะบ้าบู๊
หลินชิงเสว่ยืนอยู่ในกลุ่มคนหลายพันคน ไม่ได้พิเศษอะไร
เธอถอนหายใจ “บ้าบู๊อุทิศชีวิตของเขาเพื่อส่งเสริมบูโด นำจิตวิญญาณของบูโดของต้าเซี่ยออกจากประเทศและสู่โลก คนแบบนี้คือวีรบุรุษจริงๆ”
ถังเฉายิ้ม “เป็นแค่ไอ้หนุ่มที่บ้าไวน์เงอะงะเท่านั้น”
“อะไร?”
สนามบินเสียงดัง และหลินชิงเสว่ไม่ได้ยินสิ่งที่ถังเฉาพูด
“ไม่มีอะไร”
ถังเฉายิ้มและส่ายหัว
น่าจะประธานเหล่านั้นเป็นคนกระจายข่าวลือเหล่านี้ และตอนนี้ทุกคนที่มาต้อนรับเขาที่สนามบินรู้ว่าบ้าบู๊จะเลือกคนที่มาที่นี่หนึ่งคน
ทุกคนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตนเองจะเป็นคนที่ถูกเลือก
ซ่า!
ในขณะนี้ ฝูงชนกระจัดกระจายไปมาก
รถรถอเนกประสงค์ติดธงแดงหยุดลง และกลุ่มคนที่สวมสูทและรองเท้าหนังเดินมา ถือกระเป๋าใบใหญ่และกระเป๋าใบเล็กไว้ในมือ
เมื่อดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว มันคือไวน์ที่มีชื่อเสียง
“เป็นผู้นำพันธมิตรเจียงเฉิงขององค์กรพันธมิตร ที่อยู่ในธุรกิจไวน์ที่มีชื่อเสียง หยางอี้เฉิน ประธานหยาง!”
ไม่รู้ว่าใครอุทาน สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้า
ถังเฉาหรี่ตาลงเล็กน้อยและมองมาที่เขา
ชายหนุ่มคนนี้ที่ถือกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหยางอี้เฉิน ผู้นำพันธมิตรเจียงเฉิง
“เขาคือหยางอี้เฉิน …”
ทั้งถังเฉาและหลินชิงเสว่ต่างมองมาที่เขา
ก่อนหน้านี้ที่ปะทะกับพันธมิตรเจียงเฉิง ถังเฉาไม่ได้ไป ดังนั้นมันจึงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหยางอี้เฉิน
ประธานองค์กรเหล่านั้นที่เยาะเย้ยหลินชิงเสว่รวมตัวกันรอบๆยางอี้เฉิน พูดด้วยความประหลาดใจ
“ประธานหยาง ไวน์เหล่านี้คุณเตรียมมาเป็นพิเศษหรือ?”
ยางอี้เฉินยิ้มและกล่าวว่า “ใช่ ผมรู้ว่าคุณบ้าบู๊มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับไวน์ ดังนั้นผมจึงนำไวน์ที่บริษัททำขึ้นและมอบให้คุณบ้าบู๊ได้ลิ้มรส”
“แบบนี้นี่เอง……”
ประธานเหล่านั้นต่างพยักหน้า จากนั้นสายตาก็มองลงไปกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ที่หยางอี้เฉินถืออยู่
หลังจากเหลือบมองเพียงครั้งเดียว ทุกคนก็ประหลาดใจ
“นี่เป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของโรงกลั่นเหล้าองุ่นของประธานหยางไม่ใช่หรือ? มันคือไวน์ชั้นดีที่ทำเอง ซึ่งรู้จักกันในนาม “หนึ่งหยดหมื่นพัน”!
“ใช่ๆ ประธานหยาง คุณบอกว่านี่คือสมบัติของคุณไม่ใช่เหรอ ปกติมีแขกผู้มีเกียรติ คุณก็ไม่ได้นำมันออกมาต้อนรับไม่ใช่หรือ? ทำไมวันนี้จึงเอามันออกมาล่ะ?”
ใบหน้าของหยางอี้เฉินเคร่งขรึม และเขาพูดด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า “ไม่ใช่แบบนี้ อะไรคือมีแขกผู้มีเกียรติมาก็ไม่เอาออกมาต้อนรับ นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจในไวน์ต่างหาก!”
“ไวน์นี้ ผมเอามาให้คนที่รู้จักไวน์จริงๆ ไวน์ที่คนที่ดื่มไวน์เป็น ประวัติศาสตร์ไวน์นับพันปี บนโลกนี้ มีกี่คนที่เข้าใจและรักไวน์จริงๆ?”
คำพูดของหยางอี้เฉินพูดได้สวยหรูมาก ไม่มีใครตอบ เพราะพวกเขารู้ดีว่า เอาสิ่งนี้มาประจบบ้าบู๊
ทันใดนั้น ประธานเหล่านั้นก็อิจฉาตาร้อนและชมเชย
“สมแล้วที่เป็นประธานหยาง คิดได้รอบคอบจริงๆ ดูเหมือนว่าคนที่คุณบ้าบู๊จะพบคือประธานหยาง!”
“ประธานหยาง ผมมีธุรกิจอันหนึ่ง เดี๋ยวหาเวลาคุยกันหน่อยได้ไหม?”
“ผมก็มี? เป็นวิธีหาเงินทั้งนั้น!”
“…”
พวกเขาเสนอความร่วมมือและมอบผลประโยชน์ส่วนใหญ่ให้กับหยางอี้เฉิน เพียงเพื่อสามารถสร้างความสัมพันธ์กับหยางอี้เฉิน
เพราะว่า หยางอี้เฉินได้เตรียมตัวมาอย่างดี และของขวัญที่เขาเตรียมมาก็เป็นสิ่งที่บ้าบีชอบ ไม่ว่าในกรณีใด คนที่บ้าบู๊ต้องการพบก็คือหยางอี้เฉิน
เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการนัดพบโดยบ้าบู๊
พวกเขาคาดการณ์ว่าหยางอี้เฉินจะรุ่งแน่นอน
หยางอี้เฉินยิ้มรับด้วยรอยยิ้ม
นี่คือสิ่งที่เขายอมเอาออกมาอย่างไม่เต็มใจ แค่หวังว่าบ้าบู๊จะชอบมัน
“ประธานหลิน คุณเห็นยัง นี่ต่างหากคือคนที่คุณบ้าบู๊อยากพบ คุณมาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์แล้ว ฮ่าฮ่า!”
ประธานเหล่านั้นมองไปที่หลินชิงเสว่ ต่างก็โอ้อวด
ใบหน้าของหลินชิงเสว่สงบเรียบและไม่ได้พูดอะไร
หยางอี้เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไป
เมื่อเขาเห็นหลินชิงเสว่ที่ยืนอยู่ไม่ไกล ความเย็นชาก็ส่องประกายในแววตาของเขา
เดิมทีปราบปรามบริษัทลี่จิงกรุ๊ปอยู่ดีๆ แต่ระหว่างทางกลับมีถังเฉาโผล่ออกมา โทรศัพท์แล้วได้เรียกกองกำลังจากเมืองหมิงจู
เจียงเฉิงแพ้ซ้ำๆ และในที่สุดก็ได้รับความเสียหายในระดับต่างๆ
บริษัทของเขาก็เหมือนกัน แต่โชคดีด้วยความช่วยเหลือของตระกูลฉิน บริษัทของเขาจึงได้ฟื้นตัวและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น
ความแค้นนี้ เขาต้องล้างแค้น!
“คุณเป็นประธานของบริษัทลี่จิงกรุ๊ป หลินชิงเสว่?”
หยางอี้เฉินเดินมาตรงหลินชิงเสว่ พูดจางๆ
“ใช่ คุณคือ?”
หลินชิงเสว่ขมวดคิ้วและถาม
“มันน่าจะเป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน แต่ผมคิดว่าคุณน่าจะเคยได้ยินชื่อผมแล้ว ผมชื่อ หยางอี้เฉิน ผมเป็นหัวหน้าองค์กรของพันธมิตรเจียงเฉิง”
หยางอี้เฉินกล่าวอย่างเย็นชา
ดวงตาของหลินชิงเสว่เย็นชาลงอย่างกะทันหัน และเธอก็จำได้ว่าเขาเป็นคนที่ปราบปรามบริษัทลี่จิงกรุ๊ป
“สามีของคุณเก่งมาก แต่ว่า หลังจากที่ผมได้พบกับคุณบ้าบู๊ ผมจะปราบปรามต่อไปจนกว่าบริษัทของคุณจะล้มละลาย”
น้ำเสียงของหยางอี้เฉินราบเรียบ ราวกับว่ากำลังพูดถึงเรื่องที่ธรรมดามาก
ประธานของบริษัทเหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังเขา ก็มองไปที่หลินชิงเสว่ด้วยท่าทางที่ยินดียินร้ายไปกับความโชคร้ายของคนอื่น
ใบหน้าของหลินชิงเสว่เต็มไปด้วยความโกรธ
อย่างไรก็ตาม ถังเฉาก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนว่าคุณจะลืมความเจ็บปวดหลังจากที่แผลหายนะ? บ้าบู๊จะไม่เลือกคุณแน่นอน”
“คุณคือใคร?”
หยางอี้เฉินไม่เคยเห็นถังเฉามาก่อน เมื่อกี้ความสนใจทั้งหมดของเขามุ่งเน้นไปที่หลินชิงเสว่ ไม่ได้สังเกตเห็นถังเฉาที่อยู่ข้างๆ
ถังเฉาหัวเราะ “พบกันครั้งแรก ผมชื่อถังเฉา”