แปะๆ!
ตอนที่ถังเฉาเจียงไป๋เสว่กับบอดี้การ์ดสองคนเดินออกมาจากห้องเครื่องนั้น ทั้งห้องโดยสารก็ได้ปรบมือดัง
ทุกคนต่างก็ได้มีรอยยิ้มราวกับว่ามีชีวิตใหม่บนใบหน้า ที่มีมากกว่าคือความดีใจ
“ขอบคุณพวกคุณทั้งสองที่ช่วยพวกเรา!”
“สมกับเป็นบ.รปภ.มังกรต้าเซี่ย เป็นมืออาชีพจริงๆ!”
“บ.รปภ.มังกรต้าเซี่ยใช่ไหม? กลับไปฉันจะไประดมทุน ไปถ่ายหนัง ชื่อหนังก็คือ 《กัปตันต้าเซี่ย》!”
“……”
คำชมต่างๆ ดูไม่ใจแคบเลยสักนิด
ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่สบตากันสักพัก ก็ไม่ได้พูดอะไร ก็แค่กลับไปนั่งที่นั่งของตัวเอง
ถึงแม้ว่าสายตาของทุกคนได้กระจ่างแล้ว แต่ว่าความจริงแล้ว ผู้คนนั้นถูกหลอกได้ง่ายที่สุด
บอดี้การ์ดสองคนนั้นมีบ.รปภ.มังกรต้าเซี่ยเป็นแบคหลัง ในสายตาของทุกคนนั้นก็คือมืออาชีพ
ถึงแม้ว่าเจียงไป๋เสว่ได้พูดฐานะของตัวเองไปแล้ว แต่ว่าไม่มีคนเชื่อ
เธอก็แค่หมอชันสูตร
นี่ก็เป็นผลลัพธ์ที่ถังเฉาอยากได้ เขานั้นไม่อยากให้การกระทำต่างๆ ของตัวเองเป็นจุดสนใจ มันจะทำให้คนบางคนนั้นจับตามองเอา
เพราะงั้นบอดี้การ์ดสองคนนี้เหมาะที่จะรับคำชอบแทนที่สุดแล้ว
บอดี้การ์ดสองคนนั้นก็ได้งงไปเลย ในห้องเครื่องนั้นพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมถึงได้กลายเป็นฮีโร่แล้ว
ความจริงแล้ว ในห้องเครื่องนั้นถังเฉากับเจียงไป๋เสว่เป็นคนควบคุม พวกเขาก็ได้ดูจนตาลาย ไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขานั้นทำได้ยังไง
แต่ว่า มีแค่พวกเขาที่รู้ ฮีโร่ที่ช่วยเครื่องบินลำนี้จริงๆ เป็นถังเฉากับเจียงไป๋เสว่
“ที่จริงไม่ใช่พวกเรา……”
บอดี้การ์ดสองคนเป็นคนซื่อสัตย์ ก็ได้เตรียมที่จะพูดความจริงออกไป
ซ่งเต๋อโหย่วกลับได้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดีใจ ก็ได้ออกแรงตกไหล่พวกเขา
“พวกนายทำได้ดีมาก! ได้ช่วยคนทั้งเครื่องบิน! กลับไปฉันจะเลื่อนขั้นเพิ่มเงินเดือนให้!”
“เรื่องนี้จะกลายเป็นกระแสในสังคมแน่ ถึงตอนนั้นถ้ามีนักข่าวมาสัมภาษณ์ ถึงตอนนั้นพวกนายก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงของบ.รปภ.มังกรต้าเซี่ยแล้ว!”
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้พูดจนมีน้ำลายกระเด็นออกมา บอดี้การ์ดสองคนก็ได้งงไปเลย
นี่ถือว่า ความโชคดีได้มามือเปล่าแบบนี้หรอ?
หลินชิงเสว่กลับมองถังเฉาเจียงไป๋เสว่ พูดว่า “ฉันรู้ค่ะ เป็นพวกคุณที่ช่วย ใช่ไหม?”
ถังเฉายิ้ม “ใครเป็นคนพูด สำคัญเหรอ ที่สำคัญก็คือตอนนี่ทุกคนก็ได้ปลอดภัยไปแล้ว”
หลินชิงเสว่ก็ได้หัวเราะออกมา
ทำความดีโดยไม่ทิ้งชื่อ เธอนั้นเห็นด้วยมากๆ
“ยังบอกว่าพวกเขาช่วย พวกนายหน้าด้านไปหน่อยไหม?”
เสียงของซ่งเต๋อโหย่วก็ได้ดังมา
“เป็นบอดี้การ์ดของฉันที่ได้ช่วยคนของเครื่องบินลำนี้ ฉันพูดอะไรหรือยัง? ฉันโอ้อวดหรือยัง?”
“พวกนายนี่ดีเลย เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับพวกนายก็ได้แอบคุยกันเอง!”
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้มองดูถูกอย่างถังเฉา ตอนนี้ขนาดหลินชิงเสว่เขาก็รังเกียจด้วย
“ทุกท่าน พวกท่านได้ยินไหม? ไอ่หมอนี่บอกว่าเขาได้ช่วยเครื่องบินลำนี้ แต่ว่าเท่าที่ผมรู้ เขาไม่มีแม้กระทั่งที่ทำงาน!”
เพราะงั้น สายตาของผู้โดยสารในห้องโดยสารที่มองถังเฉาก็ได้เปลี่ยน
“หน้าไม่อายเกินไปหรือเปล่า มืออาชีพเขาช่วย เกี่ยวอะไรกับเขา?”
“ฉันว่าพวกเขาก็แค่อยากจะเข้าไปดูว่าห้องเครื่องหน้าตาเป็นยังไงเท่านั้นมั้ง!”
ขนาดแอร์โฮสเตสก็ได้มองถังเฉาด้วยสายตาที่ดูถูก ไม่ให้การบริการกับพวกเขา
ถังเฉาหัวเราะอย่างขมขื่น
ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่อยากที่จะพูดฐานะของตัวเองออกไป แต่ว่าถ้าเขาพูดออกไป คนอื่นก็ไม่เชื่อนี่นา!
เมื่อก่อนถังเฉาก็เคยบอกกับหลินชิงเสว่ว่าตัวเองเป็นเจ้ามังกรไป แต่ว่าหลินชิงเสว่ไม่เชื่อเลยสักนิด ยังบอกเขาว่าไม่ต้องล้อเธอเล่น!
หลังจากนั้นเครื่องบินก็ได้ปลอดภัยจนไปถึงเยี่ยนจิง ไม่ได้เจออะไรที่ไม่ปกติอีก
ถังเฉาพาหลินชิงเสว่ เจียงไป๋เสว่ลงจากเครื่อง
คิดไม่ถึงว่าซ่งเต๋อโหย่วได้ตามไม่หยุด
“คุณเจียง คุณไปไหนครับ? ผมดูว่าทางเดินกันไหม ถ้าทางเดินกันก็ส่งพวกเธอไปด้วย!”
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้ยิ้มอย่างมีเลศนัย
ผ่านเรื่องอันตรายมา ทำให้เขารู้คุณค่าที่แท้จริงของชีวิต
ยังมีอะไรที่คุ้มค่ากว่าการอยู่รอด?
เพราะว่ามีเงินที่ยังใช้ไม่หมด มีผู้หญิงที่ยังนอนไม่หมด!
หลินชิงเสว่ก็สวยมาก แต่ว่าเธอได้แต่งงานแล้ว เพราะงั้นซ่งเต๋อโหย่วก็ทำได้เพียงแต่ว่าเอาโอกาสไปไว้บนตัวของเจียงไป๋เสว่
เขาไม่มีทางให้เจียงไป๋เสว่จากไป!
เพราะว่ามาถึงที่เยี่ยนจิงแล้ว ก็เป็นที่ของเขาแล้ว!
“ไม่ได้ไปทางเดียวกันคะ”
เจียงไป๋เสว่ก็ได้ข้ามคำถามแรกของเขาไป
อากาศในเยี่ยนจิงค่อนข้างหนาว ควบคู่ไปกับพายุทรายที่รุนแรง เธอก็ได้สวมหน้ากาก ใส่เสื้อกันลม
เสื้อกันลมก็ได้ยาวไปถึงน่อง กางเกงขายาวทรงดินสอทรงตรงเผยให้เห็นส่วนน่องเล็กน้อย กระโปรงพลิ้วตลอดทาง ดูอ่อนโยนทำให้หลงใหล
“ทำไมจะไม่ได้ไปทางเดียวกันล่ะ คุณยังไม่ได้บอกเลยว่าคุณจะไปไหน ทำไมถึงไม่รู้ว่าไม่ได้ไปทางเดียวกัน—-”
ซ่งเต๋อโหย่วร้อนใจไปเลย ยืนขึ้นมาก็ได้สูงกว่าเธอ เขานั้นชอบผู้หญิงที่มีบรรยากาศที่เย็นชาจริงๆ
“ฉันมีว่าที่สามีแล้ว”
เจียงไป๋เสว่ก็ได้หยุดเดิน ก็ได้หันกลับมองเขาแล้วพูด
“ใช่ ผมยืนยันได้ สามปีก่อนเธอก็มีว่าที่สามีแล้ว”
ถังเฉาก็ได้พูดแล้วก็หัวเราะอยู่ข้างๆ
“……”
ซ่งเต๋อโหย่วอึ้งไปเลย
คำพูดของถังเฉา มันน่าทึ่งเกินไป ซ่งเต๋อโหย่วเกือบที่จะคิดตามไม่ทัน
ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ มีว่าที่สามีแล้ว?
ยังเป็นเมื่อสามปีก่อน?
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้มองไปทางถังเฉาอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยความโมโห
“ไอ่หนุ่ม แกไร้สัจธรรมเกินไปหรือเปล่า ลูกสาวก็ได้ออกมาแล้ว ยังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น พวกแกทั้งสามมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?”
“……”
ประโยคนี้ได้ออกมา ถังเฉาก็ได้อึ้งไปเลย
หลินชิงเสว่กับเจียงไป๋เสว่ก็ได้อึ้งไปเลย
ที่นี่ไม่มีคนอื่น ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้คิดไปเองว่าว่าที่สามีของเจียงไป๋เสว่ก็คือถังเฉา!
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ว่าที่สามีของเธอคือพี่ใหญ่ของผม—-”
ถังเฉาก็ได้รีบอธิบาย
“อะไรนะ? งั้นเธอเป็นพี่สะใภ้ของแก? ขนาดพี่สะใภ้แกก็……”
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้อึ้งไปเลย
“……”
ถังเฉาหมดคำพูดแล้ว ก็รู้สึกว่า ตัวเองยิ่งอธิบาย ก็เหมือนว่ายิ่งวุ่นวายกว่าเดิม
สายตาของเจียงไป๋เสว่ก็ได้ดุขึ้น “ถ้าคุณยังตามฉันอีก ฉันไม่เกรงใจแน่”
“ฮ่าๆๆๆ!”
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้หัวเราะดัง
เขาไม่อยากที่จะสนใจว่าพวกถังเฉาทั้งสามมีความสัมพันธ์อะไร วันนี้เขาก็แค่อยากได้เจียงไป๋เสว่ผู้หญิงคนนี้
ไม่ ตอนที่เจียงไป๋เสว่พูดว่ามีว่าที่สามีแล้วนั้น เขาก็ได้เปลี่ยนความคิด
แต่งงานแล้ว เขาก็เอา!
วันนี้ผู้หญิงสองคนนี้เขาเอาทั้งหมด
“โชคชะตาทำให้พวกเราเจอกัน แล้วก็ยังเจอกับอันตรายด้วยกันอีก ถ้าให้พูดแล้ว ผมขอเลี้ยงอาหารพวกคุณสามคนแล้วก็เด็กน้อยคนนี้ เป็นยังไง?”
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้ยิ้มแล้วก็พูดเชิญ
มือที่เต็มไปด้วยเนื้อของถังเสี่ยวลี้ก็ได้ตบไปที่หน้าของซ่งเต๋อโหย่ว ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยความรังเกียจ “พ่อคะ หนูไม่ชอบลุงแก่คนนี้!”
“ไอ่เด็กนี่……”
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้โมโหเลย ก็ได้จ้องถังเสี่ยวลี้สักพัก
ถังเสี่ยวลี้ก็ไม่มองเขาเลย ก็ได้หลบเข้าไปในอ้อมกอดของหลินชิงเสว่
รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉากับหลินชิงเสว่ก็ได้หายไป
“ฉันไม่สนว่านายเป็นใคร ลูกสาวของฉันบอกว่าไม่ชอบนายแล้ว ตอนนี้นายก็ไสหัวไปจากสายตาพวกเราได้แล้ว!”
ถังเฉาพูดอย่างโมโห
หลินชิงเสว่ก็เหมือนกับ เธอไม่อยากที่จะมีเรื่อง แต่ว่าถ้าอีกฝ่ายจะกัดไม่ปล่อย ก็จะโทษเธอไม่ได้
ใบหน้าของซ่งเต๋อโหย่วก็ได้มีไฟแห่งความโกรธ “สาวสวยทั้งสอง อย่างน้อยๆ บอดี้การ์ดของฉันก็ได้ช่วยชีวิตพวกคุณไว้ ทานข้าวด้วยกัน ก็ให้หน้ากันไม่ได้เหรอ?”
เจียงไป๋เสว่ก็ได้เหล่มองบอดี้การ์ดสองคนสักพัก “ไม่ได้ที่จะดูถูกบอดี้การ์ดของนายนะ แต่ว่า เรื่องช่วยชีวิตคนในเครื่องบินเกี่ยวอะไรกับพวกเขา?”
บอดี้การ์ดสองคนก็ได้ทำตัวไม่ถูก ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยความสำนึกผิด ไม่กล้าที่จะตอบ
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้โมโห “ถ้าเกิดฉันอยากที่จะให้พวกเธอสองคนไปทานข้าวกับฉันละ?”
ที่เขาพูดคือหลินชิงเสว่กับเจียงไป๋เสว่ ก็ได้แยกถังเฉาออกไป
สีหน้าของหลินชิงเสว่ก็ได้เย็นชากว่าเดิม “นายกำลังข่มขู่เหรอ?”
“พวกเธอจะคิดแบบนี้ ก็ไม่เป็นไร ยังไงซะพวกเธอทั้งสามคนได้ติดค้างหนี้ชีวิตฉัน ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา ฉันก็สามารถที่จะเอามันกลับมาได้!”
สีหน้าของซ่งเต๋อโหย่วมืดมน ปรบมือ
ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่มองบอดี้การ์ดสองคนอย่างน่ากลัวสักพัก
ซ่งเต๋อโหย่วปรบมือเสร็จ ก็ได้พบว่าบอดี้การ์ดของตัวเองนั้นก็ไม่ได้เข้าไป กลับเหมือนว่าเป็นหนูที่ได้เจอกับแมวแบบนั้นถอยหลังไปก้าว ก็ได้โมโหทันที ก็ได้ตบไปที่หน้าของพวกเขาอย่างแรง
“กูสั่งให้พวกมึงเข้าไป! หูหนวกเหรอ?”
“เจ้านาย พวกเราไม่กล้าที่จะลงไม่ลงมือกับพวกเขา คุณให้พวกคนที่มารับที่สนามบินลงมือเถอะครับ!”
พวกเขาก็ได้หลบไปห่างๆ
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้โมโห ก็ได้โทรไปหาคนสิบกว่าคนที่ได้มารับที่สนามบินให้เข้ามา
พวกเขาก็ได้ล้อมทั้งสามคนไว้ ก็ได้มองพวกเขาอย่างเย็นชา
ซ่งเต๋อโหย่วยืนอยู่ตรงกลาง ก็ได้หัวเราะอย่างพอใจ
“ยังไง กลัวแล้วเหรอ? จำไว้ที่นี่คือเยี่ยนจิง หยิบเอาก้อนอิฐแล้วก็โยนไปในกลุ่มคน ก็สามารถที่จะฆ่าคนใหญ่โตไปหลายคนแล้ว”
“ไม่กล้าคุยโม้โอ้อวดเก่งเท่าไหร่ แต่ว่าที่นี่ ฉันซ่งเต๋อโหย่วเป็นคนกำหนด เข้าใจไหม?”
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้เดินไปข้างๆ หลินชิงเสว่ เจียงไป๋เสว่ ได้โชว์อำนาจของตัวเองต่อหน้าสาวสวย อย่าให้พูดเลยว่ารู้สึกดีขนาดไหน
แต่ทั้งสามไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยสักนิด
ถังเฉาก็ได้หัวเราะให้กับหลินชิงเสว่ “ที่รัก ที่นี่เป็นเยี่ยนจิง ที่ของคุณ ก็พึ่งคุณแล้ว”
ถังเฉาไม่มีท่าทางที่จะออกโรงเลยสักนิด
“วางใจเถอะค่ะ”
สีหน้าของหลินชิงเสว่ได้เยือกเย็น ตอนที่จะเอาโทรศัพท์ออกมา
อยู่ๆ เจียงไป๋เสว่ก็ได้โบกมือ “เธอไม่ต้องออกโรง คนไม่มียางอายแบบนี้ ฉันไล่มันไปเอง”
เพราะงั้น ถังเฉากับหลินชิงเสว่ก็ได้มองเจียงไป๋เสว่อย่างตกใจ
โดยเฉพาะถังเฉา เขายังไม่รู้ว่าเจียงไป๋เสว่รู้จักใครในเยี่ยนจิง
เธอก็ได้มองซ่งเต๋อโหย่วอย่างเยือกเย็น “ที่นายพูดก็ถูก ที่นี่เป็นเยี่ยนจิง เก็บก้อนอิฐแล้วโยนไปที่กลุ่มคน ก็สามารถฆ่าคนใหญ่คนโตไปได้หลายคน”
พูดจบ ก็ได้เอาโทรศัพท์ออกมา แล้วก็โทรออกไป บอกกับอีกฝ่าย เธออยู่ที่สนามบินเยี่ยนจิง
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้หัวเราะออกมาดังๆ “คุณเจียง มองไม่ออกนะครับ ว่าคุณมีคนที่รู้จักในเยี่ยนจิง?”
“ก็ไม่รู้ว่า คนที่คุณรู้จัก กันคนของผมใครจะเก่งกว่ากัน?”
ซ่งเต๋อโหย่วก็ไม่ได้รีบที่จะจับทั้งสามคน แต่เป็นการรอให้คนของเจียงไป๋เสว่มาก่อน แบบนี้ก็จะได้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเขา
เจียงไป๋เสว่ส่ายหน้า เธอนั้นไร้คำพูดกับซ่งเต๋อโหย่วมากๆ
คิดว่าเปิดแค่บริษัทรักษาความปลอดภัยข้ามชาติ ก็ไม่มีใครที่จะกล้าหาเรื่องเขาแล้วเหรอ?
ถังเฉากับหลินชิงเสว่รอคนที่เจียงไป๋เสว่เรียกมาอย่างสงสัย
ผ่านไปสิบนาที ก็ได้เห็นคนที่เหมือนพ่อบ้านวัยกลางคนคนหนึ่งรีบพาคนกลุ่มหนึ่งแล้วก็พุ่งเข้าไป
ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้หันไปตามเสียง กำลังอยากที่จะพูดเยาะเย้ย แต่พอได้เห็นหน้าตาของชายวัยกลางคนคนนั้น ก็ได้ตกใจจนวิญญาณแทบหลุด
“เยี่ยน…… ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู พ่อบ้านของตระกูลเจียง? !”
“ต้อนรับคุณหนูกลับบ้านครับ!”
ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู พ่อบ้านของตระกูลเจียงก็ได้ไปตรงหน้าของเจียงไป๋เสว่ คนที่พามาก็ได้พากับโค้งคำนับ!