เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – บทที่ 709 เครื่องบินกระดาษ

บทที่ 709 เครื่องบินกระดาษ

ท่านผู้นำเฒ่านั้นดูโกรธเป็นอย่างมาก ในน้ำเสียงของเขามีความกลัวอยู่ ซึ่งนั่นทำให้คุณจินรู้สึกเหลือเชื่อ

ท่านผู้นำเฒ่านั้นถือเป็นหนึ่งในสมาคมการค้าเก้าราชาระดับสูง แม้จะมองเยี่ยนจิงไปโดยทั่วแล้วก็หาชายคนที่เขาจะให้ความเคารพได้น้อยมาก ทำไมน้ำเสียงในตอนนี้นั้นดูหวาดกลัวจะเลยล่ะ?

แต่สิ่งที่ทำให้จินวู่นั้นรู้สึกเหลือเชื่อเลยก็คือคำพูดของท่านผู้นำเฒ่า

เขากำลังส่งตั๋วให้จริงๆ!

ให้ใคร?

ถังเฉาเหรอ?

จินหวู่รู้สึกเหลือเชื่อ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

“ท่านผู้นำเฒ่า ท่านพูดว่าอะไรนะครับ?ส่งอะไรนะครับ?ทำไมผมฟังไม่ค่อยเข้าใจเลย?”

จินหวู่อดไม่ได้ที่จะพูด

แต่ท่านผู้เฒ่านั้นไม่อยากที่จะมาอธิบายอะไร จึงพูดอย่างตรงไปตรงมา “อย่าถามมาก แกก็อยู่ตรงนั้นรอไปก่อน ไม่ใช่แค่ห้านาที ต่อให้เป็นห้าสิบนาทีหรือหนึ่งชั่วโมง แกก็ต้องรอฉัน แกยังมีความรู้สึกที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอยู่ไหมล่ะ?”

พูดไปด่าไป ท่านผู้นำเฒ่าก็ได้วางสายลง ทิ้งให้จินหวู่อยู่ตามลำพังอย่างงุนงง

จางขุยที่รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไปจึงอดไม่ได้ที่จะถามจินหวู่

จินหวู่ยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไร ราวกับคนโง่เขลาที่ยืนอยู่ในความงุนงง

กริ๊ง กริ๊ง!

ขณะนั้น โทรศัพท์ของถังเฉาก็ดังขึ้น

ยังคงเป็นสายโทรศัพท์จากผู้นำเฒ่าคนนั้น

“ฮัลโหล คุณถัง ไม่เกินหนึ่งนาที ผมกำลังจะไปถึงที่นั่นแล้วครับ!”

“ท่านไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบร้อน”

หลังจากที่บอกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ท่านผู้นำเฒ่าก็ได้วางสายไป

ถังเฉายิ้มพร้อมกับจับมือหลินชิงเสว่

ทันใดนั้นก็พบว่ามือเล็กๆของหลินชิงเสว่นั้นเย็นเฉียบ ใบหน้าของเธอเองก็ดูตื่นตระหนก

ดังนั้นถังเฉาจึงพูดปลอบโยนไปว่า “ไม่ต้องกลัว อีกเดี๋ยวตั๋วเชิญจะถูกส่งมา”

ด้วยคำปลอบโยนของถังเฉา หลินชิงเสว่ก็รู้สึกสงบขึ้นเล็กน้อย

จางขุยเย้ยหยัน “พวกนายนี่ท้ายที่สุดก็ยังจะกระเสือกกระสนจนได้ ถึงแม้ว่าจะรอพวกนายห้าทีแล้วยังไงล่ะ ห้านาทีต่อมา พวกนายก็ยังคงไม่มีตั๋วเชิญอยู่ดีและก็จะถูกโยนออกไป…”

บึ๊นบึ๊น!

ก่อนที่จางกุยจะพูดจบ เสียงคำรามของเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นไม่ไกลนัก

รถยนต์เชิงพาณิชย์เมอร์เซเดสเบนซ์สีดำคันแวววาวจอดอยู่ที่ประตูวังคริสตัล

ประตูรถเปิดออก ชายชราในชุดสูทผู้ซึ่งผมสีขาวและมีเคราก็ได้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

อายุก็ป่าไปห้าสิบหกแล้ว แต่ยังวิ่งพุ่งราวกับวิ่งร้อยเมตรเข้าไปในวังคริสตัล ทุกคนต่างตกตะลึง

“นี่คงไม่ใช่ท่านผู้นำโดยตรงของคุณจิน ผู้ที่เป็นสมาชิกสมาคมการค้าเก้าราชา ท่านชิวใช่ไหม?”

“เขามาได้ยังไงกัน?”

“…”

ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“พวกนายดูสิ อะไรอยู่ในแขนของท่านชิวกันน่ะ?”

ทันใดนั้น ไม่รู้ว่าใครอุทาน สายตาของทุกคนก็หันไปสังเกตเห็นกระเป๋าของท่านชิว

เห็นเพียงเขาวิ่งไปหาจินหวู่ด้วยจดหมายเชิญมากมาย

จินหวู่ลุกขึ้นทักทายในทันที “ท่านผู้นำเฒ่า ท่านช้าหน่อย…”

“ออกไป!อย่ามาขวางทาง!”

ท่านชิวผลักเขาออกไป

ท่ามกลางสายตาอันน่าเหลือเชื่อของผู้คนนับไม่ถ้วน ท่านชิวรีบตรงเข้าไปหาถังเฉาพร้อมกับยื่นจดหมายเชิญกองหนึ่งในมือให้

“คุณถัง นี่คือจดหมายเชิญของคุณครับ ส่งถึงแล้ว!”

“คุณลองนับดู ไม่ขาดเลยแม้แต่ใบเดียว!”

เมื่อพูดจบ ท่านชิวถึงจะกล้าที่จะหายใจเสียที

เขาไม่กล้าออกเสียงอะไร ได้แต่ยืนตรงหน้าถังเฉาอย่างระมัดระวัง ไม่รู้ว่าถังเฉานั้นจะพอใจหรือไม่

ผู้คนต่างมองไปที่ท่านชิวผู้ที่มีความสามารถมากและตำแหน่งที่สูงส่งที่กำลังโค้งตัวไปครึ่งหนึ่งราวกับเด็กน้อยที่ทำผิดและรอให้ถังเฉาตอบ

ถังเฉาที่มองไปเห็นจดหมายเชิญก็ขมวดคิ้วในทันที “ใครให้นายเอามาเยอะขนาดนี้กัน?เอามาแค่สามแผ่นก็พอแล้ว เอามาเยอะขนาดนี้ก็เสียของกันพอดีน่ะสิ?”

ถังเฉาดุ

ใบหน้าของท่านชิวดูหวาดกลัว เขากล่าวว่า “คุณถังพูดถูกแล้วครับ คุณถังพูดถูกแล้ว”

ถังเฉาหยิบจดหมายเชิญออกมาสามใบ จากนั้นส่งคำเชิญใบอื่นกลับไปให้เขาและพูดว่า “เอามาเยอะขนาดนี้แล้วทำยังไงดีล่ะเนี่ย?”

ท่านชิวคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเห็นถังเสี่ยวลี้ที่อยู่ด้านข้างถังเฉากำลังพับเครื่องบินกระดาษอยู่ ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้น “ให้ลูกสาวเอาไปพับเครื่องบินกระดาษเล่นก็แล้วกันครับ!”

“อืม วิธีนี้เชื่อถือได้อยู่”

ถังเฉาคิดว่าวิธีนี้นั้นใช้ได้ จากนั้นจึงพาหลินชิงเสว่มายืนที่ด้านหน้าของจินหวู่ จากนั้นมอบจดหมายเชิญทั้งสามฉบับให้

เขามองจินหวู่ที่กำลังตกตะลึง จากนั้นยิ้มและพูดว่า “เป็นยังไงล่ะคุณจิน การรอไม่กี่นาทีนี้มีความหมายต่อนายหรือเปล่า?”

“…..”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนตะลึงไปทันที

จินหวู่ที่สงสัยว่าดวงตาของเขานั้นผิดปกติหรือเปล่าจึงได้ทำการขยี้จากนั้นมองอีกครั้ง เห็นเพียงในมือของถังเฉาและหลินชิงเสว่ถือจดหมายเชิญอยู่จริงๆ

จดหมายเชิญเป็นสีดำทั้งหมด บริเวณโดยรอบยังฝังด้วยเพชรสีดำ ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเหลือเชื่อ

เขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนส่งจดหมายเชิญให้กับถังเฉาจริงๆ

แถมคนที่ส่งให้ยังเป็นคนที่ท่านผู้นำเฒ่า ผู้ที่เขาเคารพรักมากที่สุดอีกด้วย!

ขณะที่หลินชิงเสว่ถือจดหมายเชิญอยู่นั้น ทุกๆคนก็ต่างอยู่ในท่าทางที่งุนงง

ถังเฉาได้รับจดหมายเชิญมามากมายขนาดนี้ นี่มันมีราคามากเสียจนไม่ประเมินค่าไม่ได้แล้ว

ขณะนี้ ในใจของหลินชิงเสว่ที่เดิมทีไม่สงบนั้นก็ค่อยๆลดลงไป

“นี่ นี่นี่นี่…มันเป็นไปได้ยังไง?”

ทั้งจางขุยและสองสาวฝาแฝดนั้นดูโง่ในทันที แม้กระทั่งพูดจาก็ยังดูติดขัด

ฉากที่ท่านชิวนั้นมอบจดหมายเชิญให้กับถังเฉานั้นทำให้ในใจของจางขุยและสองสาวฝาแฝดนั้นสั่นคลอน

พวกเขาหวังว่านี่มันจะเป็นเพียงแค่ความฝัน ไม่นานก็จบไป

“จาง คุณชายจางคะ ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นจะได้รับจดหมายเชิญจริงๆด้วย ตัวตลกดูท่าแล้วจะเป็นพวกเราเองใช่ไหม?”

ใบหน้าของสองสาวฝาแฝดซีดเผือดพร้อมกับจ้องมองไปที่ถังเฉา ทั้งอิจฉาและรู้สึกตื่นตระหนก

“ไม่ได้พูดว่า เขาเป็นแค่ลูกเขยที่เกาะู้หญิงกินหรอกเหรอ?ทำไมถึงสามารถให้ท่านชิวมามอบจดหมายเชิญได้ด้วยตนเองล่ะ?”

“คุณหลินเองก็ยังเป็นเจ้าหญิงคนโตของตระกูลหลิน ทั้งหมดนี้คือนายที่มั่วนิ่มไปเอง!”

“คนปล่อยความลือสมควรตายจริง”

“…”

คนรอบข้างต่างมองจางขุยและสองสาวฝาแฝดด้วยแววตาที่เย็นชา

เมื่อถูกคนจำนวนมากจ้องมอง จางขุย ทั้งสามคนแทบจะเป็นลม

ทันใดนั้น จางขุยก็เหลือบไปมองจดหมายเชิญของแขกคนหนึ่ง มันเป็นสีทอง ซึ่งแตกต่างจากจดหมายเชิญที่อยู่ในมือของถังเฉาและหลินชิงเสว่อย่างเห็นได้ชัด

จางขุยผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมาราวกับว่าเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง

“ฉันเข้าใจแล้ว ทุกๆท่าน ลองมองไปที่จดหมายเชิญที่อยู่ในมือของเขาสิ จดหมายเชิญในมือของพวกเขาไม่ใช่สีทอง มันคือของปลอมอย่างแน่นอน!”

“จดหมายเชิญปลอมยังกล้าที่จะเอามาหลอกเราอีกเหรอ?”

ป้าบ!

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่สิ้นเสียงลง จินหวู่ก็รีบขึ้นมาตบเข้าไปที่ปากของจางขุยฉาดใหญ่

“นายน่ะหุบปากไปเลยไป!”

จางขุยนั้นเกือบเป็นลมล้มไปจากการตบครั้งนี้แล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “คุณจิน นี่ท่านตบผมทำไมครับ?ทำไมท่านถึงไม่ไปตรวจสอบว่ามันเป็นจดหมายเชิญปลอมหรือเปล่า?”

สองสาวฝาแฝดเองก็โกรธมากเช่นกัน แต่พวกหล่อนนั้นไม่กล้าที่จะไประบายอารมณ์กับจินหวู่

เมื่อจินหวู่ได้ยิน ใบหน้าของเขากลายเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ จากนั้นตบจางขุยเข้าไปอีกฉาดหนึ่ง

“ถ้าไม่รู้ก็ไม่ต้องพูดซี้ซั้ว จดหมายเชิญนั้นก็บ่งบอกระดับได้เช่นกัน สีทองคือแขกทั่วไป ส่วนสีดำคือแขกผู้มีเกียรติสูงสุด!”

การที่ถังเฉานั้นมีจดหมายเชิญสีดำ มันยังไม่เป็นพิสูจน์อีกเหรอว่าตัวตนของเขานั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก?

เมื่อคิดว่าตนนั้นไปเชื่อคำพูดของไอ้โง่สามคนนี้แล้วไปทำให้ถังเฉาขุ่นเคืองใจ จินหวู่ก็เกือบจะเป็นลมล้มจับไปเลย ช่างน่าเสียใจจริงๆ

ตี๊ด ตี๊ด!

ในขณะนี้เอง เครื่องสแกนอินฟราเรดสแกนจดหมายเชิญที่อยู่ในมือของถังเฉาสามทั้งคน เผยให้เห็นอย่างรวดเร็วว่าการยืนยันตัวตนนั้นผ่าน

ท่านชิวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ จากนั้นเมื่อนึกถึงสิ่งที่จินหวู่พูดกับถังเฉาก่อนหน้านี้ ใบหน้าก็มืดมนลง เดินก้าวไปด้านหน้าของจินหวู่ จ้องมองเขาเขม็ง

“ผู้…ท่านผู้นำ…”

ใบหน้าของจินหวู่นั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

ท่านชิวโกรธถึงขีดสุด “กล้ามาโอ้อวดต่อหน้าคุณถัง ฉันจะตีแกให้ตายเลย!”

เมื่อพูดจบก็ได้ตบเข้าไปที่หน้าของจินหวู่อย่างแรง

“ต่อหน้าคุณถัง ฉันให้เกียรติเสมอ แกเป็นแค่ผู้จัดการตัวน้อยๆ มีคุณสมบัติอะไร?”

“ยังพูดว่าสามารถสร้างความมั่งคั่งได้มากมายภายในห้านาที ไอ้ขยะอย่างแก แกสามารถสร้างความมั่งคั่งแบบไหนกันเหรอ?การให้บริการที่ดีแก่คุณถังนั้นถือว่าเป็นความมั่งคั่งที่ล้ำค่าที่สุดแล้ว!”

“แกยังทำให้ฉันโดนคุณถังต่อว่าอีก หากวันนี้ฉันไม่สั่งสอนแกให้ดีล่ะก็ สมาคมการค้าเก้าราชาจะเป็นแกหรือไง?”

โป้ง โป้ง โป้ง…

ท่านชิวทั้งต่อยและเตะจินหวู่ ทั้งฉากเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของจินหวู่

“ท่านผู้นำ ผมผิดไปแล้วครับท่านผู้นำ ปล่อยผมเถอะ”

“คุณถัง คุณหลิน ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่แกล้งเสแสร้งอะไรอีกแล้วครับ…”

คุณถังโบกมือ “พอแล้ว พอแล้ว ลูกสาวฉันกำลังดูอยู่นะ”

ท่านชิวหยุดลงมือ เขาเข้ามาหาคุณถังด้วยรอยยิ้มพร้อมกับโค้งคำนับ “ครับ คุณถัง”

เมื่อพูดจบก็ก้มหัวไปมองถังเสี่ยวลี้อีกครั้ง

เด็กน้อยจ้องมองไปที่ท่านชิวด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

ทันใดนั้นก็ชี้ไปที่เคราของท่านชิว ยิ้มยิงฟันออกมา “คุณปู่!”

“…..”

มุมปากของท่านชิวกระตุกในทันที แต่ก็ยังย่อตัวลงพร้อมกับมองไปที่ถังเสี่ยวลี้อย่างใจดี จากนั้นใช้จดหมายเชิญสีดำพับเป็นเครื่องบินกระดาษให้แก่ถังเสี่ยวลี้

“คุณปู่พับเครื่องบินกระดาษให้หนูเล่นดีไหม?”

“ดีค่ะ!”

ถังเสี่ยวลี้หัวเราะเสียงดัง

จากนั้น ท่านชิวจึงได้หยิบเครื่องบินกระดาษขึ้นมา เป่าลมเข้าไปเล็กน้อยและมอบให้กับถังเสี่ยวลี้

ถังเสี่ยวลี้ขว้างออกไปเบาๆ เครื่องบินกระดาษที่ทำจากจดหมายเชิญก็บินไปไกลในสายลม

ในที่สุด มันก็ได้ตกลงไปกลางน้ำพุดนตรี

“เอาอีก เอาอีก!”

ถังเสี่ยวลี้ปรบมืออย่างมีความสุข

ท่านชิวยังยิ้มและพับเครื่องบินกระดาษจำนวนมากในคราวเดียว

“พ่อกับแม่ก็มาด้วยกันสิคะ!”

ถังเสี่ยวลี้ใช้มือหนึ่งลากถังเฉามา ส่วนอีกมือลากหลินชิงเสว่

“ได้เลย”

ถังเฉายิ้มและเริ่มพับเครื่องบินกระดาษให้กับลูกสาวของเขา

ในตอนแรกหลินชิงเสว่นั้นไม่สามารถที่จะวางร่างของเธอลงได้ในตอนแรก แต่เมื่อเห็นถังเฉาที่ดูติดดินนั้น ในใจก็รู้สึกผ่อนคลายพร้อมกับพับตามไปด้วย

“สาม สอง หนึ่ง”

“เครื่องขึ้นได้!”

ถังเสี่ยวลี้หยิบเครื่องบินกระดาษขึ้นมา จากนั้นก็ค่อยๆบินออกไปทีละลำ

ทุกคนนั้นจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง มองดูเครื่องบินกระดาษที่มีมูลค่ามากกว่าบ้านหลังหนึ่งบินว่อนกลางอากาศ

“…..”

ทุกคนนั้นดูโง่กันไปหมด

ในเวลานี้เองที่พวกเขาได้เข้าใจความหมายของคำว่า‘รวย’อีกครั้ง

มีเงินคืออะไร?อะไรที่เรียกว่าเศรษฐีที่แท้จริง?

เพียงแค่มีร้อยล้านหรือพันล้านก็ถือว่ารวยแล้วงั้นเหรอ?

ผิวเผิน

ปฏิบัติต่อสิ่งของล้ำค่าเป็นดั่งของเล่น เมื่อเล่นเสร็จก็โยนทิ้งไป

นี่สิคือการมีเงินที่แท้จริง

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเครื่องบินกระดาษ แต่ในสายตาของทุกคนนั้นมันคือบ้านหลายสิบหลังที่กำลังบินว่อนอยู่

ท้ายสุด บ้านเหล่านี้…

ไม่สิ เครื่องบินกระดาษเหล่านี้ล้วนแต่ตกไปที่กลางน้ำพุดนตรี

ฉึก…

ฉึก…

ฉึก…

ในเวลานี้ ทุกคนนั้นได้ยินเสียงของแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

มันคือเสียงของใจที่แตกสลาย

หลังจากบินเครื่องบินกระดาษแล้ว ถังเฉาและหลินชิงเสว่จับมือของถังเสี่ยวลี้แล้วเข้าไปในวังคริสตัลพร้อมกับท่านชิว

จางขุยและสองสาวฝาแฝดได้แต่ยืนอยู่ที่ด้านนอกของวังคริสตัลอย่างสิ้นหวัง ใบหน้าของเขาดูหมองคล้ำราวกับว่าสูญเสียจิตวิญญาณ

เมื่อสติกลับมา พวกเขามองดูเครื่องบินกระดาษที่กระจัดกระจายอยู่ในน้ำพุดนตรีอย่างตื่นเต้น

“คุณชายจาง คุณรีบดูสิ จดหมายเชิญมากมายเลย!”

มีแสงสว่างวาบในดวงตาของสองสาวฝาแฝด จางขุยเองก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกัน

ตึก ตึก…

หลังจากชั่งใจแล้ว พวกเขาก็กระโดดลงไปในน้ำพุดนตรีอย่างสิ้นหวังเพื่อหาเครื่องบินกระดาษในน้ำ

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”

“จดหมายเชิญมากมายขนาดนี้!ครั้งนี้พวกเราก็จะสามารถเข้าไปเปิดโลกได้เสียที!”

“ฟ้ามีตาจริงๆ!”

ทั้งสามเดินออกมาจากน้ำพุดนตรีอย่างเปียกโชกไปทั้งตัว ถือจดหมายเชิญมากมายอยู่ในมือ หัวเราะอย่างบ้า

เมื่อได้รับจดหมายเชิญแล้ว จางขุยพาสองสาวฝาแฝดเข้าไปที่ประตูวังคริสตัลอย่างมีความสุขพร้อมกับส่งจดหมายเชิญที่เปียกชื้นให้แก่จินหวู่

“คุณจิน พวกเราก็มีจดหมายเชิญ รีบให้พวกเราเข้าเร็ว!”

เมื่อเห็นว่าคนโง่สามคนนี้กล้าที่จะปรากฏตัวต่อหน้าเขา จินหวู่ก็ได้ตบเข้าไปที่หน้าของพวกเขาโดยตรง

“เย็ดแม่ง ไม่รู้กฎการเข้าวังคริสตัลหรือไง? ต้องเป็นจดหมายเชิญที่สมบูรณ์ ไม่มีรอยยับ ชื้น หรือมีรอยฉีกขาด!”

“อีกอย่าง เมื่อกี้ยังกล้ามาหลอกฉันอีกนะ เรียกคนมาตีมันซะ เอาให้ตาย!”

การตบของท่านผู้นำเฒ่านั้นยังเจ็บอยู่ จินหวู่โกรธจนปอดจะระเบิด เขาเรียกคนมานำสามคนนี้ออกไป

“ไม่ให้เข้าก็ไม่ให้เข้าสิ จะลงมือทำไมกัน?”

“อ๊ะ รองเท้าของฉัน!รปภ.ตัวเหม็นกล้ามาเหยียบรองเท้าฉันเหรอ ฉันจะบอกให้นายจบเห่แล้ว!”

“อ๊ะ..ตาฉัน พี่ชายฉันผิดไปแล้ว อย่าตีเลย–ถ้าจะตีก็อย่าให้โดนหน้าไม่ได้เหรอ”

“…”

ภายในสิบนาที จางขุยและสองสาวฝาแฝดก็ถูกขับไล่ออกจากวังคริสตัลไปด้วยความอับอาย

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท