“เวรเอ๊ย!”
เสียงดับเครื่องยนต์ดังขึ้น พริบตาเดียวราศีเกรียงไกรที่จางขุยสั่งสมขึ้นมาก็ล้มไม่เป็นท่า
หน้าเขาซีดเผือด ท่าทางเหมือนคนป่วย
“คุณชายจางคะ คุณ…..”
จางขุยแทบจะโรคหัวใจกำเริบ “อุบัติเหตุ อุบัติเหตุ ปกติไม่เร็วขนาดนี้หรอก……”
สองสาวฝาแฝดสวมเสื้อผ้าอย่างอารมณ์ค้าง และมองออกไปนอกหน้าต่าง
ปรากฏว่าได้ยินเสียงดับเครื่องยนต์เหมือนกัน
พวกเธอเบ้ปากอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ “คุณชายจางคะ ทำไมตั้งแต่ไปวังคริสตัลมาเมื่อวาน คุณถึงปอดแหกขึ้นเยอะเลยคะ? กลัวแม้กระทั่งรถที่จอดข้างถนน”
“นั่นน่ะสิคะ พวกเราไม่ใช่โจรซะหน่อย เราแค่มาเยี่ยมชม เยี่ยมชมเข้าใจมั้ยคะ?”
แฝดพี่แฝดน้องผลัดกันพูดแดกดัน
จางขุยผงะ “เธอว่าอะไรนะ จอดอยู่ริมถนนหรอ?”
“ใช่น่ะสิคะ”
แฝดน้องพูดอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ “ซอยตงเฉินก็อยู่ริมถนนนี่ ถ้าเป็นถนนก็ต้องมีรถจอดอยู่แล้วนี่คะ คุณคงไม่คิดว่าเจ้าของซอยตงเฉินกลับมาหรอกนะ”
“เรื่องนั้น…..”
จางขุยเหงื่อผุดที่หน้าผากเม็ดเท่าถั่ว เขามองออกไปนอกประตูตามสัญชาตญาณ
นี่เขาคิดไปเองหรอ
จางขุยยังไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
เมื่อกี้เขาได้ยินอย่างชัดเจนว่ารถคันนั้นจอดอยู่หน้าประตู
ต่อให้จอดที่ถนน ใครกันจะจงใจจอดรถที่หน้าประตูซอยตงเฉินทั้งที่รู้สถานการณ์ของซอยตงเฉินอยู่แล้ว
“พวกเรารีบไปจากที่นี่กันดีกว่า”
จางขุยจูงมือสองสาวฝาแฝดอย่าไม่ฟังอะไร เตรียมไปจากที่นี่
“เฮ้ คุณทำอะไรคะ…..”
สองสาวฝาแฝดกลับเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ยอมไป พวกเธอกำลังจะส่งเสียงร้อง
ตึง! ตึง! ตึง!
ทันใดนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากสวนด้านหน้านอกซื่อเหอย่วน
เสียงของสองสาวฝาแฝดชะงักงันในทันใด สีหน้าซีดลงแบบเห็นได้ด้วยตาเปล่า เม็ดเหงื่อผุดออกมาเต็มหน้าผาก
“แย่แล้วแย่แล้ว เจ้าของซอยตงเฉินกลับมาแล้ว พวกเราจะทำยังไงกันดี”
สองสาวฝาแฝดกลัวจนมีสภาพเหมือนมดบนกระทะร้อน ร้อนใจจนเดินวนไปวนมา
จางขุยก็กลั้นหายใจ ไม่กล้าหายใจแรง
เขาในตอนนี้ถือว่ายังใจเย็นอยู่ พอฟังเสียงฝีเท้าจากด้านนอก เสียงหนึ่งเป็นรองเท้าหนัง อีกเสียง เป็นเสียงส้นสูงกระทบพื้น
เป็นการแสดงให้เห็นว่า คนมาเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง
เสียงฝีเท้าเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ สองสาวฝาแฝดอย่างกับทำวิญญาณหายไป
กลับเป็นจางขุยที่ใจเย็นลง
เขาคิดไว้แล้วว่าจะพูดยังไง แค่บุกเข้ามาโดยไม่ตั้งใจเท่านั้น ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอก
อย่างมากก็แค่เสียหน้า
แอ๊ด!
ขณะนั้น ประตูมังกรของซื่อเหอย่วนถูกผลักออก ถังเฉาพาสมาชิกครอบครัวเดินหัวเราะกันเข้ามา
แต่แล้ว พอเห็นจางขุยและสองสาวฝาแฝดที่ยืนอยู่ในสวน สายตาของทั้งหกคนสบเข้าด้วยกัน บรรยากาศเงียบลงในบัดดล
ถังเฉามองพวกเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ สายตาหลินชิงเสว่ก็ตื่นตระหนกอยู่นิดหน่อย
พวกจางขุยสามคนก็อึ้งไป
“ถังเฉา หลินชิงเสว่ พวกนายเองหรอ?!”
ตีเขาให้ตายเขาก็คิดไม่ถึงว่าคนที่เข้ามาในซื่อเหอย่วนจะเป็นพวกเขา
สองสาวฝาแฝดมองอึ้งๆอยู่นาน ก่อนจะหัวเราะร่วน “ฉันก็นึกว่าใคร ไม่ใช่คู่ปรับก็คงไม่เจอกันสินะ…..”
หลินชิงเสว่หน้าเย็นเยียบ เมินเฉยต่อเสียงหัวเราะเย็นๆของสองสาวฝาแฝด พูดขึ้นทั้งที่ใบหน้างดงามของเธอเย็นยะเยือก “ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่”
ในเมื่อเป็นพวกหลินชิงเสว่ จางขุยก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีก รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาฉายแววเย้ยหยัน
“ชิงเสว่ เธอถามแบบนี้ไม่ค่อยดีเลยนะ ทุกคนก็ลอบเข้ามาเยี่ยมชมซอยตงเฉินกันหมด อย่าสงสัยกันไปมาเลยดีกว่า”
“ลอบเข้ามา?!”
สีหน้าหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปอย่างมาก สายตาเย็นยะเยือกลง
เธอเข้าใจแล้ว จางขุยลอบเข้ามา และคิดว่าตัวเองลอบเข้ามาเหมือนๆกันพวกเขา
หลินชิงเสว่โมโหขึ้นมาทันควัน “พวกเธอกล้าดียังไง บังอาจลอบเข้ามาในบ้านฉัน รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
“เอิ่ม…..”
พอหลินชิงเสว่พูดแบบนี้ออกไป บรรยากาศที่นี่ก็พิศวงขึ้น
จางขุยและสองสาวฝาแฝดอึ้งกันหมด มองเธอด้วยสายตาเลื่อนลอย
สามวินาทีต่อมา พวกเขาหัวเราะลั่น
“เธอว่าอะไรนะ? ซอยตงเฉินคือบ้านเธอหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันขำจะตายอยู่แล้ว…….”
“เคยเจอคนหน้าด้าน แต่ไม่เคยเจอคนที่หน้าด้านขนาดนี้มาก่อน ทำไมเธอไม่บอกว่าทั้งกำแพงแดงเป็นของเธอไปเลยล่ะ”
สองสาวฝาแฝดหน้าตาเหยียดหยัน พวกเธอเดินยิ้มเย็นไปอยู่ตรงหน้าหลินชิงเสว่ สายตาเคียดแค้น
เห็นได้ชัดว่า พวกเธอยังผูกใจเจ็บกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่วังคริสตัลเมื่อคืน
ตอนนั้น ถังเฉาจะเอาใจลูกสาวให้ลูกดีใจ จึงนำบัตรเชิญจากวังคริสตัลมากมายไปพับเป็นเครื่องบินกระดาษ และโยนเข้าไปในน้ำพุดนตรีทั้งหมด
สุดท้ายพวกเขาสามคนต้องพุ่งเข้าไปเก็บบัตรเชิญพวกนี้ในน้ำอย่างกับคนเก็บขยะ
คิดไม่ถึงว่าก็ยังไม่ให้เข้าอยู่ดี แถมยังโดนอัดเละเทะ ตอนนี้หน้ายังบวมอยู่เลย
ตอนนี้ได้มาเจอกันอีกครั้ง ต้องสั่งสอนหลินชิงเสว่ให้หนัก
จางขุยเองก็เดินยิ้มมาอยู่ตรงหน้าหลินชิงเสว่ เขาส่ายหัว “ชิงเสว่เอ๋ย ฉันรู้ว่าเธอถูกตระกูลหลินไล่ออกมา ในใจคงรู้สึกแย่ แต่เธอจะพูดว่าซอยตงเฉินเป็นของเธอแบบนี้ไม่ได้นะ ต้องโดนจับเข้าคุกรู้มั้ย”
“เมื่อวานพวกเธอก็อยู่ในวังคริสตัลไม่ใช่หรอ น่าจะรู้นี่ว่าสุดท้ายซอยตงเฉินนี้ขายให้ใคร ทำไมถึงยังพูดแบบนี้ล่ะ—-อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว”
จางขุยพูดไป พร้อมคลี่ยิ้ม “พวกเธอแพ้การประมูลซอยตงเฉิน ก็เลยรู้สึกไม่ดี อยากพูดให้รู้สึกดีขึ้นมาใช่มั้ยล่ะ?”
ถังเฉาได้ฟังที่จางขุยวิเคราะห์แล้วส่ายหัวพร้อมหัวเราะ
ดูท่าสมาคมการค้าเก้าราชาไม่ได้เปิดเผยฐานะของพวกเขา และไม่อนุญาตให้คนในวังคริสตัลประกาศ คนทั่วๆไปรู้เพียงว่าซอยตงเฉินถูกเศรษฐีลึกลับคนหนึ่งซื้อไป
หลินชิงเสว่โมโหจนแทบกระอักเลือด เธอหน้าดำคร่ำเครียด “ฉันจะพูดอีกรอบ พวกเราเป็นคนซื้อซอยตงเฉิน ตอนนี้ที่นี่อยู่ภายใต้ชื่อของเรา พฤติกรรมของพวกเธอถือว่าบุกรุกบ้านพัก ฉันฟ้องพวกเธอได้”
หลินชิงเสว่แค่อยากทำให้พวกเขากลัวเท่านั้น ไม่ได้อยากแจ้งความจริงๆ คิดไม่ถึงว่าพวกจางขุยหัวเราะหนักกว่าเดิมอีก
“ที่นี่ไม่มีคนอื่น เธอเลิกเสแสร้งเถอะ ฉันยังอายแทนเธอเลย”
“จางขุย นาย—–”
หน้าหลินชิงเสว่ย่ำแย่อย่างบรรยายไม่ถูก เธอพูดความจริงไปแล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อเธอเลย
สองสาวฝาแฝดเบ้ปาก หน้าตาดูแคลน “คุณชายจางคะ พวกเราอย่าไปสนใจเขาเลยค่ะ ไปเยี่ยมชมด้านในกันต่อเถอะ”
“ได้”
จางขุยก็ชักจะทนไม่ไหวแล้ว ก่อนหน้านี้เขานิ่มไปเพราะตกใจเสียงฝีเท้า ตอนนี้เขาแทบรอจะพิสูจน์ความองอาจของตัวเองไม่ไหวแล้ว
หลินชิงเสว่กลับขวางพวกเขาไว้ พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “พวกนายเข้าไปไม่ได้ ไสหัวออกจากซอยตงเฉินไปซะตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ทันที!”
สองสาวฝาแฝดโมโหทันที จางขุยขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม พร้อมหัวเราะเย็นๆ “เธอจะเสแสร้งไปถึงไหน เลิกทำท่าทำทางเป็นนายหญิงได้แล้วโว้ย ถ้าเธอเป็นเจ้าของซอยตงเฉินจริงๆ ก็เรียกนิติที่ดูแลที่นี่เข้ามา ให้เขามาพูดกับฉัน”
พูดจบ จางขุยก็พาสองสาวฝาแฝดเดินเข้ามาอย่างไร้ความละอาย
เห็นดังนั้น นัยน์ตาหลินชิงเสว่เย็นเยียบลง เธอหันกลับไปมองถังเฉา
ถังเฉาถอนหายใจ ในโลกนี้มีคนที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคนอื่นไว้หน้าแบบนี้แหละ
ชิงเสว่ให้โอกาสพวกเขาได้ไปแล้ว แต่พวกเขารั้นว่าไม่ไป
ถังเฉาหมดหนทาง ได้แต่เรียกนิติมา
ในไม่ช้า รถอีกคันก็มาจอดอยู่หน้าประตูซอยตงเฉิน ชายหัวเรียบในชุดสูทหนึ่งคนเดินเข้ามา
จินหวู่ที่เคยมีโอกาสพบกันครั้งหนึ่งนี่เอง!
บอกว่าเป็นนิติ แต่แท้จริงแล้วเป็นผู้จัดการของสมาคมการค้าเก้าราชานั่นแหละ
จินหวู่ก้าวฉับไวไปอยู่ตรงหน้าถังเฉาและหลินชิงเสว่ หน้าตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “คุณถังครับ คุณหลินครับ พวกคุณเรียกผมมามีอะไรหรอครับ”
“โอ๊ย พอผมรู้ว่าพวกคุณมีธุระต้องพบกับผม ผมก็รีบรุดหน้ามาที่นี่เลยครับ นี่ผมฝ่าไฟแดงไปบ้างระห่างทางด้วย—- เพราะผมกลัวว่าคุณถังจะรอนานเกินไป นั่นจะเป็นความผิดของผม…..”
จินหวู่ยิ้มหน้าบานเหมือนดอกไม้ กระตือรือร้นสุดๆ แทบจะคุกเข่าให้ถังเฉาอยู่แล้ว
ด้วยระดับของจินหวู่ เขายังไม่ทราบฐานะของถังเฉา แต่เขารู้ดีว่า แม้กระทั่งคนระดับกึ่งสูงอย่งหม่าเหวินซวนและท่านชิว เมื่ออยู่ต่อหน้าถังเฉายังต้องทำตัวนอบน้อมประหนึ่งเป็นลูกน้อง เขาต้องเป็นคนที่ตัวเองไม่สามารถแหยมได้อย่างแน่นอน
ปรนนิบัติเขาให้ดี ไม่ใช่เรื่องแย่หรอก
ถังเฉาโบกมือ “เอาเถอะ คุณทำงานยังไงกัน เราเข้าอยู่ในวันนี้ แต่คิดไม่ถึงว่ากลับมีคนลอบเข้าไป”
“อะไรนะครับ! มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรอ?”
จินหวู่ได้ยินแล้ว ตกใจแทบบ้า
ถ้าเรื่องนี้ไปเข้าหูเบื้องบน นั่นก็หมายความว่าเขาทำงานไม่ได้เรื่อง!
เขารีบอธิบาย “คุณถังครับ คือย่างนี้ ก่อนจะเปิดขายซอยตงเฉิน สถานที่แห่งนี้เป็นของสมาคมการค้าเก้าราชาของเรา คนทั่วไปรู้เรื่องนี้หมด และไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาโดยพลการ….. คุณถังสบายใจได้ครับ ผมไม่เอาผู้บุกรุกไว้แน่! ”
พูดมาถึงตอนหลัง หน้าตาจินหวู่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาพุ่งเข้าไปในซื่อเหอย่วนอย่างฉุนเฉียว
“คุณชายจางคะ ดูสิคะ ที่นี่ตกแต่งไว้หรูหรามากเลย อย่างกับพระราชวังโบราณ”
“นี่อีก นี่อีก แช่ตัวอาบน้ำได้ด้วยค่ะ! โครงสร้างทั้งหมดย้อนยุคมากเลยนะคะ รู้สึกถึงกลิ่นอายของยุคสมัยเลย!”
จางขุยกำลังเยี่ยมชมอยู่เช่นกัน ดูพลางชี้นู่นชี้นี่ไปพลาง
“อื้ม ซื่อเหอย่วนของซอยตงเฉินนี่ระดับสูงจริงๆ ต่อให้เทียบกับบรรดาทุกซื่อเหอย่วนที่ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูมี ก็อยู่ในระดับบนสุด”
บูม!
ขณะที่จางขุยกำลังเก๊กเท่อยู่ จู่ๆก็มีคนตบหัวเขาอย่างแรง
ออกแรงเยอะขนาดที่เขาเจ็บจนตรงสบทออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“โอ๊ย! ไอ้สารเลวที่ไหนที่ไม่มีตาถึงกล้ามาตบฉัน?”
จางขุยหันไปด้วยความโมโห แต่กลับเห็นจินหวู่ที่โมโหยิ่งกว่า
คนหลังโกรธจนดวงตาเบิกกว้าง จ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
รอยยิ้มบนใบหน้าจางขุยสลายหายไปทันที ถูกแทนที่ด้วยความตะลึงและความผวาอย่างสุดซึ้ง
“คุณคุณคุณ…..คุณจิน คุณมาได้ยังไงครับ”
“ยังมีหน้ามาถามฉันว่ามาได้ยังไง ไอ้ชั่วเอ๊ย ฉันจะเล่นงานแกให้ตายเลย”
จินหวู่หน้าตาโกรธเกรี้ยว ตบเขาร่วงลงไปกับพื้น และใช้เท้ากระทืบไม่หยุด อย่างกับกำลังเหยียบมดอยู่
สองสาวฝาแฝดตกใจจนร้องไม่หยุด “กรี๊ด อย่าตีเลย อย่าตีเขาอีกเลย!”
จินหวู่กระทืบอยู่นานกว่าจะหายโมโห แต่ในปากยังก่นด่าไปเรื่อยๆ
“ฉันว่าตระกูลจางของแกจะใจกล้าเกินไปแล้วนะ แม้แต่ซื่อเหอย่วนที่แขกผู้มีเกียรติของสมาคมการค้าเก้าราชาของเรายังกล้าบุกเข้ามาโดยพลการ ไม่อยากอยู่แล้วใช่มั้ย”
จางขุยตัวสั่น รู้ว่าเรื่องที่พวกเขาเข้ามาในซอยตงเฉินโดยพลการเข้าหูสมาคมการค้าเก้าราชาแล้วแน่ๆ จึงรีบเอ่ยขึ้น
“คุณจินครับ พวกเราแค่ใฝ่ฝันถึงสิ่งปลูกสร้างในซอยตงเฉิน เลยอยากเข้ามาเยี่ยมชม พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ ไปเดี๋ยวนี้แหละง…..”
พูดจบ ก็พาสองสาวฝาแฝดหนีบหางคิดจะเผ่นออกไป
ป้าบ!
จินหวู่กลับจับไหล่เขาไว้ และเอ่ยเสียงเย็น “บุกเข้ามาในซอยตงเฉิน แล้วยังอยากออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอ”
“…….”