เก้าตระกูลใหญ่ตั้งตระหง่านอย่างมั่นคงอยู่ในเยี่ยนจิง ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเอื้ออำนวย ได้รับความเคารพความศรัทธามาโดยตลอด
ก็มีตัวอย่างที่มีคนมาสู้ถึงบ้านเช่นกัน
เก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตู โดยพื้นฐานแล้วทุก ๆ ตระกูลก็ล้วนแต่มีประสบการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้
มีก้าวหน้าขึ้น มีอ่อนกำลังลง นี่ถึงจะเป็นตระกูล
แต่ว่าดูจากตัวอย่างกรณีที่ถูกมาต่อสู้ถึงบ้านที่นี่แล้ว ไม่มีใครที่โดนท้าถึงที่อย่างตระกูลเจียง
ถูกบังคับให้เชิญคนเฒ่าคนแก่ในตระกูลมา ลำพังแค่ถือตามเรื่องนี้ตระกูลเจียงก็พ่ายแพ้แล้ว
เวลาผ่านไปแต่ละนาที ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่ก็นั่งอยู่ในซื่อเหอย่วนมาครึ่งชั่วโมงแล้ว
บุหรี่ซองหนึ่งหายไปกว่าครึ่ง
เจียงหลงเจ๋อเป็นผู้นำของคนในตระกูลเจียงหลายสิบคน แต่ก็ไม่ได้กลับไปรายงาน แต่กลับมองถังเฉาและเจียงไป๋เสว่อย่างระมัดระวัง ดูเหมือนพวกเขากลัวจะเกิดมหันตภัยร้ายแรงขึ้นอย่างไรอย่างนั้น
ถังเฉาวางเท้าลง ดับบุหรี่ มองดูเวลาบนข้อมือ เอ่ยเตือนว่า “สองทุ่มแล้ว พวกคุณยังมีเวลาอีกสี่ชั่วโมง”
บนโลกนี้มีคนมากมายที่ไม่รู้จักเห็นค่าของเวลา
บางครั้งเวลาก็คือชีวิต
ถังเฉาไม่ได้รีบร้อน คนที่รีบร้อนควรจะเป็นพวกเขา
เจียงหลงเจ๋อตึงเครียดไปทั้งตัว จากนั้นก็มองถังเฉาด้วยใบหน้ามืดครึ้ม “ถ้าหากตระกูลเจียงของพวกเรายังมารวมตัวกันไม่ครบก่อนเที่ยงคืน แกจะทำอย่างไร?”
“มากันไม่ครบ?”
ได้ยินอย่างนั้นถังเฉาก็หัวเราะออกมา
เขาหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลกที่น่าสนใจอย่างไรอย่างนั้น
ไม่รู้ว่าพวกคุณเคยได้ยินสำนวนนี้ไหม สำนวนที่ว่า ‘หนี้เลือดต้องชดใช้ด้วยเลือด’ น่ะ?”
ถังเฉามองทุก ๆ คน หัวเราะหึหึพลางพูดขึ้น
“…”
ไม่มีใครขานรับสักคน
มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉา ในใจของแทบทุกคนก็หนาวยะเยือกขึ้นมาทันที หัวใจเต้นรัว
โดยไม่ต้องสงสัยเลยสักนิด ถ้าหากก่อนเที่ยงคืนทั้งตระกูลเจียงจะยังไปไม่ถึงหน้าหลุมฝังศพของเจียงไป๋เสว่ละก็ เช่นนั้นผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคนในตอนนั้นก็เตรียมหลั่งเลือดชดใช้เลือดได้เลย
คุกคาม!
คุกคามอย่างห้าวหาญ!
“โกรธมากใช่ไหมล่ะ?”
บนใบหน้าของถังเฉามีรอยยิ้มเจิดจ้า สายตามองไปรอบ ๆ บ้าน มองทุก ๆ คนพลางเอ่ยว่า “ยี่สิบปีก่อน ตอนที่พวกคุณบีบบังคับให้แม่ของเธอต้องตาย เธอเองก็มีอารมณ์เช่นนี้… ไม่สิ โกรธยิ่งกว่าทุกคน แทบอยากจะทำลายโลกทั้งใบนี้”
“พวกคุณได้ชื่อว่าช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ แต่กลับวางแผนฆ่าคนอย่างไม่แยแส นี่ก็คือเนื้อแท้ของพวกคุณตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวง”
รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉาหายไปทีละนิด ๆ สายตาคมปลาบราวกับกระบี่หนึ่งเล่มที่แทงเข้าไปยังหัวใจของทุกคน “ไม่ว่าจะเป็นใคร เมื่อฆ่าคนแล้ว ถ้าไม่ได้รับการลงโทษทางกฎหมายก็ต้องใช้เลือดชดใช้เลือด ไม่มีทางเลือกอื่น มีเพียงทำแบบนี้เท่านั้นจึงจะปลอบใจผู้ตายอย่างถึงที่สุดได้”
วันนี้เป้าหมายของถังเฉาที่มาตระกูลเจียงเป็นเพื่อนเจียงไป๋เสว่นั้นชัดเจนมาก มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือเป็นหน้าเป็นตาให้กับเจียงไป๋เสว่
ตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวงรังแกเธอที่ตัวคนเดียว เช่นนั้นเขาก็จะยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ บอกคนทั้งโลกอย่างไม่มีเงื่อนไขว่าเธอไม่ใช่คนที่จะรังแกกันได้ง่าย ๆ ขนาดนั้น
“พวกคุณอยากจะลองไหมล่ะ?”
มือทั้งคู่ของถังเฉาประคองถ้วยชา ยิ้มอย่างนุ่มนวล
ถึงแม้ว่าเขาจะกำลังยิ้มอยู่ แต่ก็ไม่มีใครคลายความระมัดระวัง กลับมีสีหน้าที่หวาดกลัวยิ่งขึ้น
เพราะว่ารอยยิ้มของถังเฉาให้ความรู้สึกเป็นภาพมายาต่อผู้อื่น เขาสามารถจะเอามีดมาแทงท้องของคุณอย่างกะทันหันได้
เจียงหลงเจ๋อสูดลมหายใจเข้าอย่างกะทันหัน มองไปยังเจียงเทียนโหย่ว เอ่ยเสียงต่ำว่า “เทียนโหย่ว ไปเชิญอดีตผู้นำมา!”
“คุณพ่อ!”
เจียงเทียนโหย่วร้อนรนแล้ว มองบิดาของตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ
อดีตผู้นำก็คือพ่อของเจียงหลงเจ๋อ ปู่ของเขา
ในบ้านมีคนแก่หนึ่งคน เปรียบได้กับการมีสมบัติล้ำค่าหนึ่งชิ้น เก้าตระกูลใหญ่นอกจากตระกูลหลินแล้ว ก็ล้วนแต่มีคนเฒ่าคนแก่หนึ่งคนเฝ้ารักษาตระกูลอยู่
มีความเก่งกาจในด้านการจัดการและวางแผนงาน วางแผนในตระกูล มองนิสัยคนทะลุปรุโปร่ง อีกทั้งยังมีความสามารถมากมายมหาศาล
อย่างเช่นท่านเจ้ามังกรของตระกูลหลง มีผู้เฒ่าเช่นนั้นผู้หนึ่ง เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เก้าตระกูลใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ได้
แต่ว่าปู่ของเขาออกจากตำแหน่งมาหลายปีแล้ว ตำแหน่งผู้นำตระกูลมอบให้ผู้อ่อนอาวุโสในตระกูลแย่งชิงกันอย่างง่าย ๆ คนที่มีกำลังก็จะได้ไป
ภายใต้สถานการณ์ปกติ มีคนน้อยมากที่จะไปรบกวนอดีตผู้นำ
แค่สองคนจิ๊บจ๊อยแค่นี้ นึกไม่ถึงว่าจะต้องรบกวนไปถึงอดีตผู้นำ?
“ไป!”
เจียงหลงเจ๋อตวาดเสียงดัง ตัดบทของเจียงเทียนโหย่ว
ตะโกนคำรามออกมาเช่นนี้ อย่าว่าแต่เจียงเทียนโหย่วที่ตะลึงไปเลย แม้แต่บรรดาผู้อ่อนอาวุโสของตระกูลเจียงทั้งหมดก็ล้วนแต่ตกตะลึงไปด้วย
จิตหลุดไปชั่วขณะ สายตาของเจียงเทียนโหย่วก็เปลี่ยนเป็นเข้มครึ้ม ค้อมเอว
“ครับ คุณพ่อ”
เจียงเทียนโหย่ววิ่งไปทางลึกเข้าไปในซื่อเหอย่วนอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าของถังเฉาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่ารุ่นใหญ่ของตระกูลเจียงจะอยู่อย่างสันโดษในซื่อเหอย่วน
ถ้าอย่างนั้นข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่พวกเขาสร้างความวุ่นวายไว้ใหญ่ขนาดนั้น นึกไม่ถึงว่าจะไม่ได้ไปสะเทือนถึงพวกเขา
เจียงหลงเจ๋อกัดฟันมองถังเฉา เอ่ยว่า “ถังเฉา พวกเรายินดีที่จะพาทุก ๆ คนไปเซ่นไหว้บูชาที่หน้าสุสานของเจียงเหยา เรื่องนี้ ให้มันจบเพียงเท่านี้เถอะ!”
คนรุ่นวัยกลางคนดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความหนักหนาของเรื่องนี้แล้ว พากันแสดงท่าทีจะพาลูกชายลูกสาวไปเซ่นไหว้บูชา
ถังเฉามีสีหน้าไร้ความรู้สึก “พวกคุณพูดกับผมไปก็ไม่มีประโยชน์ ไปพูดกับไป๋เสว่”
“เจียงไป๋เสว่!”
เจียงหลงเจ๋อก็มองไปยังเจียงไป๋เสว่อีก กัดฟันคำรามเสียงดัง
เจียงไป๋เสว่เงยหน้ามองดวงดาวบนท้องฟ้า สีหน้าเย็นชา “แค่พวกคุณยังไม่พอ ยังต้องรวมพวกคนแก่พวกนั้นด้วย”
“เธออย่ามาทำเกินไปนะ!”
สีหน้าของเจียงหลงเจ๋อมืดครึ้มอย่างถึงที่สุด
เป็นถึงตระกูลหลวง เขาอดทนครั้งแล้วครั้งเล่าก็แล้ว แต่ว่าเจียงไป๋เสว่กลับไม่ยอมลดราวาศอกเลย
“คุณปู่มาแล้ว!”
ลึกเข้าไปในซื่อเหอย่วน มีเสียงตะโกนดัง ๆ ของเจียงเทียนโหย่วดังขึ้นมา
ทันใดนั้น สีหน้าของคนทั้งตระกูลเจียงก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก รวมถึงเจียงหลงเจ๋อเองด้วย ความดุร้ายบนร่างกายหายไปอย่างหมดจดในทันที
สายตาของถังเฉาก็หรี่ลงอย่างล้ำลึก มองพิจารณาคนชราผมขาวที่ถูกประคองเดินออกมาจากในตรอกลึกเหมือนกับคนในตระกูลเจียง
พริบตาที่มองเห็นคนชรา เจียงไป๋เสว่ที่เดิมทียังสงบนิ่ง อารมณ์ก็เปลี่ยนแปลงเป็นฮึกเหิมขึ้นมา
รังสีสังหารที่เข้มข้นสั่นสะเทือนออกมา
“เป็นเขา ที่บีบบังคับให้แม่ฉันต้องตาย!”
เจียงไป๋เสว่กัดฟันพูด
“ใจเย็น ๆ”
ถังเฉากดเธอเอาไว้ สีหน้าเคร่งขรึม
เพียงแค่คนแก่คนหนึ่งเท่านั้น กลับทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ไม่ปกติ
เขาถูกเจียงเทียนโหย่วพยุงออกมา ค่อย ๆ เดินเข้ามาอยู่ในท่ามกลางสายตาของทุกคน
จะบอกว่าเป็นคนแก่ผมหงอก ผมของเขาแทบจะร่วงออกทั้งหมดแล้ว เหลือไว้เพียงเส้นผมขาว ๆ เป็นหย่อม ๆ
ริ้วรอยบนใบหน้าตัดสลับกันไปทั่ว บนใบหน้า หางตาของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยของวัยชรา รอยย่นบนผิวหนังเหมือนกับเปลือกส้มที่ผึ่งลมไว้จนแห้ง
เขาก็คือเจียงหนานซาน อดีตผู้นำของตระกูลเจียง
“สวัสดีท่านผู้นำ!”
ทุกคนที่อยู่ภายในรวมถึงเจียงหลงเจ๋อก็คุกเข่าข้างเดียวลงบนพื้น
สายตาของเจียงหนานซานกลับหยุดชะงักอยู่บนร่างของเจียงไป๋เสว่ราวกับมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น มองพิจารณาอยู่สองวินาที จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา
“ไป๋เสว่ เธอกลับมาแล้ว”
ถังเฉานึกว่าเจียงไป๋เสว่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วลงมือกับเจียงหนานซาน
แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือเจียงไป๋เสว่จะควบคุมได้อย่างคาดไม่ถึง ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนกดสายตามองเขาจากมุมบน
“ใช่ ฉันกลับมาแล้ว”
เจียงหนานซานพยักหน้าน้อย ๆ “กลับมาแล้วก็ดี ๆ”
จากนั้นด้านหลังของเขาก็มีคนชราที่อายุไล่เลี่ยกันตามมาไม่น้อย อายุน้อยกว่าเขาไม่กี่ปี
พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้อาวุโสของตระกูลเจียง พอมองเห็นเจียงไป๋เสว่ สีหน้าก็มืดครึ้มมาก
“เมื่อครู่ก็คือเธอใช่ไหมที่ก่อความวุ่นวายยกใหญ่ในตระกูลเจียง?”
หญิงสูงอายุคนหนึ่งเอ่ยตะคอกด้วยความโมโห ใบหน้ามืดครึ้ม
เจียงไป๋เสว่กำลังจะตอบรับ เจียงหนานซานกลับโบกไม้โบกมือเป็นนัยไม่ให้เธอพูด
จากนั้นเขาก็มองไปยังเจียงไป๋เสว่ หัวเราะหึหึพลางเอ่ยถามว่า “ฉันแค่จะถามเธอว่า เธอมาด้วยความเจ็บแค้น จะระงับความโกรธได้อย่างไร?”
“ทำลาย?”
“หรือจะให้เชื่อฟัง?”
“เป็นยิ้มให้กันแล้วหายแค้น?”
“หรือจะตัดรากถอนโคน?
“…”