ใจกลางเมือง เมืองซื่อจิ่วที่ขายตึกอาคารที่ชื่อจิ่นซิ่ง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช่วงเวลาแห่งการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ หลายบริษัทได้เข้ายึดครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ขายอาการจิ่นซิ่วเป็นของบริษัทจิ่นซิ่วปัจจุบันได้มีการเปิดพื้นที่ที่อยู่อาศัยที่
เรียกว่า “สวรรค์จิ่นซิ่ว”
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาบ้านในเมืองซื่อจิ่ว โดยทั่วไปมีแต่การเพิ่มสูงขึ้น แม้มีการเปิดตัวอาคารใหม่ ราคาก็ไม่เคยลดลงต่ำกว่าหนึ่งแสนต่อหนึ่งตารางเมตร ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ทองเลยทีเดียว
วันนี้ มีแขกพิเศษมาที่ขายอาการจิ่นซิ่ว
ชายชราในวัยหกสิบแต่งกายด้วยผ้าหยาบ
ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในสถานที่อันงดงามแห่งนี้ เขาประหม่ามากจนเหงื่อออกที่ฝ่ามือ และไปจาก
ที่นี่ราวกับว่าหนีไป
ถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ทำได้เพียงตามเขากลับมา”ลุง คุณไปทำไม เราไม่ได้จะซื้อวิลล่าให้คุณ เป็นแค่บ้านเท่านั้น”
“ใช่ ไม่แพงหรอก”
เจียงไป๋เสว่ก็เกลี้ยกล่อม
พวกเขาเคยสัญญามาก่อนว่าจะดูแลเยี่ยนกั๋วลี่ในฐานะพ่อของพวกเขา คำนึงถึงว่าเขายังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านในเขตเมือง สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการซื้อบ้านให้เขา
แม้ว่าราคาบ้านในเมืองซื่อจิ่วจะมีราคาแพง แต่สำหรับถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ เหมือนขี้หมูขี้หมา
แต่เยี่ยนกั๋วลี่ไม่ได้คิดอย่างนั้น เขาโบกมือราวกับว่าเขาหวาดกลัว “ไม่ได้ ไม่ได้ มันแพงเกินไป ผมกับแม่ที่เสียไปของเขา ใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ซื้อแค่บ้านที่มีขนาดห้าสิบตารางเมตรเท่านั้น บ้านที่แพงขนาดนี้ ผมจะรับไว้ได้ยังไง?”
“เจ้าหนู อย่าบังคับผมอีกเลย ผมจะมีหน้ารับไว้ได้อย่างไร?”
เยี่ยนกั๋วลี่ขอร้องอ้อนวอน เกือบจะร้องไห้ออกมา
พนักงานขายบ้านของสวรรค์จิ่นซิ่วยืนอยู่ที่ประตู และลูกตาจ้องมองจนจะกระเด็นออกมา
พวกเขาวุ่นวายกันที่นี่เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
พวกเธอได้ยินเนื้อหาการสนทนาชัดเจนแล้ว ประมาณว่า หนุ่มสาวสองคนนี้อยากซื้อบ้านให้ชายชรา แต่ชายชราไม่ยอมรับไว้
และพวกเธอฟังออก!
สองคนนี้ ไม่ใช่ลูกของชายชรา ไม่ใช่ญาติ!
ก็ให้บ้านหนึ่งหลัง?
พนักงานขายผงะ เต็มไปด้วยความอิจฉา
ต้องรู้ว่า นี่คือบ้านในเมืองซื่อจิ่วไม่ใช่ในเมืองอื่นๆ การมีบ้านหนึ่งหลังนั้น เทียบเท่ากับว่าได้ประสบความสำเร็จใจชีวิตนี้แล้ว!
ชายชราคนนี้ยังไม่ยอมรับไว้อีก!
ให้พวกเธอจะดีแค่ไหน…
พนักงานขายทำได้เพียงมองดูและรอให้พวกเขาพูดคุยกันให้เสร็จ
“ได้ ไม่ซื้อใหญ่ขนาดนั้น ขนาด 100 ตารางเมตร มันเล็กพอไหม?”
ถังเฉากล่าวอย่างอดทน
“หา? ใหญ่ขนาดนี้เลย?”
“งั้น80ตารางเมตร…”
เจียงไป๋เสว่กล่าวอย่างช่วยไม่ได้
“เอิ่ม”
พนักงานขายที่หน้าตาดีและหุ่นดี เดินเข้ามาอย่างอายๆและพูดว่า “บ้านที่เล็กที่สุดในสวรรค์จิ่นซิ่วของเราคือ92ตารางเมตร ไม่มีห้องที่เล็กกว่านี้อีกแล้ว”
ถังเฉาพูดได้เพียงว่า “ดูสิ 92ตารางเมตร เล็กที่สุดแล้ว”
เยี่ยนกั๋วลี่โบกมือซ้ำแล้วซ้ำอีก”ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว … ”
ภายใต้การหมดหนทาง ถังเฉาได้จ่ายเงินเต็มจำนวนโดยตรง จากนั้นจึงทำสัญญาซื้อบ้านภายใต้สัญญาธรรมดาและมอบให้แก่เยี่ยนกั๋วลี่
“คุณลุง ถ้าท่านเซ็นสัญญา เราก็ไม่เอาบ้านหลังนี้แล้ว”
พนักงานขายรีบส่งมอบสัญญาไป และหลังจากเยี่ยนกั๋วลี่ยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขายังคงลงนามด้วยท่าทีที่เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง
“สำเร็จ”
ถังเฉายิ้มและแสดงสัญญาซื้อบ้านให้เยี่ยนกั๋วลี่ดู”ลุง รอสัปดาห์หน้า ก็ย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่เถอะ”
พนักงานขายยังแนะนำอย่างกระตือรือร้นว่า “ใช่ สำหรับผู้สูงอายุเช่นคุณที่อยู่คนเดียว เราให้ความสำคัญแก่พวกคุณมาก และจะมีคนไปทำความสะอาดบ้านของคุณเป็นระยะ”
เยี่ยนกั๋วลี่ตกตะลึงและในไม่ช้าก็เข้าใจถึงความคิดของถังเฉา ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้”พวกคุณ เห้อ … ”
ด้วยวิธีนี้ เยี่ยนกั๋วลี่กลับบ้านพร้อมสัญญาซื้อบ้าน
แต่พบว่ามีร่างอยู่ที่ประตูบ้าน
เขากำลังรออยู่หน้าประตู ราวกับว่ารอตัวเองกลับบ้าน
“มาจริงด้วย”
ถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ยืนอยู่ในระยะสองถึงสามร้อยเมตร หรี่ตาลงและพูด
เยี่ยนกั๋วลี่มองไปที่ร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าบ้านด้วยความสงสัยและเดินไป “คุณกำลังมองหาใคร?”
ชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมสีดำ ปิดหน้าไว้ และมองไม่เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
แต่เมื่อได้ยินเสียงของเยี่ยนกั๋วลี่ ร่างกายของเขายังคงสั่นที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า
หลังจากถอดผ้าคลุมศีรษะออก ยิ้มให้กับเยี่ยนกั๋วลี่”พ่อ”
“…”
หลังจากที่เยี่ยนซื่อเฉิงพูดคำอ่อนโยนนี้ออกมา บรรยากาศทั้งหมดก็เงียบสงบ
สมองของเยี่ยนกั๋วลี่ว่างเปล่า และเขามองไปที่ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาด้วยใบหน้าที่น่าทึ่ง
“คุณ…คุณคือ…”
ริมฝีปากของเขาคร่ำครวญ แต่เขาไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำ แววตาของเขาที่ตื่นตระหนก รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
รอยยิ้มบนใบหน้าของเยี่ยนซื่อเฉิงเพิ่มมากขึ้น ยิ้มกว้างและพูดว่า “พ่อ ผมกลับมาแล้ว”
“ซื่อเฉิง-ซื่อเฉิง-คุณคือซื่อเฉิงหรือไม่?”
เยี่ยนกั๋วลี่จ้องที่เยี่ยนซื่อเฉิงอย่างดุเดือด จากนั้นก็เดินโซเซไปข้างหน้า จับมือของเยี่ยนซื่อเฉิงไว้และถามอย่างตื่นเต้น
เยี่ยนซื่อเฉิงยิ้ม “พ่อ ผมเอง ผมกลับมาแล้ว”
เยี่ยนกั๋วลี่ตกใจ ยกมือขึ้นอย่างสั่น และแตะแก้มของเยี่ยนซื่อเฉิงเบาๆ
มือที่หยาบกร้าน แต่เยี่ยนซื่อเฉิงไม่ได้หลบ ปล่อยให้พ่อสัมผัสเขา
เขายังมองดูใบหน้าของพ่ออย่างละเอียด—-ผมข้างหุเริ่มขาว ริ้วรอยก็เพิ่มมากขึ้น และผิวหนังก็หย่อนลง
“พ่อ—-”
เยี่ยนซื่อเฉิงตะโกน น้ำเสียงของเขาสั่นสะท้านมากกว่าเดิม
พ่อและลูกชายกอดกันเป็นเวลานาน ถังเฉาและเจียงไป๋เสว่เฝ้าดูอยู่ห่างออกไปสองสามร้อยเมตร และดวงตาของพวกเขาก็ซับซ้อน
“เขาไปหาพ่อของเขาจริงด้วย”
เจียงไป๋เสว่กล่าวด้วยความรู้สึกพูดไม่ถูก
“เพราะว่า ลูกไปที่อื่นพ่อแม่เป็นกังวล ในทำนองเดียวกัน ลูกก็คิดถึงพ่อที่ให้กำเนิดและเลี้ยงตัวเอง”
ถังเฉามองมันด้วยดวงตาที่ลึกล้ำและกล่าว
ไม่รู้ทำไม เขานึกถึงพ่อแม่ตนเอง พวกเขาถูกบังคับให้ละทิ้งตัวเขา พวกเขาจะคิดถึงตัวเองตลอดเวลาหรือไม่?
เจียงไป๋เสว่ไม่รู้อารมณ์ที่วุ่นวายในขณะนี้ของถังเฉา แต่แค่พูดว่า “ตอนนี้ดูเขาอีกที ทั้งๆที่เขาเป็นคนที่ฆ่าคนมานับไม่ถ้วน เป็นนักโทษที่ถูกตามล่าจับตัว แต่ทำไมถึงเกลียดเขาไม่ลงเลย”
“ผมด้วย”
ถังเฉากล่าวเสริม “เพราะเขามีพ่อที่ดี”
“ซื่อเฉิง ซื่อเฉิง —- คุณตายในสนามรบแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมคุณถึงยังมีชีวิตอยู่?”
หลังจากทักทายเสร็จ เยี่ยนกั๋วลี่ก็มองไปที่เยี่ยนซื่อเฉิงอย่างตื่นเต้นและถาม
ระหว่างการสนทนา ทั้งสองได้เข้าไปในบ้านแล้ว แม้ว่าบ้านจะไม่ค่อยดี แต่เยี่ยนซื่อเฉิงไม่รู้สึกรังเกียจเลย
เขาส่ายหัว “พ่อครับ ความจริงแล้วผมไม่ได้ตายในสนามรบ”
“เงินบำนาญที่ส่งมาถึงบ้านเรา—”
เยี่ยนกั๋วลี่อยากจะพูดแต่ก็หยุด
เยี่ยนซื่อเฉิงยิ้ม “นั่นเพราะผมขอให้คนในองค์กรทำแบบนี้ เพราะหลายปีมานี้ ผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หนึ่ง ต้องแสร้งทำเป็นตาย ดังนั้น ข่าวนี้จึงถูกเผยแพร่ออกมา”
ถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ยืนฟังอยู่ข้างนอก หัวเราะอย่างเย็นชา
แต่งเรื่องได้สมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม เยี่ยนกั๋วลี่เชื่อมัน
“ยังไงก็เถอะ คุณยังไม่ตาย นี่เป็นข่าวดีที่ดีที่สุด วิญญาณของแม่ของคุณที่อยู่บนสวรรค์ ตอนนี้เธอคงจะตื่นเต้นจนร้องไห้แล้วมั้ง?”
เยี่ยนกั๋วลี่เช็ดน้ำตาจากดวงตาของเขาและกล่าว
เยี่ยนซื่อเฉิงยิ้มขณะกำลังจะพูด ทันใดนั้น สายตาของเขาก็ก้มลงมองเอกสารและกุญแจในมือของเยี่ยนกั๋วลี่
จู่ๆเขาก็หรี่ตาลง “นี่อะไร?”
เยี่ยนกั๋วลี่มองดูหนังสือที่อยู่อาศัยและกุญแจในมือของเขา และทันใดนั้นก็ยิ้ม “อันนี้ เด็กดีสองคนนั้นได้ซื้อให้ผม”
“…”
หลังจากที่เยี่ยนกั๋วลี่พูดจบ รอยยิ้มของเยี่ยนซื่อเฉิงก็หายไป การแสดงออกของเขาแข็งทื่อ
“ใช่เหรอ?”
เยี่ยนซื่อเฉิงยิ้มและพยักหน้า
“มันเป็นแค่บ้าน เราไม่เอาสิ่งที่ผู้อื่นมอบให้”
เยี่ยนซื่อเฉิงหยิบเอกสารที่อยู่อาศัยและต้องการฉีกออกเป็นชิ้นๆ
เยี่ยนกั๋วลี่รีบคว้ามา”มันไม่ดีที่จะเอาบ้านที่คนอื่นให้แบบนี้ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความใจดีของเด็กทั้งสองคนนั้นได้”
หลังจากหยุดชั่วครู่ เยี่ยนกั๋วลี่ก็ตบไหล่เยี่ยนซื่อเฉิง พูดอย่างมีความสุขว่า “พวกเขาเป็นสหายร่วมรบของคุณ คงจะมีความสุขมากถ้ารู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ หากมีโอกาส คุณต้องไปพบพวกเขาดู”
“เหรอ?”
เยี่ยนซื่อเฉิงยิ้มโดยไม่มีอุณหภูมิ “ช่วงนี้มันจะกลับมาเร็วๆนี้”
“ตอนนี้ผมทำงานที่กองทัพปราณมังกร พ่อรู้จักกองทัพปราณมังกรไหม? ไม่รู้ใช่ไหม?ผมจะบอกพ่อนะ กองทัพปราณมังกร นั่นคือกองกำลังพิเศษที่ลึกลับที่สุดในต้าเซี่ย เทพารักษ์ของต้าเซี่ย —-”
เยี่ยนซื่อเฉิงเผยรอยยิ้มก่อนหน้านี้ของเขาอีกครั้ง พูดกับเยี่ยนกั๋วลี่ด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินว่าลูกชายของเขากำลังทำงานอยู่ในกองทัพที่มีอำนาจเช่นนี้ เขาดีใจและยิ้มจนปากแทบฉีก
“ไปกันเถอะ”
ถังเฉากล่าวกับเจียงไป๋เสว่
เจียงไป๋เสว่ตกตะลึงครู่หนึ่ง “คุณไม่ฟังต่อเหรอ?”
“สิ่งที่ควรฟัง ก็ฟังจบแล้ว”
ถังเฉากล่าวอย่างเคร่งขรึม”เวลาที่เหลือ เป็นเวลาที่พ่อและลูกชายจะได้อยู่ด้วยกัน พวกเขาคงจะมีอะไรมากมายที่จะพูดคุยกัน”
เจียงไป๋เสว่ไม่พูดอะไรอีก พยักหน้า และออกจากหมู่บ้านในเขตเมือง
พวกเขาเฝ้าตอรอกระต่าย ก็เพื่อมาดูท่าทีของเยี่ยนซื่อเฉิง
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ความหมกมุ่นของเขานั้นดูลึกมาก
“สองสามวันนี้ คุณก็พักอยู่ในกองทัพปราณมังกรอย่างสบายใจเถอะ”
บนถนน เจียงไป๋เสว่ขับรถและพูดกับถังเฉาที่นั่งอยู่ข้างๆ
ถังเฉาพยักหน้า “โอเค”
หลังจากคิดเกี่ยวกับมัน เขาก็ได้ส่งข้อความถึงหลินชิงเสว่
“ผมกลับมาที่เมืองซื่อจิ่วแล้ว”
ดิ้งดอง!
ข้อความถูกตอบกลับในไม่ช้า
“ทำไมไม่กลับบ้าน?”
ถังเฉาประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็ตอบกลับไป
“เสร็จธุระแล้ว ผมจะกลับบ้าน”
หลังจากนั้นก็ไม่มีข้อความตอบกลับ และถังเฉาก็เก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขาและกลับไปที่กองทัพปราณมังกร
ในตอนกลางคืน ถังเฉาที่เพิ่งทานอาหารเสร็จ ต้องการดูสถานการณ์การฝึกของทหาร แต่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาได้กลิ่นออร่าที่มีพลังมหาศาลกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
“คือเยี่ยนซื่อเฉิง…”
ถังเฉาไปหาเจียงไป๋เสว่ทันที “กำลังมองหาคุณ”
ใบหน้าของเจียงไป๋เสว่มืดมน และไม่พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกเช่นกัน
บอกให้ถังเฉาอย่าออกมา เจียงไป๋เสว่มาที่สำนักงานของเธอและนั่งลง
ไม่นาน ประตูก็เปิดออก และเยี่ยนซื่อเฉิงก็เข้ามาพร้อมกล่องดำ
“คุณมาทำอะไรที่นี่?”
เจียงไป๋เสว่ยืนขึ้นและมองไปที่เขาอย่างเย็นชา
เยี่ยนซื่อเฉิงเปิดกล่องดำโดยตรงโดยไม่พูดอะไร มีกองเงินสดจำนวนมากในนั้น
“ทำอะไร?”
แสงเย็นในดวงตาของเจียงไป๋เสว่ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก
“ส่งให้เงินคุณ”
เยี่ยนซื่อเฉิงพูดอย่างเฉยเมย”ผมไม่ชอบติดหนี้บุญคุณคนอื่น คุณซื้อบ้านให้พ่อของผม ผมซาบซึ้งมาก แต่เงินนี้ ไม่ได้ถึงคราวคุณที่ต้องมาจ่าย”