เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – บทที่ 846 หายไปโดยไร้เหตุผล

บทที่ 846 หายไปโดยไร้เหตุผล

“ฮือ ๆ ……”

หลังจากเสียงข่มของหงโฝแล้ว ทันใดนั้นเสือที่น่าเกรงขามก็คลานลงมาเหมือนลูกแมวตัวหนึ่ง อุ้งเท้าใหญ่ทั้งสองข้างยังยกขึ้นและกุมศีรษะของมันไว้

ออร่าที่ดุร้ายก่อนหน้านี้ได้หายไปในทันที

ผู้คนทั่วทั้งบริเวณของบ้านตระกูลหลินก็ตะลึงงันและแสดงสีหน้าตกใจ

แม้แต่หลินจิ่วจิ่วก็ตกตะลึงเช่นกัน สองตาของเธอได้แต่จับจ้องไปที่หงโฝ

เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการได้ว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีอายุเพียงแค่สิบเอ็ดหรือสิบสองขวบเท่านั้น แต่เธอสามารถทำให้เสือดุร้ายตัวนี้ตกใจได้ด้วยเสียงข่มของเธอได้

ช่างน่าทึ่งจริงๆ!

หลินจิ่วจิ่วขยี้ตาและสงสัยว่าตัวเองตาฝาดไป แต่หลังจากตาสว่างแล้วทุกอย่างตรงหน้ายังคงเป็นภาพเดิม

หงโฝจ้องเขม็งไปที่เสือตัวอย่างเคร่งขรึม

แต่เสือตัวนั้นกลับคลานอยู่ข้างๆ หงโฝและตัวสั่นเทา ราวกับว่ามันกลัวหงโฝมาก

“นี่มัน……เป็นไปได้ยังไง?”

หลินจิ่วจิ่วรู้สึกน่าทึ่งมาก เพราะว่าเสือที่ดุร้ายตัวนี้ยังไม่เชื่องสำหรับเธอเลย!

แต่ต่อหน้าหงโฝ มันกลับเชื่องมาก

แต่อย่างไรก็ตาม มันยังไม่จบเท่านี้

หงโฝเดินเข้ามาหาเสือตัวนั้นแล้วชูกุญแจอายุยืนที่อยู่ในมือขึ้น

เสือคิดว่าหงโฝกำลังจะทำร้ายมัน ดังนั้นมันจึงรีบกุมหัวไว้แน่นๆ

หงโฝทำเสียงฮึดฮัด แต่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายมัน จากนั้นเธอใช้กุญแจอายุยืนในมือไปคล้องคอของเสือตัวนั้นไว้

ซึ่งขนของเสือตัวนี้แน่นมาก เมื่อกุญแจอายุยืนถูกสวมเข้าไปมันก็จมอยู่ใต้ขนของเสือทันที

หลังจากตกตะลึงไปสักพัก หลินจิ่วจิ่วก็ตั้งสติได้และสีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความโกรธ

เธอรู้สึกอับอายมาก

ทั้ง ๆ ที่เสือตัวนี้เป็นของเธอ และมันไม่ได้ถูกเธอฝึกให้เชื่อง แต่ยังไปทำตัวเชื่องต่อเด็กผู้หญิงอายุแค่สิบสองขวบคนนี้

“เสี่ยวแปด กลับมานี่!”

หลินจิ่วจิ่วตะโกนอย่างเสียงดัง

“โฮก!”

แต่แล้ว เสือที่ถูกสวมกุญแจอายุยืนตัวนี้ไม่เพียงแต่ไม่กลับมาหาเธอ แต่ยังคำรามอย่างดุร้ายใส่เธอด้วย

“ลุกขึ้น ยื่นมือมานี่!”

หงโฝก็ออกคำสั่งเช่นกัน

“โฮก!”

เสือยืนขึ้นอย่างเชื่อฟังและยื่นกรงเล็บอันแหลมคมของมันไปให้หงโฝ

หงโฝก็สัมผัสมันและจับมือกับเสืออย่างกล้าหาญ

“……”

ซึ่งภาพนี้ ทำให้ทุกคนในตระกูลหลินถึงกับตกใจมาก รวมไปถึงหลินจิ่วจิ่วด้วย

ทุกคนถึงกับถูกสตั๊นไป

ทำไมเสือตัวนี้ถึงจับมือเหมือนคนไปได้?

“มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”

หลินจิ่วจิ่วพึมพำกับตัวเอง และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

ถังเฉาก็มองไปที่หงโฝอย่างประหลาดใจเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขาตัดสินใจถูกแล้วที่เชิญหงโฝมา

เพราะถ้าหากให้เขาเป็นผู้เผชิญหน้ากับเสือตัวนี้ เขาอาจต้องเลือกวิธีฆ่าอย่างเดียวเท่านั้น

หงโฝพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นนำกุญแจอายุยืนออกแล้วสวมไว้ที่ศีรษะของเธอ

“นั่น……นั่นมันอะไรกัน? เธอเป็นใครกันแน่?”

การเคลื่อนไหวของหงโฝทำให้หลินจิ่วจิ่วตกตะลึงอย่างที่สุด

หงโฝยิ้มพูดเบาๆ ว่า “ฉันชื่อหงโฝ มาจากสำนักกู่ในเหมียวเจียง”

“สำนักกู่ในเหมียวเจียง……”

นัยน์ตาอันงดงามของหลินจิ่วจิ่วเต็มไปด้วยความตกใจ และรู้สึกว่าสถานที่ที่พูดถึงนี้มันคุ้นหูมาก

ขอเพียงแค่เป็นกลุ่มคนที่ชอบการท่องเที่ยว ไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินเหมียวเจียงแห่งนี้เลย

แต่เหมียวเจียงเป็นเพียงเรื่องเล่าขานกันเท่านั้น บางคนลือกันว่าเหมียวเจียงจะอยู่ด้านหลังของบึงฉีชวน

เมื่อเดินผ่านที่ลุ่มอันกว้างใหญ่ ก็จะสามารถไปถึงดินแดนในตำนานของเหมียวเจียงได้

แต่นั่นเป็นแค่เรื่องในตำนานเล่าขานเท่านั้น ไม่มีใครคนไหนเคยไปถึงสถานที่แห่งนั้นจริงๆ เลยด้วยซ้ำ

หลินจิ่วจิ่วเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วชี้ไปที่หงโฝอย่างเหลือเชื่อ จากนั้นมองหงโฝเหมือนกับเห็นผีแล้วพึมพำในปาก “เธอ……เธอ เธอมาจากที่นั่น……”

“ใช่”

หงโฝยิ้มตอบ “พวกคุณที่อยู่นอกบึง ไม่เคยไปถึงบึงฉีชวนด้วยซ้ำ แล้วจะไปถึงดินแดนแห่งเหมียวเจียงของเราได้ยังไง?”

“โฮก!”

ทันทีที่เสียงพูดของหงโฝจบลง เสือที่เพิ่งถูกดึงกุญแจอายุยืนออกก็ดูเหมือนจะขาดสติไป มันคำรามอย่างเสียงดัง จากนั้นหันหน้าออกไปแล้ววิ่งออกไปในทิศทางที่อยู่ไม่ไกล

สีหน้าของหลินจิ่วจิ่วเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “เสี่ยวแปด เสี่ยวแปด แกจะไปไหน? กลับมานี่!”

“หยุดตะโกนได้แล้ว”

หงโฝขัดจังหวะของเธอแล้วพูดต่อเบาๆ ว่า “มันไม่อยู่ในเมืองหรอก มันต้องการเข้าป่า เพราะที่นั่นถึงจะเรียกว่าบ้านสำหรับมัน”

“เธอเอาแต่อ้างว่าตัวเองเป็นเพื่อนที่ดีของสัตว์ แต่กลับใช้กรงเหล็กขนาดใหญ่เพื่อขังเสือตัวนี้ไว้ แล้วมันสมควรไหม?”

สีหน้าของหงโฝเย็นชาลงและมองไปที่หลินจิ่วจิ่วแล้วพูดต่อว่า “ทุกสิ่งล้วนมีวิญญาณชีวิต ถ้าเธอเป็นเพื่อนกับพวกมันได้จริงๆ พวกมันก็จะไม่ทำร้ายเธอเช่นกัน มันแค่ไปที่ที่มันควรจะไป กลับสู่ที่ที่มันควรจะกลับ”

“……”

เมื่อฟังคำพูดของหงโฝ หลินจิ่วจิ่วก็หน้าแดงทันที นัยน์ตาของเธอยังเต็มไปด้วยความละอายใจ

“ขอโทษ”

เธอขอโทษกับหงโฝ

เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า ความสามารถที่หงโฝแสดงให้เห็นนั้นมันมหัศจรรย์กว่าเธอมาก

หงโฝมากกว่าที่เป็นคนที่รู้จักวิญญาณชีวิตทั้งหมดของธรรมชาติ

เป็นการยากที่จะจินตนาการได้จริงๆ ว่าเธออายุเพียงสิบเอ็ดปีเท่านั้น

เธอจึงมองหงโฝอย่างน่าทึ่งและพูดโพล่งออกมา “เธอเป็นแค่เด็กนักเรียนจริงๆ เหรอ?”

ซึ่งหงโฝไม่ได้โกรธ แต่กลับยิ้มตอบเบาๆ ว่า “อันที่จริงแล้ว อายุจริงของฉันมากกว่าเธอนะ คำว่าหุ่นโลลิ แต่ใจเป็นสาวใหญ่ก็พูดถึงฉันนั่นแหละ”

“อะแฮ่ม—-”

ถังเฉาที่คิดว่าหงโฝจริงจังมาตลอดก็แสร้งไอขึ้นในทันที จากนั้นเขามองเธอด้วยสายตาเคร่งขรึมเพื่อจะเตือนเธอให้หยุดพูดได้แล้ว

“ไม่จริงตรงไหน?”

หงโฝทำหน้าเซ็ง เพราะถังเฉาเป็นเจ้านายของเธอ เธอจึงไม่กล้าใช้อารมณ์ ได้แต่มองไปที่หลินจิ่วจิ่ว “จะพาพวกเราไปหาพี่ชายเธอได้แล้วยัง?”

“ได้แล้ว ได้แล้ว”

หลินจิ่วจิ่วเปลี่ยนทัศนคติของเธอทันที และกระตือรือร้นต่อหงโฝมากขึ้น

แต่เมื่อมองไปที่ถังเฉา สายตาของเธอยังดูไม่เป็นมิตรและยังมองเขาอย่างดุเดือด

ถังเฉายิ้มอย่างขมขื่น ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้จะเกลียดเขามากจริงๆ

แต่เขาไม่สนใจมากนัก เพราะเขาไม่ได้คิดว่าจะดีกับหลินจิ่วจิ่วคนนี้อยู่แล้ว

เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหลินนั้นเป็นเพราะหลินชิงเสว่เท่านั้น

แต่ตอนนี้หลินชิงเสว่ก็ออกจากตระกูลหลินแล้ว ดังนั้นตระกูลหลินกับเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากมายอีก

“โป๋หลายอยู่ทางนี้”

จากนั้นถงเจินก็ได้พาถังเฉากับหงโฝไปยังกระท่อมบ้านไม้หลังเล็กๆ หลังหนึ่งที่เคยผ่านมา

กระท่อมบ้านไม้หลังนี้ใหญ่ขึ้นจากครั้งก่อนเล็กน้อย ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าช่วงนี้การกลายร่างของหลินโป๋หลายนั้นรุนแรงขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสัตว์กลายร่างชนิดใด สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือการรื้อถอนบ้าน

แกร๊ก แอ๊ด—-

ถงเจินผลักประตูบ้านออกและตะโกนเข้าไปในห้องที่มีแสงสลัว “โป๋หลาย หมอมาแล้ว ออกมาสิ”

“……”

แต่แล้ว ภายในบ้านเงียบกริบและไม่มีใครตอบเลย

“โป๋หลาย?”

ถงเจินตะโกนอีกครั้ง

แต่ก็ยังไม่มีใครตอบ

“หยุดตะโกนได้แล้ว ข้างในไม่มีใครอยู่หรอก”

หงโฝเม้มปากปากแล้วพูด

“อะไรนะ?!”

เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของถงเจินกับหลินจิ่วจิ่วก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

“เป็นไปไม่ได้นะ เมื่อวานพี่ชายฉันยังอยู่เลย”

หลินจิ่วจิ่วรีบเข้าใกล้ประตูกระท่อมและยื่นหน้าเข้าไป

แต่แล้ว ข้างในว่างเปล่าจริงๆ

“ดูเหมือนว่าหลินโป๋หลายจะหนีไปแล้ว”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถังเฉาก็พูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ

“เขาจะหนีไปไหนได้?”

ดวงตาของถงเจินแดงก่ำทันทีและพูดด้วยสีหน้าซีดเซียว

ไม่ว่าหลินโป๋หลายจะกลายเป็นคนหรือสัตว์ร้าย เขาก็เป็นลูกชายของเธออยู่ดี

หงโฝครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปยังทิศทางที่เสือตัวนั้นหนีไปอย่างกะทันหัน

“น่าจะเข้าไปในป่าแล้ว”

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท