คุณไม่ใช่เขา
คุณคือเขา
สองประโยคหน้าหลังนี้คนละเรื่องกันเลย พาคนที่ได้ยินกันทั่วทั้งบริเวณให้รู้สึกมึนทึบ งงเซ่อกันเต็มใบหน้า
เขา……เป็นใครหรือ?
“คุณมู่ คุณรู้จักกับเขาด้วยหรือ?”
ฉินโช่ววงเดินก้าวขึ้นไปข้างหน้า ถามด้วยสีหน้าสงสัย
แต่ทว่า มู่ตงเฟิงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เพียงแต่ลูกตาทั้งคู่ยังคงจ้องเขม็งไปที่ถังเฉา
ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เสมือนดั่งยังตั้งสติไม่ได้ ถ้าจะมาเปรียบเทียบกัน ถังเฉากลับจะดูสงบเรียบกว่าเป็นอันมาก ทั้งยังยกน้ำชาข้างหน้า จิบเบา ๆ ไปคำหนึ่ง
ฉินเจียนเวยกลับมีสีหน้าแปลก ๆ มองดูถังเฉา
หล่อนได้ติดตามถังเฉาตั้งแต่ห้าปีที่แล้วมา การก้าวขึ้นสู่ความเป็นเจ้ามังกรของถังเฉาในแต่ละก้าว หล่อนได้เห็นมาตลอด
ตอนที่ถังเฉาเป็นถึงเจ้ามังกรนั้น เขาก็ได้ใส่หน้ากากแล้ว มู่ตงเฟิงไม่รู้จักรูปหน้าค่าตาของถังเฉา นั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ทว่ามาถึงระดับขั้นนี้ รูปหน้าค่าตาไม่ใช่สาระสำคัญแล้ว สำคัญที่อานุภาพ
กลิ่นอายในอานุภาพของยอดนักบู๊ด้วยกันนั้นยากจะลืมเลือนกันได้ ก็เหมือนกับมู่ตงเฟิงจำกลิ่นอายของเจ้ามังกรได้มาตลอด
ดวงตา ไม่สามารถปลอมมาหลอกกันได้
ถังเฉา ก็คือคนที่เขาต้องการเสาะหา
“พวกเรา รู้จักกันไหม?”
ทันใดนั้นถังเฉาได้เงยหน้า หงายตามองมู่ตงเฟิงอย่างเฉยเมย ถามออกไป
ถังเฉาแม้จะถามขึ้นมาแบบนี้ มู่ตงเฟิงกลับมีความรู้สึกอะไรขึ้นมาบางอย่าง เหมือนเขาถามแบบหัวเราะ
ตัวเราจำเขาได้ เขาก็จำตัวเราได้
เพียงแต่ว่า พวกฉินโช่ววงไม่รู้เรื่อง
จ้องมองอยู่หลายวินาที มู่ตงเฟิงแสยะปากหัวเราะขึ้นมาทันที “ข้าจำคนผิดแล้วแหละ”
น่ากลัวว่าแม้ตัวเขาเองก็คิดไม่ถึง จู่ ๆ เจ้ามังกรที่ปลดระวางตัวเองไปแล้ว กลับมาปรากฏตัวได้ที่นี่
ขณะนี้เอง มู่ตงเฟิงพลันคิดไปถึงม้ามืดที่พุ่งทะยานออกมาในงานประชุมแดนเหนือ นักบู๊คนที่ใช้นามแฝงว่าเจ้ามังกร
ตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้เอง สองเจ้ามังกรนั้น ที่แท้เป็นคนคนเดียวกัน
ข่าวนี้ ถ้าเปิดเผยออกไป มันจะทำให้เกิดกระแสคลื่นมโหฬารขนาดไหน?
ในเมื่อเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวเอง ถ้างั้น ก็ไม่ควรจะไปขัดความประสงค์ของเขา
มู่ตงเฟิงหัวเราะออกมาเรียบ ๆ หันตัวกลับเดินออกไป
“คณมู่ ท่านจะไปไหนหรือ?”
เห็นมู่ตงเฟิงจะจากไป ฉินโช่ววงรู้สึกร้อนใจขึ้นมาพลัน
นี่มันอะไรกัน พอคุณมู่ได้เห็นถังเฉาก็มีท่าทางเปลี่ยนไปดูน่าคิด?
“ท่านจะให้ข้าจัดการกับเขาไม่ใช่หรือ?”
มู่ตงเฟิงพูดเรียบ ๆ “ถ้าจะให้จัดการกับเขา ก็ต้องไปจัดการ ‘เจ้ามังกร’ ที่แฝงตัวอยู่ข้างนอกนั่นก่อนไม่ใช่หรือ?”
ส้วบ!
พอพูดคำนี้ออกมา ไม่ว่าฉินโช่ววง หรือแม้แต่ฉินจิ่วจิง ต่างรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว
“ที่แท้ ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าศัตรูตัวฉกาจแอบซ่อนตัวอยู่ข้างนอก!”
สีหน้าฉินจิ่วจิงเต็มไปด้วยความรู้สึกนับถือ
ฉินโช่ววงตอนนี้ค่อยรู้สึกวางใจลง มองถังเฉาด้วยสีหน้าเหี้ยม “รอท่านมู่ไปจัดการกับไอ้เจ้ามังกรอะไรที่แอบอยู่ข้างนอกนั่นก่อน คราวนี้แกตายแน่!”
ถังเฉายิ้มน้อย ๆ แต่เป็นยิ้มที่กวนหนักขึ้นไปอีก
“ผมไปด้วยกันกับท่าน”
ฉินจิ่วจิงพูดจบ สาวเท้าย่างก้าวเดินออกไป
กลับถูกมู่ตงเฟิงขวางไว้ “ไม่ต้องหรอก เจ้าอยู่ที่นี่แหละ คอยระวังดูแลผู้เฒ่าฉิน”
“แต่…….”
“พลังฝีมือเจ้าไม่ได้อย่างข้า หากว่าข้าสู้เขาไม่ได้ เจ้าไปแล้วจะช่วยอะไรได้?”
ไม่รอให้ฉินจิ่วจิงพูดจบ มู่ตงเฟิงพูดตัดบทไปเรียบ ๆ
“……”
ฉินจิ่วจิงอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก
เหตุผลที่เขาพูดนั้นใช่ แต่ทว่า ฟังดูไม่ค่อยสบายหู
แต่นี่ก็ทำให้ฉินจิ่วจิงได้รู้ขึ้นอีกเรื่อง ราชวงศ์ต้าเซี่ย ไม่ใช่ว่าจะไร้เทียมทานเลยทีเดียว โลกภายนอกยังมีคนที่เก่งกล้ามาก ๆ อยู่อีกมาก
“น้อมส่งท่านผู้พิทักษ์!”
สองทหารเด็กโค้งตัวทำความเคารพ น้อมส่งมู่ตงเฟิงเดินออกไป
มู่ตงเฟิงเดินจากออกไปแล้ว คงเหมือนตอนเข้ามา ถึงแม้ตัวคนออกไปแล้ว อานุภาพที่ตกค้างอยู่ ยังให้เป็นที่กดดันในบรรยากาศหนักเอาการ
ฉินโช่ววงอดไม่ได้หัวเราะออกมาเยือก ๆ “มีคุณมู่มาลงมือจัดการ ให้ใครเก่งกาจยังไง ก็ช่วยคุ้มแกไม่ได้หรอก”
ในสายตาของเขา มู่ตงเฟิงคือผู้ไร้เทียมทาน เพียงถ้าไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่สุดยอดที่ยืนค้ำในกองทัพต้าเซี่ยออกมาเอง มู่ตงเฟิงไม่มีใครต้านทานได้!
ต่อให้เป็นม้ามืดที่ว่าแน่ที่สุดที่ทะยานรุ่งขึ้นมาในงานประชุมแดนเหนือ ให้มาเจอท่านมู่ก็หมดท่า!
ในเรื่องนี้ ฉินโช่ววงมีความเชื่อมั่นมากสุด ๆ
ฉินจิ่วจิงติดตามอยู่ข้างตัวฉินโช่ววงอย่างไม่ยอมทิ้งห่าง
มู่ตงเฟิงพูดไว้ถูกต้องแล้ว เขาไม่ควรตามออกไป เกิดเสียทีให้ฝ่ายตรงข้ามเจาะทีเผลอเข้ามาแล้วจะทำยังไง?
สีหน้าของฉินผู่หยางกลายเป็นตื่นตระหนกอย่างหนักขึ้นมา ทุกอย่างเป็นอย่างที่ฉินโช่ววงพูด เมื่อมู่ตงเฟิงลงมือเองแล้ว ใครหรือจะทานเทียบได้?
มองเห็นสภาพของฉินผู่หยางแล้ว ฉินโช่ววงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย้ย แต่ที่คิดไว้ว่าคงได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของถังเฉาและพวกฉู่หยังด้วย แต่ต้องประหลาดใจจากที่เห็น สีหน้าของพวกเขาไม่มีอาการตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ยังคงเรียบเฉยปานน้ำนิ่ง
ฉู่หยังกับฉินเจียนเวย ยิ่งให้ปรากฏเห็นสีหน้าดูประหลาดชอบกล
ผู้เฒ่าฉินดูว่าฉลาดล้ำมาตลอดแล้วนั้น ใยกลับมาเลอะเลือนเอากับเรื่องใกล้ตัว แม้แต่ใครเป็นเจ้ามังกร ยังแยกแยะไม่ออกว่าเป็นใครกัน?
“ถ้าหากว่า ผมหมายถึงถ้าหากนะ เกิดท่านมู่ที่พวกคุณเทิดทูนมากแพ้ลงมา พวกคุณจะว่ายังไง?”
ทันใดนั้นถังเฉาปริปาก จิบน้ำชาเบา ๆ แล้วถาม
ในขณะนั้น ข้างนอกหน้าต่างสาดแสงเข้ามา ฟ้าใกล้สว่างแล้ว
พวกฝ่ายฉินโช่ววงชะงักนิดหนึ่ง ตามมาด้วยเสียงหัวเราะลั่น
“ฮา ๆ ๆ ๆ ๆ……”
“คำพูดของแกนั้นฟังไม่มีใกล้ความจริงเลย!”
“คุณมู่ ชื่อนี้ก็คือนิยามของคำว่าไร้เทียมทาน เขาไม่เคยมีคำว่าแพ้!”
ฉินโช่ววงหัวเราะลั่นแล้วพูดว่า “แกห่วงตัวแกเองไว้ก่อนดีกว่านะ อีกเป็นเวลาไม่นาน คุณมู่ก็จะกลับเข้ามาเด็ดหัวของแกแล้ว…….หุ ๆ ๆ ๆ!”
ด้วยอารมณ์จากความตื่นเต้น ฉินโช่ววงไอหอบออกมารุนแรง
คนวัยชรามากแล้ว อารมณ์ไม่ควรจะกระเพื่อมไหวมาก ไม่ควรโกรธ และไม่ควรตื่นเต้นเกิน
ถังเฉาหัวเราะ ยักไหล่พองาม “ถ้างั้นก็รอดูกันต่อไป”
ปัง!
เสียงพูดเพิ่งจบ ข้างนอกบริเวณงานชุมนุมหมากรุกเป่ยโต่ว ส่งเสียงดังทึบ ๆ เข้ามา ฟังดูเหมือนมีคนถูกกระแทกล้มลง
“คงได้เห็นมีแพ้ชนะกันแล้วแน่!”
“ไป!ออกไปดูกัน!”
ฉินจิ่วจิงกับฉินโช่ววงต่างพูดกันออกมาเกือบจะพร้อมกัน
ให้หลังต่างก็รีบวิ่งกันลงไปชั้นล่าง
“พวกเราก็ไปดูกันมั่ง”
ถังเฉามีสีหน้าที่ดูเหมือนหัวเราะก็ไม่เชิง ลุกยืนขึ้นพูดกับฉินเจียนเวย ฉู่หยัง ฉินผู่หยาง
“ครับ…..”
นอกจากฉู่หยังกับฉินเจียนเวยที่รู้อยู่แก่ใจ คงมีอยู่เพียงคนเดียว—-ฉินผู่หยางที่ยังถูกครอบอยู่ในกะลา ผงกหัวหงึก ๆ
พอต่างได้มากันถึงข้างนอก ฟ้าเริ่มสาง มองกันเห็นบริเวณที่ว่าโล่งห่างไปไม่ไกล มีคนล้มนอนอยู่คนหนึ่ง
“ฮึ ข้าว่าแล้วเชียว ไอ้เจ้ามังกรอะไรของพวกแก แพ้ราบลงไปแล้ว!”
ระยะที่ยังห่างอยู่มาก ยังไม่ทันเห็นชัดได้ว่าเป็นใคร ฉินโช่ววงก็ปล่อยเสียงหัวเราะลั่นออกมา
รอยยิ้มบนใบหน้าถังเฉายิ่งมากขึ้น “ท่านหัวหน้าตระกูลฉิน คงเพราะท่านอายุมากแล้ว สายตาฝ้าฟางไปมั้ง คุณเดินใกล้เข้าไปอีกหน่อย ดูให้ชัด ๆ เสียก่อน ว่าเป็นใครกัน?”
สีหน้าฉินโช่ววงเปลี่ยนไป แต่ก็เดินให้ใกล้เข้าไปอีกหลายก้าว
เพ่งมองให้ชัดยิ่งขึ้น รอยยิ้มบนหน้าค่อย ๆ เลือนหายไป
ยิ่งเดินใกล้เข้าไป สีหน้าของเขา ก็ยิ่งเผือดซีดลงไป
กระทั่งเดินไปถึงเบื้องหน้าคนที่ล้มนอนอยู่ ใบหน้าของฉินโช่ววงก็ซีดจนไม่เห็นสีเลือดแล้ว
“มู่….คุณมู่ ทำไมเป็นท่านนอนล้มที่นี่?”
เขาถามเสียงตะกุกตะกัก
มู่ตงเฟิงนอนอย่างสงบบนพื้น มองฟ้าที่เริ่มทอแสง พูดด้วยสีหน้าหดหู่ “ข้าแพ้แล้ว เจ้ามังกรแข็งกล้าเกิน ข้าประมือกับเขา ยังไม่ทันถึงสิบกระบวนท่าเลย”
“……”