พอก้าวเข้าไปในงานชมรมหมากรุกเป่ยโต่ว ฉู่หยังก็ได้คุยโวอวดโอ่ไว้ว่าข้างหลังตัวเขานั้นมีเจ้ามังกรยืนอยู่
ไม่ว่าจริงเท็จจะว่าเจ้ามังกรนี้ใช่เจ้ามังกรนั้นหรือไม่ แต่ก็ฟังน่ากลัว ผู้ที่ขึ้นประมือกับหลินรั่วหวีหัวหน้าตระกูลหลินตัวต่อตัว จนถึงสุดท้ายในงานประชุมแดนเหนือ พลังฝีมือลึกล้ำสุดคาดเดา
ถ้าไม่เพราะการต่อสู้รอบตัดเชือกในครั้งนั้นถูกยุติโดยการก่อเรื่องของไวโอเล็ตจากพวกหว่างเหลี่ยง ทุกคนต่างก็เห็นว่าคงจบไม่ดีแน่ คนยอดฝีมือน่ากลัวระดับนี้ กลุ่มอิทธิพลหลาย ๆ กลุ่มต่างก็คิดหวังจะดึงตัวมาเข้าพวก แม้กระทั่งตระกูลหลวงเมืองซื่อจิ่วที่ว่ามีกำลังคนมีฝีมือมากมาย ก็ไม่ยกเว้น
แต่ทว่าผู้เก่งกล้าสุดยอดแท้จริงนั้นมักไม่ยอมถูกครอบงำจากอำนาจผลประโยชน์ ไม่มีใครคิดว่าเจ้ามังกรจะถูกใครดึงเข้าเป็นพวกได้ ใครจะไปคิดได้ว่าเจ้ามังกรได้ไปเข้ากันดีด้วยกับตระกูลหลวงตระกูลฉู่ ทั้งตอนนี้ยังเป็นผู้ที่มายืนอยู่หลังฉู่หยังนั่น
นาทีนี้ ภายในห้องพิเศษเงียบสนิท บรรยากาศสะกดอากาศหยุดนิ่งจนหายใจกันไม่ได้
ทุกคนในที่นั้น ต่างก็มองไปที่ฉู่หยังอย่างฉงนสงสัย
ซึ่งแม้ฉินกวนฉีเอง ก็ไม่ได้ใส่ใจกับเลือดสดบนใบหน้า เบิ่งลูกตากว้าง มองฉู่หยังอย่างฉงนสงสัย
“ที่ยืนข้างหลังแกคือเจ้ามังกร! หรือว่า ที่ลงมือตะกี้นี้คือเจ้ามังกรงั้นหรือ?”
ฉินกวนฉีพึมพำเหมือนพูดกับตัวเองอย่างยากที่จะคิดให้เป็นไปได้
ฉินผู่หยางไม่ได้มองไปที่ฉู่หยังในทันที แต่ในปฏิกิริยาครั้งแรกกลับมองไปที่ถังเฉา
เขาให้รู้สึกว่าไม่น่าจะใช่เจ้ามังกรจากงานประชุมแดนเหนือ แต่กลับอยากจะเชื่อนักว่าผู้ที่ลงมือคือถังเฉา
แต่ทว่า ถังเฉานั่งสงบนิ่งอยู่บนโซฟา มือทั้งคู่ยกสูง ไม่มีร่องรอยท่าทีที่ให้เห็นว่าจะเป็นคนลงมือ
ฉินเจียนเวยกลับมองไปที่ถังเฉาอย่างลึกซึ้ง คนอื่นไม่รู้ได้ ส่วนหล่อนเองจะไม่รู้เชียวหรือ?
ผู้ที่ลงมือเมื่อกี้นี้ ก็คือถังเฉา!
ถังเฉาก็คือเจ้ามังกร!
เพียงแต่ว่า ความลับนี้ คนอื่นไม่มีทางจะรู้ได้
ฉู่หยังยังคงหลับตาปี๋ ความคิดยังตกผลึกที่ฉินกวนฉีกำลังจะทิ่มคอเขาทะลุ
เกร็งเครียดไปทั้งตัว ยังคงคิดอยู่ที่ว่าตัวเองจะตายในบัดเดี๋ยวนั้น
แต่ทว่า ผ่านไปนาน ๆ มาก การตายในความวาดฝันยังไม่เห็นมาถึงสักที เขาให้รู้สึกสนเท่ห์เป็นยิ่งนัก ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นดู
ตามด้วย ภาพที่เห็นกับตาพาให้ตะลึงงง
เขาไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย กลับเป็นฉินกวนฉีที่ว่าเก่งกาจมาก ๆ มีรอยบาดแผลอยู่ข้างแก้มอย่างเห็นชัด
เลือดรินไหลไม่หยุดจากรอยบาด ทีละหยดทีละหยด หยดใส่บนโต๊ะ บรรยากาศเป็นกลิ่นคาวเลือดอ่อน ๆ
ฉู่หยังชงักไปนิดหนึ่ง พลันคิดอะไรขึ้นมาได้ หันไปมองถังเฉาอย่างตื่นเต้น สีหน้าเต็มด้วยดีใจ
“เห็นแล้วใช่ไหมหละ?คนที่ยืนอยู่ข้างหลังข้านี่ก็คือเจ้ามังกร จะตีหมาก็ดูหน้าเจ้าของหน่อย แกมาลงมือกับข้า เจ้ามังกรไม่ปล่อยแกแน่!”
เขาหัวเราะเสียงลั่นแล้วพูดกับฉินกวนฉี สีหน้าไม่มีแววหวาดกลัวแม้แต่น้อย ระห่ำกวนอารมณ์อย่างสุด ๆ
“……”
ฉินกวนฉีไม่พูดอะไร แต่เพ่งมองเขาด้วยสายตาอึมครึม
เขารู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย จริงหรือว่ามีผู้แข็งแกร่งสุดยอดฝีมืออยู่ข้างหลังฉู่หยังเป็นคนลงมือ?
แค่เพียงจู่โจมทีเดียว ก็คลี่คลายการโจมตีที่มุ่งจะเอาชีวิตของเขาอย่างง่ายดาย!
พลังฝีมือแข็งกล้าอย่างน่ากลัว……..
ฉินกวนฉีไม่ได้ลงมือต่อ แต่กลับจ้องเขม็งไปที่ฉู่หยัง ถามว่า “บอกข้าหน่อยซิ แกทำยังไงถึงได้รับการชื่นชอบจากเจ้ามังกรที่มาจากงานการประชุมแดนเหนือ?”
ในน้ำเสียงคำพูดของเขา แฝงไปด้วยความรู้สึกข้องใจที่เข้มข้น
สิ่งที่ตระกูลฉู่มี ตระกูลฉินก็มี สิ่งที่ตระกูลฉู่ไม่มี ตระกูลฉินก็ยังมี แล้วทำไม ทำไมคนระดับฝีมือแข็งแกร่งอย่างเจ้ามังกรกลับไปเข้ากันด้วยดีกับตระกูลฉู่?
หากแม้นตัวเขาได้รับการร่วมด้วยช่วยกันจากเจ้ามังกร อย่าว่าแต่จะได้ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉินเลย แม้จะคิดรวบยอดคุมทั้งเมืองซื่อจิ่ว ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะพูดว่าไม่ได้
ช่างน่าเสียดายแท้!
ไม่เฉพาะแต่ฉินกวนฉี ฉินผู่หยาง ฉินเจียนเวยก็ต่างหันไปมองฉู่หยังอย่างฉงนใจ ยากจะคิดได้จริง ๆ ว่า เบื้องหลังคนประเภทกากขยะแบบนี้จะมีเจ้ามังกรหนุนหลังอยู่!
ฉู่หยังส่งสายตาแบบถามปัญหาไปให้ถังเฉา เห็นถังเฉาไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด ก็จึงพูดไปอย่างเต็มปากว่า “เรื่องคงต้องย้อนไปเริ่มต้นที่งานแต่งงานของเย่หรูอี้ธิดาตระกูลเย่กับคุณชายถังหลินแห่งตระกูลถังนะ”
“ตระกูลเย่กับตระกูลถัง…….”
ถึงขนาดพันเกี่ยวไปถึงตระกูลเย่กับตระกูลถัง ฉินกวนฉีถึงกับตาค้าง ไม่เห็นความสำคัญไม่ได้เสียแล้ว
เขาจำได้ งานแต่งงานของตระกูลเย่กับตระกูลถัง ในข้อเท็จจริงของเหตุการณ์นี้เป็นแผนของเย่หรูอี้เองที่จะให้ระเบิดเกิดเป็นสงคราม เป้าหมายคือต้องการจะหาเรื่องวุ่นวายให้กับเย่จงซือ
เห็นว่ามีเหตุไม่คาดคิดเกิดในงานอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากเจ้าสาวถูกเย่เทียนหลงน้องชายของเย่หรูอี้เองชิงเอาตัวไป ในช่วงเวลาที่เป็นสำคัญคือ ถังเฉาที่น่าจะตายไปแล้วจู่ ๆ ก็โผล่มาลงมือ และคนตระกูลถังซึ่งสวามิภักดิ์อยู่กับถังเฉาแล้ว ก็ได้จัดการกับถังหลินผู้เป็นเจ้าบ่าวถึงกับสาหัส
และขณะที่ทุกคนต่างก็คิดว่าเย่จงซือจะต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน พ่อของเย่จงซือ เย่จงเวิ่นที่มาจากราชวงศ์ต้าเซี่ยได้ชิงลงมือ ช่วยเอาเย่จงซือหนีไป
ความจริงก็คิดว่าเหตุการณ์คงจะจบลงแบบนี้แล้ว ในฉากท้ายสุด ภรรยาของถังเฉา หลินชิงเสว่ได้ออกมาอ้างตัวเป็นนักสืบ โยนปัญหาใส่เย่หรูอี้ เปิดโปงเรื่องราวข้อเท็จจริงที่เย่หรูอี้ถูกคุกคาม—–เรื่องซับซ้อนที่เกิดขึ้น แม้ตัวฉินกวนฉีก็ให้รู้สึกมันสะใจ
หรือว่า เบื้องหลังงานแต่งงานครั้งนี้ ยังมีเรื่องลึกลับซ่อนเงื่อนอยู่อีกหรือ?
“มิผิด”
ฉู่หยังค่อย ๆ สาธยาย “ตอนนั้น ข้ากำลังจะไปร่วมงานแต่งงานของตระกูลเย่กับตระกูลถัง ในนามตระกูลฉู่ แต่สุดท้ายไม่ได้ไป พวกท่านรู้ไหมว่าเพราะอะไร?”
“เพราะอะไร?”
ฉินผู่หยางถาม
“เพราะว่าข้าได้พบกับเจ้ามังกรในระหว่างเดินทาง”
ฉู่หยังยิ้มอย่างมีเลศนัย “เขามีธุระจะไปพบเย่หรูอี้ตระกูลเย่ แต่เขาไม่มีบัตรเชิญ ก็เลยขอยืมเอาบัตรเชิญของข้าไปใช้ บอกว่าเขาจะขอไปงานแต่งงานในฐานะตัวแทนตระกูลฉู่ เรื่องไป ๆ มา ๆ ด้วยประการฉะนี้เองก็เลยจึงได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้ามังกร”
ฉัวะ!
ได้ยินเรื่องที่ฉู่หยังพูด ไม่ว่าจะเป็นฉินกวนฉี หรือฉินผู่หยาง ในแววตาฉายเอาความรู้สึกเซ่อออกมา
คิดไม่ถึงเลยว่า ตระกูลฉู่ได้ไปเกี่ยวพันกับเจ้ามังกรด้วยสาเหตุแค่แบบนี้เอง
เพียงใช้แค่บัตรเชิญไปงานแต่งงาน!
“เป็นไปไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้…….”
มุมขอบตาของฉินกวนฉีเขม่นกระตุกอย่างแรง ตอนนี้ เขาเริ่มรู้สึกนั่งไม่ติดแล้ว “เจ้ามังกรนี่อยู่ระดับไหนกัน ถ้าเขาอยากได้บัตรเชิญ พูดคำเดียว คนของแต่ละตระกูลก็วิ่งแย่งกันหัวร้างข้างแตกจะเอาไปให้กันแล้ว ทำไมต้องมาขอยืมด้วย?”
แม้ฉินผู่หยางเองก็เห็นว่าเป็นไปไม่ได้
ฉู่หยังหัวเราะพลางพูดว่า “ข้าก็งงอยู่ แต่นี่มันคือเรื่องจริง พวกท่านจะไม่เชื่อก็ไม่ได้”
“……”
พวกฉินกวนฉีกับฉินผู่หยางต่างมองหน้ากันเหลอหลา ในเวลานี้ต่างก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้
ข้อเท็จจริงในบางครั้ง เรื่องบางเรื่องไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่ต่างคนคนจะคิด บางทีมันก็แค่ง่าย ๆ แบบนี้ ก็ได้พาตัวเองเข้าไปมีสัมพันธภาพกับคนใหญ่โตได้ละ
“แล้วมันจะเป็นไง ให้เป็นว่าข้างหลังแกมีเจ้ามังกร เขาก็คงไม่สามารถคอยช่วยแกได้ตลอด มีใครกันที่ไหนจะทำอะไรที่ตัวเองไม่ได้ผลประโยชน์บ้าง?”
ฉินกวนฉีแสยะยิ้มแล้วพูด เตรียมจะลงมือกับฉู่หยังต่อ
“พูดงั้นก็ไม่สวยนะ”
ฉู่หยังไม่รู้สึกเกรงกลัวแม้แต่น้อย ท่าทีเป็นอย่างพร้อมลุย
“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้ามังกรจะคอยปกป้องแกอยู่ได้ตลอด”
ฉินกวนฉีพูดกับฉู่หยังอย่างเต็มไปความตั้งใจฆ่า
ในนาทีต่อมา บรรยากาศค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้นอีก ตั้งใจจะลงมือต่อ
ถังเฉาหยีตาลง เม็ดดำบนนิ้วมืออยู่ในการเตรียมพร้อม
แต่ในทันใดนั้น กลิ่นอายความเหี้ยมเกรียมกระทบเข้ามาให้ถังเฉาสัมผัสได้ มันใช้ความเร็วที่น่ากลัวมากประชิดเข้าหาตัวมา
ในทันที สีหน้าถังเฉาเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย รีบตัดใจทิ้งความคิดที่จะลงมือ
บรึม!
อานุภาพในตัวฉินกวนฉีขึ้นถึงขีดสุด รวบรวมพลังทั้งหมด ทุ่มหมัดใส่เข้าตัวฉู่หยัง
ผับ!
แต่ในทันใดนั้นเอง ฉินกวนฉีสะดุ้งเฮือกแข็งทื่อไปทั้งตัว ตรงกลางอกเกิดช่องเลือดเป็นรูโหว่
กลิ่นอายแห่งความตายเข้มข้นคลุ้งเต็มอยู่เบื้องหน้า!