เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – บทที่ 877 แกไม่ใช่เขา!

บทที่ 877 แกไม่ใช่เขา!

ต้าเซี่ยมีสี่ชายแดนหลัก

แดนตะวันออก แดนตะวันตก แดนใต้ แดนเหนือ

แต่ละแดน ต่างก็มีหนึ่งผู้พิทักษ์

สี่ผู้พิทักษ์ใหญ่ พลังฝีมือเรียกได้ว่าสุดยอด ใครก็ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าใครไปเท่าไหร่

รองจากเจ้ามังกร พวกเขาคือยิ่งใหญ่

ใครจะไปคิดถึงได้ว่า ผู้พิทักษ์แดนตะวันตก จะมาปรากฏตัวได้ที่นี่ได้

ในพริบตานั้นเอง พลานุภาพที่แทบทำให้คนขาดใจได้ม้วนตลบโหมกระหน่ำเข้ามาดั่งคลื่นสึนามิ ไม่ว่าฉินเจียนเวย หรือฉินผู่หยาง ต่างเขม็งเกร็งไปทั่วร่าง ไม่กล้าขยับกายแม้แต่น้อย

“มู่.. ท่านมู่!”

ท่อนขาทั้งสองข้างของฉินผู่หยางสั่นกระทบกัน ภายในดวงตาฉายความสั่นสะท้าน ใช้สายตาแหงนมองมู่ตงเฟิง

เก้าตระกูลหลวงใหญ่ในเมืองซื่อจิ่ว ตระกูลฉินต้องจัดอยู่ในอันดับต้น มีอยู่หนึ่งสาเหตุใหญ่ ก็ด้วยว่าตระกูลฉินมีพันธะผูกพันแต่เก่าก่อนมากับผู้พิทักษ์แดนใต้มู่ตงเฟิง

ในการประชุมแดนเหนือครั้งก่อนนี้ ผู้ตัดสินใหญ่ก็คือมู่ตงเฟิง แทบจะทุกคนล้วนเชื่อว่าตระกูลฉินจะต้องได้เป็นผู้ชนะในรอบตัดเชือก

ทำไมจึงมีความเชื่อมั่นแบบนี้?

ก็ด้วยเหตุที่ว่าตระกูลฉินมีความผูกพันกับมู่ตงเฟิงอย่างค่อนข้างลึกซึ้งนั้นเอง!

ฉินผู่หยางรู้ดีถึงความน่ากลัวของมู่ตงเฟิง เขามาปรากฏตัวที่นี่ ผนวกกับยอดฝีมือตระกูลฉินแห่งตระกูลราชวงศ์ ฉินจิ่วจิง พูดได้เลยว่า เป็นเครื่องชั่งในการชี้ขาดการประกาศชัยชนะโดยตรง

ช่างยิ่งใหญ่จริง ๆ!

ฉินผู่หยางไม่มีวันจะลืมเหตุการณ์ที่ครั้งหนึ่งในคราวที่มู่ตงเฟิงขอเข้าพบท่านบ้าบู๊อู่ตงหยาง หนึ่งในเจ็ดผู้บ้า(ชีชือ) แต่กลับถูกปฏิเสธให้อยู่หน้าประตู มู่ตงเฟิงได้ประมือกับผู้บ้าบู๊อยู่หลายกระบวนท่า

ถึงแม้ว่า การในครั้งนั้นทั้งสองคนแทบจะเป็นการดูเชิงกัน ไม่ได้ใช้ฝีมือกันเต็มกำลัง แต่มันน่ากลัวมากเอาทีเดียว!

คู่ต่อสู้เป็นลูกศิษย์สายเลือดนักรบเทพ ผู้บ้าบู๊อู่ตงหยาง มู่ตงเฟิงสามารถไม่ตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ นั้นย่อมเป็นที่ให้เห็นได้ถึงพลังฝีมือจริงของผู้พิทักษ์แดนตะวันตก

ในขณะนี้ได้มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เพียงแค่เห็นเขาหยุดยืนตรงไหน ยังไม่ได้ทำอะไร ก็เพียงพอจะทำให้เกิดความกดดันที่เกินพอกับคนแล้ว

ฉินจิ่วจิงก็ยังตาค้างยืนเซ่อ เหงื่อผุดบนหน้าผากจนหนาว ให้รู้สึกในจิตสำนึกว่า นอกเหนือไปจากในราชวงศ์ ยังมียอดฝีมือถึงระดับนี้เชียวหรือ?

ใช่แล้ว

มู่ตงเฟิงยังไม่ทันได้ลงมือ เพียงอานุภาพอันทรงพลังที่ยังไม่ได้ออกอารมณ์เกรี้ยวกราด ก็ยังทำเอาฉินจิ่วจิงขวัญผวา

เขารู้สึกลึก ๆ ในใจว่า หากแม้นต้องต่อสู้กันจริง เขาคงค่อนไปทางไม่ใช่คู่ต่อสู้เอาเลย

มู่ตงเฟิงพอเหยียบก้าวเข้ามา สายตาจับจ้องไปที่ถังเฉาที่นั่งสงบเฉยอยู่กับโซฟา แสงสลัวมัวมืด เขามองเห็นหน้าตาถังเฉาได้ไม่ชัด แต่ก็สัมผัสได้ถึงพลานุภาพที่แฝงเต็มดั่งทะเลกว้างไพศาล

“ท่านผู้พิทักษ์ คนคนนั้น…….”

ที่ข้างตัวของมู่ตงเฟิงเป็นทหารเด็กตามมาด้วยสองคน ที่ว่าทหารเด็ก อายุก็ปาไปอยู่ที่ประมาณสามสิบบวกลบแล้ว พวกเขาจ้องมองถังเฉาอย่างเคร่งขรึม

มู่ตงเฟิงโบกมือ ระงับคำจากความหงุดหงิดที่จะพูดต่อของพวกเขา มองเพ่งไปที่ถังเฉาอย่างมีความหมาย แล้วย้ายสายตานั้นออก มองไปยังฉินโช่ววง

“ผู้เฒ่าฉิน คนที่ท่านอยากจะฆ่าโดยไม่นึกเสียดายในการสิ้นเปลืองค่าน้ำใจนี้ คือคนนี้ หรือ?”

มู่ตงเฟิงชี้ไปที่ถังเฉา มองหน้าฉินโช่ววงแล้วถาม

“มิผิด เขากับตระกูลฉินของข้า มีหนี้แค้นกันมานาน เมื่อห้าปีก่อน หลานคนที่สองของข้าที่อยู่ในกองทัพต้องขาขาดมา ทำให้ชีวิตในกองทัพของเขาต้องดับมอด ก็เป็นเพราะไอ้คนคนนี้มันมอบให้”

แสงยะเยือกกะพริบส่องจากนัยน์ตาของฉินโช่ววง เสียงแหบคนวัยชราที่แฝงอารมณ์ฆ่า “ยังหลานคนโตของข้าก็มีความขัดเคืองกับเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งมากอยู่บ้าง ซึ่งแต่ถ้ากับท่านมู่แล้วคงก็ยังแค่ไร้สารสาระ”

พูดมาถึงตอนท้าย ยังคงไม่ลืมหยอดคำยกยอมู่ตงเฟิงเข้าให้หน่อย

แน่นอนที่สุด ใครหรือจะกล้ามาคุยโวอวดว่าเก่งต่อหน้ามู่ตงเฟิง? แค่เพียงได้ยินชื่อเรียกผู้พิทักษ์แดนตะวันตก ก็อกสั่นขวัญแตกกระเจิงแล้ว

“คำพูดวรรคสุดท้าย คงจะตัดทิ้งออกดีกว่านะ”

มู่ตงเฟิงพูดเสียงทุ้มลึก สายตาจ้องเขม็งที่ถังเฉา

ฉินโช่ววงย่นคิ้วหน่อย ๆ ไม่เข้าใจในความหมายของเขา แต่ก็ไม่ได้ไปคิดมาก

นัยน์ตาฉินจิ่วจิงส่องประกายเยือกเฉียบ พูดว่า “ท่านมู่ ในเมื่อท่านก็เป็นผู้ที่ผู้เฒ่าฉินเชิญมาช่วย ถ้าเช่นนั้นก็ลงมือด้วยกัน สังหารไอ้ขี้ข้าคนนี้ทิ้งเสียเลย!”

“อย่าเพิ่งรีบร้อน”

มู่ตงเฟิงพูดพลาง เดินเข้าไปหาถังเฉาอย่างช้า ๆ

บนทางที่เดินผ่านไป ฉินเจียนเวยกับฉินผู่หยางต่างรีบถอยเปิดทางให้

สุดท้าย เขามาถึงข้างหน้าถังเฉา มองหน้าตาถังเฉาได้อย่างชัดเจน

แต่ทว่า ถังเฉายังคงไม่มีทีท่าจะลุกขึ้น คงยังนั่งอยู่ด้วยท่วงท่าสงบนิ่ง

ฉินผู่หยางอึดอัดจนใจเกือบจุกมาถึงที่คอแล้ว คุณมู่ยืนอยู่ แต่ถังเฉากลับนั่งเฉย?

แต่ก็น่าแปลก มู่ตงเฟิงก็ไม่ยักจะโกรธ เพียงยืนมองอย่างครุ่นคิด ถามว่า “เราดูเหมือนจะเคยพบกันมาก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”

พอได้พูดคำนี้ คนที่อยู่ต่างงงขึ้นมานิด

ถังเฉากับมู่ตงเฟิงเคยรู้จักกัน?

“เคยเจอกันเหรอ?”

ถังเฉาแค่นหัวเราะอย่างไม่มีเสียง สายตากวน ๆ มองมู่ตงเฟิงพูดว่า “ในงานประชุมแดนเหนือ ข้ามีไปที่นั่น คงอาจจะได้บังเอิญเจอกัน”

“ไม่ใช่”

แววตามู่ตงเฟิงดูลุ่มลึก ก้มเพ่งมองดูถังเฉาอย่างพินิจพิเคราะห์ เสมือนจะจาะลึกทะลวงให้เห็นถึงไส้พุง “ต้องนานก่อนหน้ากว่านั้น”

“เอ๋อ?”

ได้ยินเช่นนั้น ถังเฉาให้แปลกใจแสดงออกที่นัยน์ตา แต่ทว่า รอยยิ้มบนหน้าเข้มขึ้น

มู่ตงเฟิงนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ถามต่อไปว่า “คุณเคยผ่านการเกณฑ์ทหาร ใช่ไหม?”

“เคยเกณฑ์”

ถังเฉาโต้ตอบกลับเรียบ ๆ

ครั้งก่อนในงานประชุมแดนเหนือ ถังเฉาขึ้นเวทีโดยที่ใส่หน้ากาก อีกทั้งก็ไม่ได้เผชิญหน้ากับมู่ตงเฟิงจัง ๆ มู่ตงเฟิงจะไม่รู้จักตน ก็คงเป็นเรื่องปกติ

แต่ทว่า เขากลับวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ผ่านมาได้ด้วยการสัมผัสจากพลังอานุภาพของตัวเอง น่ากลัวว่า นี่ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในระดับแกร่งกล้าจริงด้วยกัน จึงจะสามารถสัมผัสได้กระมัง?

“เมื่อไหร่หรือ?”

“ห้าปีที่แล้ว”

ถังเฉาตอบไปตามจริง

“……”

ทันทีนั้น มู่ตงเฟิงตกอยู่ในภวังค์ขรึม

จ้องมองถังเฉาอยู่นานและนาน เขาส่ายหน้า “คุณไม่ใช่เขา”

“เขาเป็นใครหรือ?”

ถังเฉาจี้ถาม

มู่ตงเฟิงกลับไม่พูด ได้แต่เพียงถอนหายใจออกเนือย ๆ

เสียงเคร้งคร้างดังขึ้น เขาโยนมีดสั้นเงาวาวลงมาเล่มหนึ่ง พูดกับถังเฉาว่า “แกเคยผ่านการเกณฑ์ทหารมา ข้าไม่อยากลงมือฆ่าแก แกจัดการกับตัวเองเถอะ”

ภายในดวงตาของมู่ตงเฟิง ส่อออกซึ่งความผิดหวัง

คนที่อยู่ข้างหน้านี้ แววสายตาช่างเหมือนพ่อหนุ่มคนนั้นมาก แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด

สรุปก็คือดูผิดคน

ถอนหายใจเบา ๆ แล้วมู่ตงเฟิงก็หันหลังเดินจากไป

เฟี้ยว!

ทว่า เพียงแค่ก้าวเดียวออกไป เสียงแหวกอากาศที่เร็วทวีดังเข้ามา

เหมือนว่า มีอะไรสักอย่าง พุ่งเสียบตรงเข้ามาที่ตัวเขา

สายตามู่ตงเฟิงสะท้านวูบ เอียงคอเบี่ยงออกเล็กน้อย ยกชูออกสองนิ้ว

ส้วบ!

แสงเยือกวาบผ่าน มีดสั้นคมแหลมเล่มหนึ่ง ถูกมู่ตงเฟิงคีบอยู่หว่างกลางสองนิ้วอย่างแม่นยำไม่พลาดไถล

ก็คือมีดสั้นเล่มที่มู่ตงเฟิงโยนให้เขาใช้ปลิดชีวิตเองนั่นไง!

ฉับพลันนั้นเอง สีหน้ามู่ตงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างมาก

หันกลับไปมองอีกที ถังเฉายังคงนั่งอยู่กับที่ สีหน้าทีท่ายังคงสงบเฉย

แต่เห็นได้ภายในดวงตา มีแววความเครียดโกรธกำลังค่อย ๆ รวมตัว

แววในดวงตานั้น ฉับพลันเอาความกดดันใส่มู่ตงเฟิงอย่างหนักหน่วง เหมือนแอบมองลอดไปเห็นวิญญาณของเขา ทำเอาตัวของมู่ตงเฟิงสท้านขึ้นมา

แววตาที่เห็นอยู่ข้างหน้านี้ กับแววตาที่อยู่ในทรงจำค่อย ๆ ซ้อนเข้าหากัน สุดท้ายกลายเป็นดวงตาคู่เดียวกัน

บรูม!

ทันทีนั้นเอง สีหน้ามู่ตงเฟิงแปรผันอย่างรุนแรง ทั้งตัวเกร็งเครียด

ภาพที่เห็น ทำเอาฉินโช่ววง ฉินผู่หยาง รวมทั้งฉินจิ่วจิงทั้งหมด ช็อกงงเต็มหน้า

ผู้พิทักษ์แดนตะวันตกทั้งคน กลับเหมือนถูกผีเข้า ตาที่ร้อนผ่าวทั้งคู่จ้องไปที่ถังเฉา พึมพำพูดว่า “คุณคือเขา!”

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท