ครืน!
หลังจากเจียงไป๋เสว่พูดประโยคนี้ออกมา อากาศโดยรอบล้วนเปลี่ยนไปหนาวเย็นขึ้นมา
ค้างคาวยังคงไม่ขยับเขยื้อน แต่ดวงตาทั้งคู่ของหลี่เห้าหมายเลข10032กลับดูอึมครึมขึ้นมา ระหว่างที่คลุมเครือ ยังมีพลังโหดเหี้ยมส่วนหนึ่ง “เธอว่าอะไรนะ?”
เขาจ้องเจียงไป๋เสว่ไม่เลิก พูดอย่างเสียงดังแต่ทุ้ม “ความหมายของเธอคือพวกฉันจะตายอยู่ที่นี่?”
“ถูกต้อง”
ในปากเจียงไป๋เสว่พ่นเลือดคั่งออกมา ที่มุมปากของเธอก็มีรอยเลือด ดูขึ้นมามีความรู้สึกที่เศร้าระทม
แต่ว่าเวลานี้ เธอกลับยกมุมปากขึ้น หัวเราะขึ้นมาแล้ว
“ฉันไม่ใช่คู่แข่งของนาย แต่ว่ามีคนหนึ่ง เขาสามารถฆ่านายได้นับครั้งไม่ถ้วน!” เธอมองร่างโคลน แล้วพูดขึ้น
“ใคร?”
ร่างโคลนสายตาหวาดกลัวเล็กน้อย ถามไป
“ถังเฉา”
เจียงไป๋เสว่พูดชื่อหนึ่งออกมา ในขณะเดียวกันชื่อนี้ก็ทำให้ร่างโคลนรู้สึกถึงทั้งความแปลกหน้าและความคุ้นเคย
ก่อนหน้านี้พูดไปแล้ว ความทรงจำทั้งหมดของร่างโคลนเป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายส่วนของตัวหลี่เห้า เศษเสี้ยวความทรงจำที่น้อยนิดนั้น ไม่พอทำให้เขานึกถึงถังเฉาได้ แต่มีความจำอยู่เป็นแน่
สีหน้าค้างคาวเปลี่ยนไป มองดูเวลาแวบหนึ่ง พวกเขาหยุดอยู่ที่นี่ชั่วคราวเกือบจะยี่สิบนาทีแล้ว—-เดิมทีพวกเขาคิดจะจับโอดะไอในห้านาที จากนั้นถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่เพราะสาเหตุจากเจียงไป๋เสว่ ดันถูกเธอถ่วงเวลาไปสิบห้านาทีแล้ว!
ถ้ายืดต่อไปอีก อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นได้
“หมายเลข10032 จัดการหล่อน! อย่าเสียเวลาต่อไปอีกเลย!” ค้างคาวตะโกนเสียงดัง
“ครับ”
ร่างโคลนตอบรับ วินาทีต่อมาก็ยกเท้าขึ้น เตะบนร่างกายของเจียงไป๋เสว่อย่างแรง
“ปล่อยมือ!”
ปัง!
ข้อเท้าที่ทำจากเหล็ก เตะบนตัวเจียงไป๋เสว่ เตะจนดวงตาเธอพร่ามัว ซี่โครงหักไปหลายซี่
ดูขึ้นมาลักษณะท่าทางเศร้าสลดมาก แต่ว่าเจียงไป๋เสว่ยังฝืนทน แม้แต่จะไอกระแอมออกมาก็ยังไม่ไหว
มือสองข้างยังคงจับข้อเท้าของร่างโคลนและค้างคาวไว้แน่น ไม่ให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้า
“วอนหาที่ตาย!”
เมื่อเห็นเหตุการณ์ ในดวงตาร่างโคลนเกิดแรงอาฆาตแค้นเพิ่ม “อย่าคิดว่าเธออยู่ในใจฉันไม่เหมือนใคร แล้วฉันจะไม่กล้าฆ่าเธอนะ!”
เขาโน้มตัวลง จับศีรษะของเจียงไป๋เสว่ไว้ หิ้วเธอขึ้นมาจากพื้นอย่างแข็งกระด้าง
มือที่จับศีรษะเจียงไป๋เสว่ใช้แรงไม่หยุด มีกำลังมากส่วนหนึ่ง เสมือนกับเครื่องบดเนื้อ คล้ายอยากจะบดขยี้กะโหลกของเจียงไป๋เสว่ให้แหลก—-ทั้งตัวเธออดสั่นเทาขึ้นมาไม่ได้ สติค่อยๆ เลือนราง ทำได้เพียงส่งเสียงร้อง‘อ่าๆ’ออกมาจากในปากไม่หยุด
หลินชิงเสว่ หลินจ้าวหยูน โอดะไอทนมองไม่ได้แล้ว อยากช่วยเหลือมาก แต่กลับไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
ตอนที่ดวงตาเจียงไป๋เสว่ใกล้จะขาวโพลน ในที่สุดค้างคาวก็ส่งเสียงห้ามปรามร่างโคลนไว้แล้ว
“หยุดเถอะ!”
เขามองร่างโคลนพูดว่า “นายลืมคำสั่งแล้วเหรอ ไม่ใช่ฆ่าหล่อน แต่ว่าพาหล่อนกลับไป”
“ถึงแม้ตอนที่อยู่ในการประเมินค่า ความสามารถโดยรวมของหล่อนจะอ่อนแอสุด แต่นั่นคือผลสรุปที่เทียบกับหลี่เห้าและถังเฉา หากเทียบกับคนทั่วไปยังแกร่งกว่ามากเหลือเกิน การสร้างร่างโคลนของหล่อน ย่อมสามารถผลิตออกมาได้มาก”
“ครับ”
พอได้ยิน ร่างโคลนถึงปล่อยเจียงไป๋เสว่ออก
เสียงดังตึก เจียงไป๋เสว่ร่วงลงบนพื้น มือสองข้างกุมศีรษะของตนเองไว้แน่น สูดหายใจเอาอากาศสดชื่นเฮือกใหญ่
ค้างคาวมองเจียงไป๋เสว่ที่นอนอยู่บนพื้นจากบนลงล่าง และลมหายใจอ่อนระโหยโรยแรง ก่อนจะพูดนิ่งๆ “ฉันเคยบอกว่าเธอลำบากเกินไป ฉันจะทำให้เธอกับหลี่เห้าอยู่ด้วยกันแบบแท้จริง—-พาเธอกลับไปที่หว่างเหลี่ยงด้วยก็เรียบร้อยแล้ว”
“นายฝันไปเถอะ!”
เจียงไป๋เสว่มองเขาด้วยสายตาเคียดแค้น ถึงแม้ถือว่าจะได้อยู่ด้วยกัน แต่ว่าเจียงไป๋เสว่จะยินยอมได้อย่างไร
จากนั้นเธอจึงหันหน้ามา พยายามตะโกนบอกไปยังหลินชิงเสว่ หลินจ้าวหยูนสุดแรง “รีบหลบเข้าไปในป่า ไม่ต้องห่วงฉันแล้ว!”
เธอรู้ว่าในคืนวันนี้ เธอคงตายอย่างไม่ต้องสงสัยเป็นแน่
สิ่งที่เธอสามารถทำได้ มีเพียงแค่พยายามช่วยถ่วงเวลาให้พวกของหลินชิงเสว่ จากนั้นเผชิญความตายอย่างสงบ—-สำหรับเธอแล้ว นี่เป็นการหลุดพ้นอย่างหนึ่ง
อย่างน้อยเธอก็สามารถไม่ต้องมีชีวิตอยู่ในเงามืดเมื่อสามปีก่อนได้
หลินชิงเสว่ หลินจ้าวหยูนเห็นแบบนี้จึงอ้าปากแล้ว ลำคอเหมือนโดนของอะไรอุดเอาไว้ พูดอะไรไม่ออกทั้งนั้น
จากนั้นพาตัวของโอดะไอ หมุนตัวหนีเข้าไปในป่าแล้ว
ค้างคาวและร่างโคลนมองดูอยู่ไกลๆ ส่งเสียงหัวเราะอย่างดูหมิ่น พูดกับเจียงไป๋เสว่ว่า “ฉันรู้ว่าเธออยากถ่วงเวลา แต่พวกฉันจะยอมเล่นเป็นเพื่อนเธอสักพัก”
“ดูหน่อยสิว่าแมวจะจับหนูได้ก่อน หรือว่าหนูจะหนีรอดจากปากแมวไปได้”
……
ป่าไม้มืดมิดอย่างยิ่ง หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนพาโอดะไอวิ่งไปข้างหน้าคล้ายกับเสียสติไปแล้ว
ไม่รู้วิ่งมานานแค่ไหน ในที่สุดพวกเธอก็หยุดลงมา เนื่องจากหมดแรง
กึ่งนั่งยองตัว หายใจหอบ
“ฉันไม่ไหวแล้ว วิ่งไม่ไหวจริงๆ”
หลินจ้าวหยูนหอบอย่างหนัก โบกมือไม่เลิก ท่าทางพังทลาย
“ทำไมถึงใช้ไม่ได้ขนาดนี้? บอกเธอแล้วไงว่าปกติหัดออกกำลังกายหน่อย”
หลินชิงเสว่มองหล่อนแวบหนึ่งแล้วพูดขึ้น
“วางใจได้ พี่ ถ้าครั้งนี้สามารถหนีออกไปได้ ฉันจะต้องตั้งใจออกกำลังกายให้ดีเลย”
หลินจ้าวหยูนหัวเราะแล้ว “พวกเราจะไม่เป็นอะไร ถูกไหม?”
“……”
ครั้งนี้หลินชิงเสว่กลับไม่ได้รีบตอบหล่อนไปทันที แต่ทว่าจมสู่ความเงียบ
พวกเธอสามารถมีชีวิตรอดพ้นคืนนี้ได้จริงเหรอ?
ถึงแม้พวกเธอหนีได้แล้ว แต่ว่าค้างคาวกับร่างโคลนล้วนเป็นนักฆ่ามืออาชีพ ค้นหาพวกเธอ เป็นเพียงเรื่องของเวลา
ยังมีอีกจุดหนึ่ง ถึงแม้ค้างคาวจะเคยบอกว่าไม่ฆ่าพวกเธอ แต่พวกเธอได้ยินความลับที่สำคัญขนาดนี้แล้ว จะไม่ปิดปากจริงเหรอ?
ทุกอย่างล้วนไม่อาจรู้ได้
“ขอโทษนะคะ เป็นฉันที่ลากพวกคุณมาลำบาก……”
โอดะไอตำหนิตนเองเหลือเกิน ล้วนเป็นเพราะปกป้องหล่อน ถึงได้พัวพันกับผู้คนมากมายขนาดนี้
หลินจ้าวหยูนมองหล่อนแวบหนึ่ง จงใจหัวเราะขึ้นมาอย่างผ่อนคลาย “ทำก็ทำแล้ว ตอนนี้จะพูดแบบนี้ทำไมกัน? โดยเฉพาะพวกเราก็ไม่รู้ว่าเดิมทีเธอมีค่าขนาดนี้ด้วย”
พอได้ยิน โอดะไอเงยหน้าขึ้นมาแบบตกใจอยู่บ้าง รีบส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรจริงๆ……”
หลินจ้าวหยูนยังอยากพูดอะไรอีก ทันใดนั้นในความมืดมน มือมืดดำข้างหนึ่งก็ยื่นออกมา ดึงทั้งตัวหล่อนเข้าไปในพุ่มไม้แล้ว
“อ๊ะ—-อื้ม—-”
หลินจ้าวหยูนตกใจจนอยากกรีดร้องโดยสัญชาตญาณ แต่กลับถูกปิดปากเอาไว้แล้ว หล่อนทำได้เพียงส่งเสียงร้องอื้อๆๆ ออกมา
หลินชิงเสว่ก็รู้สึกถึงหายนะมาเยือน กำลังอยากจะต่อว่า พอมองดูชัดๆ หล่อนกลับตกตะลึง
เป็นเจียงไป๋เสว่
เธอหนีเข้ามาได้อย่างคาดไม่ถึง?
“ชู่!”
เจียงไป๋เสว่ทำมือห้ามส่งเสียง จากนั้นพิงต้นไม้ด้านหลังไว้แบบหมดแรง หายใจแรงไม่หยุด มือข้างหนึ่งยังจับท้องไว้ด้วย
“คุณเจียง คุณไม่เป็นไรนะ?” หลินชิงเสว่ประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน จากนั้นถามขึ้นมา
“รีบ……รีบไป ทางออกอยู่นั่น……”
เจียงไป๋เสว่พูดแบบอ่อนแรงมาก
หลินชิงเสว่กำลังอยากจะพูดอะไร พอก้มหน้าชายตามอง เห็นเพียงส่วนท้องของเจียงไป๋เสว่ไม่นานก็เปื้อนเลือดสด ตำแหน่งขยายกว้างออกไม่หยุด
“คุณโดนยิงแล้ว?” ชั่วขณะนั้นหลินจ้าวหยูนส่งเสียงร้องตกใจ