แต่หลังจากผ่านไปได้สองสามวัน ร่างกายของไวโอเล็ตก็ฟื้นฟูกลับมาดีแล้ว แถมภายใต้การควบคุมดูแลการใช้ชีวิตประจำวันจากเจียงสือเหนียน ร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย
“วันนี้ฉันจะไปที่หว่างเหลี่ยงแล้ว เรื่องอื่นพวกเธอจัดการเองแล้วกัน ถ้ามีอะไรต้องการล่ะก็ ฉันจะช่วยเท่าที่ฉันจะช่วยได้”
พูดจบ ถังเฉาก็ให้กระดาษกับแองเจล่าหนึ่งแผ่น
“กระดาษแผ่นนี้เป็นวิธีการที่ติดต่อกับฉัน ถ้ามีเรื่องอะไร เธอต้องบอกฉันทันที แบบนี้ฉันจะได้รับประกันความปลอดภัยของเธอได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันก็ไม่กล้าจะพูดถึงแล้ว”
ไวโอเล็ตรับมา พยักหน้าจากนั้นก็นั่งรถจากไป
หลังจากที่ไวโอเล็ตกลับไปแล้ว ถังเฉาก็กลับบ้านไปทันที
หลินชิงเสว่ทำอาหารเย็นไว้ที่บ้านเรียบร้อยแล้ว กำลังรอถังเฉากลับมา
ช่วงเวลาหลายวันมานี้ถังเฉากะที่จะกลับไปอยู่ด้วยกันกับหลินชิงเสว่ แต่เนื่องจากตนเองยุ่งมากๆอย่างเห็นได้ชัด ก็เลยลืมเรื่องนี้ไป
หลังจากที่กินอาหารไปจนอิ่มแล้ว หลินชิงเสว่ก็นั่งลงข้างๆถังเฉา
หลินชิงเสว่แค่ควงแขนของถังเฉา กลับไม่ได้พูดอะไร ถังเฉารู้ว่าหลินชิงเสว่อยากที่จะพูดอะไร ก็เลยพูดถามขึ้นเอง“เป็นอะไร คุณภรรยา มีอะไรอยากจะพูดเหรอ?”
หลินชิงเสว่ยิ้มเล็กน้อย มองถังเฉาที่อยู่ตรงหน้า
“ถังเฉา คุณอย่าเอาฉันมาทำให้เรื่องที่คุณควรจะทำล่าช้าเลย ไม่อย่างนั้นฉันคงจะรู้สึกผิดมากแน่ๆ”
เห็นได้ชัดว่า ถังเฉารู้สึกตกใจไม่น้อย
ตอนแรกนึกว่าหลินชิงเสว่จะรู้สึกไม่พอใจที่ช่วงนี้ตนเองไม่ได้อยู่ด้วยกันกับเธอเลยเสียอีก คิดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาแบบนี้หลินชิงเสว่ยังจะคิดถึงเรื่องของถังเฉาอีก
ถังเฉาลูบหัวของหลินชิงเสว่เบาๆ จากนั้นก็จูบลงไปที่หน้าผากหนึ่งที
ตอนที่ริมฝีปากประทับลงที่หน้าผากของหลินชิงเสว่ หลินชิงเสว่รู้สึกได้ว่าร่างกายร้อนผ่าว ราวกับว่ามีพลังงานบางอย่างพุ่งขึ้นมายังร่างกายของตัวเองทั้งร่างกายเริ่มร้อนผ่าว
“เป็น……เป็นอะไร ถังเฉา?”
ถังเฉามองหลินชิงเสว่อย่างยิ้มๆ“ช่วงนี้ค่อนข้างว่าง ผมอยากที่จะอยู่ด้วยกันกับคุณที่บ้านน่ะ”
พูดจบ ตาของหลินชิงเสว่ก็เปล่งประกายขึ้นมาราวกับหลอดไฟเล็กๆสองหลอด
“คุณพูดจริงเหรอ? ว่าช่วงนี้คุณว่างมาก ไม่มีธุระอื่นที่ต้องทำเหรอ? คุณอย่ามาหลอกฉันนะ”
หลินชิงเสว่ถามขึ้นด้วยความคาดหวัง ถังเฉาแค่พยักหน้านิ่งๆเท่านั้น
“ไม่ได้หลอกคุณ ผมพูดจริง ต่อไปอาจจะต้องยุ่งมากแล้ว ช่วงนี้เลยจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณสักหน่อย ได้ไหม?”
หลินชิงเสว่จะบอกว่าไม่ได้ได้ยังไงล่ะ ต่อให้ตอนนี้ถังเฉาจะออกไปทำธุระ หลินชิงเสว่ก็ยอมเหมือนกัน เพราะเธอรู้ว่าผู้ชายของตนเองรักตนเองมากๆ แต่แค่มีเรื่องบางเรื่อง ที่จะยืดเยื้อเสียเวลาไม่ได้
“ได้สิ ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้พวกเราก็มาอยู่เล่นด้วยกันสักหน่อยแล้วกัน”
จริงๆแล้วที่ถังเฉาคิดวางแผนเอาไว้ ถังเฉาเตรียมที่จะไปช่วยแม่ของตัวเองที่ราชวงศ์ต้าเซี่ย แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ได้มั่นใจอะไร แต่ก็ต้องไปสู้ให้ถึงที่สุด
แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ควรจะอยู่กับภรรยาของตัวเอง
ช่วงนี้ถังเสี่ยวลี้ไม่มีเวลาออกมาจากโรงเรียนพอดี ดังนั้นทั้งสองคนจึงสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างเต็มที่
เช้าวันรุ่งขึ้น ถังเฉาทำอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นี่เป็นอาหารเช้าที่เจ้ามังกรต้าเซี่ยทำเองเลยนะ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้กินมัน
ตอนที่หลินชิงเสว่ตื่นขึ้นมาเตรียมที่จะทำอาหารเช้า กลับพบว่าสามีที่อยู่ข้างกายของตัวเองไม่อยู่แล้ว
ปฏิกิริยาตอบสนองตามสัญชาตญาณ พอเห็นว่าสามีของตัวเองไม่อยู่ข้างกาย หลินชิงเสว่ก็กระโดดลงจากเตียงด้วยความกังวลไม่น้อย
“ถังเฉา!ถังเฉา!”
ถึงยังไงถังเฉาก็อาจจะเจออันตรายได้ แม้ว่าฝีมือของถังเฉาจะดีมากก็ตาม หลินชิงเสว่กลับยังคงเป็นห่วงว่าถังเฉาจะได้รับอันตรายอะไรอยู่ดี
หลังจากที่ถังเฉาได้ยินเสียงของหลินชิงเสว่ ก็รีบวางของในมือลง แล้วพุ่งเข้ามาที่ห้องทันที
เห็นหลินชิงเสว่ไม่เป็นอะไร แต่แค่ว่าไม่เจอตัวเองเท่านั้น ก็เลยอยากจะหัวเราะออกมาไม่น้อย
ต่อหน้าของคนนอก หลินชิงเสว่เป็นถึงสาวสวยที่แข็งแกร่งทรงพลัง แต่พออยู่ข้างกายของถังเฉา กลับเหมือนเด็กน้อยที่อ่อนต่อโลกคนหนึ่งไปโดยสิ้นเชิง ดูแล้วช่างน่ารักจริงๆ
“ผมอยู่นี่ ผมกำลังทำอาหารเช้าให้คุณทาน วางใจเถอะ ต่อให้ผมมีธุระต้องไปผมบอกคุณแน่นอน”
พูดจบ หลินชิงเสว่ก็มองถังเฉาที่อยู่ข้างกายด้วยสีหน้าอึดอัด
“อื้อ ฉันนึกว่าคุณไม่อยู่แล้ว ก็เลย……”
ถังเฉาขำเบาๆออกมา แล้วพาหลินชิงเสว่มายังห้องอาหาร
“นั่งลงสิ นี่เป็นอาหารเช้าที่ผมเตรียมให้คุณ”
พูดจบ หลินชิงเสว่ก็นั่งลงอย่างกระมิดกระเมี้ยน
แต่ไหนแต่ไรหลินชิงเสว่มักจะเป็นคนตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้า แถมถังเฉาก็เป็นถึงเจ้ามังกรด้วย ทำให้ตัวเองขนาดนี้ หลินชิงเสว่รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก
“อร่อยจริงๆ!”
หลินชิงเสว่ไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองกินอยู่คืออาหารของโลกมนุษย์ นี่มันเป็นอาหารชั้นเลิศที่บนสวรรค์ประทานมาให้ คนธรรมดาจะสามารถกินได้ยังไง
แต่ อาหารมื้อนี้กลับไม่ได้อร่อยมากขนาดนั้นเหมือนที่คิดไว้ แต่เพราะว่าข้างในผสมไปด้วย“พลังแห่งความรัก”มันจึงทำให้หลินชิงเสว่กินอย่างมีความสุข
“ผมเองรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเลย คุณไม่ต้องไว้หน้าผมหรอก พูดมาตรงๆเลยก็ได้”
หลินชิงเสว่มองถังเฉา จากนั้นก็โถมเข้าไปกอด
“ฉันรู้สึกว่ามันอร่อย รู้สึกว่ามันเป็นอันดับหนึ่งของโลกเลย”
บางทีถังเฉาเผยรอยยิ้มเล็กๆน้อยๆแบบนี้ออกมาแค่ตอนที่อยู่กับหลินชิงเสว่เท่านั้น
“ใช่แล้ว วันนี้สถานีแรกของพวกเรา ผมอยากให้พวกเราออกไปปีนเขาหรืออะไรทำนองนั้น”
“ถึงยังไงช่วงนี้ คุณก็ไม่ได้ออกไปเดินออกกำลังกายอะไรเลย ผมรู้สึกว่าต้องพาคุณไปออกกำลังกายเล่นกีฬาสักหน่อย แบบนี้ถึงจะสามารถรับประกันว่าร่างกายแข็งแรงได้”
บางทีถ้าเป็นคนอื่นฟังก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจเลย แต่ถังเฉาเป็นคนของกองกำลังพิเศษ แน่นอนว่าชอบกีฬากลางแจ้งอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
หลินชิงเสว่ก็รู้สึกสนใจเหมือนกัน รีบพยักหน้าทันที
“ได้เลย ฉันกำลังอยากไปพอดี!”
จริงๆแล้วหลินชิงเสว่ไม่เคยปีนเขามาก่อน เพราะว่าร่างกายของตัวเองค่อนข้างอ่อนแอ ทำงานมาเป็นเวลาหลายปี ไม่เคยออกกำลังกายสักครั้ง ผ่านไปนานเข้า การปีนเขาก็กลายเป็นเรื่องที่อยากจะทำขึ้นมา
หลังจากที่ทั้งสองคนเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถังเฉาก็ขับรถจิ๊ปออฟโรดคันหนึ่งมา เพื่อที่จะได้ขับสบายๆบนพื้นทราย
แต่ในตอนนี้เอง จู่ๆเฟิ่งหวงก็ส่งข้อความมา
“รองหัวหน้า ฉันได้ยินพวกคนระดับล่างบอกว่าวันนี้จะมีคนของหว่างเหลี่ยงมาที่นี่ ไม่รู้ว่ามาทำอะไร ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรฉันจะบอกคุณทันที”
พอถังเฉาเห็นข้อความนี้ ในใจก็อยากที่จะกระชากหว่างเหลี่ยงออกมา แต่เนื่องจากตัวเองสัญญาณกับภรรยาแล้ว ก็เลยไม่คิดต่อ
พอเฟิ่งหวงเห็นว่าถังเฉาไม่ได้ตอบกลับมา ก็รู้ว่าถังเฉากำลังยุ่งเรื่องที่บ้านอยู่ จึงไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“ให้ตายสิ ใครจะคิดว่าท่านไวโอเล็ตกลับมาแล้ว ฉันยังนึกว่าเธอจะทรยศไปแล้วซะอีก พูดตามตรง เธอทรยศหักหลังก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่เรื่องเยอะขนาดนี้”
“ใช่ เธอกลับมาแล้ว ท่านหงเหลียนก็กลับมายุ่งกับพวกเราแล้วเหมือนกัน พวกเราทำได้แค่ต้องออกไปทำงานเท่านั้นแล้ว”
บนรถบรรทุกคันหนึ่ง มีคนสองสามคนกำลังเจ๊าะแจ๊ะจอแจไม่รู้ว่าพูดอะไรกันอยู่