“จริงสิ เมื่อกี้ผมได้ยินพวกคุณคุยกันเรื่องการแข่งขันสมาคมบูโด ทำไมไม่แจ้งผมล่ะครับ ให้ผมได้รับรู้เรื่องนี้บ้าง”
ถังเย่พลันนึกแผนร้ายออกอีกแผน
“จริงสิครับผู้นำ เรากำลังขาดแคลนนักสู้พอดี ให้ถังเฉาของเราไปลองหน่อยสิครับ เขาเพิ่งจะกลับมาอยู่ในตระกูลของเรา ต้องเพิ่มชื่อเสียงให้เขาหน่อย”
คำพูดแสนอบอุ่นนี้ แท้จริงแล้วซ่อนเจตนาฆ่าไว้มากมาย
การฆ่าคนในการแข่งขันสมาคมบูโดไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น และในใจของถังเย่คิดว่าถังเฉาเป็นแค่คนที่ขี้โกงใช้อุปกรณ์และอวดฉลาด หากไปอยู่ในสนามรบจริงๆต้องตายอย่างแน่นอน
ถังเฉาก็ไม่ใช่คนโง่ พอได้ยินแบบนี้ก็หันไปมองถังยวนอีกด้านทันที
“ไม่สิครับ ถ้านับตามรุ่นแล้วต้องให้พี่ไปลองก่อนสิครับ”
“ถึงยังไงถ้าคนนอกเห็นว่าผมได้ตำแหน่งผู้ชนะเลิศมาครองก่อน พวกเขาจะเข้าใจว่าพี่ชายไม่มีสิทธิ์สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลของเรานะครับ”
“……”
ฟึ่บ!
คำพูดเพ้อเจ้อเช่นนี้กลับไม่ได้ทำให้ถังเย่ทำตัวผิดปกติเท่าไหร่ เป็นถังยวนอีกด้านที่ได้ยินแล้วไม่สบอารมณ์อย่างมาก
“ไอ้เวรเอ๊ย ไอ้เด็กนั่นบังอาจคิดจะแย่งตำแหน่งผู้นำกับฉัน แล้วยังจะให้ฉันเป็นตัวเบี้ยที่ให้เขาใช้ประโยชน์อีก จะนั่งรอความตายแบบนี้ไม่ได้”
ถังยวนบ่นงึมงำอยู่ในใจ ก่อนจะมีสีหน้าอึมครึมและลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้
“ใครบอกว่าฉันจะไม่เข้าร่วม เพียงแต่ผู้นำไม่ยอมให้ฉันเข้าร่วม ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันต้องเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ให้ได้”
“ที่ถังเฉาพูดเมื่อกี้ก็ถูก ต้องได้รางวัลผู้ชนะเลิศของการแข่งขันครั้งนี้มาให้ได้ จึงจะมีสิทธิ์เป็นผู้นำตระกูลถัง”
เห็นได้ชัดว่าถังยวนไม่ทราบเลยว่าคนที่ไปร่วมการแข่งขันสมาคมบูโดนั้นบ้าคลั่งกันขนาดไหน แถมยังแสดงความมั่นใจสุดๆกับทักษะของตัวเอง
ในความเป็นจริงถังซานฉ่ายรู้แก่ใจดีว่าถังยวนไม่มีทางได้รางวัลชนะเลิศในการประลองครั้งนี้ เพราะเขารู้ดีว่าจะมียอดฝีมือมาร่วมการแข่งขันกันคับคั่งขนาดไหน
แต่ตอนนี้ถังซานฉ่ายก็ไม่อาจขัดจังหวะถังยวนได้ ถึงยังไงถังยวนก็เป็นผู้สืบทอดตระกูลรุ่นต่อไป และเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในใจเขา หากโดนตัวเองข่มในตอนนี้เกรงว่าจะเป็นที่เยาะเย้ยของคนอื่นๆในตระกูล
“ได้ครับ ในเมื่อพี่มั่นใจขนาดนี้ งั้นเราสองคนเข้าร่วมการประลองครั้งนี้ด้วยกันก็ได้ครับ”
เขารู้ว่าจริงๆแล้วทักษะของถังยวนนั้นแย่มาก แต่ถังเฉาต้องการให้เป็นแบบนี้ เขาจงใจให้ถังยวนต้องขายหน้าต่อหน้าทุกคน เช่นนี้เขาถึงจะมีที่ยืนในตระกูลถังนี้ และง่ายต่อการหาเบาะแสของถังเยว่หวา
และการแข่งขันสมาคมบูโดคราวนี้เป็นการประลองระหว่างราชวงศ์ที่สิบปีมีครั้ง ศึกนี้เกี่ยวพันถึงอำนาจของราชวงศ์ท่ามกลางทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ยแห่งนี้
ผู้คนของตระกูลถังไม่ยอมปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ไปอยู่แล้ว แต่ถังเฉาตรงหน้ายังไม่ถูกจัดการ ถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับพวกเขาเช่นกัน
“ผู้นำครับ ตอนนี้จะทำยังไงดีครับ ถังเฉานี้ไม่ได้ถูกสัตว์ประหลาดตัวนั้นฆ่า แบบนี้พวกเราก็มีเรื่องกลุ้มใจมากขึ้นมาอีกหนึ่งสิครับ”
ถังเย่ฉวยเวลาตอนดึกลอบเข้าไปในห้องของถังซานฉ่าย หารือเกี่ยวกับวิธีการฆ่าถังเฉากับถังซานฉ่าย
ก็เห็นใบหน้าของถังซานฉ่ายฉายรอยยิ้มเย็นเยียบ ราวกับว่ามีแผนในใจอยู่แล้ว
“แกวางใจเถอะ ฉันมีวิธีจัดการกับเขา ในเมื่อเขาไม่ได้ถูกสัตว์ประหลาดตัวนั้นฆ่าและยังเป็นลูกหลานสายตรงของตระกูลถังด้วย ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ควรปล่อยให้เขาไปทดสอบฝีมือดูที่การแข่งขันสมาคมบูโดสิถึงจะถูก ไม่อย่างนั้นเราจะดูไม่มีมนุษยธรรมเอานะ”
ถังเย่มองถังซานฉ่ายตรงหน้าด้วยความตกใจ
“ผู้นำถังครับ คุณหมายความว่าจะให้สิทธิ์ถังเฉาในการชิงตำแหน่งผู้นำหรอครับ แบบนี้ไม่น่าจะใช่การตัดสินใจที่ดีเท่าไหร่นะครับ”
ถังซานฉ่ายฟังแล้วหัวเราะลั่น
“สบายใจเถอะ ฉันไม่ทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นหรอก ถึงยังไงถังยวนก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของฉัน ฉันปล่อยให้ถังเฉาเข้าร่วมการแข่งขันก็เพื่อฆ่าเขาเท่านั้นเอง”
“ให้คนในตระกูลถังของเราฆ่าถังเฉาเองจะไม่กลายเป็นเรื่องตลกสำหรับคนนอกหรอครับ ให้เขาโดนคนนอกฆ่าในการแข่งขันสมาคมบูโดไม่ดีกว่าหรือ”
ถังซานฉ่ายพูดจบปุ๊บ ถังเย่ก็รู้สึกเหมือนมีแสงสว่างส่องอยู่ตรงหน้าเขา และมีสีหน้ามีความสุข
“ผู้นำถัง แผนของคุณนี่ยอดเยี่ยมไปเลยครับ” ยืมดาบฆ่าคน ทำให้ถังเฉาหมดทางหนี
“แต่ผู้นำ อย่าลืมนะครับว่าถังเฉาเป็นคนมีความผิดแห่งราชวงศ์ต้าเซี่ย ถ้าสองคนนั้นรู้ว่าถังเฉากลับมาแล้ว ไม่เอาชีวิตของพวกเราทุกคนในตระกูลถังเลยเหรอ?”
ถังซานฉ่ายในฐานะผู้นำของตระกูลถัง ไม่มีทางไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอยู่แล้ว
เขาพูดเรียบๆ “แค่เรื่องเปลี่ยนชื่อจะยากสักแค่ไหนเชียว”
“ฉันคิดไว้ให้เขาแล้ว
และจัดแจงสร้างตัวตนใหม่ให้กับเขาเรียบร้อย ชื่อว่าถังเชียว ตั้งแต่นี้ไปในราชวงศ์ของเราให้เรียกถังเฉาว่าถังเชียว”
“ถังเชียว?”
ถังเย่ได้ยินแล้วถึงบางอ้อทันที แต่ถังซานฉ่ายเข้าใจผิดว่าแค่ตัวเองเปลี่ยนชื่อให้ถังเฉาก็จะสามารถกำจัดถังเฉาภายในตระกูลได้ แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งนี้เป็นความปรารถนาของถังเฉาเช่นกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น ถังซานฉ่ายก็มาอยู่ตรงหน้าประตูห้องของถังเฉา
ถังเฉาไม่ได้ผ่อนความระมัดระวังลงเลยทั้งคืน เพราะเขารู้ว่าคนกลุ่มนี้เจ้าเล่ห์มาก จึงไปที่ห้องดำและดื่มเหล้ากับชายคนนั้นทั้งคืน
ตอนแอบกลับไปที่ห้องตัวเองในวันรุ่งขึ้น ก็เห็นว่ามีคนคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู คนคนนี้ก็คือถังซานฉ่ายนั่นเอง
ทีแรกถังเฉาคิดว่าถังซานฉ่ายมาหาเรื่องตัวเองเสียอีก พอเดินเข้าไปแล้วถึงพบว่าเขาถือเอกสารในมือ
บนเอกสารนั้นเขียนชื่อใหม่ไว้: ถังเชียว
“ผู้นำครับ ทำไมถึงมารอผมที่หน้าประตูห้องนอนแต่เช้าเลยครับ หรือว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นหรอครับ” ถังเฉาแกล้งถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว
ถังซานฉ่ายแกล้งทำเป็นใจดีมีเมตตา เขาตบไหล่ของถังเฉาพลางกล่าว “ถังเฉาเอ๋ย ในเมื่อแกกลับมาแล้ว ฉันก็จะปฏิบัติกับแกในฐานะผู้ลงสมัครตำแหน่งผู้นำคนหนึ่ง เสี่ยวยวนจะไปประลองฝีมือที่สมาคมการแข่งขันบูโด ฉันจะลืมแกไม่ได้ เอาอย่างนี้ ฉันจะช่วยแกลงชื่อให้แกได้ไปร่วมการแข่งขันเหมือนกัน”
“ผู้คนที่ไปร่วมการแข่งขันสมาคมบูโดต่างมีวิธีการโหดเหี้ยมมาก ตอนแกไปเข้าร่วมการแข่งขันต้องระวังตัวเป็นพิเศษนะ ฉันไม่อยากให้แกเกิดอุบัติเหตุอะไรที่การแข่งขันสมาคมบูโด”
ถังเฉากลับรู้ดีแก่ใจว่าถังซานฉ่ายคนนี้คิดอะไรอยู่
“ขอบคุณผู้นำมากนะครับ คุณวางใจเถอะ ผมจะระวังตัวเองให้มาก ทุกคนเป็นคนธรรมดากันหมด จะแข็งแกร่งสักแค่ไหนเชียว ผมแค่ถูๆไถๆไปก็น่าจะพอต่อกรได้”
ถังเฉาแกล้งทำเป็นพูดเหมือนไม่แยแส เพื่อให้ถังซานฉ่ายคลายความระแวง
ถังซานฉ่ายฟังจบแล้วก็ตบไหล่ถังเฉาและพูดยิ้มๆ “แกมองเกมออกดีนะ เรื่องแบบนี้พี่ชายของแกทำไม่ได้หรอก ฉันมองว่าแกมีสิทธิ์สูงที่จะได้เป็นผู้นำคนต่อไปของตระกูลถัง”